เสียงหัวเราะและเสียงการเย้ยหยันดังขึ้นทั่วลานกว้าง เหล่าศิษย์อัจฉริยะร่วมพันคนของแดนต้าโหมวเทียนผู้เย่อหยิ่งต่างมองไปยังชายหนุ่มชุดสีเทาที่ยืนอยู่ชายหนุ่มชุดสีขาวที่ยืนอยู่รอบนอก เผยให้เห็นสีหน้าและรอยยิ้มอันเย้ยหยันขึ้นมาอย่างชัดเจน
ขั้นกุมารทิพย์ระดับกลางสามารถเข้าใกล้แผ่นผนึกว่านเซี่ยงได้ในระยะสองจ้าง?
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าอยู่เพียงขั้นกุมารทิพย์ระดับกลางเลย แม้จะเป็บรรดาผู้แข็งแกร่งทั้งหมดทั่วทั้งแดนต้าโหมวเทียน ก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าใกล้แผ่นผนึกว่านเซี่ยงในระยะสองจ้างได้ หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า อย่าว่าแต่ศิษย์ของผู้เฒ่าร้องไห้เลย แม้จะเป็ผู้เฒ่าร้องไห้เองก็ไม่มีทางเข้าใกล้แผ่นผนึกว่านเซี่ยงในระยะสองจ้างได้
และในตอนนี้ เมื่อมีคนบอกว่าหลี่โหย่วฉายสามารถเข้าใกล้แผ่นผนึกว่านเซี่ยงในระยะสองจ้างได้ จะไม่ให้ทุกคนหัวเราะได้อย่างไร? อาจพูดได้ว่า นอกจากพวกฉวีหย่งเซิงทั้งสามคนแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดเชื่อเลย
รวมทั้งฉวีหย่งเซิง โหมวจิ่นซิ่ว และหยางเต้า
ในจำนวนนั้น ริมฝีปากของเหลยจั๋วเยว่ยกขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เขามองตรงไปทางฉินอวี่ ต้องบอกเลยว่า ทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้น เหลยจั๋วเยว่ก็ขนลุกไปทั้งตัว และในตอนนั้นความกลัวก็ปรากฏขึ้นราวกับคลื่นน้ำที่ห้อมล้อมรอบเขาในทันที แต่เมื่อเขากลับมารู้สึกตัวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เขาก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก และเดาว่าหลี่โหย่วฉายกำลังเล่นละครที่กำกับด้วยตนเอง เพื่อข่มขู่คนอื่นให้ล้มเลิกการเดิมพัน
ดูเหมือนว่าจะเป็เพราะความใ ทำให้ใจของเหลยจั๋วเยว่เริ่มเสียเล็กน้อย ตนเองดูเหมือนจะใจร้อนเกินไป แม้ว่าจะมีโอกาสไม่มากที่หลี่โหย่วฉายจะผ่านการทดสอบสามสิบหกขุนพล์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำไม่ได้ หากเขาได้เป็สามสิบหกขุนพล์ได้ แล้วถึงตอนนั้นตนเองจะเอาอาวุธเซียนมาจากที่ไหน?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหลยจั๋วเยว่ก็แสร้งทำเป็สงบ หรี่ตาลงมองไปทางชายหนุ่มชุดสีเทา จากนั้นจึงหันกลับมามองฉินอวี่และพูดอย่างเรียบเฉย “หลี่โหย่วฉาย การเดิมพันครั้งนี้ หากเ้าไม่้าเดิมพัน ก็ไม่ต้องเดิมพันแล้ว เหตุใดต้องหาคนมาพูดจาน่าขำต่อหน้าทุกคนด้วย?”
หากเป็ไปตามคาดไว้ หลี่โหย่วฉายจะต้องเลือกที่จะยอมทิ้งการเดิมพัน แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของเหลยจั๋วเยว่ต้องเต้นแรงก็คือ หลี่โหย่วฉายหยิบไม้ไผ่เดิมพันบนโต๊ะขึ้นมาอย่างใจเย็น และคำพูดหลังจากนั้น ก็ยิ่งทำให้เหลยจั๋วเยว่ถึงกับเปลือกตากระตุก และมีความคิดอยากจะชิงไม้ไผ่เดิมพันมาจากมือของฉินอวี่
“สหายโหมว ไม้ไผ่เดิมพันของสหายเหลยชิ้นนี้ ขอเ้าเก็บไว้ให้ดี นี่เป็อาวุธเซียนชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว”
เหลยจั๋วเยว่สูดลมหายใจเข้าลึก เหลือบมองชายหนุ่มชุดสีเทาด้วยหางตา ในใจรู้สึกใอย่างมาก จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างเฉยเมย “หลี่โหย่วฉาย เ้าคิดจะเดิมพันจริงหรือ?”
ใบหน้าของฉินอวี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหลือบมองเหลยจั๋วเยว่อย่างสบายๆ และพูดขึ้น “เดิมพันสิ ทำไมจะไม่เดิมพันเล่า? หรือเ้ากลัวว่าอาจารย์ของข้าจะไม่มีอาวุธเซียนให้เ้า?” ฉินอวี่พูดจบก็นำไม้ไผ่เดิมพันชิ้นหนึ่งเก็บใส่ในวงแหวนมิติ และยื่นอีกชิ้นหนึ่งให้โหมวจิ่นซิ่ว พลางพูดเตือนขึ้นอีกครั้ง “สหายโหมว ข้าหวังว่าเ้าจะเก็บรักษาไม้ไผ่เดิมพันนี้เอาไว้ให้ดี!”
โหมวจิ่นซิ่วยืนมองฉินอวี่อย่างงุนงง และพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
หากพูดกันตามตรง โหมวจิ่นซิ่วและเหลยจั๋วเยว่ต่างคิดเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ ทุกประการ คิดว่าฉินอวี่กำลังเสแสร้งแกล้งทำ แต่ในตอนนี้... มันทำให้โหมวจิ่นซิ่วคาดเดาไม่ถูก หากหลี่โหยวฉายแสร้งทำทุกอย่างจริงๆ เช่นนั้นก็ต้องดูออกว่าหลี่โหย่วฉายได้หาทางลงให้เขาแล้ว แต่ตอนนี้...
หรือว่า... โหมวจิ่นซิ่วตกตะลึง และอดไม่ได้ที่จะหันมองไปทางชายหนุ่มชุดสีเทา ในใจก็ปั่นป่วนราวกับเผชิญพายุรุนแรง
เป็ไปได้หรือไม่ว่า หลี่โหย่วฉายจะเข้าใกล้แผ่นผนึกว่านเซี่ยงในระยะสองจ้างได้จริง?
เป็ไปได้อย่างไร?
ไม่มีทางเป็ไปได้!
แม้ว่าเหลยจั๋วเยว่ยังคงทำตัวสงบนิ่ง แต่ใบหน้าของเขากลับดูแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด เมื่อจ้องมองไม้ไผ่เดิมพันในมือของโหมวจิ่นซิ่ว เหลยจั๋วเยว่รู้สึกขนลุกซ่านไปทั้งตัว รูม่านตาของเขาหดเล็กรวมเป็รูเข็มจ้องไปยังชายหนุ่มชุดเทา ในใจของเขาก็เริ่มสั่นสะท้านจนไม่อาจสงบอยู่ได้อีกต่อไป เขาจ้องมองชายหนุ่มชุดเทา แม้คิดจะถามออกไปแต่ก็ต้องระงับเอาไว้ก่อน
ฉินอวี่ค่อยๆ ทำการจัดเก็บไม้ไผ่เดิมพัน และเดินเข้ามาช้าๆ มองและพูดกับโหมวจิ่นซิ่วอย่างเรียบเฉย “สหายโหมว ข้าต้องขอตัวก่อนแล้ว สิ่งของวางเดิมพันเ่าั้ รวมถึงไม้ไผ่เดิมพัน หวังว่าเ้าจะเก็บไว้อย่างดี” พูดจบ ฉินอวี่ก็หันหลังเดินไปทางประตูใหญ่ทันที
เมื่อเห็นฉินอวี่ค่อยๆ เดินออกจากประตูไป สีหน้าของเหล่าศิษย์อัจฉริยะที่ดูถูกและเยาะเย้ยฉินอวี่ค่อยๆ จางหายไป ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม และชายหนุ่มชุดขาวที่ถูกชายหนุ่มชุดเทาตะคอกใส่ก็รู้สึกตัวกลับมา
บางที คนอื่นอาจจะคิดว่าชายหนุ่มชุดเทาเป็หมากตัวหนึ่งของฉินอวี่ แต่ชายหนุ่มชุดขาวกลับไม่คิดเช่นนั้น ั้แ่เล็กจนโต เขารู้จักนิสัยของชายหนุ่มชุดเทาเป็อย่างดี มันเป็ไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาเื่แบบนี้มาพูดเล่น ทันใดนั้น ชายหนุ่มชุดขาวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พี่หลิว ท่าน... ท่านพูดจริงหรือ?”
คำที่ชายหนุ่มชุดสีขาวถามออกไปตรงกับคำในใจของทุกคน เหล่าอัจฉริยะหนุ่มสาวกว่าพันคนล้วนแต่จ้องมองชายหนุ่มชุดเทา ด้วยดวงตาที่กำลังเฝ้ารอคำตอบอย่างมุ่งมั่น
“เหลวไหล! ข้าเห็นมาด้วยตาตนเองจะไม่จริงได้อย่างไรกัน อีกอย่าง รอบแผ่นผนึกว่านเซี่ยงก็มีคนอยู่เป็พันคน แม้แต่ฉิงเทียนหวังผู้เป็หัวหน้าของเต้าหวังทั้งสี่ในปกครองของต้าหลัวเต้าจวินก็ยังได้เห็นด้วยตาตนเองเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น หลี่โหย่วฉายผู้นี้ยังได้ยืนเคียงข้างฉิงเทียนหวังมาแล้วด้วย...” ชายหนุ่มชุดสีเทาแซ่หลิวพูดอย่างชัดเจน
แต่ยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงของจอกเหล้าตกกระทบพื้นแตกดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ตามด้วยเสียงลมหายใจหนักแน่นราวกับเสียงกลอง
ทุกคนต่างหน้าซีดลงทันที ยืนผงะนิ่งทื่ออยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว และมีบางคนถึงกับทรุดลงกับพื้น จนอาหารชั้นเลิศบนโต๊ะอาหารต่างตกกระจายลงบนพื้น และครู่หนึ่ง เสียงของเครื่องเคลือบแตกก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง...
เหลยจั๋วเยว่ตัวสั่นเทา สีหน้าซีดเซียว สายตาสั่นสะท้าน ริมฝีปากสั่นเทา ทั่วทั้งร่างเหมือนถูกฟ้าผ่าต่อเนื่องกันห้าครั้งติดต่อกัน ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างโซเซ ท้ายที่สุดก็ประคองตัวเองด้วยโต๊ะเก้าอี้ชุดหนึ่ง สายตาที่สั่นคลอนมองตรงไปยังฉินอวี่ที่ค่อยๆ จากออกไป ดวงตาของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีแดงก่ำอย่างรวดเร็ว ในใจของเขาเต็มไปด้วยเสียงดังกึกก้องของอสุนี์เก้าชั้นฟ้า จนร่างทั้งร่างล้มลงด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
สามารถเข้าถึงแผ่นผนึกว่านเซี่ยงในระยะสองจ้าง...
อาวุธเซียน...
“ไม่!” เหลยจั๋วเยว่ส่งเสียงขึ้นอย่างหวาดกลัวภายในใจ อาวุธเซียน... หากหลี่โหย่วฉายผู้นี้ได้เป็สามสิบหกขุนพล์ ตนเองจะไปเอาของวิเศษอย่างอาวุธเซียนมาจากที่ไหน? อีกอย่างหลี่โหย่วฉายก็มีผู้เฒ่าร้องไห้อยู่เื้ัอีกด้วย
และทันใดนั้น เหลยจั๋วเยว่ก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว จนถึงกับอยากจะลงมือ ชิงแผ่นไม้ไผ่เดิมพันออกมาจากฉินอวี่ และทำลายการเดิมพันทิ้งเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อนึกถึงเสียงหัวเราะของฉินอวี่ก่อนหน้านี้ เหลยจั๋วเย่วก็ใกลัวขึ้นมาทันที ในใจของเขาก็เริ่มรับรู้ถึงความมั่นใจที่จะได้เป็สามสิบหกขุนพล์ของฉินอวี่ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าจะเดิมพันกับคนจำนวนมากมายเช่นนี้แน่นอน!
โดนหลอกเสียแล้ว?
หรือว่าเขาได้วางแผนทำร้ายตนเองมาั้แ่ต้น?
ในใจของเหลยจั๋วเยวรู้สึกสับสนอย่างมาก ราวกับจะวิงเวียนจนสลบ แม้ว่าเขาจะเป็ชายหนุ่มระดับแนวหน้าแห่งตระกูลเหลยของตี้หวัง หรืออาจบอกได้ว่าเป็ถึงอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของตระกูลเหลย เป็เพราะมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้เป็สามสิบหกขุนพล์ แม้ว่าจะมีสถานะที่โดดเด่น แต่เขาก็ไม่มีอาวุธเซียนมาให้แน่นอน
ต่อให้ตระกูลเหลยของตี้หวังมีอาวุธเซียนอยู่ แต่สิ่งของทั้งหมดก็เป็สมบัติของตระกูล และในตอนนี้ ตนเองได้เดิมพันด้วยอาวุธเซียนหนึ่งชิ้น? หากเื่นี้แพร่ไปถึงตระกูลเหลย และผู้เฒ่าร้องไห้เกิดตามไปถึงตระกูลเหลยเพื่อทวงหาอาวุธเซียน จะทำอย่างไรดี? ถึงตอนนั้นตนเอง... คงต้องรับโทษตายเพียงเท่านั้น
“หลี่... หลี่โหย่วฉาย ช้าก่อน!” เมื่อเห็นหลี่โหย่วฉายค่อยๆ เดินห่างออกไป เหลยจั๋วเยว่ก็ะโขึ้นเสียงดัง
แม้ในใจของเขาจะตื่นตระหนก แต่เขาก็พยายามข่มใจไว้อย่างถึงที่สุด และสงบลงได้ในที่สุด
ฉินอวี่ยั้งฝีเท้าและหยุดลง ก่อนจะค่อยๆ ชายตามอง หันมาทางเหลยจั๋วเยว่ และพูดอย่างเรียบเฉย “มีเื่อะไรหรือ?”
เหลยจั๋วเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว บังคับอารมณ์ให้นิ่งสงบ และพูดออกไป “ไม่มีอะไร!”
ฉินอวี่ขมวดคิ้ว เหลยจั๋วเยว่เป็คนฉลาดมาก นี่ไม่น่าปกติแน่นอน!
ฉินอวี่ทิ้งความคิดไป จากนั้นจึงเดินต่อไปข้างหน้า แต่ทันทีที่เขากำลังจะก้าวเดิน ทั่วทั้งลานกว้างก็เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง!
“เดี๋ยว! เ้าไปไม่ได้!”
“อย่าเพิ่งปล่อยให้หลี่โหย่วฉายหนีไป ก่อนจะไปจะต้องนำไม้ไผ่เดิมพันทั้งหมดคืนกลับมาก่อนจึงจะไปจากที่นี่ได้!”
“หลี่โหย่วฉาย เอาไม้ไผ่เดิมพันออกมาเดี๋ยวนี้...”
“หลี่โหย่วฉาย...”
ผู้ฝึกตนจำนวนมากต่างรวบรวมความกล้าจะเข้ามาห้อมล้อมฉินอวี่ และในตอนนี้สายตาของผู้ฝึกตนนับพันต่างมองมาด้วยสายตาที่แดงก่ำ เพ่งตรงไปทางฉินอวี่ ราวกับจะกลืนกินฉินอวี่เข้าไปทั้งเป็...
เดินเข้าใกล้แผ่นผนึกว่านเซี่ยงได้ในระยะสองจ้าง... คนเช่นนี้มีโอกาสอย่างมากที่จะได้เป็สามสิบหกขุนพล์... หากปล่อยให้เขาไป การเดิมพันทั้งหมดก็จะเริ่มขึ้นทันที...
และคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ จะมีอีกสักกี่คนที่ไม่ได้เข้าร่วมการเดิมพัน?
มีใครกันที่ยังไม่ได้เดิมพันอาวุธในระดับอาวุธเต๋า?
สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงความโลภไม่รู้จักพอของเหล่าศิษย์อัจฉริยะเหล่านี้ได้ดีอย่างยิ่ง
“การเดิมพันเกิดขึ้นก็เป็เพราะพวกเ้าอยากเดิมพัน ข้าหลี่โหย่วฉายไม่ได้ไปขอร้องหรือบังคับพวกเ้าสักหน่อย ตอนนี้ พวกเ้าไม่อยากเดิมพันแล้ว ก็จะไม่เดิมพันเช่นนั้นหรือ? หรือว่า พวกเ้าเห็นข้าเป็พวกเด็กอ่อนหัดที่เ้าจะทำอะไรก็ได้? รีบไสหัวไปซะ ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าให้หมดนี่เลย!”
