“เปรี๊ยงๆ!”
“ตูมๆ...”
การหลอมรวมจิตกับิญญาอัสนีเป็การกระทำที่ป่าเถื่อนมาก
แม้ิญญาอัสนียังไม่มีสติปัญญา แต่ในฐานะที่เป็สิ่งมีชีวิต มันจึงต่อต้านการถูกหลอมรวมโดยสัญชาตญาณ เพราะเหตุนี้มันจึงขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง
ความเ็ปรุนแรงพุ่งตรงเข้าที่ศีรษะของจั๋วอวิ๋นเซียน เ็ปเสียจนเขารู้สึกิญญาแทบจะฉีกขาด!
เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ!
จั๋วอวิ๋นเซียนประเมินความบ้าคลั่งของิญญาอัสนีต่ำเกินไป โชคดีที่เขาฝึกฝนมานานหลายปี ทำให้เขาอดทนต่อความเ็ปได้เหนือขีดจำกัดของร่างกายไปมาก...ยิ่งเ็ปเขาก็ยิ่งมีสติ
……
การหลอมรวมิญญาเป็กระบวนการที่อันตรายมาก น้อยคนนักที่จะหลอมรวมสิ่งมีชีวิตทรงพลังั้แ่เริ่มต้น ทั้งยังไม่มีใครที่หลอมิญญาครั้งแรกก็เลือกอันดับที่หนึ่งของเจ็ดจิต ต้นกำเนิดแห่งสติปัญญา เพราะหากหลอมิญญาล้มเหลว จะเกิดความเสียหายต่อสมอง ต่อให้ไม่กลายเป็คนพิการก็กลายเป็คนโง่ตอบสนองช้า
หากมิใช่เพราะทะเลจิตสำนึกที่ิญญาอัสนีอยู่ทับซ้อนกับดวงจิต จั๋วอวิ๋นเซียนไม่มีทางคิดจะลองวิธีที่อันตรายเช่นนี้
“วี๊ด!”
กระเรียนเซียนกู่ร้อง มีเปลวเพลิงสีขาวบริสุทธิ์ปกคลุมเขาเอาไว้
เพลิงหยางบริสุทธิ์ สูงส่งเหนือชั้น!
ทันใดนั้นกลิ่นอายสูงส่งถูกส่งออกมาจากส่วนลึกในิญญาของจั๋วอวิ๋นเซียน สะกดความบ้าคลั่งและความวุ่นวายทั้งหมดเอาไว้
ภายใต้แรงกดดันของเพลิงหยางบริสุทธิ์ ิญญาอัสนีบ้าคลั่งค่อยๆ อ่อนแอลง
จั๋วอวิ๋นเซียนฝืนกลั้นความเจ็บเพื่อโคจรพลังิญญา ค่อยๆ หลอมรวมิญญาอัสนีกับดวงจิต
ในเวลาเดียวกันนี้ ผลหยินหยางแปรเปลี่ยนกลายเป็แก่นแท้ต้นกำเนิด หล่อเลี้ยงและซ่อมแซมร่างกายของจั๋วอวิ๋นเซียน
……
“ครืนๆ!”
ยิ่งกดดันก็ยิ่งบ้าคลั่ง!
ิญญาอัสนีเหมือนจะยอมรับโชคชะตาถูกหลอมรวม มันเตรียมตัวดิ้นรนครั้งสุดท้าย ก่อนจะมีกลิ่นอายทำลายล้างกระจายออกมา
“โอสถฤทัยเหมันต์!”
จั๋วอวิ๋นเซียนเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว เขาหยิบโอสถเหมันต์เม็ดหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของ จากนั้นทานเข้าไปทันที
ความหนาวเย็นไหลเข้าไปที่หัวใจของเขา แช่แข็งร่างกายของเขาเอาไว้
โอสถเม็ดนี้มีนามว่า ‘ฤทัยเหมันต์’ เป็โอสถธาตุเหมันต์ระดับสูงสุด มีพลังเหมันต์สุดขั้ว ซึ่งหายากอย่างมาก หากทานโอสถเม็ดนี้เข้าไป ิญญากับร่างกายจะถูกแช่แข็งอย่างสิ้นเชิง สามารถสะกดอาการาเ็ทางิญญาใน่เวลาสำคัญ เพื่อมิให้ิญญาแตกสลาย
จั๋วอวิ๋นเซียนใช้เส้นสายของจวนเ้าเมือง ถึงแลกเปลี่ยนโอสถเม็ดนี้มาจากปรมาจารย์ปรุงยาได้
เพียงแต่โอสถฤทัยเหมันต์มีผลเสียร้ายแรงมาก หลังจากทานเข้าไปแล้วถ้ามิอาจหลอมละลายความหนาวเย็นได้ ร่างกายของเขาจะกลายเป็รูปปั้นน้ำแข็งและแตกสลายได้อย่างง่ายดาย
โชคดีที่ในร่างของเขามีพลังต้นกำเนิดของผลหยินหยางหล่อเลี้ยง ฤทธิ์ยาหนาวเย็นมิอาจสร้างอันตรายต่อเขาได้...กลับกันิญญาอัสนีที่ได้รับผลกระทบจากโอสถฤทัยเหมันต์ ทำให้สภาพบ้าคลั่งของมันหยุดชะงักทันที...ท้ายที่สุดก็ค่อยๆ หลอมรวมกับดวงจิตของจั๋วอวิ๋นเซียน
ดวงจิตกลั่นสายฟ้า พลังิญญาถือกำเนิด
เนื่องจากการหายไปของพลังฟ้าดิน ในกระบวนการหลอมิญญาของผู้บำเพ็ญเซียน เขาทำได้เพียงพึ่งพลังิญญาที่แปรเปลี่ยนมาจากศิลาิญญา
ดังนั้นจั๋วอวิ๋นเซียนจึงนำศิลาิญญากองใหญ่ออกมาจากถุงเก็บของ เขาตัดสินใจหลอมดวงจิตให้สมบูรณ์
หนึ่งก้อน สองก้อน สามก้อน...
สิบก้อน ยี่สิบก้อน สามสิบก้อน...
ความเร็วในการหลอมศิลาิญญาของจั๋วอวิ๋นเซียนรวดเร็วมาก ผู้บำเพ็ญเซียนปกติตอนที่หลอมิญญาครั้งแรก ดูดซับพลังศิลาิญญาสิบก้อนก็เต็มที่แล้ว แต่หลังจากศิลาิญญานับร้อยในมือของเขาหมดไปแล้วก็ยังไม่พอ สถานการณ์เช่นนี้หากเผยแพร่ออกไป ผู้คนใต้หล้าจะต้องตกตะลึง! ไม่แน่ว่าเ้าเกาะทั้งสามอาจจะจับจั๋วอวิ๋นเซียนเพื่อมาบีบถามให้ชัดเจนก็ได้
“เปรี๊ยงๆ!”
พลังิญญาหลอมรวมเข้ากับร่างกายของจั๋วอวิ๋นเซียนพร้อมกับศิลาิญญาที่ถูกดูดซับ และไหลเวียนไปทั่วร่าง ท้ายที่สุดรวมกันที่ศีรษะ สิ่งนี่เรียกว่า ‘วงเวียนทั่ว์’
หนึ่งเส้น สองเส้น สามเส้น...
หนึ่งสาย สองสาย สามสาย...
สิบเส้นกลายเป็หนึ่งสาย สิบสายกลายเป็หนึ่งรอบ หลังจากพลังิญญารวมกันเป็หนึ่งรอบแล้ว ร่างกายของจั๋วอวิ๋นเซียนเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังิญญา ขยับเข้าใกล้ประตูบานแรกแห่งผู้บำเพ็ญเซียน
หนึ่งรอบ สองรอบ สามรอบ...
หนึ่งร้อยรอบ สองร้อยรอบ สามร้อยรอบ...
จนกระทั่งถึงสามร้อยหกสิบรอบ ในที่สุดจั๋วอวิ๋นเซียนก็รู้สึกว่าดวงจิตเต็มเปี่ยมแล้ว
นี่เป็ความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก มิอาจอธิบายออกมาเป็คำพูดได้ เหมือนสายเืในร่างกายไปอยู่ในจุดที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
ผู้บำเพ็ญเซียนปกติ หนึ่งจิตหลอมรวมพลังิญญาได้เพียงสามสิบหกรอบ พร์ระดับกลางหลอมรวมพลังิญญาได้เจ็ดสิบสองรอบ พร์ระดับสูงหลอมรวมพลังิญญาได้หนึ่งร้อยแปดรอบ สิ่งนี้คือตัวเลขครึ่งวงกลม แต่เมื่อหลอมรวมพลังิญญาได้สามร้อยหกสิบรอบ นี่เป็ตัวเลขวงกลมสมบูรณ์ มันหมายถึงความสมบูรณ์แบบ
หรือกล่าวง่ายๆ ก็คือภายใต้ระดับพลังเท่ากัน พลังิญญาในร่างกายของเขาจะหนาแน่นและทรงพลังมากกว่าผู้บำเพ็ญเซียนปกติทั่วไปถึงสิบเท่า
……
การบำเพ็ญตนมิอาจรับรู้ถึงเวลาได้ เพียงชั่วพริบตาเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปสิบวัน
เทียบกับการบำเพ็ญอันน่าใของจั๋วอวิ๋นเซียนแล้ว ด้านนอกกลับเงียบสงบ
ในสายตาของคนภายนอก คุณชายไป๋เฮ่อเป็คนชอบเก็บตัว ขยันหมั่นเพียร การที่เขาไม่ออกจากบ้านเป็เวลาสิบวันหรือครึ่งเดือนล้วนเป็เื่ปกติมาก จึงไม่มีผู้ใดสนใจมากนัก บวกกับมีฉินตงหวู่กับเสี่ยวจิ่วช่วยปิดบัง จึงแทบจะไม่มีข้อบกพร่องแต่อย่างใด
……
ยามราตรีค่ำคืนหนึ่ง สายลมเย็นแ่เบา
คลื่นผันผวนในห้องค่อยๆ หายไป จั๋วอวิ๋นเซียนลืมตาขึ้น แสงิญญาสองสายพุ่งออกมาแล้วก็หายไป
จั๋วอวิ๋นเซียนเดินลงมาจากเตียง ตอนนี้ร่างกายของเขาฟื้นฟูเป็ปกติแล้ว สภาพดวงจิตของเขาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แม้แต่การหายใจก็ไม่ติดขัดแล้ว หายใจเป็จังหวะต่อเนื่อง
ก้าวสู่ระดับหลอมิญญา นับแต่นี้ไปเขาจะต่างจากคนธรรมดา มีอายุขัยยืนยาวขึ้น
ไม่ว่าอย่างไรจั๋วอวิ๋นเซียนในปัจจุบันนับว่าเป็ผู้บำเพ็ญเซียนอย่างแท้จริงแล้ว กลิ่นอายความสูงส่งให้ความรู้สึกอ่อนไหวและสง่างามมากขึ้น สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือเส้นผมสีขาวที่ปรกหน้าผากของเขายังไม่กลับเป็เหมือนเดิม
ดูท่าพลังชีวิตที่ลดทอนหายไป ยากจะเพิ่มเติมกลับมาจากการบำเพ็ญตนได้
……
จากนั้นจั๋วอวิ๋นเซียนมองเศษผงศิลาิญญากองหนึ่งที่กระจายอยู่รอบด้าน เขาขมวดคิ้วด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ศิลาิญญาที่สะสมมาตลอดสามปี รวมทั้งทรัพย์สินที่ได้มาจากป้าเหลยหลิงกับซือคงอวี่ บวกกับค่าตอบแทนกับรางวัลที่ได้จากเกาะสามเซียน ถูกใช้ไปมากกว่าครึ่ง
จั๋วอวิ๋นเซียนลองคำนวณคร่าวๆ เขาใช้ไปประมาณหนึ่งแสนก้อน เกือบเท่ากับรายได้ของตระกูลจั๋วสิบปี
ในฐานะที่ศิลาิญญาเป็ทรัพยากรในการบำเพ็ญตนที่สำคัญที่สุดบนแผ่นดินเซียนฉยงจึงขาดแคลนมาก น้อยคนนักที่จะใช้ศิลาิญญามาบำเพ็ญตนแบบจั๋วอวิ๋นเซียน เพราะแก่นสัตว์อสูรหลังจากผ่านการกลั่นแล้วก็สามารถใช้บำเพ็ญตนได้เช่นกัน อีกทั้งต้นทุนยังต่ำกว่าด้วย
จั๋วอวิ๋นเซียนเคยคิดว่า หลังจากศิลาิญญาบนแผ่นดินเซียนฉยงหมดลง ระบบวิถีเซียนจะพังทลายอีกครั้งกระมัง
แน่นอนว่าเขาเป็แค่ผู้บำเพ็ญเซียนระดับหลอมิญญาคนหนึ่ง ไม่จำเป็ต้องคิดมากเกินไป ์ถล่มลงมายังมีผู้ยิ่งใหญ่คอยค้ำจุน ร้อนใจไปก็มิได้สิ่งใด
หลังจากสงบจิตใจลง จั๋วอวิ๋นเซียนลองโคจรพลังิญญาให้ไหลเวียนทั่วร่าง
ตามด้วยตั้งสมาธิ มีเปลวเพลิงสีขาวปรากฏที่ฝ่ามือ รอบเปลวเพลิงยังมีสายฟ้าล้อมรอบอยู่ด้วย
เมื่อเห็นเช่นนี้จั๋วอวิ๋นเซียนอึ้งทึ่งอย่างห้ามมิได้!
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ที่สะกดิญญาสายฟ้าเอาไว้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ผลลัพธ์ที่เห็นตอนนี้นับว่าไม่เลวเลย
