“อย่างไรกัน? ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าวยังกินมั่วได้ แต่คำพูดจะพล่อยๆ ไม่ได้!” ทุกคนใกับคำพูดของสวีฝู หลินจินเป่าทำร้ายเจียงหงหนิง?
ทั้งยังให้จ่ายเงินชดเชยห้าตำลึง!
์ ห้าตำลึงเงินเชียวนะ นี่ต้องถูกทำร้ายหนักขนาดไหนกัน?
สวีฝูเงยหน้ากล่าวว่า “ท่านอาจารย์มาหาถึงที่เพราะเื่นี้! ไม่รู้หรือว่าลูกชายตัวเองมีพฤติกรรมเช่นไร? เ้ายังกล้ามีหน้ามาพูดว่าท่านอาจารย์ชื่นชมลูกเ้า!”
“ไอ๊หยา…นี่ไม่ใช่หน้าแล้ว ข้าว่าคงใช้บั้นท้ายเป็หน้าเสียมากกว่า ไม่เช่นนั้นจะใหญ่เช่นนี้หรือ?”
“ฮ่าฮ่า ก็นั่นน่ะสิ ท่านซิ่วไฉไม่ใช่มันเทศนะ อยากย่างก็ย่าง ไม่รู้จักดูเสียบ้างว่าลูกชายตัวเองมีไฟหรือไม่”
“ดูเข้าสิ ยังจะมีหน้าไปกินข้าวที่บ้านท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เหอะๆ…แล้วยังจะไปกันทั้งบ้าน รู้สึกเหมือนว่าบั้นท้ายของคนบ้านนี้ย้ายไปอยู่บนหน้ากันหมด!”
ในหมู่บ้านไม่เคยขาดคนนินทา หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดความจริง บรรดาฟู่เหรินขี้นินทาในหมู่บ้านที่มามุงดูเื่สนุกก็เริ่มพูดเหน็บแนม
หลินจินเป่าเป็ลูกคนที่สามของหลินซย่าจื้อ ลูกสองคนแรกต่างไม่ได้รับความสำคัญ สามารถพูดได้ว่าหลินจินเป่าเปรียบดั่งเม็ดทองของตระกูลหลิน เป็คนที่ถูกยกไว้ตำแหน่งสูงสุด
ปกติคนในบ้านตามใจเขามาก หากอยากได้เงินไว้ใช้ก็จะให้เสมอไม่ว่าจะมากหรือน้อย
ดังนั้น เมื่อได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าหลินจินเป่าชิงเงินเจียงหงหนิง คนตระกูลหลินจึงไม่เชื่อ
“หัวหน้าหมู่บ้าน คนบ้านตระกูลเจียงต้องใส่ร้ายจินเป่าของพวกเราเป็แน่ ท่านต้องช่วยทวงความเป็ธรรมนะเ้าค่ะ!” หลินซย่าจื้อร้องโวยวาย วิ่งมาจับแขนเสื้อสวีฝูแต่ถูกอีกฝ่ายปัดแขนหลบ
“จินเป่าของพวกเราจะไปอยากได้เงินของเขาได้อย่างไร? อีกอย่าง ตระกูลเจียงจนเสียขนาดนั้น จะมีเงินได้เช่นไรหลอกผีเถิด! นายพรานเจียงไม่อยู่บ้าน นังแพศยาขายตัวหลินหวั่นชิวต้องเป็คนสั่งให้เหล่าซานบ้านตระกูลเจียงมาหาเื่จินเป่าเป็แน่!”
หลายคนรู้สึกว่าที่นางพูดก็มีเหตุผล ตระกูลเจียงยากจนเสียขนาดนั้น?
เจียงหงหนิงเคยเก็บหญ้าจูเฉ่ากลับมาแลกผักหรือไข่ไก่ในหมู่บ้านอยู่บ่อยๆ เสื้อผ้าที่ใส่มีแต่ขาดๆ คนส่วนใหญ่จึงไม่เชื่อเื่ที่เขาพกเงินติดตัว
แต่สวีฝูไม่สบอารมณ์มาั้แ่แรกอยู่แล้ว ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหลินซย่าจื้อ
“หลินจินเป่ากับสวีตัวเป่าร่วมกันทำร้ายเจียงหงหนิง ท่านอาจารย์ตรวจสอบเื่นี้เรียบร้อยแล้ว เด็กทั้งสองยอมรับเช่นกัน เจียงหงหนิงพกเงินสองพวงติดตัวจริงๆ สะใภ้ใหญ่บ้านตระกูลเจียงเป็คนให้ไว้ใช้ซื้อผักในหมู่บ้าน เจียงเหล่าซานถูกทำร้ายสาหัส หลี่ซิ่วไฉสั่งให้สองครอบครับร่วมกันจ่ายเงินชดเชยทั้งหมดสิบตำลึงเงิน!”
สิบตำลึงเงิน!
บรรดาชาวบ้านพากันสูดหายใจดังเฮือก แม่เ้า สิบตำลึงเงินเชียวนะ พอให้ครอบครัวพวกเขาอยู่ได้ถึงครึ่งปี!
สมแล้วที่เป็ซิ่วไฉ ตัวเองไม่เคยขาดแคลนเงินทอง ไม่เคยยากจน เรียกเงินมากถึงสิบตำลึงั้แ่ครั้งแรก!
“เหลวไหล! นังแพศยาขายตัวหลินหวั่นชิวจะมีเงินได้อย่างไร?” หลินซย่าจื้อทนไม่ได้ คำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านไม่ต่างอะไรกับเหยียบหางนาง
หลินฟาไฉกับสวี่ซื่อพูดสนับสนุนอยู่ด้านข้าง ห้าตำลึงเชียวนะ เหตุใดนังแพศยานั่นไม่ไปแย่งกลับเอง?
สวีฝูไม่อยากสุงสิงกับพวกเขา บ่นในใจว่าเหตุใดหลี่ซิ่วไฉต้องมาหาเขาด้วย
หากหลินหวั่นชิวมาหาเขา เขาคงช่วยเกลี้ยกล่อมได้ จ่ายหรือไม่จ่ายย่อมไม่เป็ไร
แต่นี่หลี่ซิ่วไฉโยนหน้าที่ให้เขาจัดการ ไม่จ่ายก็ไปเจอกันที่ที่ว่าการอำเภอ!
น่าหงุดหงิดชะมัด!
สวีฝูอารมณ์เสีย พ่นลมหายใจเย็นๆ ว่า “พวกเ้าจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ เพราะถ้าไม่จ่าย พรุ่งนี้หลี่ซิ่วไฉจะไปพบท่านนายอำเภอ ถึงเวลาแล้วท่านนายอำเภอยึดสิทธิ์สอบของจินเป่าขึ้นมา ดูสิว่าพวกเ้าจะไปหาผู้ใด! อีกเื่ หลินจินเป่ายังเด็ก แต่พวกเ้าไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ความผิดโทษฐานปล่อยปละลูกหลานจนเป็โจรพวกเ้าต้องเข้าคุกเข้าตารางเช่นกัน!”
“ได้อย่างไรกัน…” หลินซย่าจื้อใ ท่านซิ่วไฉน่าตายนั่นยังจะไปที่ว่าการอำเภออีก?
“ลูกใหญ่…นี่…นี่จะทำอย่างไรดี?” สวี่ซื่อใลนลาน ประชาชนสู้ขุนนางไม่ได้ ประชาชนกลัวที่จะเข้าไปพัวพันกับทางการที่สุดแล้ว ต่อให้ไม่ได้ทำอันใดผิด ถึงไม่ตายย่อมเจ็บหนักอยู่ดี
“นี่…นี่มัน…เวรกรรม!” หลินฟาไฉเข่าอ่อนเช่นกัน
“ท่านพ่อ พวกเราจะไปหานังแพศยานั่น ทั้งหมดเป็ความผิดนาง ให้นาง…” หลินซย่าจื้อคิดไปคิดมาแล้วพูดกับหลินฟาไฉ
แต่สวีฝูตำหนิว่า “ไปหานางย่อมไม่มีประโยชน์ เ้าต้องจ่ายเงินมาที่ข้า หลี่ซิ่วไฉจะมาเอาพรุ่งนี้! หากพรุ่งนี้ไม่มีเงิน เขาจะไปที่ว่าการอำเภอ!”
สวี่ซื่อนั่งก้นคะมำลงหน้าประตู ตบพื้นร้องไห้ครวญคราง “เป็แค่อาจารย์แท้ๆ เหตุใดถึงยื่นจมูกมายุ่ง? คนที่โดนอัดไม่ใช่ท่านเสียหน่อย… ไอโยว จะฆ่ากันชัดๆ ห้าตำลึงเงินเชียวนะ…”
หลินซย่าจื้อพอจะรู้เื่อยู่บ้าง เข้าไปดึงแม่ตัวเองให้ลุกขึ้นภายใต้สายตาที่เหมือนจะฆ่าคนของหัวหน้าหมู่ “ท่านแม่ รีบลุกขึ้นเถิด ให้ไป จ่ายค่ายาห้าตำลึงให้เขาไป!” ไอ้เฒ่าน่าตายนั่น คอยดูเถิดว่าวันหน้าข้าจะจัดการเ้าอย่างไร!
ใจหลินซย่าจื้อเคียดแค้น กลับเข้าบ้านไปหยิบเงิน
ไม่มีกระไรสำคัญไปกว่าอนาคตของลูกชายอีกแล้ว จินเป่าของนางยังต้องสอบเคอจวี่ จะให้อนาคตจบลงแค่นี้ไม่ได้
ห้าตำลึงเงิน…ช่างคว้านหัวใจนางเสียจริง
แต่ว่า…
นางจะให้หลินหวั่นชิวคืนกลับมาให้หมด!
สวีฝูเก็บเงินเสร็จก็ไม่อยู่บ้านตระกูลหลินต่อ ตระกูลหลินต้องปิดประตูท่ามกลางการชี้ไม้ชี้มือของบรรดาชาวบ้าน
“มั่วเหม่อกระไรอยู่ ยังไม่รีบไปพาจินเป่ากลับมาอีก!” หลินซย่าจื้อยกเท้าถีบข้อพับขาของโจวเอ้อร์เหนิงจนล้มคะมำเพราะไม่ทันระวัง
สภาพของเขาทำให้หลินซย่าจื้อยิ่งหงุดหงิด ขี้ขลาดไม่ได้เื่จริงๆ
ศีรษะโจวเอ้อร์เหนิงกระแทกกับพื้นและนูนปูดทันที เขากุมหัววิ่งออกไปโดยไม่กล้าพูดสิ่งใดทั้งนั้น
บรรยากาศในบ้านตระกูลหลินไม่ต่างอะไรกับถ้ำน้ำแข็ง ลูกสาวสองคนของหลินซย่าจื้อไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง หลินฟาไฉสองสามีภรรยานั่งถอนหายใจเช่นกัน
“เจียงเหล่าต้าต้องให้เงินนังแพศยานั่นไว้แน่ มิเช่นนั้นจะเอาเงินจากที่ใดมาให้เจียงเหล่าซาน?” ผ่านไปสักพัก หลินฟาไฉเป่าควันยาสูบแล้วพูด
ไม่มีใครตอบสิ่งใด
เขาหรี่ตาพูดต่อว่า “ข้าว่านายพรานเจียงเป็คนมีความสามารถ ล่าสัตว์ใหญ่กลับมาจากบนเขาได้เป็ประจำ แต่เพราะมีเหล่าเอ้อร์คอยผลาญเงิน มิเช่นนั้นชีวิตคงดีที่สุดในหมู่บ้านเราไปแล้ว ลูกเล็กนี่มีความสามารถเช่นกัน ไปอยู่บ้านโน้นไม่ทันไรก็ควบคุมเจียงเหล่าต้าอยู่หมัด ทั้งเขายังกล้ามอบเงินให้นาง”
“ถุย นั่นมันนังจิ้งจอก!” หลินซย่าจื้อถ่มน้ำลายด้วยสีหน้าเคียดแค้น
แต่หลินฟาไฉกลับพูดว่า “หากนางควบคุมบ้านตระกูลเจียงได้จริงๆ ข้าว่าพวกเราควรไปมาหาสู่กันให้บ่อยขึ้น ถึงอย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็ลูกสาวคนเล็กบ้านตระกูลหลิน การช่วยเหลือครอบครัวฝ่ายแม่ตัวเองย่อมไม่มีสิ่งใดเสียหาย”
เปลือกตาที่หย่อนยานของสวี่ซื่อตั้งขึ้นทันที นางพูดว่า “ถูกต้อง พวกเราเป็พ่อแม่นาง จะปฏิเสธไม่รับได้หรือ? คนเป็ลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่อยู่แล้ว หากนางกล้าอกตัญญู ข้าจะไปร้องเรียน! ให้นางกินข้าวคุก!”
ดวงตาหลินซย่าจื้อขยับ นางดึงแขนสวี่ซื่อ “ท่านแม่ เงินห้าตำลึงเงินของบ้านเราคงต้องฝากให้ท่านไปเอาคืนมาแล้ว พวกเราจ่ายห้าตำลึง บ้านสวีตัวเป่าจ่ายห้าตำลึงเช่นกัน รวมกันแล้วเป็สิบตำลึง!”