หลังจากที่โดนพ่อบ้านหวังออกปากไล่ แม้เว่ยหลงจะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าทำอะไร
“เื่นี้ยังไม่จบ”
เว่ยหลงปรายตามองเริ่นเสี้ยวเทียนเล็กน้อย หลังจากกล่าวทิ้งท้ายไว้ เขาก็พาคนติดตามทั้งหมดเดินไปทางประตูของสวน
พ่อบ้านหวังส่งพวกเว่ยหลงออกไปถึงด้านนอกประตู
“ท่านชาย เดินทางปลอดภัย”
“พ่อบ้านหวัง เื่นี้จวนเจิ้นกั๋วกงของข้าจะจดจำเอาไว้ เื่นี้ยังไม่จบ รู้ไหมว่าข้ารับคำสั่งมาจากใคร”
เว่ยหลงยืนข้างๆ พ่อบ้านหวังพลางกล่าว
“เื่ใหญ่ของท่านชาย ข้ามิอาจทราบได้” พ่อบ้านหวังทำท่าทางไม่ใส่ใจ พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มเช่นเคย ข้อมูลจากเว่ยหลงไม่ได้น่าสนใจสักเท่าไรสำหรับเขา
“ข้าได้รับคำสั่งมาจากจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน ระวังตัวเอาไว้เถอะ!”
เว่ยหลงกล่าวเสียงเย็น แล้วเขาก็เดินจากไป
คนอื่นๆ เดินตามเว่ยหลงออกไปเช่นเดียวกัน ผีซานคนนั้นมองซ้ายมองขวาเล็กน้อยแล้วตัดสินใจเดินตามเว่ยหลงไป เขาล่วงเกินตระกูลเฝิงไปแล้ว หากอยู่ที่นี่ต่อคงไม่ต่างอะไรกับเดินเข้าหาความตาย เมื่อเป็เช่นนี้ การติดตามเว่ยหลงไปอาจทำให้เขาก้าวหน้าได้ยิ่งกว่านี้อีกก็ได้
พ่อบ้านหวังมองทุกคนเดินจากไปแล้วพลันมีแววตาเปลี่ยนไป จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในสวน
“ท่านลุงหวัง”
เฝิงเป่าเป่าเดินเข้าไปหาทันทีที่เห็นพ่อบ้านหวังเดินกลับเข้ามา
“คุณชายใหญ่ ข้าไม่รู้หรอกว่าเกิดเื่อะไรขึ้นกับพวกท่าน แต่มีบางอย่างที่ต้องให้ความสำคัญ เว่ยหลงคนนี้ไม่มีทางรามือง่ายๆ ท่านต้องระวังตัวให้มาก หากมีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ รีบออกจากที่นี่ หลีกเลี่ยงเป็จุดสนใจไปสักพัก”
พ่อบ้านหวังกำชับเฝิงเป่าเป่าอย่างจริงจัง กลัวว่าเฝิงเป่าเป่าจะไม่ใส่ใจ
พวกของเริ่นเสี้ยวเทียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักได้ยินพ่อบ้านหวังกล่าวเช่นนี้จึงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เื่ที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งอย่างพ่อบ้านหวังให้ความสำคัญขนาดนี้ แสดงว่าต้องไม่ธรรมดา เริ่นเสี้ยวเทียนอดสงสัยไม่ได้ว่าเสิ่นเสวียนไปล่วงเกินใครมา แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างพ่อบ้านหวังคนนี้ยังให้ความสำคัญถึงขนาดนี้
แต่ไม่ว่าจะเป็ใครเขาก็ไม่กังวล ั้แ่ที่ได้เห็นไม้ตายของเสิ่นเสวียนครั้งก่อน เขาไม่คิดว่าในทวีปนี้จะมียอดฝีมือคนไหนเป็ภัยคุกคามต่อเสิ่นเสวียนได้อย่างแท้จริง
เพียงแค่สะบัดมือก็คร่าชีวิตของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงไปแล้ว พลังระดับนี้แม้แต่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทำไม่ได้
“อืม ท่านลุงหวังวางใจได้ ข้ารู้ตัวดี”
เฝิงเป่าเป่าพยักหน้าให้พ่อบ้านหวังพลางกล่าว
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าต้องขอตัวก่อน”
พ่อบ้านหวังรู้ดีว่าเฝิงเป่าเป่าเป็คนสุขุม เขายิ้มให้เฝิงเป่าเป่าเล็กน้อยแล้วจึงเดินออกไปจากสวน
เฝิงเป่าเป่าออกไปส่งพ่อบ้านหวังในทันที เขามองพ่อบ้านหวังเดินห่างออกไปแล้วจึงกลับเข้ามาในสวนอีกครั้ง
“พ่อบ้านหวังคนนี้กับคนที่อยู่ที่นี่ ใครเก่งกาจกว่ากัน”
เริ่นเสี้ยวเทียนเห็นเฝิงเป่าเป่าเดินกลับมาแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น ก่อนหน้านี้อู๋ิมาที่นี่ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เคยแสดงฝีมือมาก่อน ทำให้รู้ว่าคนผู้นั้นไม่ธรรมดาเลย
“ไม่รู้เหมือนกัน พวกเขาไม่เคยสู้กันมาก่อน”
เฝิงเป่าเป่าส่ายหัวแสดงให้เห็นว่าไม่รู้จริงๆ
“เป็ทายาทแห่งเจิ้นกั๋วกงนี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลย”
เสิ่นเสวียนเดินออกมาจากด้านข้างพลางยิ้มแล้วกล่าว
“สหายเสิ่นทักษะยอดเยี่ยมยิ่งนัก ไม่อย่างนั้นพวกข้าคงไม่รู้จะรับมืออย่างไรจริงๆ”
เมื่อเห็นเสิ่นเสวียนเดินมา เฝิงเป่าเป่าถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่พ่อบ้านหวังตามมาด้วย ไม่อย่างนั้นหากโดนอีกฝ่ายกดดันมากๆ อาจต้องเชิญคนผู้นั้นออกมาอีกอย่างแน่นอน
“ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทายาทเจิ้นกั๋วกงคนนั้นมิอาจทำให้ตระกูลเฝิงของเ้าขุ่นเคืองได้ คนที่ต้องกล่าวขอบคุณคือข้าต่างหาก”
เสิ่นเสวียนกล่าวได้ถูกต้องแล้ว หากไม่ใช่เพราะตระกูลเฝิงอาจเกิดเื่วุ่นวายขึ้นกว่านี้ก็ได้ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอำนาจของตระกูลเฝิงจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ แค่พลังยุทธ์เพียงอย่างเดียวก็เรียกได้ว่าเป็อำนาจระดับสูงในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรแล้ว หากภายในสำนักมียอดฝีมือขั้นมหายานอยู่ด้วย จะกลายเป็สำนักขั้นสูงสุดในทันที
และเมื่อพลังเช่นนี้อยู่ในโลกมนุษย์ธรรมดา แน่นอนว่าเหนือกว่านั้นขึ้นไปอีก
“นานแล้วที่สหายเสิ่นไม่ได้กลับมา ข้าเตรียมสุราเอาไว้ให้ วันนี้พวกเรามาดื่มให้เพลิดเพลินกันไปเลย”
เฝิงเป่าเป่าสั่งให้คนไปจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองไว้มากมายก่อนที่เสิ่นเสวียนจะกลับมา แม้จะออกไปข้างนอกไม่ได้ แต่ในสวนของเขาเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศและสุราชั้นดี อยากกินอยากดื่มอะไรก็กินดื่มได้ทุกเมื่อ
“ได้เลย ไปกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนหัวเราะเสียงดัง แล้วพวกเขาก็เดินไปยังเรือนที่จัดเตรียมสุราอาหารเอาไว้แล้ว
งานเลี้ยงฉลองครั้งนี้หรูหรามาก เทียบกับที่โรงเตี๊ยมแล้ว อาหารการกินที่นี่ยิ่งใหญ่กว่ามาก อาหารหลากหลายอย่างไม่ซ้ำกันเลย โดยเฉพาะสุราชั้นดีที่จัดวางไว้ ทำให้เริ่นเสี้ยวเทียนตื่นใ
จากเื่เล็กน้อยแค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าเฝิงเป่าเป่าผูกมิตรกับพวกเสิ่นเสวียนจากใจจริง
บนเรือเสวียนอู่ ตนเองตกอยู่ในอันตราย อีกฝ่ายยังให้ความช่วยเหลือ ั้แ่นั้นมาเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะตอบแทนน้ำใจครั้งนี้ จากนั้นยังได้ร่วมมือกันเื่กระดานหมากอีก และยิ่งได้เห็นพร์ด้านพลังยุทธ์ของพวกเสิ่นเสวียน ยากจะจินตนาการได้เลยว่าหลังจากนี้พวกเขาจะแข็งแกร่งมากเพียงใด
หากเขาได้ผูกมิตรกับผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง นับว่าตระกูลเฝิงเป็ต้นแบบ และจะทำให้ตระกูลเฝิงยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก
หลังจากดื่มสุราและกินอาหารไปมากมายแล้ว
ทุกคนนั่งพักอยู่บนเก้าอี้เพราะความอิ่ม
เสิ่นเสวียนกล่าวถามเฝิงเป่าเป่า “เ้ารู้จักสถาบันิญญาไหม”
เขามาถึงที่นี่เพราะสถาบันิญญา เดิมทีสถาบันิญญาตั้งอยู่ที่เขตตะวันตก น่าจะอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลมาก เฝิงเป่าเป่าอาจรู้จักก็ได้ เสิ่นเสวียนอยากรู้เกี่ยวกับสถาบันิญญาจากเฝิงเป่าเป่า
“รู้จักสิ ว่าแต่สหายเสิ่นถามถึงสถาบันิญญาทำไมหรือ” เฝิงเป่าเป่าถามอย่างไม่ใส่ใจนัก
“เป้าหมายของพวกข้าที่มาถึงที่นี่ก็คือไปยังสถาบันิญญา ดังนั้นจึงอยากรู้เื่เกี่ยวกับสถาบันิญญาจากเ้าก่อน”
“ฮะ! พวกเ้าจะไปที่สถาบันิญญาอย่างนั้นหรือ”
เมื่อได้ยินชื่อสถาบันิญญา เฝิงเป่าเป่าผุดลุกขึ้นยืนทันทีด้วยสีหน้าตื่นใ
“ทำไมหรือ”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองเฝิงเป่าเป่าพลางถาม แค่สถาบันิญญาเองไม่ใช่หรือ เหตุใดต้องทำท่าทางแบบนี้ด้วย
“เปล่าหรอก พวกเ้าจะไปสถาบันิญญาจริงๆ หรือ”
เฝิงเป่าเป่าถามอีกครั้ง
“อืม ดูเหมือนเ้าจะรู้อะไรนะ”
“รู้ เพียงแต่ว่านั่นไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปควรเข้าไป”
เฝิงเป่าเป่าสูดลมหายใจเข้า เขาเรียบเรียงคำพูดก่อนจะกล่าวต่อ “พวกเ้ารู้จักสถาบันิญญามากน้อยแค่ไหน”
“ไม่รู้จักอะไรเลย ได้ยินว่าลึกลับมาก และเต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่ง คนที่มาจากสถาบันิญญาล้วนมีอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งนั้น”
เริ่นเสี้ยวเทียนที่นั่งอยู่ข้างๆ กล่าวขึ้น สิ่งนี้น่าดึงดูดใจเป็อย่างมาก แม้เขาจะมาจากสำนักบุปผา แต่ยังคงสนใจสถาบันิญญาอย่างเต็มเปี่ยม
อาจารย์ของเขาเคยบอกไว้ หากว่ามีโอกาสให้ไปยังสถาบันิญญาสักครั้ง ความรู้จากที่นั่นหาใช่สิ่งที่โลกภายนอกจะเทียบเคียงได้
เนื่องจากประโยคนี้ ทำให้ตอนที่เขาได้ยินว่าเสิ่นเสวียนจะเดินทางไปยังสถาบันิญญา เขาจึงอยากไปด้วยอย่างไม่ลังเล
“หากข้าขอเสนอว่าไม่ให้ไปล่ะ”
เฝิงเป่าเป่าโพล่งออกมาตรงๆ
“หมายความว่าอย่างไร” เสิ่นเสวียนถาม
“เพราะคนที่ออกมาจากสถาบันิญญาแต่ละคนไม่ปกติกันเลย”
เฝิงเป่าเป่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวกับเสิ่นเสวียน เขาไม่อยากให้พวกเสิ่นเสวียนกลายเป็คนแบบนั้นไปจริงๆ
เขาเคยเจอคนจากสถาบันิญญาครั้งหนึ่งโดยบังเอิญในเมืองชางฉง เป็ความรู้สึกไม่พึงประสงค์สักเท่าไร
เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้เป็มนุษย์อีกต่อไปแล้ว
“ค่อนข้างน่าสนใจ”
เสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่ข้างๆ แววตาเปี่ยมไปด้วยความสงสัย สถานที่เช่นนี้มีแรงดึงดูดต่อเขาอย่างมหาศาลเลยทีเดียว
“แล้วข้ายังรู้อีกด้วยว่า สถาบันิญญาเป็สถานที่ที่มุ่งสู่โลกิญญาได้อย่างแท้จริง”
ตอนที่เฝิงเป่าเป่ากล่าวประโยคนี้ออกมา ทำให้เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก