“กำเริบเสิบสาน” เฉินอ้าวเทียนได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็ลุกขึ้นฉับพลันพร้อมพลังปราณปะทุออกจากร่าง ก่อนจะไปเยือนเย่เฟิงที่อยู่บนเวทีประลอง
เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้เฉินอ้าวเทียนจะปล่อยพลังโจมตีเขา แต่เขายังคงยืนตัวตรง ราวกับไม่เกรงกลัวการโจมตีที่จะมาถึง
“ทำไม? ข้าพูดแค่ไม่กี่ประโยค พรรคเทียนจีเ้าก็ให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่มาจัดการข้างั้นหรือ?” เย่เฟิงแสยะยิ้ม ต่อหน้าพลังอันแกร่งกล้าของเฉินอ้าวเทียน เขาก็ยังคงไร้ความเกรงกลัวใด ๆ และน้ำเสียงของเขาก็สงบนิ่งเช่นเดิม ซึ่งทำให้เหล่าผู้คนต่างใกับการกระทำของเย่เฟิงเป็อย่างมาก
“เื่ไร้สาระ!” เฉินเซี่ยงเทียนตวาดเสียงดังพลางมีสีหน้าย่ำแย่ เขาหันไปมองผู้าุโอู๋แห่งกฎที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมกล่าวต่อ “ผู้าุโอู๋ เด็กคนนี้ก็คือคนที่ฆ่าศิษย์ร่วมสำนักตอนอยู่ที่แดนทดสอบแห่งหุบเขาเทียนเสวียนและที่นอกหุบเขา ตอนนี้ท่านอยู่ที่นี่ ท่านก็เห็นความโอหังของเขาแล้ว เขาไม่สนใจกฎของสำนัก ข้าขอบังอาจถามผู้าุโอู๋ว่าควรจัดการเช่นไรดี?”
แววตาของผู้าุโอู๋เผยประกายคมกริบ เขามองไปที่เย่เฟิงบนเวทีประลองและพูดขึ้น “เย่เฟิง เ้ารู้ความผิดหรือไม่?”
ผู้าุโอู๋ซักถามเย่เฟิงทันที ราวกับกำหนดความผิดให้เย่เฟิงแล้ว
“ผู้าุโอู๋แห่งฝ่ายกฎหมายเอ่ยปากแล้ว เย่เฟิงเหิมเกริมแบบนี้ เขาจะรอดเงื้อมือของฝ่ายกฎหมายพ้นหรือ?” ผู้คนคิดในใจ เื่นี้ไม่ว่าใครถูกหรือผิด สุดท้ายแล้วพวกเฉินเซี่ยงเทียนของพรรคเทียนจีก็เป็ฝ่ายได้เปรียบ เย่เฟิงที่เป็เพียงศิษย์สายนอกคนหนึ่งของพรรคเทียนเสวียนจะต่อต้านได้อย่างไร?
“ขอบังอาจถามท่านผู้าุโ ข้ามีความผิดอันใด?” แววตาของเย่เฟิงเผยประกายแสงเยือกเย็น เขารู้อยู่แล้วว่าพวกเฉินอ้าวเทียนจะใช้คนจากฝ่ายกฎหมายมากำจัดเขา แต่เขาเย่เฟิงมักจะทำอะไรตรงไปตรงมา แล้วมีหรือจะยอมแพ้อีกฝ่าย
“เ้าฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก ละเมิดกฎของสำนักอย่างร้ายแรง วันนี้เ้าไม่มีความเคารพยำเกรง กล้าดูถูกผู้าุโเฉินต่อหน้าสาธารณชน ความผิดเหล่านี้ หรือเ้าไม่กล้ายอมรับ?” ผู้าุโอู๋กล่าว ราวกับไม่คิดว่าต่อหน้าเขา เย่เฟิงก็ยังซักถามเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“ขอบังอาจถามท่านผู้าุโ ท่านบอกว่าข้าสังหารศิษย์ร่วมสำนัก แล้วท่านมีหลักฐานหรือไม่?” เย่เฟิงเอ่ยถามต่อ ทำให้ผู้คนในที่แห่งนั้นต่างทอดถอนใจ ทุกประโยคของเย่เฟิงช่างใจกล้าเป็อย่างมาก และคำถามของเย่เฟิงก็เท่ากับกังขากฎของสำนัก ช่างเป็การกระทำที่ไร้มารยาท
“คนนับสิบตายในน้ำมือของเ้า เ้ายังกล้าปฏิเสธอีกหรือ?” น้ำเสียงของผู้าุโอู๋เย็นเยียบขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับเสียงระฆังก็ไม่ปาน ทำให้ผู้คนพลอยใจสั่นไปด้วย
“ผู้าุโอู๋พูดถูก เื่ที่เ้าฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก ข้าเป็พยานให้ได้ ยังไม่รีบยอมรับผิดอีก!” พลันมีหลายเงาร่างเดินออกมาจากอัฒจันทร์พรรคเทียนจี และคนที่พูดก็คือโจวมู่ไป๋ ข้างกายของโจวมู๋ไป๋ยังมีเฟิงเฉียน เซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ และซ่างกวนหง พวกเขาต่างมองเย่เฟิงด้วยดวงตาที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร และการที่พวกเขาปรากฏตัว นั่นเพราะ้าให้เย่เฟิงโดนลงโทษ
“ในบรรดาคนที่เ้าฆ่า มีทั้งตระกูลเฉิน นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ และสำนักแสงอรุณ เ้าจะยังปฏิเสธได้อีกหรือ? ยอมรับผิดซะ มันคือทางออกเดียวของเ้า!” ซ่างกวนหงกล่าวเสียงเย็นขณะเดินออกมาข้างหน้า
เย่เฟิงเหลือบมองพวกโจวมู่ไป๋แวบหนึ่ง เขาไม่สนใจที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง มองไปที่ผู้าุโอู๋บนอัฒจันทร์พร้อมกล่าวขึ้น “ฟังความข้างเดียวจากคนพวกนี้ แล้วท่านก็ส่งคนไปเรียกข้ามาก็เพื่อที่จะลงโทษข้างั้นหรือ?”
ผู้าุโอู๋ตาวาบประกายแสง สายตาของเขาราวกับทะลุห้วงอากาศก็ไม่ปาน พฤติกรรมของเย่เฟิงในตอนนี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก และเหมือนไม่ใช่พฤติกรรมของเด็กอายุ 16 ปีที่ควรพึงมี จากนั้นเขาพูดขึ้น “เ้าอยากพูดอะไรก็พูด ข้าก็อยากเห็นนักว่าเ้าจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้อีกนานแค่ไหน?”
“เป็พวกเขาที่ไล่ล่าข้าก่อน หากข้าไม่ทำอะไรสักอย่าง คนพวกนี้ก็จะฆ่าข้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ท่านว่าข้าไม่ควรตอบโต้และรอให้พวกเขามาฆ่าอย่างนั้นหรือ?” เย่เฟิงกล่าวด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม ทั้งยังพูดจามีตรรกะเสมอต้นเสมอปลาย
“นี่...” ผู้าุโอู๋ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับเสียงแหบแห้ง หากเป็เช่นนั้นจริง ๆ ไม่ว่าใครก็คงมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“ผู้าุโอู๋ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของคนผู้นี้ เขาฆ่าคนไปมากขนาดนั้นก็ย่อมแก้ต่างให้ตัวเอง หวังว่าฝ่ายกฎหมายจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับศิษย์ร่วมสำนักเ่าั้ที่ถูกเขาฆ่าตาย” โจวมู่ไป๋กล่าวขณะเดินไปข้างหน้า
ซ่งซินหลิงเห็นศิษย์พี่หมายหัวเย่เฟิงมาตลอด ในใจของนางจึงรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจกับการกระทำของศิษย์พี่ แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยฟังคำแนะนำของนาง ราวกับเปลี่ยนไปเป็คนละคนโดยสิ้นเชิง ศิษย์พี่ที่เคยอ่อนโยนคนนั้นได้จากนางไปแล้ว
“น่าขันยิ่งนัก!” เย่เฟิงแสยะยิ้ม โจวมู่ไป๋ผู้นี้ใส่ร้ายด้วยคำพูดดุจหนามแหลม ทำให้เย่เฟิงจำต้องชื่นชมความไร้ยางอายของอีกฝ่าย
“ข้าอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 และไม่มีความบาดหมางกับคนเ่าั้ ไยต้องฆ่าพวกเขา อะไรคือจุดประสงค์ของข้า? ที่แดนทดสอบแห่งหุบเขาเทียนเสวียนเต็มไปด้วยอันตรายต่าง ๆ นานา ข้าตัวคนเดียว มีหรือจะสร้างศัตรูนับสิบในหุบเขาได้?” เย่เฟิงกล่าว
“ใช่ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 กล้าบุกฝ่าแดนทดสอบแห่งหุบเขาเทียนเสวียนเพียงคนเดียว เขานับว่าใจกล้ามาก แล้วใครเล่าจะฆ่าคนโดยไร้เหตุผล เว้นแต่ว่าคนผู้นี้จะมีปัญหาทางสมอง หรือไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ” เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากท่ามกลางฝูงชน ทำให้สีหน้าของโจวมู่ไป๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“อันที่จริงมันก็เป็เื่ที่เรียบง่ายมาก นั่นเป็เพราะจิตใจละโมบของคนเหล่านี้” เย่เฟิงมองผู้าุโอู๋แล้วพูดต่อ “ที่หุบเขาเทียนเสวียน ข้าคว้าผลเทียนเสวียนมาได้แปดผลด้วยลำพังข้าคนเดียว แต่คนพวกนี้อยากได้ของสิ่งนี้ จึงส่งคนไล่ล่าข้า หลังจากการทดสอบสิ้นสุดลง ข้าก็ยังถูกคนพวกนี้ล้อมกรอบในระหว่างที่ข้ากลับสำนัก ส่งผลให้เกิดศึกปะทะ ข้าที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำต้อย แต่กลับฆ่าพวกเขาได้หลายสิบคน ผู้าุโท่านว่าข้าเย่เฟิงมีความผิดอันใด?”
ผู้าุโอู๋คนนั้น้าลงโทษเย่เฟิง แต่กลับหาเหตุผลดี ๆ ไม่ได้ จู่ ๆ เฉินเซี่ยงเทียนเอ่ยปากด่าทอเย่เฟิง “พูดจาสำบัดสำนวน! ความผิดของเ้าถูกตัดสินแล้ว แก้ตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ส่งผลเทียนเสวียนของเ้ามาและทำลายการบ่มเพาะด้วยตัวเอง เสร็จแล้วก็ไสหัวไปซะ!”
ในขณะที่พูดเช่นนี้ออกไป เฉินเซี่ยงเทียนก็ไม่ลืมที่จะส่งเสียงผ่านจิตไปหาผู้าุโอู๋ เพื่อสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์แก่อีกฝ่ายอย่างงาม ส่วนผู้าุโอู๋ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้นก็ยังเป็การไว้หน้าเฉินเซี่ยงเทียน และการตายของเย่เฟิงก็ไม่ใช่เื่สำคัญอะไร
จากนั้นผู้าุโอู๋กล่าวว่า “คำพูดของผู้าุโเฉินก็คือตัวแทนของฝ่ายกฎหมายข้า เ้าฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก ดูิ่ผู้าุโ ทำขนาดนี้จงยอมรับผิดเสียเถอะ!”
สีหน้าของเย่เฟิงฉายอย่างเย็นเยียบ เมื่อครู่นี้เขาพูดไปชัดเจนแล้วว่าใครผิดหรือถูก และเชื่อว่าผู้าุโอู๋คนนั้นจะตัดสินได้อย่างถูกต้อง แต่เพราะเฉินเซี่ยงเทียนยุยงจึงไม่เชื่อเขาเย่เฟิง และกล่าวต่อ ‘คำพูดของผู้าุโเฉินก็คือตัวแทนของฝ่ายกฎหมาย และให้เย่เฟิงยอมรับผิด’
เย่เฟิงเป็เพียงคนธรรมดา จึงไม่เป็ที่สนใจของใครและยังถูกทอดทิ้งได้ง่ายดาย และไม่มีทางหาความยุติธรรมจากโลกที่มีความแข็งแกร่งเป็ตัวกำหนดได้
เฉินเซี่ยงเทียนคือผู้าุโพรรคเทียนจี มีฐานะไม่ธรรมดา ผู้าุโฝ่ายกฎหมายคนนั้นรู้ทั้งรู้ว่าเฉินเซี่ยงเทียนบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่ก็ยังเชื่ออีกฝ่าย เพียงไม่กี่ประโยคก็โต้แย้งคำสารภาพของเย่เฟิงก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น ทั้งยังให้เขาเย่เฟิงส่งผลเทียนเสวียนและทำลายการบ่มเพาะของตัวเอง แต่มีหรือเขาจะตอบตกลง?
“ในฐานะผู้าุโฝ่ายกฎหมาย แม้ข้าจะพูดความจริงไปแล้ว แต่ท่านก็ยังเชื่อคำพูดที่บิดเบือนข้อเท็จจริงของเฉินเซี่ยงเทียน เช่นนั้นข้าขอถามท่าน นี่น่ะหรือความยุติธรรม?” เย่เฟิงกล่าว เดิมทีเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็ผู้าุโฝ่ายกฎหมายแล้วจะไม่เห็นแก่ตัวและทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้กับผู้าุโอู๋คนนั้น แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้กฎในทางที่ผิด เช่นนั้นตอนนี้เขาก็ต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว
“บังอาจ!” ผู้าุโอู๋ตวาดใส่เย่เฟิงด้วยสีหน้าดุดัน แต่ภายใต้สีหน้าดุดันนั้นจะน่าบูดเบี้ยวน่าเกลียดเพียงใด เกรงว่ามีเพียงตัวเขาที่รู้
“เ้ากล้ากังขาข้า ใจกล้ายิ่งนัก ต่อไปเ้าจะได้รับบทลงโทษที่โหดที่สุดของฝ่ายกฎหมาย” ผู้าุโอู๋กล่าวเสียงเย็น เขา้าให้เย่เฟิงหุบปากและไม่ให้อีกฝ่ายมาทำลายเขาได้ ส่วนเหตุผลที่เขาเลือกเข้าข้างเฉินเซี่ยงเทียน นั่นเป็เพราะฐานะของอีกฝ่าย แต่เย่เฟิงเป็เพียงศิษย์สายนอกของพรรคเทียนเสวียนที่ถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็ธรรม แต่ถึงเขาจะใส่ร้ายอีกฝ่ายจริง ๆ นั่นแล้วอย่างไรเล่า?
แววตาของเย่เฟิงเผยประกายคมกริบ เขารู้ว่าวันนี้ต้องลงเอยไม่ดีแน่นอน เพราะงั้นเขาต้องสู้กลับ ทันใดนั้นหอกัเงินประกายปรากฏในมือเขาพร้อมพลังหอกพวยพุ่ง
“ข้าเย่เฟิงไม่มีเหตุผลที่จะต้องยอมรับความผิดนี้ เพียงเพราะฐานะของพวกท่านจึงไม่สนว่าข้าจะถูกหรือผิด แค่คำพูดของพวกท่านก็ตัดสินชีวิตของข้าได้ เช่นนั้นถ้าพวกท่าน้าให้ข้ายอมรับผิดก็จงแสดงฝีมือที่แท้จริง ต่ำกว่าขั้นรวมชี่สู้หนึ่งต่อหนึ่ง ข้าเย่เฟิงยินดีสู้กับใครก็ได้ หากใครเอาชนะข้า ข้าจะยอมโดนลงโทษ แต่หากไม่ พวกท่านก็ห้ามซักถามข้าอีก คิดเห็นเช่นไร?” เย่เฟิงกล่าวขณะมองผู้าุโอู๋ เสียงของเขาดังกึกก้องทั่วบริเวณ ทำให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
“ต่ำกว่าขั้นรวมชี่สู้หนึ่งต่อหนึ่ง เขาเย่เฟิงไม่ปฏิเสธว่าใครจะมา คำพูดนี้ช่างโอหังมาก ถ้าเช่นนั้นเขาเย่เฟิงก็ท้าทายผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นรวมชี่ รวมทั้งคนเ่าั้ที่อยู่ในรายนามขั้นบ่มเพาะกายา หากเขาแพ้ก็ยินดีที่จะถูกลงโทษ” ผู้คนคิดในใจ คำพูดของเย่เฟิงได้สร้างความใให้กับพวกเขาเป็อย่างมาก
หนึ่งคนท้าทายผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นรวมชี่ทุกคน นี่ต้องใช้ความกล้าและความมั่นใจมากเพียงใดถึงจะพูดเช่นนี้ออกมาได้?
“ตกลง หากเ้าเอาชนะได้ ข้าจะตัดสินให้เ้าพ้นผิด”
ในเมื่อเย่เฟิงพูดมาขนาดนี้แล้ว ผู้าุโอู๋ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอัจฉริยะมากฝีมือ เย่เฟิงเพียงคนเดียวจะต่อต้านได้อย่างไร เมื่อเย่เฟิงพ่ายแพ้ก็จะถูกลงโทษ ถึงเวลานั้นผู้าุโอู๋ก็จะได้รับความไว้วางใจจากเฉินเซี่ยงเทียน
“ข้าเอง!” ขณะนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านพรรคเทียนจี ก่อนจะมีชายหนุ่มผู้หนึ่งไปเยือนเวทีประลอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้