บทที่ 10: การท้าทายของแม่ครัวตัวน้อย
รุ่งเช้าของอีกวัน ไป๋หรูซิน จัดเตรียมปลาที่จับได้และไก่ป่าหนึ่งตัวที่ตั้งใจจะขาย ห่อหุ้มอย่างดีด้วยใบไม้สด เธอไม่ได้ปลุก ชุนฮวา เพราะอยากให้น้องสาวได้พักผ่อนเต็มที่ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินทางเข้าเมืองพร้อมกับ ลุงจาง อีกครั้ง
เมื่อมาถึงตลาดสด ไป๋หรูซินก็รีบตรงไปยังแผงประจำของเธอ ไม่นานนัก สายตาของเธอก็สะดุดกับร่างของชายผู้นั้นที่เคยเหมาปลาของเธอไปเมื่อวันแรก เขาคือ ท่านเถ้าแก่หลี่ิ เ้าของร้านอาหารชื่อดัง 'เหลาจันทร์เสี้ยว' ที่มีชื่อเสียงเื่อาหารทะเลสดใหม่ในเมือง
ไป๋หรูซินเดินเข้าไปหาท่านเถ้าแก่หลี่ิด้วยความมั่นใจ เธอโค้งคำนับเล็กน้อย "คารวะท่านเถ้าแก่หลี่ิเ้าค่ะ วันนี้หนูนำปลาสดๆ มาขายอีกแล้วเ้าค่ะ"
ท่านเถ้าแก่หลี่ิมองไป๋หรูซินด้วยรอยยิ้ม "โอ้... แม่หนูนี่เอง! ปลาของเ้าอร่อยนัก! วันนี้มีอะไรมาอีกบ้าง?"
ไป๋หรูซินชี้ไปที่กองปลาและไก่ป่า "วันนี้มีปลาตัวใหญ่ๆ เช่นเคยเ้าค่ะ และมีไก่ป่าด้วยนะเ้าคะ"
ท่านเถ้าแก่หลี่ิพยักหน้าอย่างพึงพอใจ "ดีๆ ข้าเหมาปลาของเ้าทั้งหมดเช่นเคย! ส่วนไก่ป่าตัวนี้ ข้าขอซื้อด้วยเช่นกัน"
ไป๋หรูซินยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะโฆษณาเครื่องปรุงรสที่เธอทำขึ้นมา "ท่านเถ้าแก่เ้าคะ... หนูมีสิ่งหนึ่งอยากจะเสนอท่านเ้าค่ะ" เธอหยิบถุงผ้าเล็กๆ ที่บรรจุผงเครื่องปรุงรสออกมา "นี่คือเครื่องปรุงรสที่หนูทำขึ้นเองเ้าค่ะ มันทำมาจากสมุนไพรบนเขา มีกลิ่นหอมและรสชาติแปลกใหม่ ช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นมากเลยเ้าค่ะ"
ท่านเถ้าแก่หลี่ิเหลือบมองถุงเครื่องปรุงรสในมือของไป๋หรูซินอย่างไม่ใส่ใจนัก เขาเป็เ้าของร้านอาหารชื่อดัง มีพ่อครัวฝีมือดีมากมายในครัว เขาไม่คิดว่าเครื่องปรุงรสที่ทำโดยเด็กสาวตัวเล็กๆ จะมีอะไรพิเศษ
"โอ้... เช่นนั้นรึ... ขอบคุณน้ำใจเ้าหนู แต่ข้ามีเครื่องปรุงรสของข้าเองแล้ว" ท่านเถ้าแก่หลี่ิตอบปัดๆ
ไป๋หรูซินรู้ทันทีว่าเขากำลังดูถูกฝีมือของเธอ แววตาของเธอฉายประกายท้าทายขึ้นมาทันควัน เธอไม่เคยยอมให้ใครดูถูกในสิ่งที่เธอตั้งใจทำ!
"เช่นนั้น... หนูขอท้าท่านเถ้าแก่หลี่ิเ้าค่ะ!" ไป๋หรูซินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องหยุดชะงักและหันมามอง
ท่านเถ้าแก่หลี่ิถึงกับขมวดคิ้ว "ท้าข้าอย่างนั้นรึ? ท้าอะไร?"
"หนูขอท้าท่านให้ลองนำเครื่องปรุงรสของหนู ไปทำอาหารสักเมนูหนึ่งเ้าค่ะ" ไป๋หรูซินกล่าวพลางยื่นถุงเครื่องปรุงรสออกไป "หากท่านทานแล้วไม่อร่อย ไม่ถูกปากท่านเลย... วันนี้ค่าปลาและไก่ทั้งหมดที่ท่านซื้อไป หนูจะไม่เอาเงินแม้แต่แดงเดียวเ้าค่ะ!"
คำท้าของไป๋หรูซินสร้างความตกตะลึงไปทั่วบริเวณ เสียงฮือฮาของผู้คนที่มุงดูดังขึ้นทันที ชาวบ้านบางคนถึงกับกระซิบกระซาบกันว่า "เด็กคนนี้กล้าหาญนัก! กล้าไปท้าเ้าของเหลาจันทร์เสี้ยวเชียวหรือ!"
ท่านเถ้าแก่หลี่ิถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ดวงตาของเขาจ้องมองไป๋หรูซินอย่างพินิจพิเคราะห์ เขามองเห็นแววตาที่มุ่งมั่นและจริงจังในดวงตาของเด็กสาว ไม่มีความหวาดกลัวหรือลังเลแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ในวงการอาหารมานาน ไม่เคยมีใครกล้าท้าทายเขาถึงเพียงนี้มาก่อน
"ฮ่าๆๆๆ!" ท่านเถ้าแก่หลี่ิหัวเราะเสียงดังด้วยความทึ่ง "น่าสนใจนัก! เ้าเด็กน้อย! เ้ากล้าหาญยิ่งนัก! ข้าไม่เคยเจอใครกล้าท้าข้าเื่การทำอาหารถึงเพียงนี้มาก่อน!"
ไป๋หรูซินยืนนิ่ง ไม่หลบสายตา "หากลองทานไม่อร่อย ท่านก็ไม่เสียหายอะไรเ้าค่ะ แต่ถ้าอร่อย..." ไป๋หรูซินเว้นจังหวะเล็กน้อย ดวงตาของเธอฉายแววเฉลียวฉลาด "หากท่านเถ้าแก่หลี่ิชื่นชอบรสชาติของเครื่องปรุงรสของหนู ขอเพียงท่านสั่งซื้อปลา ไก่ป่า และเครื่องปรุงรสจากหนูทุกเดือนเป็การแลกเปลี่ยนเ้าค่ะ!"
ข้อเสนอของไป๋หรูซินทำให้ท่านเถ้าแก่หลี่ิยิ่งประหลาดใจมากขึ้น เขามองเห็นไหวพริบและแผนการค้าอันชาญฉลาดในตัวเด็กสาวผู้นี้ การท้าทายครั้งนี้ เขาไม่มีอะไรจะเสียเลยจริงๆ มีแต่ได้กับได้ หากอร่อย เขาก็จะได้วัตถุดิบและเครื่องปรุงรสที่แปลกใหม่และคุณภาพดีมาขายที่ร้าน และหากไม่อร่อย เขาก็ไม่ต้องจ่ายเงินค่าปลาและไก่ในวันนี้
"ดี! ข้าตกลง!" ท่านเถ้าแก่หลี่ิตอบรับคำท้าในที่สุด "เอาเถิด! ข้าจะลองดูสักตั้ง! มา! ไปที่ร้านของข้ากัน! ข้าจะให้พ่อครัวของข้าลองทำเดี๋ยวนี้เลย!"
ผู้คนที่มุงดูถึงกับส่งเสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่คิดว่าท่านเถ้าแก่หลี่ิจะรับคำท้าจริงๆ! หลายคนเริ่มมีความสงสัยในความสามารถของเด็กสาวตัวเล็กๆ ผู้นี้ และอยากรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็อย่างไร
"เราจะตามไปดูด้วย!"
"ข้าก็อยากรู้ว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรได้!"
เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น ผู้คนมากมายเริ่มเดินตามท่านเถ้าแก่หลี่ิและไป๋หรูซินไปที่ร้านอาหาร 'เหลาจันทร์เสี้ยว' ราวกับจะไปชมการแสดงอันน่าตื่นเต้น
ไป๋หรูซินเดินตามท่านเถ้าแก่หลี่ิไปที่ร้านเหลาจันทร์เสี้ยวด้วยความมั่นใจ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย แต่เธอก็เชื่อมั่นในฝีมือและคุณภาพของเครื่องปรุงรสที่เธอทำขึ้นมา
เมื่อมาถึงร้านเหลาจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็ร้านอาหารขนาดใหญ่และหรูหรา ผู้คนจำนวนมากที่ตามมาก็เบียดเสียดกันอยู่หน้าร้านเพื่อรอชมเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ท่านเถ้าแก่หลี่ินำไป๋หรูซินตรงเข้าไปในครัวใหญ่ที่สะอาดสะอ้านและเต็มไปด้วยพ่อครัวฝีมือดีมากมาย
"พ่อครัวหลิน! พ่อครัวหวง! มานี่เดี๋ยวนี้!" ท่านเถ้าแก่หลี่ิเรียกพ่อครัวประจำร้านสองคนเข้ามา
พ่อครัวทั้งสองรีบเดินเข้ามาด้วยความงุนงง เมื่อเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ อย่างไป๋หรูซินยืนอยู่ข้างเถ้าแก่หลี่ิ
ท่านเถ้าแก่หลี่ิอธิบายเื่การท้าทายและการใช้เครื่องปรุงรสของไป๋หรูซินให้พ่อครัวทั้งสองฟัง พร้อมยื่นถุงเครื่องปรุงรสให้พ่อครัวหลิน
พ่อครัวหลินผู้เป็หัวหน้าพ่อครัวรับถุงเครื่องปรุงรสมาดูอย่างไม่เชื่อสายตา เขาไม่คิดว่าเถ้าแก่หลี่ิจะจริงจังกับเื่ไร้สาระเช่นนี้ เขาเทผงเครื่องปรุงรสลงบนฝ่ามือเล็กน้อย กลิ่นหอมของสมุนไพรแปลกใหม่ลอยขึ้นมาแตะจมูก ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
"นี่มัน... กลิ่นแปลกดีขอรับท่านเถ้าแก่" พ่อครัวหลินเอ่ยขึ้น "แล้วเราจะนำมันไปทำเมนูอะไรดีขอรับ?"
"หากท่านลองชิมแล้วไม่อร่อย...ข้าจะไม่รับค่าปลาแม้แต่เหรียญเดียว!" ไป๋หรูซินกล่าวหนักแน่นด้วยแววตาแน่วแน่
คำพูดนั้นทำให้เชฟทั้งสองถึงกับชะงัก หันมามองเธอเป็ตาเดียว สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็ความสนุกสนานและตื่นเต้นอย่างยิ่ง พวกเขาพยักหน้ารัว ๆ อย่างคึกคัก ราวกับอยากลิ้มลองฝีมือของนางเดี๋ยวนั้นเลย
ท่านเถ้าแก่หลี่ิมองไป๋หรูซินด้วยความชื่นชมในความกล้าหาญ "เอาเถิด! เ้าหนู! เ้าอยากให้พ่อครัวของข้าทำเมนูอะไรดี?"
ไป๋หรูซินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หนูเอาปลามา หนูคิดว่า... ปลานึ่งสมุนไพรน่าจะเหมาะสมที่สุดเ้าค่ะ มันจะช่วยดึงรสชาติของเครื่องปรุงรสออกมาได้อย่างเต็มที่"
พ่อครัวหลินมองหน้าไป๋หรูซินด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง เด็กสาวคนนี้ไม่เพียงกล้าท้าทาย แต่ยังรู้เื่การทำอาหารอีกด้วย
"เช่นนั้นก็... ปลานึ่งสมุนไพรขอรับท่านเถ้าแก่" พ่อครัวหลินกล่าว
พ่อครัวหลินและพ่อครัวหวงเริ่มลงมือทำอาหารอย่างรวดเร็ว โดยมีไป๋หรูซินคอยให้คำแนะนำเล็กน้อยเกี่ยวกับการใช้เครื่องปรุงรสและวิธีการที่เหมาะสม พวกเขาเลือกปลาตัวใหญ่สดใหม่ที่เธอนำมา และเตรียมเครื่องเคียงต่างๆ อย่างพิถีพิถัน
ในขณะที่การทำอาหารกำลังดำเนินไป บรรดาชาวบ้านที่ตามมาก็เริ่มส่งเสียงซุบซิบ พวกเขายืนเรียงรายอยู่ด้านนอกร้าน พยายามชะเง้อคอเข้าไปมองในครัวอย่างอยากรู้อยากเห็น
"ไม่น่าเชื่อว่าเถ้าแก่หลี่ิจะตกลงด้วยนะ!"
"เด็กคนนั้นดูตัวเล็กเสียจริง จะมีความสามารถอะไรได้เชียว?"
"รอดูกันเถิด! ถ้าไม่อร่อยจริงๆ เถ้าแก่ก็จะได้ปลาฟรี!"
เสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไป๋หรูซินก็ไม่สนใจ เธอจดจ่ออยู่กับการทำอาหาร เพื่อให้เมนูนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ไม่นานนัก กลิ่นหอมฟุ้งของปลานึ่งสมุนไพรก็ลอยออกมาจากครัวอบอวลไปทั่วทั้งร้าน กลิ่นหอมนี้แตกต่างจากกลิ่นปลานึ่งทั่วไปที่พ่อครัวของเหลาจันทร์เสี้ยวเคยทำ มันเป็กลิ่นหอมที่แปลกใหม่ไม่มีกลิ่นคาวและน่ารับประทานอย่างบอกไม่ถูก
เมื่ออาหารเสร็จสมบูรณ์ พ่อครัวหลินก็นำปลานึ่งสมุนไพรไปวางต่อหน้าท่านเถ้าแก่หลี่ิอย่างประณีต
ท่านเถ้าแก่หลี่ิสูดดมกลิ่นหอมของปลานึ่ง แล้วใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาขาวๆ ขึ้นมาชิมอย่างช้าๆ บรรยากาศในร้านเงียบกริบ ผู้คนต่างจ้องมองปฏิกิริยาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ทันทีที่เนื้อปลาแตะลิ้น ดวงตาของท่านเถ้าแก่หลี่ิก็เบิกกว้างขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงระคนประหลาดใจอย่างที่สุด รสชาติของเนื้อปลาที่สดหวาน ผสมผสานกับกลิ่นหอมของสมุนไพรที่แปลกใหม่และรสชาติกลมกล่อมที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน มันอร่อยล้ำเลิศเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้!
"อร่อย! อร่อยเหลือเชื่อ!" ท่านเถ้าแก่หลี่ิอุทานเสียงดัง ดวงตาเป็ประกายด้วยความชื่นชมอย่างสุดซึ้ง "นี่มัน... นี่มันสุดยอดจริงๆ!"
เขาเงยหน้าขึ้นมองไป๋หรูซินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพอย่างจริงใจ "แม่หนู! เ้าทำได้อย่างไร! เครื่องปรุงรสของเ้านี่มันวิเศษจริงๆ! ข้าไม่เคยลิ้มรสอาหารที่อร่อยล้ำถึงเพียงนี้มาก่อนเลยในชีวิต!"
ไป๋หรูซินยิ้มอย่างอ่อนน้อม "หนูบอกแล้วเ้าค่ะท่านเถ้าแก่"
"เยี่ยม! เยี่ยมจริงๆ!" ท่านเถ้าแก่หลี่ิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ข้าตัดสินใจแล้ว! ข้าจะสั่งซื้อปลา ไก่ และเครื่องปรุงรสจากเ้าทุกเดือน! และข้าจะซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดทั่วไปด้วย!"
ไป๋หรูซินดีใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นี่คือความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ เธอไม่เพียงแต่เอาชนะคำดูถูก แต่ยังได้พันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งอีกด้วย
เสียงโห่ร้องและปรบมือของชาวบ้านที่มุงดูอยู่หน้าร้านดังลั่น พวกเขาต่างประหลาดใจในความสามารถของเด็กสาวตัวเล็กๆ ผู้นี้ที่สามารถทำให้ท่านเถ้าแก่หลี่ิเ้าของร้านอาหารชื่อดังถึงกับออกปากชมเชยและตกลงซื้อขายด้วย
ไป๋หรูซินโค้งคำนับท่านเถ้าแก่หลี่ิด้วยความซาบซึ้งใจ "ขอบพระคุณเ้าค่ะท่านเถ้าแก่! หนูจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเ้าค่ะ!"
ไป๋หรูซินเดินออกจากร้านเหลาจันทร์เสี้ยวด้วยหัวใจที่พองโต วันนี้เธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ถูกดูถูก ก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์และเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองได้ด้วยความรู้และความมุ่งมั่น