นางในตอนนี้คล้ายมีความคิดต่อคนบางคน…ผิดปกติมาโดยตลอด
“เหอะๆหนิงเซียง ตอนนี้เ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่ มิน่าเล่าเ้าไม่ได้รับการให้เกียรติจากเขาเ้าที่รักสามวัน ห้าวันกลับจืดจาง ยังจะสามารถได้รับความรักจากเขาอย่างนั้นหรือ? แต่เหตุใดข้าจะต้องรอคอยเขา…ไม่ข้าไม่ควรจะเป็เช่นนี้ ถ้าหาก ถ้าหาก ข้ามีความรู้สึกต่อตู้ถงซินจริงๆ ข้าจะสามารถลองดูสักครั้งได้หรือไม่? เหมือน…กับในยุคปัจจุบันให้เขาเป็บุรุษร่วมห้อง?”
พอความคิดนี้เกิดขึ้นมาหนิงเซียงถึงกับนั่งไม่ติด
นางค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วเดินไปทางกระโจมของตู้ซินถงอย่างรวดเร็ว
แม้ทั้งหมดจะเป็กระโจมผืนเดียวกันแต่ทุกคนต่างมีกระโจมเป็ของตนเอง
ตู้ซินถงที่กำลังถอดเสื้อผ้าออกวินาทีที่เห็นหนิงเซียงเขาถึงกับตะลึงไปก่อน จากนั้นจึงยกยิ้มกระชากใจพลางเอื้อมมือไปหาหนิงเซียงที่เหมือนถูกปลดปล่อยสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะก้าวเดินไปหาเขา
เพิ่งจะเดินเข้าใกล้เขาร่างของนางถูกอีกฝ่ายดึงเข้าไปกอด เขาเชยคางนางขึ้นอย่างอ่อนโยน ใบหน้าค่อยๆเข้าไปแนบกับนางเบาๆ
“เ้าเองก็รู้สึกว่างเปล่ามากทรมานมาก อึดอัด รู้สึกแค่ว่า หาสถานที่ที่ระบายออกไปไม่ได้ใช่หรือไม่?”
“อืม…”
หนิงเซียงเหมือนกับิญญาหลุดลอยออกไปตอบกลับไปเบาๆ รู้สึกได้ถึงเขาที่ค่อยๆ ัับนใบหน้าของตนเองแ่เบา สุดท้ายร่างของนางก็ถูกอุ้มขึ้นแล้วถูกพาไปวางบนตั่ง
“นอนเถิดนอนสักตื่น พรุ่งนี้เ้าจะรู้สึกสดชื่นมากๆ ”
หัวใจที่เดิมทีว้าวุ่นตอนที่นอนอยู่บนตั่งที่มีกลิ่นอายของเขา หนิงเซียงกลับหลับสนิทอย่างรวดเร็ว ตู้ซินถงกอดสตรีที่หลับสนิทแน่นในอ้อมกอดยิ้มร้ายออกมา
“แม่นางเ้าจะกลุ้มใจไปเพื่อเหตุใด!”
เขาจับเส้นผมของนางขึ้นมาสูดดมเบาๆสุดท้ายจึงล้มตัวลงไปนอนกอดนางหลับตามไป
แม้ทั้งสองคนจะนอนด้วยกันแต่กลับไม่ได้ทำเื่อื่นที่มากกว่านั้น
เฉินเนี้ยนหรานที่มีเื่จะคุยกับตู้ซินถงเกี่ยวกับชุดหนังแหวกเปิดม่านกระโจมออก กลับเห็นศีรษะหนึ่งคู่อยู่ใกล้ชิดกันจนไร้ช่องว่างกำลังนอนกอดกันแน่นเหมือนเด็ก…
นางชะงักไปก่อนจะส่ายหัว
หนิงเซียงนางเอาความคิดในยุคปัจจุบันมาใช้กับที่นี่แล้ว
แต่หนิงเซียงเป็คนที่มีประวัติบางที เป็เช่นนี้ก็ไม่แน่ว่าอาจทำให้นางได้ผ่อนคลายบ้าง
พอกลับมาในห้องตนเองนางมองไปทางถวนถวน
ตอนนี้เด็กน้อยตัวโตขึ้นแล้วร่างกายที่เคยมีแต่กระดูกของเขาถูกเลี้ยงจนอ้วนท้วนขึ้นมา
“ถวนถวนตอนนี้เ้าเหมือนกับก้อนกลมๆ มากขึ้นจริงๆ แล้วนะ ดูสิ ทั้งตัวมีเนื้อแน่นๆเช่นนี้ เหตุใดถึงได้เหมือนก้อนเนื้อกันนะ”
ั์ตาสีดำของเด็กน้อยจ้องมาที่นางนิ่งทันใดนั้นเขายกมือขึ้นมาตบกัน ร้องอ้อแอ้ขึ้นมา
เท้าเล็กๆคู่นี้ก็ยกขึ้นมาถีบต่อต้าน ข้าเป็เด็กสมบูรณ์ไม่ใช่ก้อนเนื้อที่เอามาปั้นเป็ก้อนนะ
“ฮี่ๆเ้ายังชอบต่อต้านด้วย ไม่รู้ว่าเชวียนเชวียนจะเป็เช่นไรบ้าง? แม่คิดถึงนางมากเลย”
น้ำตาไหลลงบนตัวของเด็กชายอย่างห้ามไม่ได้
จนชุดเด็กที่ใส่อยู่เปียกชื้นนางถึงได้รู้ตัว
“เหอะดูสิ แม่เปลี่ยนมาขี้กังวลและใจดีเท่าใด ผ่านไปอีกสักพัก ขอแค่ทำการค้าได้ดีแล้วได้อยู่กับพ่อของเ้าแล้ว เราจะต้องไปรับเชวียนเชวียนกลับมาได้แน่ ถึงยามนั้นพวกเราจะไม่แยกจากกันอีก แม่หวังว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันทั้งครอบครัว”
“ในที่สุดเ้าก็พูดความในใจของเ้าออกมาแล้วเนี้ยนหราน!”
เสียงนี้เฉินเนี้ยนหรานที่ได้ยินสั่นไปทั้งตัว
นางหันกลับไปมองผ่านน้ำตาไป เห็นบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหนวดเคราเต็มใบหน้าที่แสนอ่อนล้าของเขา ทว่าดวงตากลับยิ่งเปล่งประกาย
ตอนที่เขามองสบสายตากับนางเขายิ้มสดใสแล้วยกมือ “ข้ากลับมาแล้ว กลับมาหาเ้ากับถวนถวน”
เฉินเนี้ยนหรานมองบุรุษคนนี้ที่จู่ๆก็มาปรากฏตัวด้านในกระโจม นางทำเพียงแค่อ้าปากไม่รู้จะสามารถพูดสิ่งใดออกมาได้
จนกระทั่งแขนแกร่งสองข้างนั้นดึงนางเข้าไปในอ้อมกอด ดมกลิ่นที่เป็ของนางนางถึงได้รู้ตัวว่า อ้อบุรุษคนนี้ ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวแล้ว
โจวอ้าวเสวียนกอดนางแน่นด้วยความโลภสตรีนิสัยเด็กนางนี้ นางสามารถมาหาเขาได้ หาข้ออ้างมาหาเขา แต่นางกลับไม่มา
หลังจากรู้ว่านางมาถึงแล้วเขารู้ทันทีว่าสตรีตัวน้อยคนนี้กำลังทำนิสัยเด็กอยู่ แต่เป็เช่นนี้ก็ดีนั่นแสดงว่านางยังสนใจเขา
“มีองค์หญิงรอท่านอยู่ด้านนอกข้าย่อมไม่ไปรบกวนเ้าอยู่แล้ว” เฉินเนี้ยนหรานก้มหน้าลงอย่างคนมีชนักติดหลัง
ความจริงแล้วหลังจากนางมาถึงที่นี่ นางสามารถไปหาโจวอ้าวเสวียนได้จริงๆ ทว่า เพราะความโกรธเล็กๆในใจ และความไม่พอใจเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงไม่ยินดีจะเข้าไปหาก่อน
จิตใต้สำนึกของนางรอให้เขากลับมาแม้เขาจะกำลังทำภารกิจอยู่ แต่นางยังเชื่อมั่น ขอเพียงเขายินยอม ย่อมจะต้องสามารถกลับมาหาพวกนางแม่ลูก
เพราะมีความคิดเช่นนี้ดังนั้นนางจึงหดหัวอยู่ในกระดองแล้วทำการค้า แต่ไม่คิดหาวิธีจะไปหาเขา
“ถวนถวน…ถวนถวนนี่คือท่านพ่อของเ้า มา ทักทายท่านพ่อเสียหน่อย”
เฉินเนี้ยนหรานผละตัวออกก่อนจะอุ้มถวนถวนเข้ามาในอ้อมกอด โจวอ้าวเสวียนจ้องเด็กตัวน้อยๆในตอนนั้นเขาตกตะลึงไปนิดหน่อย
นี่คือลูกของเขาหรือ
ตอนที่เขาจากมาเด็กคนนี้ยังอยู่ในท้องของนาง
แต่ตอนนี้เด็กน้อยกลับเบิกตากลมโตมองมายังตัวเขาเองด้วยความแปลกใจ นิ้วเล็กๆ นิ้วหนึ่งถูกดูดเข้าไปในปาก
“อ้อ...แอ้…”
เสี่ยวถวนถวนทักทายเขาอย่างเป็กันเองน้ำลายใสๆ ไหลออกมาจากนิ้วเล็กๆ กลิ่นนมหอมๆ สายหนึ่ง ลอยมาจากตัวของถวนถวน
หอมมากและยังมีกลิ่นของความอบอุ่น
โจวอ้าวเสวียนอุ้มเด็กตัวน้อยขึ้นมาด้วยความตื้นตันเขาที่เพิ่งจะอุ้มเด็กเป็ครั้งแรก จึงอุ้มไป อุ้มมา สองพ่อลูกมองตากัน เ้ามองข้าข้ามองเ้า
เฉินเนี้ยนหรานมองบุรุษคนนี้เอาสองมือกอดเสี่ยวถวนถวนไม่ยอมปล่อยนางมองภาพนี้แล้วยิ้ม คราแรกเสี่ยวถวนถวนสงสัยว่าบุรุษตัวสูงใหญ่ผู้นี้คือใครก่อนจะดูดมือเล็กๆ ของตัวเองจุ๊บๆ
“อ้อ…แอ้…”
เขาทักทายอย่างเป็กันเองอีกครั้งแต่คนที่อุ้มเขาสูงๆ เช่นนั้น ทำเพียงแค่มองเขาด้วยความตื้นตันด้วยท่าทางจะร้องไห้แต่กลับไม่ยอมร้อง จะยิ้มแต่กลับไม่ได้ยิ้ม
วินาทีนั้นเด็กน้อยรู้สึกไม่เป็ตัวของตัวเองเขาโบกมืออ้วนๆ คิ้วขมวดเข้าหากันเป็ปม
บุรุษคนนี้เหตุใดต้องอุ้มเขาอยู่ตลอดไม่ยอมปล่อยด้วย?
เขาไม่สบายตัวมากนะรู้บ้างหรือไม่!
เด็กน้อยส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางสตรีใจร้ายที่มองมาทางนี้แล้วยิ้มในตอนนั้นนางกำลังหมุนตัวไปหั่นผลไม้
“อุแว้…”เมื่อเห็นว่ามารดาที่ตนเองคุ้นเคยจะไปแล้ว แต่เขากลับถูกยกสูงๆ อยู่เช่นนี้ ถวนถวนจึงเริ่มต่อต้านและร้องด้วยความร้อนใจ
เด็กน้อยตัวเล็กอย่างพวกเราน้ำตาเป็ของวิเศษที่สุด
เมื่อเห็นว่าน้ำตาของเด็กน้อยกำลังไหลลงมาพร้อมทั้งแขนขาเล็กๆ ปัดป่ายไปมา โจวอ้าวเสวียนจึงร้อนใจ คอยปลอบเด็กน้อยด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ “ถวนถวน...เด็กดี…พ่อ…พ่ออุ้มเ้าอยู่ เ้าอย่าร้องนะ อย่าร้อง…”
“แง้…”
ถวนถวนต่อต้านอย่างรุนแรง
คนบัดซบเช่นเ้าอุ้มผู้อื่นเขาสูงๆอยู่ตลอด มันไม่สบายตัวรู้บ้างหรือไม่
ก่อนหน้านี้เฉินเนี้ยนหรานเอาผ้าอ้อมของเขาออกแล้วไม่ได้ใส่เข้าไปใหม่ เด็กน้อยในตอนนี้ร้องไห้จ้าฉี่ของเด็กน้อยก็ราดออกมาตามการต่อต้าน
“อ๊าก…หรานหราน…ข้าข้า…”
โจวอ้าวเสวียนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้โดยที่หน้าของเขายามนี้ได้กลายเป็กระโถนให้กับเ้าลูกชายไปเสียแล้ว
แม้จะเป็เช่นนั้นเขายังไม่กล้าที่จะวางเด็กน้อยลง กลับกันเขากลับยิ่งกอดเด็กคนนี้แน่นขึ้นกลัวว่าเขาจะตกลงมา หากทำตกลงมา เนื้อนิ่มๆ นี้จะสลายไปหรือไม่
เขาสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ขอความช่วยเหลือจากแม่นางที่เพิ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้
แต่เมื่อเห็นภาพสองพ่อลูกปฏิบัติต่อกันอย่างน่าสนใจเช่นนี้มารดาใจร้ายได้แอบมาหัวเราะอยู่ด้านข้าง
นางพูดว่าสองพ่อลูก เ้าต้องพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันให้มาก จึงจะได้ มิเช่นนั้นเขาที่เป็บุรุษจะไม่มีทางเข้าใจว่าเื่การเลี้ยงลูกนั้นเป็เช่นไร
อีกทั้งให้บิดาเลี้ยงดูลูกย่อมมีประโยชน์ในการทำให้ความรู้สึกของพ่อลูกใกล้ชิดกันด้วย
“อ้าวอ้าว…อุแว้…”
ถวนถวนเสียใจแล้วน้ำตาไหลอาบหน้า มือเล็กๆ น่าสงสารคอยเอาแต่โบกไปทางเฉินเนี้ยนหราน
เขาจะหาแม่เขาไม่เอาคนตัวใหญ่คนนี้
อุแว้…
เสียใจมากเ้าคนตัวโตนี่ เกลียดที่สุดเลย
อุแว้…
ยิ่งเขาร้องโจวอ้าวเสวียนก็ยิ่งร้อนรน ใบหน้าที่เดิมทีคล้ำแดดอยู่สักหน่อยในนาทีนี้เริ่มเปลี่ยนมาม่วงๆ แดงๆ แล้ว เม็ดเหงื่อไหลออกมาทีละหยด
สุดท้ายนางทนกับเสียงร้องไห้น่าสงสารของลูกชายไม่ไหวแล้วจริงๆ เฉินเนี้ยนหรานจึงเดินเข้ามารับเด็กน้อยไปก่อนจะนำน้ำผลไม้ป้อนเข้าไปที่มุมปากของเขา
“อุแว้…”บนใบหน้าของเด็กน้อยยังมีน้ำตาประดับอยู่ ปากก็อ้าปากตามหาน้ำผลไม้อย่างโลภมากไปตาก็ถลึงมองคนตัวโตคนนั้นที่ได้รับการช่วยเหลือ
ในตอนนี้คนตัวโตคนนั้นถอนหายใจกำลังใช้ผ้ามาเช็ดหน้าตนเอง
ปากของเฉินเนี้ยนหรานฮัมเพลงไปมือก็ป้อนน้ำผลไม้ให้กับเด็กน้อยไป จนกระทั่งเขาดื่มจนอิ่มแล้วถึงได้เรอออกมาอย่างพอใจ
“เนี้ยนหราน่นี้เ้าคอยเลี้ยงลูก ลำบากแล้ว” โจวอ้าวเสวียนพูดชื่นชมออกมาจากใจด้วยความหวาดกลัว
เขายอมออกไปทำงานเหนื่อยด้านนอกแต่ไม่้าเลี้ยงลูกแล้ว ์ แม้เด็กตัวเล็กนี่จะน่ารักมากจริงๆ แต่ร่างกายนุ่มๆของพวกเขาก็ไม่ดีเหมือนกัน
สำหรับความคิดนี้ของเขาเฉินเนี้ยนหรานเข้าใจอยู่เต็มอก
นางยิ้มสดใส“อืม ลำบากเ้าแล้ว ดังนั้นเ้ากลับมาในครั้งนี้ ข้าดีใจมาก คืนนี้มีเ้าอยู่ข้าจะได้พักสักหน่อย มา ข้าจะสอนเ้าว่าควรอุ้มลูกอย่างไร วางใจเถิด แม้เด็กคนนี้เมื่อครู่จะร้องไห้โยเยมาก่อนแต่นั่นเป็เพราะว่าเ้าอุ้มไม่ถูก เดี๋ยวข้าจะสอนให้ ขอแค่เ้าคุ้นเคยกับเขาแล้วข้าเชื่อว่าเ้าจะต้องชอบเลี้ยงเด็ก”
นางยิ้มอ่อนโยนมากนางที่เป็มารดาครั้งแรก น้อยมากที่หว่างคิ้วจะมีความลำบากแล้วมีความรู้สึกใกล้ชิดของคนเป็แม่ที่เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะนางที่อยู่ภายใต้ดวงไฟแฝงความเป็มารดาออกมา ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มความเย้ายวนน่าหลงใหลลงไปด้วย
“เช่นนั้นก็ได้…”
แม้ในใจจะรู้สึกงุ่นง่านจริงๆแต่เขายังตอบรับกลับไป
“มาอุ้มลูก เ้าจะยกเขาสูงๆ ตลอดไม่ได้ เป็เช่นนี้จะทำให้เขาไม่สบายตัวเ้าจะต้องทำเช่นนี้ ช้อนเขาไว้ ให้เขารู้สึกเป็อิสระ ผ่อนคลาย และเว้นเอาไว้เสียหน่อยเ้าจะต้องปรับท่าอุ้มเสียหน่อย”
