“หมายความตามคำพูด ข้าไม่เห็นเ้าหนุ่มนั่นมาหลายวันแล้ว ที่มาตอนนี้ก็เพื่อ้ามาดูว่าอาการเขาเป็เช่นไรบ้าง อะไรกัน? เขาไม่อยู่ที่นี่หรือ?”
พอหลิงชางไห่ถามเช่นนี้ ทันใดนั้นดวงตาก็หันไปทางคนสกุลจ้าว ตอนนี้สมาชิกทั้งสามของสกุลจ้าว คนหนึ่งร้อนใจจนเหงื่อท่วมศีรษะ ส่วนอีกคนเหมือนหุ่นเชิดไม้ที่ไร้ซึ่งความดุร้ายเหมือนก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลืออีกคนซึ่งแทนตนว่าเป็น้องชายของจ้าวจือชิง ดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย ครอบครัวนี้ต้องปิดบังอะไรไว้แน่
หลิงชางไห่กับเฉียนจี้หวั่งส่งสายตาให้กัน อีกฝ่ายพยักหน้า เื่ที่กระทั่งหลิงชางไห่ยังดูออก เฉียนจี้หวั่งที่อยู่ในแวดวงชนชั้นสูงในเมืองหลวง จะมองไม่เป็สิ่งผิดปกติได้อย่างไร
เพียงแค่ไม่มีหลักฐานก็เท่านั้น
“จ้าวเหลย เมื่อครู่พวกเ้าบอกว่าหลายวันมานี้จ้าวจือชิงมาเฝ้าแปลงผักที่สวนพวกเ้า ตอนนี้กลับบอกว่าเขาหายไป ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ความน่าเกรงขามเยี่ยงขุนนางของเฉียนจี้หวั่งค่อนข้างแข็งแกร่ง ก่อนหน้านี้เขาพูดน้อยมาตลอด ส่วนมากมีหยางหนิงเป็ผู้ถาม พอตอนนี้เขาตวาดเสียงดัง สองสามีภรรยาแซ่จ้าวถึงกับฟุบลงกองกับพื้นทันใด
“ข้าน้อย ข้าน้อย ไม่ใช่…เขา…”
ขุนนางที่เคยมาในอดีตมักจะได้รับการกำชับจากจี้ฉงเหวินมาก่อน เวลามาสกุลจ้าวก็มักจะแค่มาเดินแวะเวียนเท่านั้น ขอแค่ให้จ้าวจือชิงออกมาแสดงตัวตนก็พอ แต่ผู้ที่มาวันนี้ไม่เพียงไม่ใช่คนก่อนหน้านี้ กระทั่งยังสอบถามอย่างละเอียดอีกด้วย
ไล่ั้แ่เื่สุขภาพและการกินดื่ม ละเอียดจนกระทั่งเื่อาหารสามมื้อในหนึ่งวัน เมื่อครู่ที่ถูกเค้นถามจ้าวเหลยก็กุเื่มั่วซั่วไปหมด ตอนนี้จึงโง่เขลาจนนึกไม่ออกว่าเมื่อครู่ได้พูดอะไรออกไปบ้าง
จ้าวจือจุ่นเห็นจ้าวเหลยถูกถามจนพูดไม่ออก จึงรีบอธิบายอยู่ด้านข้าง “นับั้แ่พี่ใหญ่าเ็ ส่วนมากก็ใช้เวลาไปกับการรักษา เพียงแต่ไม่กี่วันก่อนได้กลับมาบ้าน ไม่แน่ว่าอาจจะกลับไปแล้วก็เป็ได้”
เพียงแค่ไม่กี่คำพูด แม้จะไม่ได้ระบุชี้ชัดถึงผู้ใด แต่คนที่รักษาก็มีเพียงสกุลลั่วกับหลิงชางไห่ นี่จึงเป็การโยนความรับผิดชอบกลับมาให้หลิงชางไห่
หลิงชางไห่ได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ “ไม่เลว ก่อนหน้านี้จ้าวจือชิงรักษาตัวกับข้าก็จริง เพียงแต่พวกเ้าไปหาเขา เขาจึงกลับมาโดยไม่บอกกล่าว ตอนนี้พอหาตัวไม่เจอ พวกเ้าเลยอยากผลักภาระให้ข้าเป็ผู้รับผิดชอบหรือ?”
“ข้ากลับอยากถามพวกเ้ากลับว่า นับั้แ่ข้ารักษาจ้าวจือชิง พวกเ้าเคยมีใครไปเยี่ยมเขาหรือไม่? ไม่เพียงแค่ไม่ได้ไป กระทั่งค่ายาก็มีชีเหนียงเป็คนช่วยเขาออก พวกเ้ายังมีหน้ามาพูด เขาอาศัยอยู่ในแปลงผักก็เพื่อช่วยพวกเ้าดูแลสวน ไฉนพวกเ้าจึงไม่บอกว่าเขาถูกพวกเ้าขับไล่ออกไป!”
เฉียนจี้หวั่งได้ฟังก็หรี่ตาถามคนสกุลจ้าว “ที่หัวหน้าแพทย์หลิงพูดมาเป็เื่จริงหรือ? พวกเ้าไม่มีใครสนใจไยดีจ้าวจือชิงจริงหรือ?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่…พวกข้าไม่ได้ทำ…”
จ้าวเหลยกับหลี่ชุนฮัวปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง
“ใต้เท้าเฉียน จะใช่หรือไม่ แค่ไปดูที่พักอาศัยของจ้าวจือชิงก็รู้แล้วมิใช่หรือ”
“ไม่ได้!”
หลี่ชุนฮัวะโเสียงดัง “ไม่ได้เด็ดขาด!”
เฉียนจี้หวั่งหันกลับไปมองแวบหนึ่ง จ้าวเหลยออกแรงจับนางปิดปาก “ใต้เท้าไปดูได้เลยขอรับ”
“ช้าก่อน!” ชีเหนียงที่ไม่ได้ส่งเสียงมาตลอด นับั้แ่เมื่อครู่ นางก็คอยสังเกตพวกเขาทั้งครอบครัว ไม่เพียงแค่สองสามีภรรยาที่พฤติกรรมประหลาด กระทั่งจ้าวจือจุ่นที่อยากแสดงออกต่อหน้าหยางหนิงมาโดยตลอด ครั้งนี้กลับทำตัวนอบน้อมอย่างผิดสังเกต นึกถึงคำพูดที่หลิงชางไห่กระซิบกับนาง ชีเหนียงรู้สึกว่าจำต้องให้คนสกุลจ้าวได้รับโทษจึงจะดี
“ใต้เท้า ข้าน้อยคิดว่าหาก้าดูสภาพแวดล้อมความเป็อยู่ของจ้าวจือชิง แปลงผักนั้นจำเป็ต้องไปดู เพียงแต่ในบ้านหลังนี้ก็ควรดูจึงจะถูก” ชีเหนียงกวาดมองรอบทิศ แม้ชีวิตความเป็อยู่ของสกุลจ้าวจะไม่ได้ดีไปกว่าครอบครัวนางมาก แต่บ้านหลังนี้กลับมีแค่สามห้อง ตามหลักแล้วน่าจะต้องมีห้องหนึ่งเป็ของจ้าวจือชิง แต่จากนิสัยของหลี่ชุนฮัวแล้ว จะต้องทำเป็ห้องเก็บฟืนไม่ยอมให้จ้าวจือชิงอาศัยอยู่แน่
เฉียนจี้หวั่งรู้สึกว่ามีความผิดปกติในนี้ “เมื่อครู่เราดูแล้ว สภาพแวดล้อมของที่พักอาศัยนั้นดีมาก”
“บังอาจเรียนถามใต้เท้าว่าเป็ห้องใด?”
เฉียนจี้หวั่งชี้ไปห้องตะวันออก “ห้องนี้”
ห้องนี้เหมือนกับตำแหน่งห้องที่ลั่วจิ่งเฉินพักอาศัยที่บ้าน คงเพราะเป็ตำแหน่งห้องที่ดีที่สุดในบ้าน ดวงอาทิตย์สาดส่องเต็มที่ แสงสว่างก็ดีที่สุด
ชีเหนียงดูก็รู้ว่าห้องนี้ต้องเป็ห้องของจ้าวจือจุ่นแน่ เดาว่าคงเพื่อตบตาคนเหล่านี้ จึงยกตำแหน่งเ้าของให้จ้าวจือชิงชั่วคราว
“เกรงว่าคงไม่ใช่อย่างนั้น” ชีเหนียงชี้ไปที่ห้อง “บ้านข้าเผอิญมีผู้เล่าเรียนหนึ่งคน ในบ้านเองก็มีห้องเช่นนี้ด้วยเช่นกัน ห้องนี้รับแสงสว่างจากทิศเหนือและทิศใต้เต็มที่ เหมาะแก่การพักอาศัยของผู้เล่าเรียน หากอิงตามการบอกเล่าของคนสกุลจ้าว จ้าวจือชิงเห็นอกเห็นใจพวกเขาอย่างมาก แม้ว่าจ้าวจือชิงจะสมองทึ่มอยู่บ้าง แต่จากนิสัยของเขา ไม่มีทางที่เขาจะห้องที่ดีเช่นนี้เองและไม่ยกให้น้องชายของตนแน่”
พอชีเหนียงพูดเช่นนี้ เฉียนจี้หวั่งก็นึกถึงห้องนอนเมื่อครู่และรู้สึกว่ามันผิดปกติ เหมือนจะมีกลิ่นหอมของน้ำหมึก
เขากลับเข้าไปในห้องเมื่อครู่อีกครั้ง ซึ่งได้กลิ่นของตำราและหมึกจางๆ ดั่งที่คาด
“พูดมา ตกลงนี่เป็ห้องของผู้ใดกันแน่?”
เฉียนจี้หวั่งรู้สึกว่าตนเองถูกปั่นหัว ดังนั้นสีหน้าจึงดูย่ำแย่สุดขีด กระทั่งสือต้าหนิวที่ตอนแรกต้องจับบางสิ่งเพื่อประคองให้ยืนตัวตรง ตอนนี้กลับเริ่มสั่นเทาอย่างอดไม่ได้
ในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็ต้องมาบ้านสกุลจ้าวบ่อยครั้ง ย่อมต้องรู้ว่าเ้าของห้องนี้ที่แท้จริงคือผู้ใด
คนสกุลจ้าวไม่กล้าตอบ สือต้าหนิวจึงกลายเป็คนที่เฉียนจี้หวั่งจี้ถาม
“สือต้าหนิว เ้าในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ตกลงห้องนี้เป็ของผู้ใด?”
“เป็ เป็ของ…” สือต้าหนิวอ้ำอึ้ง จากนั้นหลับตาปี๋และชี้ไปทางจ้าวจือจุ่น
จ้าวจือจุ่นรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์แย่แล้ว จากนั้นจ้องลั่วชีเหนียงด้วยสายตาอาฆาต
มิน่าจี้ฉงเหวินถึงเกลียดชังเคียดแค้นชีเหนียงเช่นนั้น นี่มันสตรีต่ำช้าชัดๆ หากมิใช่เพราะนาง เื่นี้ไม่มีทางถูกเปิดเผยแน่! จี้ฉงเหวินห้ามให้จ้าวจือชิงกับลั่วชีเหนียงเจอกันถึงขั้นนั้น หรือว่าสองคนนี้จะมีสัมพันธ์ไม่ธรรมดากัน
หากเป็เช่นนั้นจริง แม้ว่าจ้าวจือชิงจะได้รับการปกป้องจากราชสำนักแล้วอย่างไร? ทำลายหน้าตาของราชสำนักและเป็ชู้กับภรรยาของชายอื่น แต่นี่ก็คือเื่น่าอับอายขายหน้า
พอคิดเช่นนี้ จ้าวจือจุ่นก็ไม่ได้หวาดหวั่นในใจถึงเพียงนั้นอีก เขายอมรับไปโดยตรง
“ใช่แล้ว ยามปกติข้าน้อยใช้ห้องนี้เป็ห้องศึกษาเล่าเรียนจริงๆ เวลาที่พี่ใหญ่อยู่บ้านก็จะให้พี่ใหญ่เป็คนใช้ก่อน” จ้าวจือจุ่นอธิบายจบก็หันไปทางลั่วชีเหนียง “เพียงแต่ไม่ทราบว่าแม่นางสกุลลั่วรู้เื่ราวในบ้านข้าได้เยี่ยงไร หรือว่าตอนที่พี่ใหญ่รักษาตัวที่บ้านสกุลลั่ว เ้าไปแอบสืบมาเช่นนั้นหรือ?”
“จ้าวจือจุ่น! เสียแรงที่เ้าเป็ผู้มีการศึกษา กลับฟังภาษาคนไม่เข้าใจ ที่ข้ารู้เื่นี้ก็เพียงเพราะว่าจิ่งเฉินของข้าก็เป็ผู้เล่าเรียนศึกษา เพียงแค่เปรียบเทียบดูก็เท่านั้น เ้าต่างหากที่อายุยังเยาว์ แต่กลับไม่รู้จักศีลธรรมอันดีและความอับอาย” ลั่วชีเหนียงรู้ดีว่าจ้าวจือจุ่นกำลังคิดจะใส่ร้ายป้ายสีนาง แต่นางจะปล่อยให้เขาสมปรารถนาได้อย่างไร
จ้าวจือจุ่นรู้ว่าตอนนี้ตนเองไม่มีหลักฐาน พูดมากไปก็ไม่มีผู้ใดเชื่อ อีกทั้งั้แ่เมื่อครู่ สายตาของหยางหนิงที่มองตนเองก็เริ่มผิดปกติ ตนเองไม่อาจพูดมากกว่านี้ แต่แค่ได้หว่านเมล็ดแห่งความสงสัยออกไปก็ใช้การได้แล้ว
-----