แม้ว่าหยางฮุ่ยเหยียนจะพูดแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะยอมลงนามอะไรโดยไม่เห็นผลประโยชน์ก่อน
เธอจะพิจารณาการเดิมพันระหว่างเฉินเฟิงกับปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปของเธอ หลังจากเธอเห็นคุณลุงหวังโอนหุ้นให้เฉินเฟิงเท่านั้น
“ไม่มีปัญหา ฉันเซ็นสัญญาโอนหุ้นกับพ่อบุญธรรมตอนนี้เลยก็ได้ ใช่ไหมครับ?”
เฉินเฟิงพูดกับพ่อลูกสกุลหยางด้วยความมั่นใจ จากนั้นจึงหันไปถามพร้อมกับส่งสัญญาที่เซ็นแล้วให้ผู้เฒ่าหวัง
ได้ยินคำถามนี้ ผู้เฒ่าหวังที่หัวเราะและยกยิ้มมุมปากตอบกลับทันควัน
“แค่เรียกฉันเป็ 'พ่อบุญธรรม' ก็คุ้มค่ากับหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้วเหรอ หือ? ไม่ต้องรีบน่า ฉันให้คนเตรียมสัญญาถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ไว้แล้ว ตอนนี้ฉันรอให้นายเซ็นสัญญาฉบับที่สองกับตาเฒ่าถางก่อน เราค่อยคุยเื่สัญญาฉบับที่สองกัน ฉันสงสัยมากกว่าว่าเนื้อหาสัญญาเป็ยังไง? นายจะโอนยี่สิบเปอร์เซ็นต์คืนฉันจริงๆ หรือเปล่า”
เมื่อเฉินเฟิงฟังจนจบ เขาตอบกลับด้วยความใจเย็น
“อาจจะเป็คุณที่ต้องเสียหุ้นให้ผมเพิ่มอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์มากกว่า ถึงตอนนั้นผมจะมีหุ้นของเฉียนต๋าในมือสูงถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์”
แม้ว่าคำพูดของเฉินเฟิงจะฟังดูเรียบง่าย แต่ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
หยางกั๋วเฉียงซึ่งยืนฟังอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะพูดแทรกขึ้นอีกครั้ง
“นายทำนายว่าถางจุนจ่านจะมีชีวิตอยู่ไม่พ้น 2004 แต่เขาก็ยังเต็มใจเดิมพันเหรอ? หลังจากเซ็นสัญญาเดิมพันฉบับนี้เสร็จ ยังจะมีการเซ็นสัญญาฉบับที่สองกับพี่หวังในอีกไม่กี่วันข้างหน้าด้วย? แล้วถ้านายชนะทั้งสองสัญญา นายจะได้หุ้น สี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเฉียนต๋ากรุ๊ป?!”
หยางกั๋วเฉียงรู้สึกกังขา
“พูดตามตรง เป้าหมายของผมคือหุ้นสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของเฉียนต๋ากรุ๊ป! เพราะสัญญาเดิมพันฉบับแรกคือการทำให้คุณพ่อบุญธรรมกลายเป็เศรษฐีอันดับหนึ่งของเหยียนหวงในปี 2016 ผมจะพยายามทำให้เขาบรรลุเป้าหมายภายในปี 2007 เพื่อให้เขากลายเป็มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเหยียนหวง พร้อมกับให้ลูกสาวของคุณกลายเป็เศรษฐินีอันดับหนึ่งด้วย ถ้าผมทำสำเร็จ ผมจะได้หุ้นของเฉียนต๋าเพิ่มอีกเก้าเปอร์เซ็นต์! ส่วนผมผู้เื้ัจะกลายเป็ขาใหญ่อีกคนที่เงินน้อยกว่าพวกเขาทั้งสองนิดหน่อย!”
เฉินเฟิงพูดกับหยางกั๋วเฉียงและผู้เฒ่าหวังอย่างตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้เฒ่าหวังจะเข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของเฉินเฟิงได้ในที่สุด แต่เขาก็ติดกับแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินไปตามเส้นทางนี้
มิฉะนั้น เฉินเฟิงอาจทำให้หยางกั๋วเฉียง หรือแม้แต่ผู้เฒ่าถางกลายเป็มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเหยียนหวงแทนที่เขา
ท้ายที่สุดแล้ว ณ เวลาปัจจุบัน ปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปและถางเฉินกรุ๊ปมีภาษีดีกว่าเฉียนต๋ากรุ๊ปซึ่งกำลังติดหนี้และขาดทุนติดต่อกันอยู่หลายขุม
ผู้เฒ่าหวังเชื่อในความสามารถอันลึกลับของเฉินเฟิงอย่างหมดใจ
ไม่เช่นนั้นจะมีคนหนุ่มสาวที่ไหนกล้าเดิมพันกับเ้าสัวอสังหาริมทรัพย์สามคนพร้อมกันแบบนี้?
แต่เฉินเฟิงทำได้และทำให้เ้าสัวทั้งสามพอใจกับผลลัพธ์
เพราะเฉินเฟิงเลือกให้ใครก็ตาม ขึ้นมาเป็มหาเศรษฐีได้ทั้งนั้น!
นี่คือความมั่นใจอันแท้จริงของเฉินเฟิง
ขาใหญ่ทั้งสามได้เรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของตนเองจากปากของเฉินเฟิง พวกเขามีแต่จะหาทางผูกมัดเฉินเฟิงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย ให้ตัวเองได้กลายเป็มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงระดับของเฉียนต๋ากรุ๊ป ปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ป และถางเฉินกรุ๊ปแล้ว แต่เดิมในหมู่พวกเขาแล้ว ไม่มีใครเชื่อมั่นกันหรอกว่า ชื่อของตนเองจะกลายเป็มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดได้
แต่ตอนนี้ เฉินเฟิงทำนายว่าทั้งปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปและเฉียนต๋ากรุ๊ปจะเป็ผู้ให้กำเนิดเศรษฐีและเศรษฐินีที่ร่ำรวยที่สุดได้
คำทำนายนี้มอบความมั่นใจให้ทั้งสองเป็อย่างมาก
หากเฉินเฟิงไม่มีข้อผูกมัดอะไรกับพวกเขา พวกเขาคงไม่แม้แต่จะกล้าคิดฝันเื่การเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดนี้ในอนาคต
