Chapter 8
กรีนกลับมาที่บ้านหลังจากที่ไปส่งแร็กดอลล์ตัวน้อยที่บ้านของบลู เขาให้ของขวัญแมวตัวน้อยเป็ปลอกคอสีสวยที่เขาทำไว้นานแล้ว เขาเองก็ใจหายอย่างบอกไม่ถูก มองไปถ้วยข้าวใบเล็กที่เขาคอยเทให้คนตัวเล็กทุก ๆ วันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราวกับคำอธิษฐานวัยเด็กค่อย ๆ เป็จริงทีละเื่
เขาได้ลูบหัวแมว
ได้เทอาหารให้แมว
ได้ให้ขนมแมวเลียโดยที่ไม่ต้องผ่านคนอื่น ถึงแม้จะยังไม่ได้ป้อนมันด้วยตัวเองก็ตาม
เขารู้สึกมีความสุขกับสัปดาห์ที่ผ่านมาจนตอนนี้ความรู้สึกโหวง ๆ ในใจมันเต็มไปหมด แต่เขาก็อึดอัดใจมาตลอด เวลาที่เห็นเ้าตัวเล็กต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ รู้สึกแย่ที่เห็นอีกคนโดนทำร้าย ถึงจะอยากเก็บไว้ดูแลมากแค่ไหน แต่ที่นี่อันตรายขนาดนี้แร็กดอลล์ตัวน้อยจะอยู่ได้ยังไงกัน
หลายวันถัดมา
ร้านเครื่องหอม Your Cart
"พี่กรีน เกรซลองเอาไฟล์ล่าสุดที่ให้พี่กรีนช่วยดูส่งผลิตแล้วนะคะ"
"เป็ไงบ้าง?" เกรซยื่นผลงานให้กรีนด้วยความภูมิใจ
"สวยกว่าที่พี่คิดนะเนี่ย" ทั้งคู่ยืนพอใจกับผลงานตัวเอง เทียนหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด Coming back HOME ที่กรีนเพิ่งคิดที่จะผลิตออกมาเป็รูปเป็ร่างเร็วกว่าที่วางแผนไว้ เพราะแร็กดอลล์ตัวน้อยตัวนั้นแท้ ๆ ที่ทำให้เกิดความคิดที่จะทำกลิ่นนี้ออกมา เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศในบ้านที่เปลี่ยนไป เพราะมีอีกคนมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ นึกถึงทีไรเขาก็ยิ้มกว้างออกมาทุกที
ในแต่ละวันของกรีนผ่านไปเรื่อย ๆ ก่อนหน้าจะเจอเ้าเหมียวเขาก็คิดว่าชีวิตแบบนี้มันปกติ แต่พอมีใครสักคนมารอเขากลับบ้าน แม้จะเป็่เวลาสั้น ๆ มันก็ทำให้กรีนเองโหยหามันอย่างบอกไม่ถูก ใน 2 วันแรกที่ส่งแมวตัวน้อยไปอยู่กับพี่ชาย ก่อนออกมาที่ร้านเขายังเผลอเทข้าวใส่ถ้วยให้ตลอด
เขาไม่ได้สัญญากับคนตัวเล็กไว้ว่าถ้าถึงวันหนึ่งที่เขาสามารถเลี้ยงแมวได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัดอะไร เขาจะไปรับอีกคนมา ในใจของเขาคิดไว้ั้แ่ที่เจอแล้ว ว่าอยากจะเลี้ยงแมวตัวนี้ แล้วยิ่งในจังหวะที่อีกคนขอให้เขาเลี้ยง เขารู้สึกเหมือนกับว่าใจของตัวเองโดนขังไว้ไม่ให้ไปเลี้ยงแมวตัวอื่นด้วยคำอ้อนน่ารัก ๆ เ่าั้ แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าวันไหนที่เ้าแมวตัวน้อยจะได้กลับไปอยู่กับเ้าของจริง ๆ หรือถ้าหากหลุดพ้นจากตรงนั้นออกมาได้ เขาอาจจะไปเจอเ้านายใหม่ที่เขารู้สึกอยากอยู่ด้วยมากกว่า เขาไม่อยากให้อีกคนผูกติดอยู่กับเขา เลยได้แต่ทำใจปฏิเสธไป
สิ่งที่แมวน้อยสัญญาไว้คือเขาจะไม่ลืมกรีน แน่นอนว่ากรีนเองก็คงจะลืมเขาไม่ลงเช่นกัน เพราะความทรงจำแรกกับการเลี้ยงแมว ได้ไปอยู่ที่เขาทั้งหมดแล้ว ถึงเขาจะไปเจอแมวอีกกี่ร้อยกี่พันตัว ความทรงจำแรกของเค้ากับแมวก็ยังคงอยู่ที่แร็กดอลล์ตัวน้อยตัวนี้เสมอ
ไม่ต้องห่วงหรอกเด็กดื้อ
พี่กรีนก็คงจะไม่ลืมเธอเหมือนกัน
บ้านหรือร้านของกรีนไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านของบลูมากขนาดที่ว่าไปหาไม่ได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่ไปหาเอง ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ต่างอะไรจากตอนที่อยู่ด้วยกัน กรีนแค่อยากให้เราทั้งคู่กลายเป็สิ่งดี ๆ ที่ผ่านมาเจอกัน มันไม่ใช่การลาขาด แต่เป็เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เขาอยากให้อีกคนได้ตัดสินใจในการใช้ชีวิตด้วยตัวเองอีกสักหน่อย เพราะความคิดของคนเราผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงก็อาจจะเปลี่ยนได้ แต่นี่ชีวิตทั้งชีวิต เขาเองก็ไม่อยากให้อีกคนตัดสินใจอะไรเพียงชั่วข้ามคืน ในตอนนี้เขาขอเป็ห่วงในระยะไกลก็พอ
หวังว่ามันคงจะดีกับเธอนะ
วันถัดมา
วันนี้เป็วันหยุดของร้านกรีน เขาจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอก ใช้รถไฟฟ้าในการโดยสารเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา กรีนออกมาโดยไม่มีเป้าหมายว่าจะไปไหน เขาเพียงแค่อยากออกมาหาบรรยากาศใหม่ ๆ เผื่อจะได้อะไรเป็ไอเดียในการทำงาน
รู้สึกอยากขยันขึ้นมาอีกเท่าตัว อยากเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่ในแต่ละวันเขายังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เขาไม่อยากจะเอาอนาคตมากดดันปัจจุบันว่าต้องมีวินัยขนาดนั้น ขนาดที่ตัวเขาในปัจจุบันรู้สึกไม่มีความสุข
แต่ตอนนี้เป้าหมายที่เขาเคยตั้งไว้ แต่ยังไม่เคยกำหนดเวลาให้กับมัน คือการทำภูมิคุ้มกันบำบัด มันชัดเจนขึ้นมาในหัวเขา เขาอยากจะรีบทำ เพราะถึงเริ่มมันอาจจะต้องใช้เวลาเป็ปี เพราะฉะนั้นตอนนี้เขากำหนดเวลาให้ตัวเองขึ้นมาแล้วว่าจะเริ่มทำมันภายในสิ้นปี หลังจากนั้นอีก 1-2 ปี ก็จะมีเ้าขนปุยสักตัวเข้ามาวิ่งเล่นอยู่ในบ้านของเขา
ส่วนเ้าตัวเล็ก กรีนคิดไว้ในหัวอยู่แล้วว่าในสักวันถ้าไม่ทำอะไรเลย ยังไงเ้าแมวตัวน้อยก็ต้องกลับไปอยู่กับเ้าของเดิม เขาก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการกับปัญหานี้ยังไง เ้าของเดิมของแมวน้อยก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะตามหาเขาแต่อย่างใด เป็ถึงคนมีชื่อ มีหน้ามีตาในสังคม ถ้าเขาคิดจะตามหา ก็คงจะเจอไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เขาขอแค่เ้าตัวขาวขนปุยได้วิ่งเล่นตามใจตัวเอง ได้กินอาหารอร่อย ๆ มีคนป้อนขนมในทุกวัน ได้นอนหลับเต็มอิ่มทุกคืน ขอให้เขาได้มีความสุขอยู่ใน่เวลาหนึ่งไปก่อน เขาหวังแค่นั้น
สุดท้าย บ่ายของวันนี้กรีนก็มาหยุดอยู่ที่คาเฟ่แมว คาเฟ่แมวในเมือง No Land จะมีหลายแบบมาก ๆ ทั้งคาเฟ่แมวปกติ คาเฟ่แมวที่ให้เ้าของแต่ละคนเอาแมวมาทำกิจกรรมร่วมกัน คาเฟ่แมวสำหรับครึ่งทาง แม้กระทั่งคาเฟ่แมวที่รองรับคนที่มีอาการแพ้ขนสัตว์
คาเฟ่นี้เป็คาเฟ่ระบบปิด จะเปิดเป็่เวลาในแต่ละวัน เว้นให้เ้าของคาเฟ่ได้ทำความสะอาดอยู่ตลอด ข้างในมีระบบกรองอากาศเป็อย่างดี แล้วจะถูกกั้นโซนด้วยกระจกใสสำหรับมนุษย์และแมว ถึงจะไม่มีโอกาสได้ัั แต่ก็คงจะเป็สถานที่ที่ทำให้คนที่แพ้ขนสัตว์ได้ใกล้ชิดแมวและมองเห็นมันใกล้มากที่สุด
กรีนมาที่นี่ไม่บ่อย เพราะมันทำให้เขารู้สึกเกิดกิเลสมากกว่าเดิม เพราะเขาได้อยู่ใกล้มันมาก ๆ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย แต่วันนี้ที่ตัดสินใจมา ก็เพราะอยากเห็นมันใกล้ ๆ นั่นแหละ ไม่ได้มีเหตุผลอื่น
่เวลาในคาเฟ่ของกรีนก็ไม่มีอะไรพิเศษ แต่เขาได้เห็นพฤติกรรมน่ารัก ๆ ใกล้ ๆ ก็ทำให้ยิ้มออกมาได้ตลอดเวลาที่อยู่ในนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไปจากเดิม คือพอเวลาเขารู้สึกเอ็นดูหรืออยากจะลูบหัวแมวตัวไหน ภาพของเ้าสีขาวขนปุยตัวน้อยจะปรากฏขึ้นมาในหัวทันที เสียงร้องและเสียงบ่นตามมาให้จินตนาการด้วยเช่นกัน
'ไม่มีแมวตัวอื่นนะว่าที่เ้านาย'
'เราหวง'
อะไรพวกนี้กรีนไม่สามารถเอาออกไปจากหัวได้เลย มันไม่ได้ทำให้เขาอึดอัด แต่มันทำให้เขาคิดถึง คิดถึงเสียงเจื้อยแจ้วที่คอยบ่นไม่หยุด คิดถึงคางมนที่เขาได้เกาได้ลูบ พอมีอะไรแบบนี้โผล่เข้ามาในหัวทีไร ก็ยิ้มออกมาตลอด
ที่บอกว่ามันเป็ความทรงจำดี ๆ
มันก็เป็แบบนั้นจริง ๆ
กรีนอยู่ที่คาเฟ่แมวจนร้านถึงเวลาปิดใน่นั้น เขานั่งมองพวกมันในขณะที่คิดถึงอีกคนไปด้วย แต่พอหมดเวลาก็ต้องบอกลาเ้าเหมียวทั้งหลายในคาเฟ่แล้วก็กลับบ้าน
"เห้อ คิดถึงว่ะ" พอถึงบ้านกรีนก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา พอมองไปที่ตำแหน่งข้างตัวก็นึกถึงอีกคนขึ้นมา
ยิ่งไปเจอแมวมาเขาก็ยิ่งคิดถึง
สุดท้ายกรีนก็ตัดสินใจโทรหาบลู เพื่อถามความเป็ไปของอีกคน
"พี่บลู"
[ว่าไง โทรมาหาตัวเล็กเหรอ?]
"ก็ด้วย เป็ไงบ้าง?"
[ตอนนี้หลับอยู่ อยากคุยไหม?]
"ไม่ต้อง ๆ ๆ ให้นอนไป กรีนอยากรู้เฉย ๆ ว่าสบายดีไหม?"
[เรียกว่าสบายได้ไหมล่ะ? ก็เอ็นจอยกับการกินดีนะ แต่บ่นคิดถึงกรีนทุกวัน]
กรีนนิ่งไปหลังจากที่ได้ยิน
"เปิดกล้องหน่อยดิพี่"
[แปป] บลูกดเปิดวิดีโอในสาย แล้วก็แพลนกล้องไปที่เ้าเหมียวตัวน้อยที่กำลังนอนอยู่บนเบาะ กรีนยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ยิ้มให้กับความน่ารักที่ได้เห็นผ่านหน้าจอโทรศัพท์ อีกอย่าง เบาะที่เ้าตัวเล็กกำลังนอนอยู่ก็คือเบาะที่เขาซื้อให้ตอนไปส่งที่บ้านบลู
"สบายเลยสิท่า"
[สบายเลยแหละ ตอนแรกนอนหงายพุงกางเลย โคตรน่ารัก]
"ได้อาบน้ำแล้วใช่ไหมพี่บลู? ตัวขาวเชียว"
[อาบแล้ว แมวแกดูชอบน้ำมากเลยว่ะ ตอนพาเข้าไปอาบนั่งในอ่างไม่ยอมลุกเลย]
"ดีแล้ว จะได้สะอาด ๆ" ถึงจะแปลก ๆ แต่กรีนก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่บลูบอกว่าเ้าสีขาวขนปุยนั่นเป็แมวเขา
[อยากคุยไหม? ปลุกให้]
"ไม่เป็ไรพี่บลู"
[ไม่น่าจะมีแค่แกที่อยากเห็นเขานะ เขาก็อาจจะอยากเห็นแกด้วยเหมือนกัน] กรีนชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะตอบออกไป
"ไม่เอาหรอกครับ เดี๋ยวงอแงอีก"
[จริง ๆ เลย] บลูส่ายหัวให้กับความใจแข็งของน้องชาย
"เลี้ยงยากหรือเปล่าพี่บลู?"
[ไม่ยากเลย เป็เด็กดีมาก ๆ เลยนะแมวตัวนี้]
"รบกวนพี่หน่อยนะ"
[รบกวนอะไรกันวะ]
[แล้วนี่คิดไว้ไหมว่าจะเอายังไงต่อ? รู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด ไม่ใช่แค่ผิดธรรมดา แต่มันผิดกฎเมืองเลยนะกรีน]
"รู้พี่บลู แต่ถ้าเขาไม่อยากกลับแปลว่ามันคงแย่จริง ๆ กรีนไม่อยากจะไปบังคับเขาให้คิดในแง่ดี"
[พี่เข้าใจ อีกสักพักค่อยว่ากัน อยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว จะได้อยู่ในบ้านดี ๆ]
"เข้ากับพี่ดีน่าได้ดีใช่ไหมครับ?"
[ดีมากจนคาดไม่ถึงเลยแหละ ปกติดีน่าจะไม่ค่อยเข้าหาแมวตัวอื่นนะ แต่ตอนแกจะพามาถึงกับเลื่อนที่นอนตัวเองออกเหลือที่ไว้ให้น้องเลย ตอนนี้คงซี้กันไปแล้ว]
"ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น"
[กรีน]
"ครับ?"
[ภูมิคุ้มกันบำบัดอะ เริ่มเลยก็ได้ พี่ออกค่าใช้จ่ายให้]
"ไม่เอาพี่บลู ไม่เอาเด็ดขาด] กรีนปฏิเสธเสียงแข็ง
[ดื้อั้แ่เด็กจนโตจริง ๆ]
"เราโตกันหมดแล้วนะ พี่ไม่ต้องมาคอยรับผิดชอบอะไรกรีนแล้ว เอาเงินไปทำอะไรที่พี่ชอบเถอะ"
[พี่ไม่ได้อยากให้เพราะความรับผิดชอบอะไรเลยกรีน อยากให้เพราะอยากให้ อยากให้เพราะนั่นก็เป็สิ่งที่ทำให้พี่มีความสุข ได้เห็นแกเลี้ยงแมวได้จริง ๆ แบบที่แกอธิษฐานในวันเกิดทุก ๆ ปี แค่นั้นเอง] กรีนไม่ได้ตอบอะไรออกมา
[เอาเป็ว่าพี่อยากให้จริง ๆ แต่กรีนจะรับไว้ไหมพี่ไม่บังคับนะ]
"ขอบคุณครับพี่บลู"
[เมี๊ยว~ ]
[ตัวเล็กตื่นว่ะ] บลูกระซิบกับไมค์ของโทรศัพท์เบา ๆ
"แค่นี้ก่อนก็ได้ครับ"
[จะไม่คุยกับน้องจริงดิ]
"ผมฝากบอกด้วยแล้วกันว่าคิดถึง"
[โอเค ๆ แค่นี้แหละ]
หลังจากวางสายบลูก็เดินไปอุ้มแมวขนปุยมาไว้ที่อกทันที
"ไง ตื่นซะเย็นเลย หิวไหมครับ?" เ้าแมวน้อยตาแป๋วไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแค่มองซ้ายทีขวาที
'เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงพี่กรีนเลยนี่นา'
"มองอะไรครับ? หาพี่ดีน่าเหรอ?"
"เมี๊ยว~"
'หาพี่ดีน่าก็ได้'
"โอเคครับ เดี๋ยวพาไปหาพี่ดีน่าน้า" ว่าจบบลูก็พาแมวน้อยบนอกไปหาพี่คนสนิททันที
เ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ เขาได้รับความรักอย่างดี ทั้งจากมนุษย์อย่างบลู และคนที่ครึ่งทางเหมือนกันอย่างดีน่า คนรักของบลู เขาถูกตามใจในทุก ๆ อย่างแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ได้นอนที่นอนนุ่ม ๆ ในห้องที่เย็นสบาย เขารู้สึกขอบคุณทั้งบลูและดีน่าที่คอยดูแลเขา
บลูกับกรีนในสายตาของเขาแทบจะไม่แตกต่างกันเลย เพียงแต่บลูตามใจมากกว่า แค่นั้นเอง บลูจะแพ้ถ้าโดนอ้อน ใจแข็งแค่ไหนก็ต้องยอม สิ่งนี้ดีน่าสอนเขามา ส่วนกรีนจะใจแข็งกว่า ถ้าเขาตัดสินใจแล้วว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เขาจะปฏิเสธโดยบอกเหตุผลก่อนทุกครั้ง
หลังจากที่ไปนอนอ้อนดีน่าเสร็จ เ้าแมวน้อยก็กลับออกมากินข้าวที่บลูเติมไว้ เขายังคาใจไม่หายกับการที่ได้ยินเสียงกรีนก่อนที่จะตื่น
'ไม่ได้แล้ว ต้องไปถามให้รู้เื่'
ปล่อยให้คาใจต่อไปไม่ไหว แร็กดอลล์ตัดสินใจกลายร่างเพื่อไปถามบลูให้รู้เื่
"พี่บลู"
"ครับ? อยากได้อะไร?"
"เรามีเื่จะถาม"
"ถามว่า?" บลูที่นั่งจ้องคอมพิวเตอร์อยู่หันมาสนใจเ้าแมวตัวน้อย
"เมื่อกี้ เราได้ยินเสียงพี่กรีน พี่กรีนมาเหรอ?"
"กรีนไม่ได้มาครับ"
"อ้าว แต่ได้ยินจริง ๆ นี่" คนตัวเล็กเอียงหัวด้วยความสงสัย
"กรีนแค่โทรมาครับ ตอนเราหลับ"
"เอ้า! ทำไมพี่บลูไม่ปลุก"
"กรีนบอกว่าอยากให้พักผ่อน ไม่ให้พี่ปลุก"
"แต่เราอยากคุยนี่" เสียงงอแงมาพร้อมกับหน้างอ ๆ
"โอ๋ ๆ ไว้คราวหน้านะ"
"ก็ได้ แล้ว ๆ ๆ ได้บอกพี่กรีนไหมว่าเราคิดถึงเยอะ ๆ"
"บอกแล้วครับ"
"พี่กรีนตอบว่า?" แร็กดอลล์ตัวน้อยตั้งหน้าตั้งตาถามด้วยความหวัง
"พี่กรีนบอกว่าคิดถึงเราเหมือนกัน" คนถามยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ได้ยินคำตอบ
"แล้วพี่กรีนจะมาหาหรือเปล่า?"
"ยังไม่ใช่่นี้ครับ กรีนงานยุ่งมาก มีอะไรให้จัดการหลายอย่างเลยครับ"
"เราต้องไปช่วยซะแล้ว"
"หยุดเลย อยากให้กรีนดุเหรอครับ?"
"ไม่ดุเท่าไหร่หรอกน่า ถึงจะดุแต่เดี๋ยวก็จะโอ๋ ๆ"
"เ้าเล่ห์จริง ๆ"
คุยยังไม่ทันจบดีเ้าแมวน้อยก็หนีขึ้นมาบนห้อง เตรียมหอบกระเป๋าใบโตไปหากรีน
"เอ้า ไปแบบแมว ๆ จะแบกกระเป๋ายังไงเนี่ย" คนที่วุ่นวายอยู่กับกระเป๋าทะเลาะกับตัวเองอยู่พักใหญ่
"ต้องเอาใบเล็ก ๆ ไป!" แร็กดอลล์ตัวน้อยหยิบกระเป๋าใบจิ๋วสำหรับให้แมวสะพายมาแทนที่
"ขนมแมวเลีย 1 ซอง 2 ซอง เต็ม! ใส่ไม่ได้แล้วอ่ะ!" เขาเอียงคอหดด้วยความเสียดายที่ใส่ขนมแมวไปในกระเป๋าได้แค่ 2 ซอง
หลังจากทะเลาะกับตัวเสร็จสิ้น กระเป๋าสำหรับสะพายไปหากรีนพรุ่งนี้ก็พร้อมแล้ว เขานัดแนะกับดีน่าให้ติดกระเป๋าเข้ากับตัวเขาตอนที่เข้ากลายเป็แมวแล้วในวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นก็มาจำทางไปร้านของกรีน
"พี่ดีน่า ตรงแยกที่มีรูปปั้น เป็รูปปั้นอะไรนะ"
"รูปแมวไง รูปพวกเรา ๆ แบบเยอะมาก ๆ" ดีน่าทวนให้กับเ้าตัวเล็ก
"อ๋อ ๆ พอเจอแล้วก็เลี้ยวซ้ายได้เลย"
"เลี้ยวขวา! ฮือ ตัวเล็ก จะรอดไหมเนี่ย? พี่ไม่ปล่อยให้ไปแล้วได้ไหม?"
"ไม่ได้น้า เค้าต้องไปช่วยงานพี่กรีน พี่กรีนงานเยอะ ๆ เลย" พอเจอน้ำเสียงอ้อน ๆ ของแมวเด็กไป ดีน่าก็ห้ามไม่ไหว
"ไปก็ไป"
"พี่ดีน่าไปด้วยกันไม่ได้เหรอ?"
"พี่ต้องบอกบลูก่อนถ้าจะไป"
"ถ้าบอกต้องไม่ได้ไปแน่ ๆ เลย"
"ใช่น่ะซี่ ตอนกลางวันบลูโทรมาหาตลอดเลย"
"งั้น ๆ เราไปคนเดียวก็ได้"
"แต่สัญญากับพี่ดีน่านะ ถ้าลืมทางต้องเดินกลับมาทันที ห้ามเดาแล้วไปต่อเด็ดขาด ถ้าหลงไปมันอันตราย"
"เค้าสัญญากับพี่ดีน่า!"
"เหมียวทำอะไรกันครับ? ทำไมยังไม่นอน?" บลูที่เห็นไฟห้องของทั้งคู่เปิดอยู่เดินเข้ามาถาม
"ไม่ได้มีอะไรหรอก คุยกันตามประสาแมว มนุษย์ห้ามยุ่ง" ดีน่าพับแผนที่ที่เขียนให้แร็กดอลล์ตัวน้อยเก็บอย่างรวดเร็วแล้วแก้ต่างไป
"อย่าให้รู้ว่าจะเล่นอะไรซน ๆ กันนะ"
"ไม่มี ๆ บลูไปนอนเลย พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า"
"เรา 2 คนด้วย นอนกันได้แล้ว"
"เดี๋ยวคุยอะไรกันอีกหน่อย น้องเพิ่งตื่นไง ยังไม่ง่วงหรอก เนอะ ๆ"
"ถูกต้อง!" เ้าแมวตัวน้อยตอบกลับไปเสียงดัง
"เข้าขากันดีเหลือเกิน"
คุยกันจบบลูก็กลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง ส่วนเ้าเหมียวทั้งสองก็ยังคงนัดแนะกันอยู่สักพักก่อนดีน่าจะบอกให้คนน้องไปนอนเอาแรงเพราะวันพรุ่งนี้จะต้องใช้แรงอีกเยอะ
"นอนหลับสนิท ๆ น้าตัวเล็ก"
"พี่ดีน่าด้วย หลับ ๆ กัน"
แล้วทั้งคู่ก็นอนหลับไปในคืนนั้น
เช้าวันถัดมา
"พี่ดีน่า ๆ ๆ พี่บลูขับรถออกไปแล้ว"
"ไหนทวนทางไปร้านกรีนให้พี่ดีน่าฟังอีกรอบ"
"ออกจากหมู่บ้านไปให้เลี้ยวซ้าย ไปเรื่อย ๆ จนเจอแยกที่มีตึกยาว ๆ สีขาว ถ้าเจอแล้วก็ให้เดินไปตามตึก พอสุดตึกจะเจอซอยเล็ก ๆ ทางซ้าย ให้เดินไปในซอยจนออกไปอีกทาง จะเจอรูปปั้นแมว พอเจอรูปปั้นแมวให้เลี้ยวซ้าย"
"ฮือ ตัวเล็ก เลี้ยวขวาน้า" ดีน่าทำหน้างอหลังจากที่ได้ยินอีกคนพูดผิด
"โอเค ๆ ๆ เลี้ยวขวา พอเลี้ยวขวาปุ๊บ เดินไปอีกติ๊ดนึงก็จะเจอร้านพี่กรีนอยู่ตรงข้ามทันที! ข้ามถนนได้เลย"
"เก่งมาก แต่ต้องจำดี ๆ นะ เลี้ยวขวา ๆ ๆ ๆ"
"โอเค! เลี้ยวขวา ๆ ๆ"
"พร้อมไหม!?"
"พร้อม!"
"งั้นเป็แมวเลย พี่ดีน่าจะติดกระเป๋าให้" ว่าจบเ้าตัวเล็กก็กลายร่างเป็แมวทันที ดีน่าทำการติดกระเป๋าให้เ้าตัวเล็กและลูบหัวไปหนึ่งที
"เรียบร้อยแล้ว เอาล่ะ ออกเดินทางได้"
แมวน้อยสีขาวขนปุยสะพายกระเป๋าจิ๋วออกจากบ้านของบลู เดินไปตามทางเขาได้ท่องจำมาอย่างดี
'ออกจากหมู่บ้านเลี้ยวซ้าย โอเค! เหมียวเลี้ยวซ้าย'
'เลี้ยวแล้วมาเรื่อย ๆ เจอตึกสีขาวยาว ๆ ถูกต้อง!"
'แล้วก็เดินมาตามตึก'
'โห ตึกยาวมาก! ต้องไปจดสุดเลยใช่ไหมเนี่ย?' พอเห็นระยะความยาวของตึกตามที่ดีน่าบอก เ้าเหมียวน้อยก็บ่นในใจขึ้นมา
'ไม่เป็ไรนะพี่กรีน เราสู้ เดี๋ยวเราไปหาน้า' หลังจากสลัดความท้อออกไป เ้าเหมียวก็เดินไปตามแนวตึกสีขาวเรื่อย ๆ มีหยุดบ้างบางจังหวะเพราะเขาเหนื่อยง่าย
'สุดตึกแล้ว! พอสุดก็จะเจอซอยเล็ก ๆ ทางซ้ายมือ โอเค! เหมียวเห็นซอยเล็ก ๆ ที่ซ้ายมือ ต้องเดินเข้าไปแล้วก็ออกอีกทาง' ตามความคิดของตัวเอง เ้าแมวน้อยเดินเข้าไปในซอยเล็ก ๆ ระยะทางไปจะทะลุไปออกอีกทางก็ไกลจนมองไม่เห็นปากทาง
'มีทางออกจริงไหมเนี่ย ทำไมมันไกลแบบนี้'
ความเหนื่อยอาจจะมีไม่เท่าความคิดถึง เ้าเหมียวจึงเดินต่อไปไม่หยุด ในหัวก็บ่นอยู่ตลอดเวลา แต่อุ้งเท้าสี่ข้างก็ไม่หยุดสลับกันก้าว
'ในที่สุดเหมียวก็เห็นปากทางแล้ว!'
ภารกิจของเขาใกล้จะเสร็จสิ้น เหลือเพียงแค่เจอรูปปั้นแมวที่เป็สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นก็เลี้ยงขวาไปไม่ไกลก็จะเจอกับร้านของกรีนแล้ว
'เจอรูปปั้นแมวแล้ว!'
'จากนั้นเหมียวต้องเลี้ยว.... ต้องเลี้ยวไปทาง....' แร็กดอลล์ตัวน้อยถึงกับหยุดชะงักเมื่อลืมสิ่งที่พี่ดีน่าของเขาย้ำมาตลอดคืน
'แมวซวยแล้ว! ลืมได้ยังไง ๆ ๆ' เขาลุกลี้ลุกลนกับเหตุการณ์ ณ ตอนนนั้นมาก ๆ
'ต้องตัดสินใจไปสักทางสินะ'
'งั้น เหมียวขอเลือกทาง....'
'ทาง ๆ ๆ ๆ ๆ'
'ทางซ้าย! โอเค ทางซ้าย ลุย!'
และสุดท้ายเ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยก็เลือกที่จะเดินไปทางซ้าย แทนที่จะเป็ทางขวาของรูปปั้นแมวตามที่ดีน่าได้บอกย้ำ ๆ มา