คนที่หน้าตาดีจริงๆ เอ่ยวาจาใดล้วนสมเหตุสมผล คาดไม่ถึงว่าสุดท้ายเมิ่งอู่จะได้รับการปลอบใจจากเขา กวาดเอาหมอกควันตรงหน้ามลายสิ้น
นางหัวเราะสองหนก่อนกล่าว “นอกจากหน้าตาคมคายจิตใจละเอียดอ่อนแล้ว เ้ายังทำให้ผู้อื่นอบอุ่นใจด้วย”
นางรู้สึกว่าตนเองต้องซ่อนเขาเอาไว้ให้มิดชิด มิฉะนั้นไม่รู้ว่าจะครองใจหญิงสาวมากน้อยเท่าไร!
อินเหิงหลุบตาลง เมื่อครุ่นคิดถึงถ้อยคำของนาง มุมปากหยักขึ้นบางเบาคล้ายมีคล้ายไม่มี “ข้าเป็คนอบอุ่นมาก… หรือ”
เขาไม่รู้ว่าตนเองเป็คนอบอุ่นหรือไม่ แต่เขารู้ว่าเมื่อก่อนตอนคนอื่นเอ่ยถึงเขา มีคนจำนวนไม่น้อยหนาวะเืไปถึงกระดูกสันหลัง
เมิ่งอู่หลงใหลไปกับความงามไร้ที่ติของเขาอย่างสมบูรณ์ นางวางชามน้ำแกงไว้ด้านข้างก่อนเข้าไปใกล้เขาพร้อมกล่าว “เช่นนั้นเ้าลองเดาอีกครั้งซิ ว่ายามนี้ข้าคิดอะไรอยู่?”
เมื่อสายตาของอินเหิงตกอยู่ที่ตัวนาง นางยังกะพริบตาปริบๆ ท่าทางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
แต่อารมณ์ในตาของนางมิได้จาบจ้วงลามกสักครึ่งส่วน กล่าวโดยทั่วไปแล้วนางชื่นชมรูปร่างหน้าตาของคนคนหนึ่งอย่างควบคุมไม่ได้จริงๆ
ไม่ผิด อินเหิงมองเห็นมันจากั์ตาคู่นั้นของนาง เป็เพียงความชื่นชมชื่นชอบอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาร้ายใดซ่อนเร้น
แสงเทียนส่องลอดออกไปนอกประตู ภาพฉากกลางคืนนอกห้องดุจผืนน้ำที่เงียบสงบ มีเพียงแสงและเงาอ่อนจางส่องประกายระยิบระยับ
อินเหิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “บัดนี้เ้าจ้องข้าเยี่ยงนี้ ทั้งยังถามข้าเช่นนี้ ดังนั้นสิ่งที่เ้าคิดสมควรจะเกี่ยวข้องกับตัวข้า แต่ให้เฉพาะเจาะจงลงไปนั้น ข้าก็จนคำพูด”
เมิ่งอู่หัวเราะชั่วร้ายก่อนกล่าว “แน่นอนว่าต้องรับเ้ามาเลี้ยงดูอย่างดีและทำให้แน่ใจว่าเ้าจะอ้วนท้วนสมบูรณ์ ทุกวันจะต้องเปลี่ยนลูกเล่นที่จะทำให้ข้าเพลินตา ต่อไปนี้เ้ารับผิดชอบเพียงงามดั่งมาลีอยู่ในเรือน ส่วนข้าจะหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเอง”
นางเซี่ยเพิ่งออกจากครัวหลังล้างชามและตะเกียบเสร็จ ทันทีที่เดินมาถึงประตูก็ได้ยินเมิ่งอู่ประกาศจุดยืนนี้ ใบหน้างามพลันมืดครึ้ม
ดูท่าว่าคำพูดที่นางอบรมสั่งสอนอย่างจริงจังระหว่างกินมื้อเย็นคงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา!
อินเหิงยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยเหลือประมาณ “แต่ท่านแม่ของเ้าหวังว่าในอนาคตเ้าจะได้คู่ครองที่แบกได้ยกได้ มีพละกำลังทำงาน ส่วนข้าที่ได้รับาเ็ทั้งตัว มิอาจช่วยเหลืออะไรเ้าได้ หนำซ้ำสองขายังเดินไม่ได้ ท่านแม่ของเ้ากล่าวว่าข้ารังแต่จะสร้างปัญหาให้เ้าเท่านั้น”
เมิ่งอู่กล่าวอย่างมั่นใจ “ถึงาเ็ทั้งตัวก็ต้องมีสักวันที่จะหายเป็ปกติ ส่วนสองขาของเ้ามิใช่ว่าไม่มียารักษา ท่านแม่ของข้าปากร้ายใจดี เ้าอย่าได้ท้อแท้ไปเลย ในเมื่อเป็คนของข้าแล้ว ข้าจะไม่…”
“อาอู่!” นางเซี่ยที่อยู่หน้าประตูตวาด
เมิ่งอู่ตัวสั่นสะท้าน นางเหลียวกลับไปมองก่อนยิ้มประจบ เอ่ยว่า “ไอ้หยา ท่านแม่ ท่านล้างทุกอย่างเสร็จแล้วหรือเ้าคะ?”
ขณะที่นางหันหลังกลับไป อินเหิงหลุบตาลง ไอโขลกๆ อย่างอ่อนแรง
นางเซี่ยหันหลังเดินออกไปพลางกล่าว “อาอู่ เ้าออกมา ข้าจะคุยกับเ้าให้รู้เื่อีกครั้ง!”
ผ่านไปครู่หนึ่งไม่รู้ว่าเมิ่งอู่ใช้วิธีใดโน้มน้าวนางเซี่ย ในที่สุดนางเซี่ยก็ยอมกลับเข้าห้องไปพักผ่อนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของม่าน แต่นางยังคงรั้งมือเมิ่งอู่ไว้ตลอดเวลา โดยจะเล่านิทานเื่ปีศาจจิ้งจอกให้นางฟัง
โดยทั่วไปเื่ราวก็หนีไม่พ้นปีศาจจิ้งจอกที่มีรูปโฉมงดงามเป็เลิศทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าหาผู้คน จากนั้นก็ใช้กลอุบายทำให้คนลุ่มหลงจนขาดวิจารณญาณ ต้องยอมจำนนต่อปีศาจจิ้งจอกอย่างสิ้นเชิง สุดท้ายก็ถูกปีศาจจิ้งจอกสูบพลังชีวิตจนเหือดแห้ง
ดูคล้ายอินเหิงที่อยู่อีกฝั่งตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ เขายังย้อนถาม “ฮูหยิน เช่นนั้นปีศาจจิ้งจอกเป็ชายหรือหญิงขอรับ?”
นางเซี่ยกล่าวเป็นัยว่า “มีทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะปีศาจจิ้งจอกที่เป็ชายบางตนรู้จักหลอกล่อเด็กสาวใสซื่ออย่างอาอู่ของบ้านข้า!”
เมิ่งอู่เกลี้ยกล่อม “ข้าอารมณ์ร้าย ยากที่จะถูกหลอกลวง ปีศาจจิ้งจอกที่รูปโฉมธรรมดาย่อมไม่กล้าหลอกลวงข้า ท่านแม่ รีบนอนเถิด นอนเสีย”
นางเซี่ยยังคิดจะเล่าเื่ปีศาจกระดูกขาวหรือปีศาจงูที่ชอบตามตื๊อไม่เลิกราให้นางฟัง ทว่าเมิ่งอู่กำเปลวเทียนดับไฟ เอ่ยว่า “ท่านแม่ เทียนแพงนะเ้าคะ”
ท่ามกลางความมืดสนิท นางเซี่ยทำได้เพียงนอนอยู่บนเตียง
เดิมทีนางหดหู่ใจจนนอนไม่หลับ แต่เมิ่งอู่ใช้สองมือคล่องแคล่วบีบนวดให้นาง ออกแรงไม่หนักไม่เบา ซ้ำยังกดถูกจุดฝังเข็มได้อย่างแม่นยำ ไม่นานนางเซี่ยก็รู้สึกสบายจนผล็อยหลับไป
เมิ่งอู่ปีนลงจากเตียงเสียงกรอบแกรบ ก่อนเดินไปยังอีกฟากหนึ่งของม่าน
อินเหิงยังไม่หลับเช่นกัน แสงจันทร์ขาวนวลส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระทบั์ตาของเขาที่กระจ่างใสและบริสุทธิ์
เป็ไปได้มากว่าเพราะดวงตาทั้งคู่ของเขาเ็าอยู่บ้างโดยเนื้อแท้ แสงจันทร์ในดวงตาจึงคล้ายน้ำค้างแข็งสีเงินในปลายฤดูใบไม้ร่วง อาบย้อมงดงามจับใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้