“ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้ว” หลัวเสียนพูดขึ้น
“อืม”
“เ้าปู้อี้เชวียนนั่นยังไม่สามารถบรรลุเพลงกระบี่ดินแดนหิมะได้สินะท่านรองเ้าสำนัก ท่านเตรียมยาบำเพ็ญิญญาทั้งห้าร้อยเม็ดของท่านไว้หรือยังล่ะ?”หลัวเสียนยิ้มด้วยท่าทางเย้ยหยัน
ท่านพี่ปู้เสวียนยินยิ้มรับอย่างไม่แยแสพร้อมกับพูดขึ้น“หลัวเสียน เ้ามองให้ดีๆ สิ เม็ดฝนเม็ดเล็กๆพวกนั้นได้ตกลงไปบนตัวของเสี่ยวเชวียนอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อหลัวเสียนหรี่ตามองดูอีกครั้งก็ต้องประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ก่อนจะพูด“ไม่มี ดูเหมือนเม็ดฝนทุกเม็ดล้วนถูกกันออกห่างจากหัวของเขาเกือบยี่สิบเิเหรือว่านี่คือ...”
“ใช่ มันคือพลังของเพลงกระบี่”
ปู้เสวียนยินยิ้มอย่างสุขุมเยือกเย็น“หลัวเสียน เ้าแพ้แล้วล่ะ รีบไปเตรียมยาบำเพ็ญิญญาให้ข้าเถอะ!”
...
ขณะนั้นเองูเาหลุมดำแห่งพลังภายในร่างของข้าก็สั่นสะท้านและมีรอยแตกสีน้ำเงินเข้มอยู่ตรงกลางขึ้นมาทันทีข้ามองเห็นพลังอันมหาศาลที่กำลังจะปะทุมันเย็นเยือกเข้าไปถึงกระดูกและดูทรงพลังเป็อย่างมากในขณะที่พลังไอน้ำแข็งที่ทรงพลังนี้กำลังไหลทะลักท่วมท้นร่างกายของข้านั้นทั่วทั้งร่างก็ราวกับกลายเป็กระบี่หิมะที่ไร้เทียมทานไปก็ไม่ปานเมื่อข้าลืมตาขึ้น ความหนาวเหน็บจากพลังไอน้ำแข็งก็ได้โหมซัดและพัดพาลูกศิษย์ที่มุงดูอยู่กระจัดกระจายออกไป
สวบ!
พลังของเพลงกระบี่ที่แทรกซึมอยู่ใต้ิัได้แตกปะทุออกมาจากร่างของข้าเม็ดฝนที่อยู่รอบๆ ทยอยเกาะตัวกลายเป็น้ำแข็งตกลงมากระจัดกระจายอากาศโดยบรอบเริ่มหนาวเย็นขึ้น คลื่นแสงสีขาวโหมกระหน่ำไปทั่วทุกสารทิศอย่างรุนแรงจนถึงขนาดทำให้ซูเหยียน ตั้นไถเหยา และถังเชวียหรานต้องถอยหลังไปหลายก้าว
ข้ายกมือขึ้นประกบกันเพื่อรวมพลังทันใดนั้นก็เกิดเสียงกระบี่ดังก้องกังวานขึ้นมาพลังของเพลงกระบี่ที่เย็นเยือกนี้ราวกับว่าสามารถตราตรึงทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ได้ช่างน่าทึ่งเสียจริง
ในที่สุดข้าก็สามารถเข้าถึงเพลงกระบี่ดินแดนหิมะได้แล้ว!
ข้าดีอกดีใจอย่างบ้าคลั่งจึงยกมือขึ้นเรียกกระบี่คมจันทราขณะที่ข้าปล่อยพลังของกระบี่ออกมานั้น กระบี่คมจันทราก็ดูคึกคักเป็อย่างมากความแข็งแกร่งของเพลงกระบี่ดินแดนหิมะนั้นเป็พลังที่มันปรารถนา ทันใดนั้นพลังของกระบี่คมจันทราก็เย็นเยือกเพิ่มขึ้นไปอีกบริเวณรอบๆ จึงดำดิ่งเข้าสู่ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเหน็บโดยพลัน
นับจากนั้นเพลงกระบี่ที่ข้าฟาดฟันปล่อยออกมาเล่นๆ โดยไม่ตั้งใจก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไปเพราะกลายเป็กระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังความเย็น อย่างน้อยอานุภาพของมันก็มากกว่าเมื่อก่อนสามเท่ากว่าเลยทีเดียว!
“อาจารย์ปู้...เ้าเข้าถึงเพลงกระบี่ดินแดนหิมะได้แล้วเหรอ?” ตั้นไถเหยาถามพลางทำตาโต
“อืม” ข้าพยักหน้ารับ
นักรบิญญาหลันเท้อก็เดินตรงเข้ามาตบไหล่ของข้าเบาๆแล้วยิ้มร่าพลางพูดขึ้น “ปู้อี้เชวียน เ้านี่เก่งจริงนะ!มันเป็วรยุทธ์ที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ตั้งหลายพันปีไม่นึกเลยว่าเ้าจะใช้เวลาฝึกเพียงแค่สิบวันก็สำเร็จแล้ว!”
ข้าหัวเราะเขินๆ“นั่นสิ ข้าก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน”
ไม่ไกลนักท่านพี่ปู้เสวียนยินก็อมยิ้มขึ้นที่มุมปากเบาๆแล้วจึงเอ่ยกับหลัวเสียนว่า “เอาล่ะ ยาบำเพ็ญิญญาทั้งห้าร้อยเม็ดอีกเดี๋ยวให้ส่งไปที่ห้องทำงานของข้าแล้วกัน และอีกอย่าง...นักรบิญญาหลัวเสียนเ้ายังคิดว่าลั่วเหยียนเป็ผู้ที่มีพลังพร์เป็อันดับหนึ่งของสำนักหมื่นิญญาอยู่หรือเปล่า!”
หลัวเสียนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น“แน่นอน ความสามารถของลั่วเหยียนน่ะถ้าเทียบกับปู้อี้เชวียนแล้วมีมากกว่ากันหลายเท่า อายุแค่ 22 ปีก็สามารถฝึกฝนสามกระบวนท่าแรกของเคล็ดวิชากระบี่เทพไปถึงระดับเซียนได้แล้วนี่เ้าคิดว่าปู้อี้เชวียนจะสามารถเข้าสู่ผู้พิทักษ์ระดับพิภพและฝึกฝนสามกระบวนท่าแรกของเพลงกระบี่ดินแดนหิมะ ไปถึงระดับเซียนก่อนอายุ 22ปีได้อย่างนั้นเหรอ?”
ปู้เสวียนยินยิ้มบาง“ปีนี้เสี่ยวเชวียนอายุ 20 ปี ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองปีแต่ข้าคิดว่าแค่ปีเดียวก็คงทำสำเร็จแล้วแหละ พนันกันด้วยยาบำเพ็ญิญญาหนึ่งหมื่นเม็ดไหมล่ะไม่ดีกว่า หนึ่งแสนเม็ดไปเลย”
หลัวเสียนกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย“ไม่ ให้ตายยังไงข้าก็ไม่เล่นด้วยหรอก! การพนันเป็สิ่งไม่ดี...”
ปู้เสวียนยินหัวเราะร่าพร้อมกับะโออกไป “ปู้อี้เชวียน เลิกเรียนแล้วมาหาข้าที่ห้องทำงานด้วยนะ!”
“อืม ตกลง!”
...
ณ ห้องเ้าสำนักหลังเลิกเรียน
ท่านพี่กำลังนอนแผ่อยู่ตรงเก้าอี้ด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้าแต่กลับยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วเลื่อนขวดสีม่วงเล็กๆ ออกมาด้านหน้า “อะนี่ในขวดนี้มียาบำเพ็ญิญญาทั้งหมดหนึ่งพันเม็ดครึ่งหนึ่งเป็ของข้าที่เตรียมไว้ให้เ้า ส่วนอีกครึ่งเป็ ‘การสนับสนุน’ของนักรบิญญาหลัวเสียนเพลงกระบี่ดินแดนหิมะถือได้ว่าเป็หนึ่งในเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดเพราะฉะนั้นการฝึกพลังชนิดนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้สูญเสียลมปราณแต่ยังทำให้สูญเสีญพลังิญญาไปอีกด้วยและถ้าไม่มีพลังิญญาเพียงพอก็จะไม่สามารถฝึกพลังต่อได้ ยาบำเพ็ญิญญาพวกนี้คงจะช่วยเสริมพลังิญญาให้เ้าได้รับไปสิ ถ้าใช้หมดแล้วค่อยมาบอกข้าอีกที”
“ขอบคุณมากขอรับท่านพี่ ข้าทำให้ท่านสิ้นเปลืองอีกแล้ว”ข้านำยาบำเพ็ญิญญาเก็บไว้ในแหวนกระดูกจักรภพ
“ไม่ได้สิ้นเปลืองข้าเลย” ปู้เสวียนยินยิ้มยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดออกไป“ยาบำเพ็ญิญญาห้าร้อยเม็ดของข้าเป็ทรัพยากรของสำนักหมื่นิญญาที่จัดมาให้อยู่แล้วฐานะของเ้าในตอนนี้ไม่เพียงแต่เป็เมล็ดพันธุ์ของสำนักจวี๋ฉีเ้ายังเป็อันดับหนึ่งของการประลองที่สนามเซินยวนอีกด้วยแค่นี้ก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากสำนักแล้วไม่ต้องพูดถึงยาบำเพ็ญิญญาห้าร้อยเม็ดเลย เพียงแค่เ้า้าห้าพันเม็ดข้าก็เอามาให้ได้ ไปเถอะ อย่าท้อถอยในการฝึกพลังนะรีบบรรลุสามกระบวนท่าแรกของเพลงกระบี่ดินแดนหิมะ และรีบฝึกฝนให้ชำนาญล่ะ”
“อืม ขอบคุณท่านพี่มาก!”
อย่างที่ท่านพี่พูดตอนนี้ข้ายังพำหยุดอยู่ที่่แรกของผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์อันที่จริงไม่ต้องพูดถึงพวกที่มีฝีมือจากสำนักหยุนต้งเลยเพราะแม้แต่ลูกศิษย์ที่สำนักสีเลี้ยนก็ยังไม่ยอมรับข้าและถ้าเกิดไม่มีพลังที่แข็งแกร่งละก็แน่นอนว่าคงจะไม่สามารถทำให้คนพวกนั้นหุบปากได้หรอก และตอนนี้เพลงกระบี่ดินแดนหิมะก็สามารถยกระดับพลังการต่อสู้ของข้าได้มากเลยทีเดียวถือได้ว่าเป็ไพ่ลับของข้าก็ไม่เชิง
ในหัวของข้าได้แต่คิดถึงเื่เพลงกระบี่ดินแดนหิมะซ้ำไปซ้ำมาและกระบวนท่าที่หนึ่งอย่างพลังดังจิตคิดปรารถนาของเพลงกระบี่ดินแดนหิมะข้าจึงจำเป็ต้องรีบฝึกให้สำเร็จถึงจะดี
เมื่อออกมาจากห้องเ้าสำนักจึงรู้ว่าใกล้จะพลบค่ำแล้วข้าจึงเริ่มเตรียมวัตถุดิบสำหรับการฝึกพลัง
โสมโลหิตปลาหลีฮื้อหลงหลิง ของพวกนี้ล้วนเป็วัตถุดิบสำคัญที่ต้องใช้ข้าว่านี่มันก็เยอะมากแล้วนะ แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็การฝึกพลังพิเศษของเพลงกระบี่ดินแดนหิมะความหนาวเย็นของมันจะต้องทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงเป็แน่ดังนั้นข้าจึงจำเป็ต้องเตรียมของที่จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นไว้ด้วย คิดไปคิดมาทันใดนั้นข้าก็นึกขึ้นได้ว่าในแหวนกระดูกจักรภพมีเนื้อวัวโลกันตร์หลายพันกิโลอยู่วัวโลกันตร์ก็คือสัตว์ิญญาของธาตุไฟซึ่งเนื้อของสัตว์ิญญาระดับแปดตัวนี้แฝงไปด้วยพลังเปลวไฟที่ร้อนระอุ
ไม่ผิดแน่ข้าจะใช้มันนี่แหละ!”
พอค่ำแล้วข้าจึงเข้าไปหานักรบิญญาหลันเท้อเพื่อจะขอลาหยุดและ“หายไป” สักสองสามวัน
...
วันรุ่งขึ้นข้าตื่นแต่เช้าตรู่แล้วพาจ้าวห้าว ซ้งเชวียนมุ่งหน้าไปยังเขาหลังสำนัก จากนั้นก็หาที่สงบๆ ฝึกฝนพลัง
ใบเมเปิ้ลสีแดงร่วงหล่นกองเต็มพื้นไปหมดทำให้มันดูเหมือนกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชติ่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งสีนวลราวกับยามสนธยามันช่วยขับให้ป่าเมเปิ้ลนี้ดูร้อนแรงมากยิ่งขึ้น ไกลออกไปก็มีูเาที่สูงชันคดเคี้ยวอยู่เต็มไปหมดและยังมีแม่น้ำลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่านอยู่อีกด้วยมันงดงามประหนึ่งว่าภาพที่ข้าเห็นตรงหน้าออกมาจากภาพวาดเลยทีเดียวทั้งูเาและแม่น้ำที่ไหลผ่านมันช่างงดงามเหลือเกินข้าจึงอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าคงจะมีเพียงแต่วิวทิวทัศน์ที่งดงามพวกนี้ที่สามารถผลิตสาวงามอย่างซูเหยียนถังเชวียหราน และตั้นไถเหยาออกมาได้สินะ?
ซ้งเชวียนชี้ออกไปยังที่ไกลๆแล้วพูดขึ้น “พี่เชวียนท่านดูตรงนู้นสิ หุบเขาที่เว้าลงไปตรงนั้น บริเวณรอบๆมีเศษกิ่งไม้มากมายสามารถเอามาใช้เป็ฟืนก่อไฟได้ ้าก็มีน้ำตก ด้านล่างก็มีแม่น้ำไหลผ่านเราสามารถทำอาหารตรงนั้นได้ ข้าว่าการฝึกพลังสองสามวันนี้พวกเราพักที่นั่นกันเถอะอีกอย่างเสียงจากน้ำตกก็ดังพอสำหรับการฝึกจิตให้สงบได้อีกด้วย”
“อืม”
ข้าเห็นด้วยจากนั้นจึงพาทั้งสองคนะโพุ่งออกไป
เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงน้ำตกก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นบางอย่างที่ดูน่ากลัวแปลกๆขึ้นมาทันที ไม่ผิดแน่ น้ำของน้ำตกแห่งนี้ใกล้จะเป็น้ำแข็งแล้วป่าผืนนี้จะต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นอากาศรอบๆคงไม่หนาวเย็นถึงขั้นนี้หรอกทว่าูเาหลังสำนักหมื่นิญญานี้ล้วนถูกจัดไว้สำหรับลูกศิษย์ชั้นยอดของสำนักที่มาฝึกพลังด้วยตนเองทั้งนั้นฉะนั้นที่นี่คงจะมีนักรบิญญาที่เก่งกาจหลายคน “เคยมาเหยียบแล้วแหละ”คงไม่มีอันตรายอะไรหรอก
หลังจากกางเต็นท์นอนเสร็จพวกเราก็มาตั้งแคมป์ชั่วคราวกันที่ริมแม่น้ำ ซ้งเชวียนหยิบหม้อใบใหญ่ตรงไปทำอาหารเขากำลังต้มเนื้อวัวโลกันตร์อยู่ ซึ่งเนื้อของสัตว์ิญญาระดับแปดตัวนี้เหนียวมากถ้าจะต้มให้เปื่อยต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะฉะนั้นต้องลำบากซ้งเชวียนแล้วล่ะเพราะระหว่างที่ข้ากับจ้าวห้าวกำลังฝึกพลังอยู่นั้นเห็นทีเขาจะต้องเป็พ่อครัวชั่วคราวไปก่อน
จ้าวห้าวขึ้นไปนั่งบนหินก้อนั์แล้วเริ่มฝึกวิชาลมหายใจัทันที
ส่วนข้าก็หาที่สำหรับฝึกอยู่นานพอสมควรสุดท้ายก็ตัดสินใจกัดฟันถอดกางเกงกับเสื้อออก เหลือไว้เพียงกางเกงขาสั้นด้านในจากนั้นก็ก้าวขึ้นไปบนหินที่อยู่ด้านล่างของน้ำตกความหนาวเหน็บได้พุ่งโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว ข้ายืนอยู่บนหินั์ด้านล่างน้ำตกที่ซึ่งห่างจากน้ำตกลงมาประมาณสามเมตรจากนั้นจึงชักกระบี่คมจันทราออกมา “ฟู่” ข้าถอนหายใจเบาๆแล้วฟาดกระบี่เล่มยาวลงไปที่น้ำตกหนึ่งครั้ง
ฟึบ!
พลังของกระบี่ที่ปล่อยออกไปทะลุผ่านน้ำตกจนเกิดเป็รูกว้างทว่าชั่วพริบตาเดียวก็ถูกละอองน้ำสาดกระเซ็นปกคลุมหายไปแล้ว
ทำต่อไปข้าจะต้องเรียนรู้ และบรรลุพลังของเพลงกระบี่ดินแดนหิมะให้ได้!
ข้าใช้กระบี่แทงออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าบริเวณรอบๆ กระบี่คมจันทราจึงเกิดเป็เกล็ดน้ำแข็งสาดกระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศทว่าสุดท้ายมันก็ยังไม่สามารถตัดน้ำตกให้ขาดได้อยู่ดีแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เพราะวิชานี้ถือได้ว่าเป็เพลงกระบี่ขั้นสูงถ้ามันง่ายก็คงไม่ถูกเรียกว่าขั้นสูงหรอก และสิ่งที่ผู้ฝึกฝนิญญาถูกสอนมานั่นก็คือยิ่งวิชาที่มีอานุภาพแข็งแกร่ง การฝึกก็จะยิ่งยากขึ้นไปตามๆ กันแต่กระนั้น...พลังที่แข็งแกร่งและมั่นคงก็จำเป็ต้องเริ่มฝึกทีละเล็กละน้อยอยู่แล้วอีกอย่างเพลงกระบี่ขั้นสูงนี้ก็คงไม่เหมือนกับของทั่วไปที่ขายอยู่ตามข้างทางของเมืองหลินเสี่ยหรอกนะอย่างเช่นเพลงกระบี่ทั่วไปที่ไม่มีระดับเพียงแค่ชั่วข้ามคืนก็ฝึกสำเร็จแล้วทว่าเพลงกระบี่ดินแดนหิมะนั้นคงไม่สามารถฝึกแบบนั้นได้แน่นอน
แวบเดียวก็ใกล้จะเที่ยงแล้วข้าไม่รู้ตัวเลยว่าปล่อยกระบี่ออกไปแล้วกี่ครั้งแต่ทุกครั้งหลังจากที่ปล่อยกระบี่ออกไป ข้าจะรู้สึกได้ว่ามันเริ่มแข็งแกร่งขึ้นทีละนิดพลังที่ออกจากกระบี่คมจันทราก็เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆความก้าวหน้าอันน้อยนิดนี้ยากที่จะมองออกด้วยตาเปล่าคงจะมีเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะดูออกและตระหนักได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้
“พี่เชวียน เหนื่อยหรือยัง ไปกินข้าวกันเถอะ!” ซ้งเชวียนถาม
กลิ่นอันหอมหวนจากซุปเนื้อลอยมาเตะจมูกข้าตั้งนานแล้วล่ะพอดีเลยร่างกายของข้าฝึกพลังเพลงกระบี่ดินแดนหิมะไปจนแทบจะกลายเป็ก้อนน้ำแข็งแล้วพูดไปข้าก็พลางสาวเท้าก้าวเข้าไปนั่งตรงข้ามซ้งเชวียนแล้วพูดพลางยิ้ม“ข้าหนาวมากเลย รีบเอาซุปให้ข้าชามหนึ่งสิ เอาเนื้อเยอะๆ หน่อยนะ!”
ซ้งเชวียนหัวเราะร่า“เ้าหัวล้าน เ้าก็มากินด้วยกันสิ”
หลังจากที่จ้าวห้าวผ่านการฝึกพลังใน่เช้ามาก็เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งขึ้นมากเขานั่งลงแล้วยิ้มพลางพูด “เอาให้ข้าครึ่งชามก็พอ เนื้อวัวโลกันตร์นั้นร้อนมากเมื่อครู่ตอนที่ข้ากำลังล้างเนื้ออยู่มันเกือบจะลวกมือข้าแล้วข้ากลัวว่าถ้ากินเยอะไปจะทำให้ระบบย่อยอาหารของข้าแย่เอาได้”
“อืม”
ข้าพูดอย่างระมัดระวัง“เ้ากับซ้งเชวียนกินน้อยๆ หน่อยแล้วกัน ความปลอดภัยสำคัญที่สุด”
เมื่อรับชามซุปเนื้อมาข้าก็รีบกินอย่างรวดเร็วหลังจากที่กินเนื้อคำโตเท่ากำปั้นเข้าไปชิ้นหนึ่งข้าก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ระอุออกจากเนื้อไหลผ่านเข้ามาภายในร่างทันทีมันช่วยบรรเทาอาการาเ็จากการฝึกเพลงกระบี่ดินแดนหิมะได้มากเลยทีเดียวข้ารู้สึกสบายตัวจนแทบอยากจะร้องออกมาดังๆ เลยล่ะ โชคดีนะที่ตอนนั้นข้าสละเวลาไปเฉือนเนื้อวัวโลกันตร์มาไม่อย่างนั้นถ้าอาศัยแค่เนื้อเสือักับปลาหลีฮื้อหลงหลิงละก็เกรงว่าคงไม่พอที่จะประคองการฝึกพลังเพลงกระบี่ดินแดนหิมะของข้าไว้ได้หรอก
จ้าวห้าวที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อได้กินเนื้อในซุปไปชิ้นหนึ่งสีหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที ขณะเดียวกันก็เอามือจับคอพลางร้องะโโหวกเหวกไปด้วย“นี่มัน สุดยอดมาก!”
มันร้อนมากจนควันลอยออกจากจมูกของเขาแล้ว
ข้ารีบยื่นมือออกไปกดลงบนไหล่ของเขาเพื่อจะได้ปล่อยความเย็นจากเพลงกระบี่ดินแดนหิมะเข้าไป “อย่าขยับนี่ไม่ใช่เื่ล้อเล่นแล้วนะ ข้าจะเริ่มถ่ายพลังให้ เ้าใช้วิชาลมหายใจัป้องกันร่างเอาไว้!”
“อืม...”
นึกไม่ถึงเลยว่าร่างกายที่แข็งแกร่งของจ้าวห้าวจะไม่สามารถต้านทานพลังความร้อนจากเนื้อวัวโลกันตร์ได้นี่มันสุดยอดไปเลย!
หลังจากนั้นไม่นานจ้าวห้าวก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไปหนึ่งที พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่รอดตายมาอย่างหวุดหวิด“พี่ใหญ่ ดีนะที่ท่านอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้...ข้าคงตายไปแล้วแน่ๆ ...”
ซ้งเชวียนมองเนื้อวัวโลกันตร์ในชามแล้วพูดออกไป“ถ้าอย่างนั้นข้าจะกินดีไหมเนี่ย หากกินเสร็จแล้ว และจะคลายความร้อนยังไงดีล่ะ?”
ข้าพูดด้วยท่าทีสุขุม“ไม่ต้องกินแล้ว พวกเ้ากินแค่ซุปเนื้อกับขนมปังก็พอถ้าเป็แบบนั้นตอนเย็นคงต้องแยกต้มเป็สองหม้อแล้วล่ะ หม้อแรกเป็เนื้อวัวโลกันตร์อีกหม้อเป็เนื้อปลาหลีฮื้อหลงหลิงกับเสือัแล้วกัน”
“อืม!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้