ด้วยการรับประกันของนักพรตเซวียนอี้ เจียงเฉินจึงรู้สึกวางใจและเชื่อว่านักพรตเซวียนอี้จะดูแลไม่ให้เกิดเื่เช่นนี้ขึ้นอีก
"ข้าขอเตือนท่าน ให้จับตาดูเฝินจงถังให้มาก"
เจียงเฉินย้ำเตือนนักพรตเซวียนอี้ มันต้องมีเหตุผลเื้ัที่เฝินจงถังและเฝินคุน้าสังหารเขาเป็แน่ เขาไม่รู้จักพวกมันมาก่อน แต่พวกมันยังคงพยายามหาทางสังหารเจียงเฉิน ในความคิดของเจียงเฉิน พวกมันต้องทำงานให้กับหนานเป่ยเฉาเป็แน่ เขาเคยพบหนานเป่ยเฉามาก่อน และเขาก็ััได้ถึงกลิ่นอายราชันย์จากหนานเป่ยเฉา หนานเป่ยเฉาเป็คนที่มีความทะเยอทะยานเป็อย่างมาก มันไม่เคยยอมรับสิ่งธรรมดาทั้วไป ไม่ว่ามันจะไปที่ไหน มันก็เปรียบดั่งาา
"เฝินจงถังเป็ผู้าุโที่ทรงเกียรติของนิกายเซวียนอี้คนหนึ่ง เขาได้สาบานว่าจะภักดีต่อนิกาย และไม่มีวันทรยศนิกาย ถึงแม้ว่าพวกเ้าทั้งสองจะมีเื่บาดหมางที่ไม่อาจแก้ไขได้ แต่ข้าเชื่อมั่นในความภักดีของเขา"
เฝินจงถังเป็หนึ่งในเสาหลักของนิกายเซวียนอี้ นักพรตเซวียนอี้ไม่เชื่อว่าเขาจะทำสิ่งที่ไม่ดีต่อนิกาย สำหรับเขา เหตุผลว่าทำไมเจียงเฉินถึงได้พูดเช่นนั้นก็เพราะความเกลียดชังที่มีต่อเฝินจงถัง ทั้งหมดเป็เพราะว่าหนี้แค้นระหว่างทั้งสองยังไม่ได้รับการชำระ นักพรตเซวียนอี้สามารถเข้าใจว่าทำไมเจียงเฉินจึงพูดออกมาเช่นนั้น
"ตามใจท่าน"
เจียงเฉินพูดเสร็จก็หมุนตัวแล้วจากไป เขาเข้าใจในสิ่งที่นักพรตเซวียนอี้กำลังคิด แต่หากเจียงเฉิน้าสังหารเฝินจงถัง เขาไม่จำเป็ต้องยืมมือนักพรตเซวียนอี้ เขาสามารถไปสังหารมันในภายหลังได้
เจียงเฉินไม่เคยตัดสินคนผิดพลาด หากเฝินจงถังยังไม่ตาย หลังจากนั้นมันจะกลายมาเป็แกะดำในนิกายเซวียนอี้ และสร้างความเสียหายใหญ่หลวง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะคิดเื่นี้ เขาได้เตือนนักพรตเซวียนอี้ตามวัตถุประสงค์ของเขาแล้ว สิ่งที่เขา้าจะทำต่อไปนั้นสำคัญยิ่งกว่า เขา้าที่จะรักษาเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานให้พ้นจากขีดอันตราย
หลังจากออกจากวังเซวียนอี้ เจียงเฉินบินตรงไปยังยอดเขากั๋วฉาน หลังจากการต่อสู้ในวันนี้ได้สร้างสถานะและตำแหน่งในนิกายเซวียนอี้ให้แก่เขาอย่างมั่นคง สังหารราชันย์จันทราโลหิต และเหลียงเซียวแม้กระทั่งศิษย์ในแะลผู้าุโนิกาย ความสำเร็จที่เหลือเชื่อเหล่านี้ได้ทำให้ทุกคนปฏิบัติต่อเขาอย่างจริงจัง นับจากนี้ ไม่มีผู้ใดในนิกายที่กล้าสร้างปัญหาให้แก่เจียงเฉิน แม้กระทั่งผู้าุโนิกายระดับแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ยังต้องสุภาพนอบน้อมเมื่อเผชิญหน้ากับเจียงเฉิน
ณ ตีนเขา หุบเขากั๋วฉาน คนนับสิบรวมตัวกันรอบๆนี้ โดยมีอี้จื่อฮันเป็ผู้นำ ด้านหลังเขาคือหวังหยุนและหวงเจิ้ง พวกเขากำลังรอเจียงเฉินอยู่ที่นี่
เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเฉินปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าเหนือพวกเขา ร่องรอยของความสุขได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาทั้งหมด
"น้องเจียง เป็อย่างไรบ้าง? ท่านผู้นำสร้างปัญหาอะไรให้เ้าหรือไม่?"
อี้จื่อฮันรีบถามขึ้นมา
"ไม่ เ้าไม่ต้องเป็กังวลไป"
เจียงเฉินเผยรอยยิ้มยากที่จะปรากฎ คนเหล่านี้ได้อุทิศตนเพื่อติดตามเขา เจียงเฉินสามารถััถึงความจริงใจของพวกเขา
"ศิษย์พี่เจียง วันนี้ท่านสุดยอดมาก! ได้สังหารเฝินคุนด้วยวิธีนี้ สะใจจริงๆ"
"ใช่แล้ว! สารเลวอย่างมันสมควรตายไปนานแล้ว! มันกล้าดียังไงถึงได้มาข่มเหงศิษย์พี่หญิงเยี่ยนในตอนที่ศิษย์พี่เจียงไม่อยู่ที่นี่?!"
"ศิษย์พี่เจียงเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบที่อาจพบได้ในรอบหมื่นปีอย่างแท้จริง! สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ได้ขณะที่ฐานพลังบ่มเพาะแก่นแท้์ นี่มันเป็สิ่งที่หาพบเจอได้ยากมาก"
บนใบหน้าของทุกคนปรากฎความฮึกเหิมขึ้น ในระหว่างไม่กี่วันที่เจียงเฉินออกไป พวกเขาทั้งหมดค่อนข้างเคร่งเครียด ในตอนนี้ด้วยการกลับมาของเจียงเฉิน เขาได้ก่อเื่ใหญ่ขึ้นอีกครั้ง และเขายังได้สังหารเฝินคุน ฐานอำนาจของเขาได้ก่อตัวขึ้น ในอนาคต จะไม่มีผู้ใดในนิกายเซวียนอี้กล้าล่วงเกินเจียงเฉินอีก
"ดี พวกเ้าทั้งหมดกลับไปก่อน กลับไปมุ่งมั่นบ่มเพาะพลังของพวกเ้าเถอะ ข้าจะไปดูอาการหยวี่น้อยกับอาหยานเสียหน่อย"
เจียงเฉินโบกมือของเขาอย่างเรียบง่าย จากนั้นเขาก็หมุนตัวมุ่งหน้าสู่ยอดเขา เขาไม่มีอารมณ์มาฟังคำประจบสอพลอในตอนนี้
"จื่อฮัน ตามข้ามา"
เจียงเฉินพูด
อี้จื่อฮันได้ติดตามเจียงเฉินไปด้านหลัง มุ่งหน้าไปยังยอดเขา หวังหยุนและคนที่เหลือต่างออกจากสถานที่แห่งนั้นเช่นกัน การต่อสู้ในวันนี้จบลงที่เฝินคุนถูกฆ่าตาย และเฝินจงถังถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน ความสงบสุขได้กลับมายังนิกายเซวียนอี้อีกครั้ง
บนยอดเขา กั๋วฉานกำลังรอคอยการมาของเจียงเฉินอยู่
"น้องชาย ทั้งหยวี่น้อยของเ้าและน้องหยานอาการสาหัสนัก พี่ชายผู้นี้จนปัญญา....น้องชาย ด้วยความรู้ที่กว้างขวางของเ้า ได้โปรดช่วยข้าหาหนทางรักษาพวกเขาด้วย!"
ภายในห้องที่เยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานพักรักษาตัวอยู่ กั๋วฉานขมวดคิ้วด้วยความเคร่งเครียด แม้แต่ตอนนี้ก็ตาม ลึกเข้าไปข้างในใจของเขาคงรู้สึกเสียใจเป็อย่างมาก เขามองไปที่เจียงเฉินด้วยความรู้สึกผิดและความกลัว ชายหนุ่มคนนี้เติบโตได้รวดเร็วมาก เขาได้พลิกตรรกะทั้งหลาย แม้แต่กั๋วฉานซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น ยังสามารถััถึงแรงกดดันจากเจียงเฉินเล็กน้อย
เจียงเฉินผงกหัว พร้อมกับโบกมือออกมา เขาได้ปลดปล่อยประกายแสงสีทองสองสาย และส่งมันเข้าไปตรงหว่างคิ้วของเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยาน ประกายแสงได้โคจรไปทั่วร่างของพวกเขา จากนั้นมันก็พุ่งออกมากลับสู่ฝ่ามือของเจียงเฉิน
"เป็อย่างไรบ้าง?"
กั๋วฉานและอี้จื่อฮันจ้องมองไปที่เจียงเฉินอย่างสงสัย
"าแของพวกเขาค่อนข้างร้ายแรง ทั้งสองคนาเ็ที่ต้นกำเนิดพลังของพวกเขา อวัยวะภายในทั่วร่างของอาหยานแตกกระจาย หากไม่ใช่เพราะสายเืปีศาจ์าช่วยเขาไว้ ตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว อย่างไรก็ตามเพราะพลังชีวิตของเขาอ่อนแอ พลังปีศาจ์าก็ได้หยุดโคจรลง เพื่อที่จะช่วยชีวิตอาหยาน พวกเราจำเป็ต้องหาทางให้พลังปีศาจ์ากลับมาโคจรอีกครั้ง หากทำได้ อาหยานจะฟื้นตัวด้วยพลังของปีศาจ์า"
หลังจากพูดเช่นนั้น เจียงเฉินก็ขมวดคิ้วขึ้นมาและพูดต่อว่า
"อาการของหยวี่น้อยเลวร้ายยิ่งกว่าอาหยานเสียอีก นางได้สะบั้นขั้วหัวใจของนางเอง ทำให้นางสูญเสียพลังชีวิตไปจนหมดสิ้น หากไม่ใช่เพราะว่าชีพจรเก้าหยินคอยช่วยเหลือนาง ข้าเชื่อว่านางคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ ั้แ่ที่นางสะบั้นขั้วหัวใจของตัวเอง ชีพจรเก้าหยินได้หยุดโคจรลงเช่นกัน และมันเป็เื่ยากที่จะปลุกมันขึ้นมาอีกครั้ง"
อาการของพวกเขาย่ำแย่กว่าที่เจียงเฉินคิดไว้ หรือจะพูดอีกอย่าง หากไม่ใช่ว่าร่างกายของพวกเขามีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ในตอนนี้พวกเขาคงตายไปแล้ว หากเป็คนทั่วไปได้รับาเ็เช่นนี้ คงไม่มีโอกาสที่จะฟื้นฟูได้อีก
""ชีพจรเก้าหยิน!""
กั๋วฉานและอี้จื่อฮันต่างตระโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ นี่มันเป็กายศักดิ์สิทธิ์จากยุคา พวกเขาเคยได้ยินมาก่อน แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงๆ มันทำให้พวกเขาตกตะลึง เยี่ยนเฉินหยวี่ได้ชีพจรเก้าหยิน
"ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสี่ยวหยวี่ถึงได้มีพลังความเย็นที่ทรงพลังขนาดนั้นในร่างกาย นั่นเป็เพราะร่างชีพจรเก้าหยินในตำนานนั่นเอง"
กั๋วฉานพูดออกมาด้วยท่าทีตกตะลึง
"น้องเจียง ในกรณีนี้ เ้ามีหนทางช่วยพวกเขาหรือไม่?"
อี้จื่อฮันถามออกมา หลังจากที่เขาได้ติดตามเจียงเฉินมาหลายวัน เขาได้คิดว่าเจียงเฉินเป็คนที่สามารถทำอะไรก็ได้
"แน่นอนว่ามีทางแก้ แต่ยากที่จะสำเร็จ การที่จะปลุกพลังปีศาจ์าในร่างของอาหยาน มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ปีศาจ์าเป็หนึ่งในปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคา มันมีอัตลักษณ์ปีศาจที่ทรงพลังและสายเืชั้นสูง ในการที่จะปลุกสายเืของเขาขึ้นมา พวกเราจำเป็ต้องหาบางสิ่งที่มีสายเืที่ทรงพลังยิ่งกว่าในการกระตุ้นสายเืของเขา หากดวงจิตอสูรของอสูรโลกามาได้ จากนั้นข้ามั่นใจว่าไม่ใช่แค่อาหยานจะตื่นขึ้นเท่านั้น การบ่มเพาะของเขาจะก้าวหน้าขึ้นอีกด้วย อสูรโลกาเป็สัตว์อสูรที่เต็มไปด้วยอัตลักษณ์ปีศาจที่ทรงพลัง มันเป็าาของสัตว์อสูรทั้งปวง แต่มันพบเจอได้ยากมาก ข้าเกรงว่าพวกเราไม่อาจพบเจอได้ในแคว้นฉี"
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
"อสูรโลกา?"
กั๋วฉานและอี้จื่อฮันสะดุ้งขึ้นมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาก่อน แต่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับข่าวการปรากฎตัวของมันที่แคว้นฉี
"น้องชาย พวกเราไม่อาจหาอสูรโลกาในแคว้นฉีได้หรอก อย่างไรก็ตามมีที่แห่งหนึ่งที่ข้าคิดว่าเป็ไปได้สูงที่จะมันจะอยู่ที่นั่น"
กั๋วฉานพูด
"ที่ไหนรึ?"
ดวงตาของเจียงเฉินส่องประกาย
"นรกอเวจี"
กั๋วฉานพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"นรกอเวจีเป็ดินแดนพิเศษ เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนท่านยอดนักบุญอันดับหนึ่งในใต้หล้าได้ตัดเข้าสู่โลกแห่งเซียน เพราะเหตุนี้ม่านพลังของโลกต้นกำเนิดเซียนได้เลือนหายไปและได้เกิดดินแดนพิเศษมากมาย และด้วยสิ่งนี้นรกอเวจีถึงได้เกิดขึ้นมา ข้าได้ยินมาว่าเหล่าสัตว์อสูรหายากและพวกปีศาจต่างอยู่ในดินแดนนรกอเวจี แต่ในเวลาเดียวกันมันก็มีสมบัติหายากจำนวนมาก มันเป็ดินแดนที่เต็มไปด้วยทั้งโอกาสและความเสี่ยง"
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเจียงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหวเล็กน้อย กวนอี้หยุนเคยบอกเขาเกี่ยวกับนรกอเวจี แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเกี่ยวข้องกับตัวเขา ดูเหมือนว่าหลังจากที่เขาก้าวผ่านประตูเข้าสู่โลกเซียนเมื่อร้อยปีก่อน เขาทำให้โครงสร้างของโลกต้นกำเนิดเซียนเกิดการเปลี่ยนแปลง
"ดูเหมือนว่าข้า จำเป็ต้องหาเวลาไปเยีอนนรกอเวจีเสียแล้ว"
ความสนใจของเจียงเฉินมุ่งไปยังนรกอเวจีอย่างแรงกล้า เขา้าเห็นนรกอเวจีด้วยตัวเอง การปรากฎขึ้นของเหล่าดินแดนที่แปลกใหม่ได้พิสูจน์ถึงการที่เขาได้เปลี่ยนแปลงต้นกำเนิดเซียน
"มันมีโอกาสน้อยมากที่จะมีชีวิตรอดในนรกอเวจี น้องชาย เ้าคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่"
กั๋วฉานเตือนขึ้นมา
"ข้าจะไปยังนรกอเวจีแน่นอน ข้าจะต้องค้นหาอสูรโลกา มิฉะนั้นแล้วข้าไม่รู้ว่าอาหยานจะอาการจะรู้สึกตัวอีกที่เมื่อไร แน่นอนว่า ข้าไม่ยอมให้มันเป็เช่นนั้น ข้าจำเป็ต้องช่วยหยวี่น้อยเสียก่อนก่อน ข้าให้ธงโลหิตแก่ท่าน พาอาหยานเข้าไปในธง จากนั้นให้ิญญาอาฆาตภายในรักษาชีวิตของเขาไว้"
เจียงเฉินพูด เขาจำเป็ต้องไปเยือนนรกอเวจี แต่ไม่ใช่ตอนนี้
"น้องชาย ดูจากอาการของนางแล้ว สามารถรักษาได้อย่างไร?"
กั๋วฉานถาม
"คล้ายกับอาหยาน ในการที่จะช่วยชีวิตหยวี่น้อยได้ เราจำเป็ต้องปลุกชีพจรเก้าหยินของนาง ตราบที่ชีพจรเก้าหยินตื่นขึ้น หยวี่น้อยก็จะพ้นขีดอันตราย แต่ชีพจรเก้าหยินเป็กายศักดิ์สิทธิ์ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก ไม่มีสิ่งใดที่เย็นพอที่จะกระตุ้นพวกมันได้ ดังนั้นเพื่อที่จะปลุกชีพจรเก้าหยินขึ้นมา พวกเราจำเป็ต้องทำกลับกัน หากข้าสามารถปรุงโอสถเก้าสุริยันได้ ข้าก็จะสามารถใช้พลังหยางบริสุทธิ์อัดเข้าไปในเม็ดยาเพื่อปลุกชีพจรเก้าหยินของนางขึ้นมา"
เจียงเฉินพูด
"โอสถเก้าสุริยัน?!"
กั๋วฉานะโออกมาด้วยความใ ในฐานะนักปรุงยา เขาเคยได้ยินถึงโอสถเก้าสุริยันในตำนาน เม็ดยานี้มันหายากและยากที่จะปรุงออกมา
"น้องชาย มันเป็ไปไม่ได้หรอกที่จะปรุงโอสถเก้าสุริยัน!ข้ามีสมุนไพรที่มีคุณสมบัติหยางบริสุทธิ์มากมาย เ้าคิดว่าพวกมันสามารถช่วยหยวี่น้อยได้หรือไม่?"
กั๋วฉานพูด
"ไม่ หากเป็สมุนไพรที่มีคุณสมบัติหยางบริสุทธิ์ มันจะทำให้หยินและหยางตีกัน และมันจะสังหารหยวี่น้อยในทันที โอสถเก้าสุริยันประกอบไปด้วยสมุนไพรที่แตกต่างกัน สี่สิบเก้าชนิด ส่วนผสมของมันทำให้หยินและหยางสมดุลกัน และมันไม่เป็อันตรายใดๆต่อหยู่น้อย"
เจียงเฉินอธิบาย ในเื่ของสมุนไพรและตัวยา เขารู้ดียิ่งกว่ากั๋วฉาน เข้ารู้วิธีการที่ดีที่สุดในการช่วยชีวิตของหยวี่น้อย
