“มันคืออะไรคะ… ”
ซูเจินไม่ค่อยเข้าใจนัก…
เมื่อจอมขมังเวทย์กล่าวถึงศาสตร์จีนเกี่ยวข้องกับพลังหยินหยาง
“อันที่จริง ‘หยิน’ กับ ‘หยาง’ ก็คือพลังงานแห่งจักรวาลทั้งสองด้านที่อยู่ตรงข้ามกัน หยินและหยางต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน พลัง ‘หยิน’ หรือเพศหญิง ส่วนพลัง ‘หยาง’ เป็ความร้อนหรือเพศชาย และตอนนี้ร่างกายของเ้ากำลังขาดสมดุลของพลังงานทั้งสอง”
“แล้วต้องทำยังไงคะ… ”
ฮูหยินถามต่อ…
“จำเป็ต้องเติมพลังหยางเข้าไปในตัวเ้าเพื่อช่วยให้เกิดความสมดุลซึ่งจะส่งผลถึงอารมณ์และจิตใจของเ้า”
จางเทียนซือให้ความกระจ่าง
“แล้วหยินหยางระหว่างสามีภรรยา… เอ่อ… จะเติมให้กันยังไงคะ… ”
ฮูหยินไม่อาจเก็บความสงสัยเอาไว้ได้
“การเติมพลังหยินหยางระหว่างหญิงชายจะต้องร่วมเสพสังวาส หรือพูดให้ชัดๆ ก็คือ ต้อง ‘เอากัน’ นั่นเอง เ้าเข้าใจที่ข้าพูดใช่ไหม”
พ่อหมอตอบไม่อ้อม…
“เข้าใจค่ะ… ”
ซูเจินรู้สึกแก้มร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินที่หมอผีอธิบาย
“แสดงว่าเ้ากับสามีไม่ได้เอากันมานานแล้วใช่ไหม”
พ่อหมอถามออกมาตรงๆ…
รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รู้เื่ซึ่งควรจะเป็ความลับระหว่างฮูหยินกับสามีของนาง
“ใช่ค่ะ… ”
ฮูหยินตอบไปตามความจริง…
ประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ สะดุดหูของซูเจินเข้าอย่างจัง เป็เพราะว่าตลอดหลายปีที่นางใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับจางหยวนสามีชรา เขาแทบจะไม่ได้ให้ความสุขทางเพศกับนางอย่างที่ภรรยาคนหนึ่งคาดหวังและควรจะได้รับจากสามี
ซึ่งเป็เพราะว่าในระยะหลังมานี้จางหยวนทั้งแก่ชราและอ่อนแรงในเื่เพศ เขามีหลายโรครุมเร้า
ทั้งโรคหัวใจและเบาหวานที่มักจะกำเริบขึ้นมาบ่อยๆ จนทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวมานานแล้ว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา…
ซูเจินต้องปลดเปลื้องความใคร่ด้วยการใช้นิ้วช่วยตัวเองมาตลอด จนกลายเป็คนที่แอบเก็บกดความ้าทางเพศเอาไว้
“วิธีแก้ไขสำหรับเ้าคือการเติมพลังหยางเข้าไป”
หมอผีกระตุกยิ้ม…
รู้สึกตื่นเต้น ดวงตาลุกวาวเมื่อได้ยินหญิงสาวตอบว่านางกับสามีชราไม่มีเซ็กส์กันมานานแล้ว
ด้วยรู้ว่าผู้หญิงที่ต้องเก็บกดอารมณ์ทางเพศแบบนี้ถ้ามีโอกาสได้ปลอดปล่อยให้ะเิออกมา คิดว่าน่าจะร้อนแรงสุดๆ
“ถ้าเ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำพิธีกันเลย… ”
โอกาสที่จอมขมังเวทย์รอคอยมาถึงแล้ว
“ค่ะ… ”
ซูเจินพยักหน้า นางไม่อาจซ่อนประกายความตื่นเต้นในแววตา
“เดี๋ยวเ้าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงโน้น ใช้แค่ผ้าแพรห่มกระโจมอกเพราะง่ายต่อการทำพิธี… ”
“ค่ะ… ”
ฮูหยินตอบแล้วเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้างในมีผ้าม่านกั้นเป็ฉากสำหรับเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานนางก็ก้าวออกมาในชุดผ้าแพรสีทองกระโจมอก
“อู้ววว… ”
จางเทียนซือถึงกับเผลออุทานออกมา…
ตะลึงมองเรือนร่างเอิบอิ่มเย้ายวนของหญิงสาว ผิวพรรณของนางช่างขาวเนียนเปล่งปลั่งน่ามองเหลือเกิน สีทองของผ้าแพรช่วยขับผิวให้เปล่งปลั่ง
ผมยาวสลวยที่ถูกรวบมัดมวยเอาไว้ด้านหลังเผยให้เห็นลำคอระหงและลาดไหล่สล้าง
แต่สิ่งที่สะดุดตาของพ่อหมอเข้าอย่างจัง ก็คือเต้านมใหญ่มหึมา เบียดกันแน่นอยู่ภายใต้ผ้าแพรกระโจมอกที่พยายามโอบอุ้มเต้าเนื้อมหึมานั้นไว้อย่างน่าอึดอัด
“ถ้าพร้อมแล้วเ้ามานั่งตรงนี้… ”
แทบจะทนรอไม่ไหว จางเทียนซือชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ไม้สีดำตั้งอยู่ชิดผนัง…
ฮูหยินยอมทำตามอย่างว่าง่าย นางค่อยๆ ทรุดร่างลงนั่งตามที่เขาสั่ง
พ่อหมอก้าวตามไปนั่งลงบนตั่งพร้อมกับถาดไม้ใส่แท่งปลัดขิกที่ถืออยู่ในมือ
“พร้อมแล้วก็ยกขาขึ้นมาวางตรงนี้… ”
จางเทียนซือเอามือชี้ไปที่พนักทั้งสองข้างของเก้าอี้ที่นางนั่ง
“ห๊ะ… ”
ฮูหยินใ…
ถ้าสั่งให้ยกขาก็แสดงว่าเขาจะต้องใช้ปลัดขิกกับตรงนั้นของนางอย่างไม่ต้องสงสัย
“ท่านอาจารย์คะ… เอ่อ… อย่าบอกนะว่าจะต้องเอาปลัดขิกใส่เข้าไป… ”
นั่นคือสิ่งที่ฮูหยินกลัว และแอบตื่นเต้นไปพร้อมกัน
“ใช่… เ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว เพราะนี่คือวิธีที่จะช่วยเติมพลังหยางเข้าไปในร่างกายของเ้า”
“เอ่อ… แล้วไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือคะอาจารย์”
“วิธีนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว… แม้อาจจะไม่ได้ผลเท่ากับการใช้ปลัดขิกของจริง”
คำพูดที่ได้ยินทำเอาหัวใจของฮูหยินกระตุกวูบ…
เพราะคำว่า ‘ปลัดขิกของจริง’ ที่เขาบอกเป็นัยก็คงไม่พ้นอวัยวะเพศชายซึ่งเป็อาวุธประจำกายของพ่อหมอนั่นเอง
“งั้น… ก็ได้ค่ะ… ”
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ฮูหยินยอมทำตาม…
ราวกับว่านางเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ที่ได้เล่นไปตามเกมของหมอผีเ้าเล่ห์คนนี้
ครู่ต่อมา…
หญิงสาวค่อยๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาพาดเอาไว้บนพนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง
จากนั้นค่อยๆ ถกชายผ้าแพรขึ้นมากองเอาไว้เหนือต้นขาเนียนขาวที่ยกขึ้นมาถ่างอ้าเป็รูปตัวเอ็มขนานลำตัว เผยให้เห็นความงดงามของกลีบดอกโบตั๋นที่ยังเป็สีชมพูสดสวยสะดุดตา
“อู้ววว… ”
หมอผีถึงกับร้องอุทานออกมา…
