หลังจากที่หลินจินเป่ากับสวีตัวเป่าถูกอาจารย์เรียกตัวออกมา ทั้งคู่ต่างไม่ยอมรับผิดตามแผนที่ได้ตกลงกันไว้
“ท่านอาจารย์ นางโกหก วันนี้พวกข้ายังไม่ได้เจอเจียงหงหนิงเลยขอรับ”
“ใช่ขอรับ วันนี้พวกข้ารีบมาเข้าเรียน จะมีเวลาใดให้ไปทำร้ายเขา ยิ่งเื่แย่งเงินคงไม่ต้องพูดถึงเลยขอรับ”
“ท่านอาจารย์ สองคนนี้ยากจนมากในหมู่บ้าน ไม่เชื่อท่านลองไปถามผู้คนที่หมู่บ้านพวกข้าก็ได้ขอรับ”
“พวกข้าศึกษาคัมภีร์ปราชญ์ ย่อมมีจรรยาบรรณ ไม่มีทางทำเื่ชั่วร้ายเช่นนั้นเป็แน่ขอรับ”
ซิ่วไฉเฒ่าฟังจบก็รู้สึกว่ามีเหตุผล รวมกับความรู้สึกส่วนตัวที่เชื่อในลูกศิษย์ตัวเอง หันมาพูดกับหลินหวั่นชิวอย่างน่าเกรงขามว่า “ฟู่เหรินน้อยท่านนี้ เกรงว่าน้องชายเ้าจะจำผิดเสียแล้ว เ้าพาเขากลับบ้านไปเถิดให้เขาคิดให้ดีจึงจะถูก หรือเขาเจอเื่กระไรที่ไม่กล้าพูดเลยพาดพิงมาถึงนักเรียนทั้งสองของข้าหรือไม่? เื่นี้จะว่าเล็กก็เล็ก จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ เ้าพาเขากลับไปอบรมให้ดีเถิด”
ใจหลินหวั่นชิวเ็าเมื่อได้ยินซิ่วไฉเฒ่าช่วยพูดเข้าข้างพวกหลินจินเป่า แต่นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนั้น
หากต้องกลับบ้านมือเปล่า…เหตุใดนางต้องมาให้เสียเที่ยว?
คิดว่านางว่างจนหาเื่ออกกำลังกายเช่นนั้นหรือ?
“ท่านอาจารย์ ท่านยังไม่ได้ดูเลยว่าบนตัวพวกเขามีเงินสองพวงหรือไม่?” นางเตือนซิ่วไฉเฒ่าเสียงเย็น
“ท่านศึกษาคัมภีร์ปราชญ์ ศึกษาความรู้ของผู้เป็ปราชญ์ ยังไม่ทันตรวจสอบก็จะเข้าข้างลูกศิษย์ตัวเองแล้วหรือ? ถ้าเช่นนั้น ข้าคงต้องไปเรียกร้องความเป็ธรรมที่อื่น”
มีแค่สตรีและคนถ่อยที่คุยด้วยได้ยาก!
คำสอนนี้กล่าวได้ไม่มีผิด!
ซิ่วไฉเฒ่าบ่นในใจ คิดดูแล้วก็ช่างเถิด ให้ฟู่เหรินน้อยนางนี้ได้เห็นชัดๆ!
“บนตัวพวกเ้ามีเงินสองพวงหรือไม่?”
หลินจินเป่าขยับลูกตา “มีหนึ่งพวงขอรับ แต่นี่เป็เงินที่ท่านแม่ข้าให้มา”
“ข้าก็มีหนึ่งพวง ท่านแม่ให้มาเช่นกันขอรับ” สวีตัวเป่าพูดตาม
ถึงท่านอาจารย์จะไปถามที่บ้าน พวกเขาแค่ส่งสายตาให้แม่ตัวเอง พวกนางก็พร้อมจะช่วยเล่นตามน้ำให้อยู่แล้ว
ซิ่วไฉเฒ่าฟังจบก็มองมาทางหลินหวั่นชิว ท่าทีชัดเจนมาก เ้าดูสิ แม่พวกเขาให้เงินมา
แต่หลินหวั่นชิวกลับพูดว่า “ง่ายมาก ในเมื่อเป็เงินของพวกเ้า พวกเ้าลองบอกมาว่าเงินนั่นมีลักษณะพิเศษหรือไม่?”
หลินจินเป่าพูดว่า “ท่านอาน้อย ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบข้า แต่มาใส่ร้ายเช่นนี้คงไม่ถูก เงินล้วนแล้วหน้าตาเหมือนกันหมดไม่ใช่หรือ? จะมีลักษณะพิเศษอันใด!”
“ใช่ นี่มันหาเื่กันไม่ใช่หรือ? ท่านอาจารย์ นางกำลังกลั่นแกล้งพวกข้า!”
ซิ่วไฉเฒ่าพยักหน้า รู้สึกว่าลูกศิษย์ตัวเองพูดถูก
ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไร หลินหวั่นชิวชิงตัดบทขึ้นก่อนว่า “ท่านอาจารย์ แต่เงินของน้องชายข้ามาจากข้า ข้าย่อมรู้ดีว่ามีลักษณะพิเศษอันใด รอให้ข้าพูดก่อนเถิดแล้วท่านค่อยไปตรวจสอบดีหรือไม่?”
หลินจินเป่ากับสวีตัวเป่าหน้าเปลี่ยนสีทันที อย่างไรพวกเขาก็ยังเป็เด็ก เ้าเล่ห์แค่ไหนก็ปิดไม่มิด
ซิ่วไฉเฒ่าสังเกตเห็นสีหน้าพวกเขา หัวใจจมลง หรือว่า…
“เงินสองพวงที่ข้าให้น้องชาย บนเชือกมีรอยหมึกเปื้อน ขณะเดียวกันก็มีรอยเืจากตอนที่พวกเขารุมทำร้าย ท่านอาจารย์ลองตรวจสอบดูก็จะรู้ว่าที่ข้ากล่าวมาจริงหรือเท็จ” หลินหวั่นชิวบอกทุกอย่างชัดเจน ไม่ปล่อยผ่านแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
หากนางไม่มั่นใจพอก็คงไม่ะโออกมามีเื่กับซิ่วไฉหรอก
ซิ่วไฉเฒ่ามองไปทางเด็กสองคนนั้น “นำเงินออกมา!”
สองคนนั้นใถอยหลังแต่ก็ยังไม่ขยับเขยื้อน
ซิ่วไฉเฒ่าโมโห “ข้าบอกให้พวกเ้านำเงินออกมา!”
หลินจินเป่าทนไม่ไหวเป็คนแรก เขาคุกเข่าลงกับพื้น คำนับศีรษะให้ซิ่วไฉเฒ่า “ท่านอาจารย์ พวกข้าไม่ได้ตั้งใจนะขอรับ หลินหวั่นชิวทำตัวเสื่อมเสียต่อศีลธรรมอันดีงาม นำเงินที่ได้จากการขายตูดมาให้เจียงหงหนิง พวกข้าทนดูไม่ได้…ดังนั้นจึง…”
“ใช่ขอรับท่านอาจารย์ พวกข้าไม่ได้ตั้งใจ เพียงอยากไล่หญิงขายตูดหน้าไม่อายผู้นี้ออกจากหมู่บ้านเท่านั้น!”
หลินหวั่นชิวยิ้มเยาะ “นี่น่ะหรือลูกศิษย์ที่ท่านสอนออกมา คำสกปรกกระไรก็กล้าเอ่ยหมด ข้าเป็สตรีในครอบครัวสุจริต ชื่อเสียงสำคัญกว่าสิ่งใด พวกเขาอายุเพียงหกขวบแต่กลับชั่วร้ายเช่นนี้ ทำลายชื่อเสียงข้าไปทั่วยังไม่พอ ยังทำร้ายน้องชายข้าจนมีสภาพนี้ ทั้งหมดเพื่อเงินแค่สองพวงเช่นนั้นหรือ? ถึงกับทำลายชื่อเสียงผู้อื่นและหมายเอาชีวิตเพียงเพื่อเงินแค่ยี่สิบเหรียญทองแดง! ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่าควรให้คำอธิบายกับข้าหรือไม่!”
ซิ่วไฉเฒ่าอายจนหน้าแดง ขณะเดียวกันก็โมโห นี่คือลูกศิษย์ของเขา!
“อีกอย่าง จะจับโจรต้องมีหลักฐาน จับคนนอกใจต้องมีชู้ พวกเ้าประกาศใส่ร้ายข้าปาวๆ มีหลักฐานหรือไม่? หากมีหลักฐาน คนในหมู่บ้านคงจับข้าถ่วงน้ำไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้พวกเ้าสองคนมาใส่ร้ายหรอก! ข้า หลินหวั่นชิว ไม่ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงเข้าประตูสอง ไม่เคยอยู่ลำพังกับผู้ใด เหตุใดพวกเ้าต้องชั่วร้ายเพียงนี้? หรือนี่เป็สิ่งที่พวกเ้าศึกษาได้จากคัมภีร์? บางทีนี่อาจเป็สิ่งที่อาจารย์พวกเ้าสอน?”
คำพูดของหลินหวั่นชิวแหลมคมราวกับคมมีด ทิ่มลงในใจซิ่วไฉเฒ่าทุกประโยค
“ท่านอาจารย์ สวีตัวเป่าเคยแย่งไข่ไก่ของข้า!”
“ท่านอาจารย์ วันก่อนหลินจินเป่าโยนแท่งฝนหมึกของข้าลงในนา”
สองคนนี้เป็อันธพาลประจำโรงเรียนส่วนตัว มีเื่กับเด็กหลายคน สองคนนี้เอะอะก็ทำร้ายคน เด็กเหล่านี้จึงหวาดกลัวพวกเขา ไม่กล้าฟ้องผู้ใด
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว สองคนนี้เกือบทำคนตาย ทั้งยังแย่งเงินจนอีกฝ่ายบุกมาเอาเื่ถึงที่ เห็นชัดว่าเื่นี้ไม่มีทางจบลงด้วยดี พวกเขาต้องถือโอกาสฟ้องด้วยอยู่แล้ว
ให้ดีที่สุดคือท่านอาจารย์ต้องไล่สองคนนี้ออกไป
ซิ่วไฉเฒ่าได้ยินคำฟ้องของเหล่าลูกศิษย์ก็พูดด้วยความโมโห “ยังไม่รีบนำเงินออกมาอีก!”
ทั้งสองใสะดุ้ง ได้แต่ล้วงเงินสองพวงออกมาจากอกเสื้อ
บนเงินสองพวงมีลักษณะพิเศษตามที่หลินหวั่นชิวพูดจริงๆ ซิ่วไฉเฒ่าเดี๋ยวหน้าแดง เดี๋ยวหน้าดำ
เขามีลูกศิษย์ไม่ได้เื่แบบสองคนนี้ได้อย่างไร!
ขายหน้าหมดแล้ว!
เงินนี้เป็เศษเงินที่เถ้าแก่ร้านตำราหามาให้หลินหวั่นชิว นางแอบเห็นตอนมอบให้เจียงหงหนิงว่าบนเชือกป่านมีรอยหมึก
บวกกับตอนที่เจียงหงหนิงกลับมาก็มีเืเปื้อนมือ เจียงหงหนิงบอกว่าตอนนั้นเขาคว้าไว้แน่น บนเงินจะไม่มีรอยเืได้หรือ?
เป็ไปไม่ได้!
ซิ่วไฉเฒ่าคืนเงินสองพวงให้หลินหวั่นชิว ในใจกังวลว่าหลินหวั่นชิวจะไปหากรมศึกษาที่ที่ว่าการอำเภอ เวลาพูดกับนางจึงมีความระมัดระวัง
“เ้าวางใจเถิด เด็กเช่นนี้ข้าไม่มีทางสอนต่อเป็แน่ ข้าจะคืนค่าเล่าเรียน ส่วนแผลของเด็กคนนี้…อย่างไรก็เพราะข้าสั่งสอนเด็กทั้งสองไม่ดีเอง เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจะให้เงินพาเขาไปหาหมอ?”
นี่คือการสื่อว่าจะใช้เงินปลอบใจหลินหวั่นชิว
แต่หลินหวั่นชิวกลับปฏิเสธ “ข้าไม่รบกวนให้ท่านเสียเงิน! แต่ข้ามีเื่จะขอท่านอย่างหนึ่ง”
ซิ่วไฉเฒ่ารีบตอบ “เชิญพูดมา! หากข้าช่วยได้ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว!” ไม่ต้องให้เขาออกเงินก็ยิ่งดี เขาเป็แค่อาจารย์สอนหนังสือจนๆ หาเงินได้ไม่มากนัก
หลินหวั่นชิวพูดว่า “ขอให้ท่านช่วยไปที่หมู่บ้านพวกข้าสักครั้ง อธิบายเื่นี้ให้หัวหน้าหมู่บ้านฟัง ครอบครัวของเด็กทั้งสองต่างไม่ฟังเหตุผล ต่อให้น้องชายข้าจะหาหมอ เงินที่ใช้ต้องให้หัวหน้าหมู่บ้านเป็คนเอามา แต่คำพูดของสตรีตัวเล็กๆ เช่นข้าไม่มีน้ำหนักพอ เกรงว่าจะไม่เข้าหูหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นคงต้องรบกวนท่านอาจารย์ไปช่วยพูดให้เสียแล้ว!”
“สมควรอยู่แล้ว สมควรอยู่แล้ว!” ซิ่วไฉเฒ่ารีบตอบ แค่ช่วยพูดกับหัวหน้าหมู่บ้าน ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
เขาถอนหายใจโล่งอก แต่หลินจินเป่ากับสวีตัวเป่ากลับใหน้าซีด