ิอวี่ออกกระบี่เร็วมาก ตอนที่ผู้าุโใหญ่ทั้งสิบกำลังตกตะลึงอยู่นั้น แสงกระบี่ในมือของเขาก็พุ่งออกไปและชนกับตะปูเหล็กที่เย็นะเืตรงหน้า!
กระบี่คราวนี้มันเรียบง่าย ไม่มีจุดเด่นอะไร ไม่มีคลื่นลมปราณ แต่วินาทีที่มันพุ่งชนกับตะปูนั้น คมกระบี่กลับมีพลังงานที่น่ากลัวอย่างมาก เสียงปะทะกันของเหล็กดังขึ้น และจู่ๆ พลังงานของกระบี่ก็พุ่งออกไปด้านหน้า!
“อะไรกัน?”
ถังเฉินที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ตรงนั้นถึงกับตกตะลึง เมื่อครู่เขาััได้ว่ามันไม่มีคลื่นลมปราณกระบี่ของิอวี่ชัดๆ แต่ทำไมในนาทีนี้ถึงได้มีลมปราณกระบี่ที่ทำเอาขนหัวลุกขนาดนี้ได้นะ!
“แก๊ง!”
ตะปูเหล็กเจาะเกราะดอกแรกถูกซัดปลิวกระเด็นไป จากนั้นแสงกระบี่ก็ปาดดอกที่สอง ดอกที่สาม ดอกที่สี่ ...
ตะปูเหล็กถูกซัดปลิวกระเด็นครบทุกดอก จนกระทั่งดอกที่เก้าก็ถูกิอวี่ทำลายลง คลื่นพลังกระบี่ได้พุ่งเฉียดหน้าของถังเฉินไปจนหน้าของเขามีรอยเืเป็เส้นตรงหนึ่งเส้น!
แสงกระบี่ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้ถังเฉินาเ็สาหัส แต่มันมีลมปราณกระบี่ที่แฝงอยู่รุนแรงมาก และมันก็ทำให้ถังเฉินนั้นใจเต้นรัวและหวาดกลัวอย่างมาก
“ข้า ... แพ้แล้วหรือ?”
ถังเฉินเอามือปิดแผลที่หน้าด้วยมือที่สั่นเทา เืที่ไหลอยู่บนหน้ามันทำให้เขารู้สึกเ็ป และก็เป็การบอกตัวเขาเองว่าทุกอย่างนี้มันคือเื่จริง!
หากเมื่อครู่มันเอียงมาอีกสักเล็กน้อย และฟันเข้าที่คอของถังเฉิน หัวของเขาก็อาจจะหลุดไปแล้วก็ได้!
ิอวี่ออมมือ ปล่อยเขาไป!
ถังเฉินมองไปที่ิอวี่ด้วยความหวาดกลัว ก็พบว่าดวงตาคู่นั้นคมกริบ จนตัวเขาเองกลับไม่กล้าที่จะสบตาด้วยเลย และต้องก้มหน้าลงโดยปริยาย
เดิมที เมื่อหนึ่งเดือนก่อนตอนที่ิอวี่ดูดซับเอาเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกเข้าไป แล้วแสดงพลังงานแฝงออกมาจนทุกคนทึ่ง ถังเฉินยังคิดว่าิอวี่ก็เป็แค่คนที่อดทนอดกลั้นได้ดีเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่า ความเด็ดเดี่ยวกับความสามารถของิอวี่นั้นมีอยู่จริง แม้จะดูธรรมดา แต่ภายใต้กระบี่ของเขามันแฝงพลังงานสังหารที่อันตรายมาก!
“กระบี่เรียบง่ายของเ้าเมื่อครู่ ที่จริงมันมีทักษะการต่อสู้แฝงอยู่ด้วยใช่ไหม?” ถังเฉินถามขึ้นมา
“ไม่”
ิอวี่ส่ายหน้าแล้วยิ้ม “กระบี่เมื่อครู่ ข้าไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรเลย”
“ไม่ ... มันไม่ใช่แบบนั้น ... ” ถังเฉินส่ายหน้าแล้วยิ้มอย่างขมขื่น
เขาไม่เชื่อ เขาจะเชื่อได้อย่างไร?
ที่ผ่านมา ถังเฉินมั่นใจในพลังความสามารถในการใช้อาวุธลับของตนเองมาก แต่ในวันนี้ ิอวี่ใช้กำลังของตัวเองคนเดียวทำลายมันลง โดยที่ไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ใดๆ เลย ก็ดับทำลายตะปูเหล็กเจาะเกราะเก้าขั้นของเขาลงได้ ใช้กระบี่ฟันทีเดียวทำให้เขากระเจิงไปเลย?
“ ... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
ถังเฉินหัวเราะขึ้นมาอย่างน่าอนาถ ขาของเขาทั้งสองข้างอ่อนลง ทั้งๆ ที่เขากำลังหัวเราะ แต่ก็มีน้ำตาไหลออกมาด้วยความเ็ป
แต่ิอวี่กลับไม่ได้มีความเห็นใจอะไรเลย ปกติถังเฉินดูสูงส่ง รู้สึกว่าตนเองนั้นไม่มีทางแพ้ใคร แต่พอเจอเื่กระทบกระเทือนใจนิดหน่อยก็รู้สึกว่าตนเองน่าสงสารกว่าใคร จิตใจของเขาอ่อนแอจนน่ากลัว
คนแบบนี้สมควรถูกคนดูแคลนแล้ว
“เ้าิอวี่ใช้กระบี่ตัดความเชื่อมั่นทั้งหมดของถังเฉินไปเลย”
ศิษย์ชั้นยอดคนอื่นต่างมองไปยังชายหนุ่มที่ดูเรียบง่ายและถือกระบี่ในมือ ในใจของพวกเขาไม่อาจสงบได้เลย
ั้แ่เมื่อครู่ที่ิอวี่ออกกระบี่ จนถึงทำลายตะปูเหล็กเจาะเกราะขั้นเก้า และสุดท้ายที่เขาทำถังเฉินาเ็ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ใครจะคิดว่าิอวี่ที่ดูธรรมดากลับสามารถฟันกระบี่ที่ดูสง่างามแบบนั้นออกมาได้?
พวกเขามองไปที่เงาของคนคนนั้นอีกครั้ง แล้วสายตาก็เริ่มไม่เหมือนเดิม
ชายหนุ่มที่ถือกระบี่สวมชุดธรรมดา ร่างกายเหยียดตรงราวกับกระบี่เล่มหนึ่งที่ถูกดึงออกจากฝัก และเริ่มแสดงความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา!
ความสามารถของเขาโดดเด่นมากในหมู่ผู้มีความสามารถของสายเลี่ยนเหยียน!
ผู้าุโใหญ่เองก็มองไปที่ิอวี่ด้วยสีหน้าท่าทางที่แตกต่างออกไป
ฟางหลิงจวินตกตะลึงมาก เดิมเขาคิดว่าิอวี่นั้นแค่บังเอิญเอาชนะเยี่ยอิงได้ แต่เมื่อเห็นกระบี่สุดท้ายของิอวี่เมื่อครู่ เขาถึงได้เข้าใจว่าิอวี่นั้นมีความสามารถจริงๆ !
และในเวลานี้ ซ่งหยวนหยวนเองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน สายตาของนางที่มองไปยังิอวี่นั้นมันไม่เหมือนเดิมแล้ว
เมื่อหนึ่งเดือนก่อน นางชี้แนะิอวี่ไปไม่กี่คำเท่านั้น แต่เขากลับสามารถแสดงความหมายที่แท้จริงของ “กระชับรัดกุม” ออกมาได้ พลังการเรียนรู้เข้าใจเข้าถึงของเขา มันเหนือความคาดหมายของซ่งหยวนหยวนมาก!
ตอนนี้นางถึงได้รู้ว่าิอวี่นั้นไม่เพียงมีความเด็ดเดี่ยว แต่ยังมีพร์ในการเรียนรู้ เข้าใจ และเข้าถึงอีกด้วย
เมื่อประมาณสองเดือนก่อน ซ่งหยวนหยวนก็ได้พูดเื่ความหมายที่แท้จริงของ “กระชับรัดกุม” ให้กับเิหยูเยียนเหมือนกัน ภายในหนึ่งเดือนนางก็เหมือนจะมีความก้าวหน้าอยู่บ้าง และิอวี่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเิหยูเหยียนเลย
นั่นก็หมายความว่า หากไม่ไปพิจารณาเื่ของสายเืหรือพร์ในการฝึกฝนมาั้แ่เกิดแล้ว ิอวี่เหมือนจะไล่ตามเิหยูเยียนได้เลย
ซ่งหยวนหยวนเริ่มให้ความสำคัญกับิอวี่มากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวแล้ว
“ก่อนหน้านี้ เหมือนพวกเราจะประเมินเ้าหนูนี่ต่ำไปนะ”
ผู้าุโใหญ่หลายคนมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมไม่น้อยเลย พวกเขาเป็ผู้าุโในศาสตร์วรยุทธ์ มีประสบการณ์สูง แล้วจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่ากระบี่ของิอวี่นั้นมันมีความหมายที่แท้จริงของ “กระชับรัดกุม” ซ่อนอยู่น่ะ?
อายุแค่นี้ก็เริ่มเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของคำว่า “กระชับรัดกุม” ได้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่ถึงระดับสุดยอดแต่ก็ถือว่าชำนาญ ในระดับแบบนี้ มันก็ควรค่ากับที่จะให้เหล่าผู้าุโใหญ่นั้นชื่นชมแล้ว
ผู้าุโหลายต่อหลายคนเริ่มหารือกัน พวกเขาต่างรู้สึกว่าพลังแฝงของิอวี่น่าจะจัดอยู่ในอันดับที่เจ็ดได้เลย
เพราะผู้กล้าที่ติดอันดับก่อนหน้านี้ทั้งหมดส่วนมากเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง มีทักษะการต่อสู้ที่น่ากลัว มีกำลังรบที่มหาศาล และมีจุดเด่นที่วิปริตเฉพาะด้านแตกต่างกันออกไป เช่นมีร่างนักรบ มีสายเื และมีฝีมือเฉพาะทางพิเศษ
แต่ิอวี่สามารถอาศัยการเข้าใจเข้าถึงศาสตร์ของกระบี่อย่างเดียว กลายเป็อันดับที่เจ็ดในใจของทุกคนได้นั้น ถือว่าเป็ข้อสรุปที่ดีมากทีเดียว
“เอาล่ะ ศึกหอคอยเลี่ยนถ่าครั้งนี้จบแล้วนะ ทุกท่าน มีใครยังมีปัญหาอะไรอีกไหม?” ผู้เฒ่าอูถามขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ทุกคนเงียบกันหมด ไม่มีใครพูดค้านขึ้นมาเลย ถังเฉินที่ก่อนหน้านี้ไม่พอใจ ในเวลานี้ก็กลับไปยืนอยู่ด้านหลังของศิษย์ชั้นยอดและก้มหน้าลง เขาไม่มีความคิดที่จะอวดดีอีกแล้ว และยอมรับมันแต่โดยดี
“ถ้าเช่นนั้น ตอนนี้ก็ตามข้ามาเถอะ ไปที่สระเลี่ยนเหยียนกัน”
ท่านผู้เฒ่าอูพูดจบก็ขี่อสูรสัตว์ปีกบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ซ่งหยวนหยวนและฟางหลิงจวินเองก็ขี่อสูรสัตว์ปีกตามท่านผู้เฒ่าอูไป นำทางศิษย์ที่ได้อันดับหนึ่งถึงสิบไปยังสระเลี่ยนเหยียน
พวกิอวี่ขึ้นขี่อสูรสัตว์ปีกของตัวเอง แล้วตามผู้าุโที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามคนหายไปจากหอคอยเลี่ยนถ่า ส่วนผู้าุโใหญ่ที่เหลือกับศิษย์ที่ถูกคัดออกก็แยกย้ายไปเหมือนกัน
ทุกคนไม่ทันได้สังเกตเลยว่า ที่หอคอยเลี่ยนถ่าก่อนหน้านี้ มีหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตางดงามมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และมองแผ่นหลังของิอวี่ที่ไกลออกไปพร้อมกับขมวดคิ้ว
คนคนนั้นก็คือหนึ่งในผู้าุโใหญ่ ซูเยวี่ย
นางเงยหน้าและสูดลมหายใจเข้าเพื่อพยายามสงบใจ แต่ก็ยังมีความคับแค้นใจอยู่เหมือนเดิม!
ซูเยวี่ยรู้มาจากลู่เฟิงว่าิอวี่นั้นมีพร์ นางรู้ดีว่าพลังแฝงของิอวี่ไม่ได้มีแค่เท่าที่เห็นแน่! นางรู้สึกว่าเขาเป็เหมือนปริศนา ร่างกายของเขามีอะไรหลายอย่างที่คุ้มค่าแก่การค้นหามาก มีหลายอย่างที่นางสามารถหลอกใช้งานได้!
ตอนนี้ิอวี่ได้เข้าสระเลี่ยนเหยียน เขาก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น และก็ยิ่งมีอะไรให้นางหลอกใช้งานได้มากขึ้นไปอีก
แต่ว่า เนื้อก้อนใหญ่ก้อนนี้ มันไม่มีวันเป็ของนางได้อีกต่อไปแล้ว
ยิ่งคิดซูเยวี่ยก็ยิ่งสงบใจไม่ลง ความอิจฉาในใจของนางนั้นเพิ่มมากขึ้น!
“อิอิอิอิ ... ”
แสงสีดำแทรกซึมขึ้นมาจากข้อมือซ้ายของซูเยวี่ยโดยที่นางไม่รู้ตัว และส่งเสียงหัวเราะเล็กๆ แปลกๆ ที่มองไม่เห็นออกมา มันไม่ใช่ลมปราณของซูเยวี่ย แต่เป็ความชั่วร้ายแบบสุดขั้ว พลังนั้นดูเหมือน้ากลืนกินทุกสิ่งเข้าไป!
“อาจารย์ ท่านมองอะไรอยู่หรือขอรับ?” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้นมาในหูของซูเยวี่ย
สายตาที่อึมครึมของนางก็กลับมาเป็ปกติอีกครั้ง แสงสีดำที่ชายเสื้อของนางก็หายไป
“ไม่มีอะไร เราไปกันเถอะ”
ซูเยวี่ยหันหลังกลับมา สีหน้าท่าทางเป็ปกติมาก นางยิ้มให้กับศิษย์ของตนเองและพาพวกเขาจากไป
......
ณ ขอบเขตแดนของสายเลี่ยนเหยียน
รอยแยกขนาดใหญ่ที่พื้นดินเปรียบเสมือนผลงานศิลปะของธรรมชาติ หินหนืดสีแดงทองที่เดือดระอุไหลเร็วราวกับแม่น้ำสายใหญ่ แม้ว่าระยะห่างจากพื้นดินและร่องรอยแยกนั้นจะมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร แต่ก็ยังััได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุอย่างมาก
บนพื้นมีบันไดที่สามารถลงไปด้านในได้ และยังมีการร่ายค่ายกลเอาไว้ด้วย เมื่อคลายมนต์ก็จะสามารถเดินลงบันไดไปเพื่อเข้าใกล้หินหนืดที่อยู่ด้านในรอยแยก
เมื่อเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนถึงจุดสิ้นสุด ตรงนั้นจะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลมากกว่าหนึ่งร้อยเมตรจากรอยแยกบนพื้นดิน
ที่นี่เป็พื้นที่บริเวณกว้าง มีรัศมีประมาณหนึ่งร้อยตารางเมตร และภายในพื้นที่ยังมีสระน้ำสีแดงทองซึ่งมีขนาดห้าสิบตารางเมตร กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบริเวณพื้นที่ทั้งหมด
หากมองดูอย่างละเอียดแล้ว นี่มันไม่ใช่สระน้ำ แต่มันเต็มไปด้วยพลังงานธาตุไฟ พลังงานธาตุไฟที่อยู่ในนี้ละเอียดและบริสุทธิ์มาก ดังนั้นถึงได้กลายเป็สารหนืด!
พลังงานธาตุไฟเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ แต่เป็เพราะตรงกลางของสระนั้นมีน้ำพุขนาดเล็กมากหลายแห่ง ซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำหินหนืดสายใหญ่ที่สุดที่อยู่ด้านหลัง
เมื่อหลายปีก่อน พลังงานที่ระเหยขึ้นมาจากแม่น้ำหินหนืดที่ว่าค่อยๆ ดันกำแพงหินออกและกระจายไปยัง้าของชั้นหิน
พลังงานหินหนืดที่ร้อนและบริสุทธิ์กลับมารวมตัวอีกครั้งที่ตรงกลาง และหลังจากผ่านการวิวัฒนาการมาเป็เวลานาน มันก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็พลังงานเปลวเพลิงที่หนาแน่น และทั้งหมดก็มารวมกันอยู่ที่ตรงนี้
และที่นี่ ก็คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคี มีชื่อเรียกกันว่า สระเลี่ยนเหยียน
ในสระเลี่ยนเหยียนมีแก่นสารพลังงานที่หนาแน่นมาก หากดูดซับมันเข้าไป ไม่เพียงสามารถเพิ่มคุณภาพของร่างกาย แต่ยังสามารถกระตุ้นพลังงานแฝงในร่างกายออกมาได้ และทำให้พลังงานเ่าั้ในร่างกายแข็งแกร่งมากขึ้น!
ดังนั้น ศิษย์ชั้นยอดหลายต่อหลายคนที่ได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้ามาแช่พลังงานในสระเลี่ยนเหยียนแห่งนี้
ปกติแล้ว หลังจากที่ศิษย์เข้ามาแช่สระเลี่ยนเหยียนแล้วหนึ่งครั้ง พลังงานที่อยู่ภายในก็จะถูกดูดไปเกินกว่าครึ่ง และก็ต้องรอไปอีกหนึ่งปี แก่นสารพลังงานในสระถึงจะกลับมาเต็มอีกครั้ง ซึ่งจะพอดีกับการรับศิษย์ชั้นยอดกลุ่มใหม่ที่จะเข้ามาแช่พอดี
ในเวลานี้เอง ที่ขอบสระเลี่ยนเหยียนมีคนจำนวนหนึ่งกำลังยืนกันอยู่
ผู้เฒ่าอู ซ่งหยวนหยวน ฟางหลิงจวิน ศิษย์ชั้นยอดสิบคนที่อยู่ด้านหลังรวมถึงิอวี่ ก็ยืนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
ิอวี่มองไปยังแก่นสารพลังงานเปลวเพลิงที่สวยงามด้านหน้า ในใจของเขาตื่นเต้นมาก อีกเดี๋ยวเขาก็จะสามารถลงไปอยู่ในนั้นแล้วเริ่มฝึกสัจธรรมเพลิง และเริ่มสร้างสัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานแล้ว!
“หลังจากนี้ พวกเ้าก็จะได้เข้าไปแช่อยู่ในสระเลี่ยนเหยียนกันแล้วนะ สระเลี่ยนเหยียนมีแค่ที่เดียวตรงนี้ ภายในหนึ่งปีก็จะมีพลังงานเกิดขึ้นเพียงเท่านี้ พวกเ้าจะสามารถดูดซับพลังงานไปได้คนละครั้งเท่านั้น จะ่ชิงพลังงานไปมากแค่ไหนทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวของพวกเ้าเอง”
ผู้เฒ่าอูหันไปมองศิษย์ชั้นยอดทั้งสิบคนแล้วกำชับว่า “ปกติแล้ว ระยะเวลาในการแช่น้ำในสระเลี่ยนเหยียนนั้นอยู่ที่สิบวันจนถึงหนึ่งเดือน หากระหว่างนั้นพวกเ้าทนไม่ไหวจะต้องออกมาทันที เพราะหากฝืนทนต่อไม่เพียงไม่ช่วยพวกเ้าในการฝึก แต่ยังเป็การทำร้ายตัวพวกเ้าเองด้วย เข้าใจหรือเปล่า?”
ทุกคนพยักหน้า แล้วจดจำคำพูดของผู้เฒ่าอูเอาไว้
จากที่ผู้เฒ่าอูพูดมา พลังงานในสระเลี่ยนเหยียนนั้นไม่ได้ถูกแบ่งให้ทุกคนเท่าๆ กัน ดังนั้นพลังงานพวกนี้ สุดท้ายก็อยู่ที่ว่าใครจะชิงไปได้เท่าไร
ทุกคนเริ่มถูไม้ถูมือะโโลดเต้นจนแทบทนไม่ไหว!
“จริงสิ เมื่อครู่ที่ข้าสั่งให้พวกเ้ากลับไปเตรียมเสื้อผ้ามา พวกเ้าไปเอามากันแล้วหรือยัง?” ผู้เฒ่าอูถาม
“เตรียมแล้วขอรับ”
ศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งออกมาตอบ แต่จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “แต่ว่า ท่านผู้เฒ่าอูขอรับ ทำไมท่านถึงต้องให้พวกเรากลับไปเตรียมเสื้อผ้ามาด้วยล่ะ พวกเราก็ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย”
ผู้เฒ่าอูขมวดคิ้วแล้วกระแอมไอเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า “พลังงานในสระเลี่ยนเหยียนมันร้อนมาก มันจะเผาผลาญเสื้อผ้าของพวกเ้าจนไม่เหลือ หากเ้าคิดจะประหยัดค่าเสื้อผ้าแล้วเดินล่อนจ้อนออกไปให้คนอื่นเขาเห็นก็ได้เหมือนกันนะ เ้าทำแบบนั้นได้เลย”
“เอ่อ ... ”
ศิษย์คนนั้นถึงกับหมดคำพูด แล้วทุกคนก็เข้าใจขึ้นมาทันที
จริงด้วย พลังงานในสระเลี่ยนเหยียนมันร้อนมาก เสื้อผ้าจะไปเหลือได้อย่างไร เนื่องจากสระเลี่ยนเหยียนมีแค่ที่เดียว แล้วก็ต้องลงแช่พร้อมกันทั้งสิบคน เพื่อไม่ให้เกิดอาการเขินกันก็จะต้องะโลงไปทั้งเสื้อผ้าเลย เมื่อดูดพลังงานได้แล้ว ตอนขึ้นมาจากสระทุกคนก็ตกลงกันว่าจะหลับตาแล้วค่อยขึ้นมารีบแต่งตัวกันทันที
