เล่มที่ 3 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของป่าสนธยา บทที่ 59 ดินแดนแห่งความฝัน
ในพื้นที่ส่วนกลางของเมืองไป๋หยาง มีจวนอันงดงามโอ่อ่าหลังหนึ่งตั้งอยู่
ห้องเรือนในจวนเป็แบบโบราณที่มีโครงสร้างแบบกากบาท แฝงความกล้าหาญ อิสระและเรียบง่ายท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
ภายในมีทางเดินคดเคี้ยวที่นำไปสู่สวนหลังบ้าน ศาลาริมน้ำ และเหล่าบุปผกาน้อยใหญ่ พร้อมทั้งโขดหินที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ
บางครั้ง สาวใช้พริ้มเพราหลายคนก็เดินเข้าไปในห้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหลังจากทำงานหนักอยู่สักพักหนึ่ง พวกนางก็ปิดประตูเบาๆ แล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ
ในห้องที่เงียบสงบราวกับผิวน้ำ มีชายหนุ่มคนหนึ่งขมวดคิ้วแน่น นอนหลับอยู่บนเตียง เป็ฉู่อวิ๋น ผู้ชนะการประลองยุทธ์เซี่ยหยาง
นับั้แ่ที่ฉู่อวิ๋นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฆ่าผู้าุโหกด้วยกระบี่เพียงเล่มเดียวและเผาเขาทั้งเป็ ฉู่อวิ๋นก็หมดสติยังไม่ฟื้นจนถึงตอนนี้
เหมือนกับว่าพลังจิตถูกปล่อยออกไปจนหมด
ในเวลานี้ เขากำลังจมอยู่ในความฝัน มองเห็นภาพในนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งมหัศจรรย์และแปลกประหลาด เต็มไปด้วยแสงไฟริบหรี่
ทันใดนั้น ร่างลวงตาที่สูงใหญ่และทรงพลังก็ปรากฏขึ้น เขาสะพายกระบี่เล่มใหญ่ไว้บนหลัง หันหลังให้ฉู่อวิ๋นและพูดด้วยรอยยิ้มที่กล้าหาญ "ทำได้ดี... ทำได้ดีมาก! เ้าทำให้ความคาดหวังของพ่อบรรลุผลแล้ว...”
"จำไว้ว่า เ้าจะต้องมีหัวใจแห่งการต่อสู้ที่กล้าหาญ เฉียบคมและซื่อตรงราวกับกระบี่ ทั้งยังต้องทรงพลังอย่างยิ่ง นี่ถึงจะเป็ผู้ฝึกกระบี่และลูกผู้ชายตัวจริง!"
“ลูกเอ๋ย เ้าต้องจำไว้...”
“ท่านพ่อ...ท่านพ่อ!!” ดวงตาของฉู่อวิ๋นสั่นไหวในความฝัน เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว พยายามคว้าจับแผ่นหลังของฉู่ซานเหอ
ทว่านี่เป็เพียงความฝัน ไม่ว่าฉู่อวิ๋นจะพยายามดิ้นรนเพียงใด เขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้ฉู่ซานเหอได้เลย ทำได้แต่เพียงมองดูภาพลวงตาของแผ่นหลังแข็งแกร่งนั้นค่อยๆ หายไป จนกลายเป็จุดสว่างดวงเล็กๆ
“ท่านพ่อ ในที่สุดข้าก็ล้างแค้นให้ท่านและสังหารผู้าุโหกได้สำเร็จ! ขอท่านหลับให้สงบเถิดขอรับ” สีหน้าของฉู่อวิ๋นดูเคร่งขรึม มีน้ำตาไหลออกมาจากหางตาคมกริบ จากนั้นสายตาของเขาก็แน่วแน่ มือกำหมัดแน่น
ยามนี้ ฉากที่เห็นก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ราวกับว่ากลับมาสู่ลานประลองเซี่ยหยางที่เพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้
ณ ใจกลางของเวทีประลองมีไฟลุกโชน เปลวไฟสีแดงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า อุณหภูมิร้อนจัด เป็ฉากของผู้าุโหกถูกเผา
“ข้าไม่ยอม…ข้าไม่ยอม! เ้าฉู่อวิ๋นคนนี้ใช้เืสังเวยให้กระบี่เล่มนี้…”
“นี่คืออาวุธิญญา… นี่คืออาวุธิญญา!”
"อ๊ากกก——!"
เสียงโหยหวนของผู้าุโหกดังกึกก้องจนร้าวไปถึงหูของฉู่อวิ๋น ทำให้แก้วหูเจ็บแปลบ พร้อมด้วยเสียงของเขาที่ะโอยู่ในใจ ทันใดนั้น ไฟก็ลุกโหมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ฉากทั้งหมดนี้กลายเป็สีแดงราวกับนรก
“อาวุธิญญา? ิญญา… อ๊ากกก!!!” ทันใดนั้นก็มีความเ็ปรุนแรงปะทุขึ้นในหัวของฉู่อวิ๋นราวกับกำลังจะะเิออกจากกัน เขากรีดร้องอย่างเ็ป มือทั้งสองข้างบีบหัวไว้แน่น ก่อนที่ฉากในฝันจะค่อยๆ มลายหายไป
“ตูม ตูม ตูม——”
ตอนนี้ ลมและเมฆในดินแดนแห่งความฝันนี้เปลี่ยนสี พื้นดินถล่ม ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็สีแดง ไฟที่ไม่มีวันมอดกำลังลุกโชนเผาไหม้ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายจนกลายเป็ควันดำ เหลือทิ้งไว้เพียงเถ้าถ่าน
ฉู่อวิ๋นลืมตาขึ้นและเห็นทะเลเมฆาลอยอยู่บนท้องฟ้าสีแดงเื แสงสีรุ้งกะพริบระยับ และเสียงฟ้าร้องดังลั่นไปทุกทิศทาง ราวกับไฟนรกชำระโลก
“นี่ คือ...อะไร?” ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเห็นว่าดวงอาทิตย์ในความฝันกลายเป็ดวงไฟศักดิ์สิทธิ์สีแดงขนาดใหญ่ แสงอันล้ำค่าส่องสว่างสุกใส เปลวไฟสีแดงเข้มกำลังลุกเป็ไฟ และมีพลังอันตรายอันรุนแรง คล้าย้าทำลายโลกใบนี้
"ตึง--"
ด้วยเปลวไฟเผาไหม้ที่ว่า สถานที่อันกว้างใหญ่กลายเป็ผุยผงในพริบตา หินรอบๆ แตกกระจาย ใบไม้ป่าเหี่ยวเฉา น้ำในแม่น้ำเหือดแห้ง โลกแห่งความฝันนี้กลายเป็ทะเลเพลิงสีแดงเข้มพร้อมเปลวไฟที่ลุกโชนรุนแรงกลับกลิ้งไปมาในทันทีจนดูน่าสะพรึงกลัว
“พระอาทิตย์ที่ลุกเป็ไฟนั้นคืออะไร? ดูเหมือนว่ามันกำลังเรียกข้าอยู่” ฉู่อวิ๋นรู้สึกว่าพระอาทิตย์เพลิงศักดิ์สิทธิ์นั่นดูเหมือนจะดึงดูดเขาไว้ แม้แต่ร่างกายในความฝันก็ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าที่ร้อนเป็ไฟ
แต่เมื่อขึ้นไปบนอากาศ ร่างกายของฉุ่อวิ๋นในความฝันก็เริ่มถูกเผาไหม้ ความรู้สึกแสบร้อนพุพองก็ะเิออก ทำให้เขาร้องออกมาอย่างเ็ป
ในเวลาเดียวกัน ความเ็ปทางจิตใจก็ทรมานฉู่อวิ๋นอยู่เช่นกัน ในไม่ช้า ร่างกายในฝันนี้ก็จะกลายเป็เถ้าถ่าน
ิญญาของฉู่อวิ๋นถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตสำนึกของเขาเริ่มพร่ามัว ราวกับว่าิญญาของเขากำลังจะถูกดูดออกไป
“เจ็บ...ง่วงจังเลย...”
เปลือกตาของเขาค่อยๆ หย่อนลง ฉู่อวิ๋นสับสนและพึมพำกับตัวเอง
ยามนี้เอง แสงสีขาวบริสุทธิ์ก็พุ่งออกมาจากความว่างเปล่า กระทบเข้าที่คิ้วของฉู่อวิ๋น ทำให้ร่างกายในฝันของเขาฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ
แสงสีขาวอันลึกลับนี้ส่องสว่างขึ้นในดินแดนแห่งความฝันด้วยแสงที่ไม่มีวันหมด สีสันมงคลนับร้อยพัน และความงดงามที่ไร้สิ่งใดเปรียบได้นั้น ทำลายฉากสีแดงเมื่อครู่นี้ไปในพริบตา
ดินแดนแห่งความฝันนั้นขาวโพลนไปหมด แสงสีขาวอบอุ่นและเงียบสงบ ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจมาก
“อวิ๋นเอ๋อร์...”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นที่อยู่ในอาการมึนงงก็ได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย เขาลืมตาขึ้นมาและมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เห็นคือแสงสีขาวนวล ไม่พบตำแหน่งของแหล่งกำเนิดเสียง
“พี่หญิง! ท่านพี่ซินเหยา ท่านอยู่ไหน?” ฉู่อวิ๋นดิ้นรนอย่างหนักและะโเสียงดัง ในเวลานี้ ความเ็ปทั้งหมดของเขาหายไปแล้ว มีเพียงความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล และสบายไปทั่วทั้งร่าง ราวกับร่วงลงไปในดินแดนอันอ่อนโยนที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
“อวิ๋นเอ๋อร์...”
เสียงผู้หญิงแ่เบาดังมาจากด้านหลัง ทำให้ใบหน้าของฉู่อวิ๋นสว่างขึ้น เขาหันกลับไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นดวงตาเสือคู่หนึ่งที่หนักแน่นทว่าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ท่ามกลางแสงอันอบอุ่นที่สาดส่องไปทั่วอากาศ หญิงสาวในชุดสีขาวที่มีรูปร่างหน้าตางดงามราวกับภาพวาดก็ค่อยๆ ลอยเข้ามาหา ไหมสามพันเส้น[1]ปลิวไสวอย่างอิสระด้านหลังนาง นางช่างงดงามราวกับเทพธิดาที่ลงมายังแดนมนุษย์
ดวงตาของนางนุ่มนวลและมีเสน่ห์ ใบหน้าหมดจดงดงามไร้ที่ติ จมูกตรงสวย ริมฝีปากกระจับวาวใสราวอัญมณี ผิวนุ่มลื่นผุดผาดราวกับหยก
ผู้หญิงที่สวยงามได้อย่างไม่น่าเชื่อคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉู่ซินเหยา
“อวิ๋นเอ๋อร์... พี่คิดถึงเ้ามาก…” ฉู่ซินเหยาเหยียดแขนเรียวหยกของนางโอบกอดฉู่อวิ๋นเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยนราวกับน้ำรินรดดอกไม้
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็ผละจากกันเล็กน้อยและมองหน้ากัน ฉู่อวิ๋นจ้องมองไปที่ฉู่ซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็ไฟ ทำให้ใบหน้าที่สวยงามของนางเปลี่ยนเป็สีแดง
“อย่ามองพี่แบบนั้นสิ พี่...พี่จะเขินเอา” ฉู่ซินเหยาก้มหน้าลงเล็กน้อย มีเสน่ห์เกินต้านทาน แล้วกระซิบบอกเขา
“พี่ซินเหยา ข้าเคยคิดว่า…ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอท่านอีกแล้ว! ดังนั้น ตอนนี้ข้าขอมองท่านให้ชัดอีกหน่อย” ฉู่อวิ๋นอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก หลังจากล้างแค้นแทนท่านพ่อของเขาได้แล้ว สิ่งที่เขาคิดคือจะต้องคอยปกป้องฉู่ซินเหยาให้ดี จะไม่ปล่อยให้นางได้รับอันตรายใดๆ
ตอนนี้เขาเป็ผู้ชนะของการประลองยุทธ์เซี่ยหยาง ซึ่งมีชื่อเสียงในเมืองไป๋หยางแล้ว ได้เป็อิสระจากชื่อเรียกดาวหายนะ อนาคตไร้ขีดจำกัด
ยิ่งไปกว่านั้น ตามข้อตกลงของฉู่เจิ้นหนาน ตอนนี้ตระกูลรองสามารถแยกตัวออกไปได้อย่างอิสระแล้ว ไม่จำเป็ต้องใช้ชีวิตโดยเกรงใจตระกูลหลักอีกต่อไป
ในเวลานี้ ความปรารถนาเดียวของฉู่อวิ๋น คือการฝึกวิชากระบี่ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับฉู่ซินเหยาและเสี่ยวถง
“อ้อใช่ พี่หญิง ผู้เฒ่าเหยาเคยบอกข้าว่าเขาจะแนะนำอาจารย์ให้ข้ารู้จัก เมื่อถึงตอนนี้ เราออกจากเมืองไป๋หยางไปด้วยกันนะ!”
“รอให้ข้าเรียบจบ เราก็จะไปเที่ยวเขาชมสมุทร เดินทางไปทั่วแคว้น ท่านว่าดีหรือไม่?” ฉู่อวิ๋นจับมืออันนุ่มนวลราวไร้กระดูกของฉู่ซินเหยา ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความหวัง
“เ้าโง่อวิ๋นเอ๋อร์ เ้าไปฝากตัวเป็ศิษย์แล้วจะพาพี่ไปด้วยหรือ? ไม่กลัวถูกหัวเราะเยาะหรืออย่างไร?” ฉู่ซินเหยายกยิ้มเบาๆ เผยให้เห็นฟันขาวเรียงตัวสวยแล้วยื่นมือไปััผมของฉู่อวิ๋น
“ใครจะกล้าหัวเราะ?! อีกอย่าง พี่หญิงของข้างามเช่นนี้ คนพวกนั้นมีแต่จะอิจฉาสิไม่ว่า” ฉู่อวิ๋นแสดงท่าทางแทงกระบี่ ทำให้ฉู่ซินเหยายิ้มสดใสยิ่งขึ้น
“ได้ๆๆ พี่ไปกับเ้าด้วย ดีหรือไม่?” ฉู่ซินเหยาบีบหน้าของฉู่อวิ๋นแล้วยกยิ้ม
ฉู่ซินเหยาชอบหยิกแก้มของฉู่อวิ๋นที่สุด ด้วยเพื่อแสดงความใกล้ชิด
แน่นอน ฉู่อวิ๋นเองก็ชอบท่าทางนี้มาก เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ดี! คำไหนคำนั้น!"
จากนั้น ฉู่อวิ๋นก็ยกฝ่ามือขึ้นมาจับมือขาวดั่งหยกที่วางอยู่บนใบหน้าของเขา
จู่ๆ ในตอนนี้เอง ฉู่ซินเหยาก็ถอนฝ่ามือออกและถอยกลับอย่างรวดเร็ว นางใมากจนร้องอุทาน "อวิ๋นเอ๋อร์... อวิ๋นเอ๋อร์!!"
“พี่ซินเหยา!!”
ฉู่อวิ๋นใมาก เขา้าไล่ตามฉู่ซินเหยาที่ถอยออกไป แต่ไม่ว่าเขาจะก้าวเร็วแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย
"บ้าเอ๊ย!"
จากนั้น เขาเพ่งมองไปใกล้ๆ ก่อนจะเห็นห่วงวงแหวนสีดำเข้มปรากฏขึ้นอีกครั้งบนคอของฉู่ซินเหยา
และในความว่างเปล่าที่ห่างไกล ห่วงวงแหวนสีดำรัดแน่นขึ้น ซินเหยาที่อ่อนแอก็ถูกดึงกลับไป ทำให้ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเ็ปและดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง
“อวิ๋นเอ๋อร์… อวิ๋นเอ๋อร์…”
ฉู่ซินเหยาค่อยๆ จางหายไป เสียงกรีดร้องของนางช่างน่าสงสารและทำให้คนใจสลาย
"อ๊า!!!"
ฉู่อวิ๋นมองดูฉู่ซินเหยาจางหายไปในระยะไกล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขารู้สึกเศร้าอย่างยิ่ง จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง และพุ่งตัวะโไปข้างหน้า ทำให้เตียงไม้โบราณส่งเสียงดังเอี๊ยดแล้วชันตัวลุกขึ้นนั่ง
เขาเหงื่อออกท่วมตัว แต่เมื่อมองเห็นห้องหับที่เรียบร้อยและสวยงามตรงหน้า ก็พลันตระหนักได้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็เพียงความฝัน
หลังจากสงบลงแล้ว ฉู่อวิ๋นก็หันกลับมามองดูห้องที่อยู่ แล้วก็เห็นหญิงสาวรูปงามนางหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียง เป็ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านเ้าเมือง มู่หรงซิน
ในเวลานี้ นางเอามือไพล่หลังด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ดวงตาของนางสั่นไหวและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เ้า... เ้าๆๆ ตื่นแล้วหรือ?"
----------
[1] เส้นผมที่นุ่มสลวยและยาวอย่างเส้นไหม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้