ซูเต๋อเหยียนถอนหายใจ ตบๆ มือของนางแซ่หลี่ราวกับสองเฒ่าปลอบใจซึ่งกันและกัน แล้วมองไปยังซ่งหลิงซิว “ฝ่าา กระหม่อมเลี้ยงดูบุตรสาวอกตัญญูแบบนี้ ยินดีรับพระอาญา หญิงสาวคนนี้กับจวนอัครมหาเสนาบดีไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีก ไม่ว่าฝ่าาจะลงอาญากระหม่อมอย่างไร ก็ไม่กล่าวมากสักประโยคเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”
นางกับจวนอัครมหาเสนาบดีไม่มีความสัมพันธ์กันอีก ต่อให้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงต้องโทษปะาเก้าชั่วโคตรก็เป็นางเท่านั้น ใน่หัวเลี้ยวหัวต่อ ทิ้งหมากสำหรับใช้ปกป้องเพื่อรักษาหน้าของตระกูล นับว่าซูเฟยซื่อได้เห็นชัดถึงสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ฉันครอบครัวแล้ว
โชคดีที่นางไม่เคยให้ความหวังใดๆ กับด้านนี้มาก่อน ไม่มีความหวังก็พูดไม่ได้ว่าจะผิดหวัง
อวี้เสวียนจีดูละครชุดนี้ด้วยความเพลิดเพลิน เดิมทีคิดว่าซูเฟยซื่อจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไร ทว่าซูเฟยซื่อที่เพิ่งถูกวงศ์ตระกูลทอดทิ้งยังไม่หวั่นไหวสักนิด จึงหยักริมฝีปากโค้งขึ้นอย่างอดไม่ได้
ท่าทางนิ่งสงบเืเย็นไร้ไมตรีปานนั้น กลับอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา
แต่ยิ่งเป็เช่นนี้ ก็ยิ่งสงสัยว่า ถ้าครั้งนี้เขาไม่ลงมือ นางจะจัดการเื่นี้เองอย่างไร?
ขณะที่อวี้เสวียนจีกำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ๆ ซูเฟยซื่อก็ลุกจากเก้าอี้ เห็นนางยิ้มอย่างมีเลศนัย อวี้เสวียนจีรู้ว่านางกำลังจะโต้คืน รีบหุบปากฉับอย่างรู้กาลเทศะดูละครสนุกต่อไป
เห็นซูเฟยซื่อเดินไปตรงหน้าหยานเอ๋อร์ “หยานเอ๋อร์ เ้าว่าข้ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคุณชายชุย แล้วมีสิ่งของหมั้นหมายไหม?”
“นี่...” หยานเอ๋อร์คิดๆ แล้ว รีบดึงถุงทองเล็กๆ ใบหนึ่งออกจากอกเสื้อ นี่เป็ซูจิ้งโหยวเพิ่งให้มาเพื่อให้นางเป็พยานเท็จ พอดีเอามาใช้ใส่ร้ายซูเฟยซื่อ “คุณหนูตั้งใจเข้าวังเป็พระชายา ก็ได้ทิ้งสิ่งที่คุณชายชุยมอบให้นางมานาน แต่คุณชายชุยคิดถึงความรักเดิม ยังคงส่งเงินทองมาให้คุณหนูใช้จ่ายถลุงอย่างฟุ่มเฟือยทุกเดือน นี่เป็ของที่คุณชายชุยเพิ่งนำมาให้ไม่กี่วันก่อนเ้าค่ะ”
วาจารอบนี้ไม่เพียงแต่แสดงหลักฐานเท่านั้น แต่ยังทำให้ซูเฟยซื่อตกเป็ผู้หญิงโลภทรัพย์สินอีก
แววตาของซูเฟยซื่อกลายเป็แข็งกร้าว กัดฟันกล่าว “งั้นหรือ? เช่นนั้นเ้าก็เททองในถุงออกมาให้เราดูกัน”
หยานเอ๋อร์ไม่รู้ความนัยในการกระทำ จึงต้องเททองลงบนพื้นอย่างเชื่อฟัง เห็นทองคลุกฝุ่นก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจ
ทันทีที่นางเทออกมา ซูเฟยซื่อแสยะยิ้มเ็าทันที “ที่นี่อย่างน้อยมีสิบตำลึงทอง ข้าไม่รู้ทั้งสิ้นว่าที่แท้ข้ามีเสน่ห์แบบนี้ คิดไม่ถึงว่าสามารถให้คุณชายจวนนายอำเภอชุย เอาสิบตำลึงทองมาให้ทุกเดือน”
“คุณชายชุยกล่าวว่า ความรักไม่สามารถวัดได้ด้วยเงินทองเ้าค่ะ” เื่มาถึงจุดนี้ หยานเอ๋อร์ได้แต่พูดส่งเดชไปอย่างนั้น
แต่คนที่เข้าใจกลับลอบขมวดคิ้วแล้ว วาจาของนังสาวรับใช้นี่...
ซูเฟยซื่อหยุดซักถามหยานเอ๋อร์ เดินไปคุกเข่าตรงหน้าซ่งหลิงซิวโดยตรง “ฝ่าา หลักฐานการฉ้อราษฎร์บังหลวงของจวนนายอำเภอชุยแม่นยำ ยังขอฝ่าาทรงตัดสินให้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”
ได้ยินวาจานี้ หยานเอ๋อร์ถึงกับเซ่อไปทันที จวนนายอำเภอชุยฉ้อราษฎร์บังหลวง? ที่พวกเขาพูดเป็เื่ซูเฟยซื่อกับชุยเผิงเฉิงมีความสัมพันธ์ส่วนตัวชัดๆ ไฉนจึงกลายเป็จวนนายอำเภอชุยฉ้อราษฎร์บังหลวงไปได้?
ซูเฟยซื่อเห็นสีหน้าเหลอหลาของสาวใช้ จึงอธิบายตรงไปตรงมาอย่างใจดีว่า “สิบตำลึงทองต่อเดือน ปีหนึ่งก็เป็ร้อยยี่สิบตำลึงทอง ยังไม่รวมส่วนที่ใช้จ่ายประจำของคนในจวนนายอำเภอชุยอีก ถ้าไม่มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงแล้ว เพียงเงินเดือนของนายอำเภอคนเดียวจะแบกรับไหวได้อย่างไร?”
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหยานเอ๋อร์ถึงไม่เข้าใจ ทั้งนี้นางเป็คนรับใช้เล็กๆ คนหนึ่ง ไหนเลยจะรู้ได้ว่านายอำเภอมีเงินเดือนเท่าไรต่อปี
ซูจิ้งโหยวคิดว่าติดสินบนคนรับใช้ที่ข้างกายก็สามารถจัดการฆ่าอีกฝ่ายลงได้ แต่ไม่ได้คาดว่าคนรับใช้ก็มีจุดอ่อนของคนรับใช้
“นี่... นี่...” คราวนี้ไม่เพียงแต่หยานเอ๋อร์พูดไม่ออก แม้แต่ชุยเผิงเฉิงยังร้อนใจจนเหงื่อเย็นผุดพราย
ซูจิ้งโหยวแค้นจนกัดฟันกรอด แทบอยากจะวิ่งไปฉีกกระชากหยานเอ๋อร์ นังหนูน่าตายที่คิดทำการเองคนนี้แทบทนไม่ไหว
ไม่รู้แต่แกล้งทำเป็เข้าใจ คราวนี้งามหน้าแล้ว ให้ซูเฟยซื่อจับพิรุธได้ คิดฟื้นตัวอีกก็เป็เื่ยากแล้ว
“ชุยเผิงเฉิง ข้ากำลังรอคำอธิบายจากเ้า” ซ่งหลิงซิวเอ่ยปากอย่างเ็า แววตาเพียงพอจะสังหารคน
มีความสัมพันธ์ด้านชู้สาวอย่างลับ ๆ กลับเป็เื่เล็ก ทว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวงเขาปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด!
ซุยเผิงเฉิงสะดุดวูบหนึ่ง “ฝ่าา กระหม่อมอยู่ด้วยกันกับคุณหนูสามไม่นาน นี่เป็ครั้งแรกที่กระหม่อมให้เงินนาง คิดลงทุนหนักได้ใจนางคืน สิบตำลึงทองเป็เงินสะสมหลายปีของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเสียงพูดของเขาจบลง ซูเฟยซื่อก็เผยยิ้มเ็า “ในเมื่อเป็ครั้งแรก เมื่อครู่หยานเอ๋อร์กล่าวว่าคุณชายชุยคิดถึงความรักดั้งเดิม ยังคงส่งเงินทองมาให้คุณหนูใช้จ่ายถลุงอย่างฟุ่มเฟือยทุกเดือน มาจากไหน?”
“นั่นเป็บ่าวพลั้งปากเ้าค่ะ” หยานเอ๋อร์หน้าแดงกล่าวพลาง
“งั้นหรือ? คุณชายชุยช่างใจกว้างจริงๆ อยู่ด้วยกันไม่นานก็จ่ายสิบตำลึงทอง ถ้าอยู่ด้วยกันต่อไปนานกว่านี้ บางทีวันใดวันหนึ่งซูเฟยซื่อคงโชคดีพอที่จะได้สมรสเข้าจวนนายอำเภอ ไยมิใช่เสพสุขทรัพย์สินเงินทองสมบัติล้ำค่าไม่รู้จบ ยังมีชีวิตดีกว่าฮองเฮาอีกหรือ?” น้ำเสียงซูเฟยซื่อเรียบเฉยแต่ทุกคนในที่เกิดเหตุอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วไปตามๆ กัน
ใช้ชีวิตดีกว่าฮองเฮา!
พูดเหลวไหลอะไรกัน!
ใบหน้าซ่งหลิงซิวดิ่งลงอีกหลายส่วน แววตาเกือบจะฆ่าคน ชุยเผิงเฉิงเห็นก็ใจนเกือบเป็ลมไป รีบอธิบาย “ไม่… ไม่ใช่ กระหม่อมเพียงคิดใช้สิบตำลึงทองนี้สยบนางไว้พ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ? ก็หมายความว่าสิบตำลึงทองนี้เป็เหยื่อล่อที่เ้าใช้ตกข้า รอข้าติดเบ็ดก็ไม่ได้ใช้ชีวิตผ่านวันดีๆ?” ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วส่งเสียงจุ๊ๆ
“คำพูดของผู้ชายเชื่อไม่ได้ตามคาด”
นางกล่าวเช่นนี้ปุ๊บ ชั่วพริบตาชุยเผิงเฉิงกลายเป็ชายทรยศหัวใจ ในสายตาทุกคนที่มองเขามีแววดูถูกหลายส่วน
“เ้า...” ชุยเผิงเฉิงไม่คิดว่าซูเฟยซื่อจะมีไหวพริบเช่นนี้ อุตส่าห์อดทนไว้ค่อนวัน กระทั่งผายลมยังไม่ปล่อยออกมา เขาทำเพียงยอมให้ใครก็ได้ชี้นำบงการเขา
“เอาล่ะ หยานเอ๋อร์ ข้าขอถามเ้าอีก ในเมื่อคุณชายชุยบอกว่าอยู่ด้วยกันกับข้าไม่นาน ใน่ระยะเวลาไม่กี่วันมานี้ เ้าจงบอกมาซิ ว่าข้าได้พบคุณชายชุยเป็การส่วนตัวเมื่อไรที่ไหน?” ซูเฟยซื่อเบนสายตามองหยานเอ๋อร์อีกครั้ง
หยานเอ๋อร์ที่เพิ่งโล่งอกพลันใจแขวนขึ้นอีกครั้ง “เป็...”
ทั้งนี้เพราะเป็เื่ไม่มีมูล หยานเอ๋อร์อึกอักอยู่ค่อนวันแล้ว ยังไม่สามารถบอกเวลากับสถานที่เฉพาะเจาะจงออกมาได้
ขณะที่ซูจิ้งโหยวโกรธจนแทบะโออกมาช่วยนางพูด อวี้เสวียนจีที่เงียบมาตลอด จู่ๆ ก็หัวเราะร่า
เสียงหัวเราะนุ่มๆ อย่างน่าประหลาดนั่นกลับยาวนานจนน่ากลัว ทำให้ทุกคนตรงนั้นหนังศีรษะชาไปตามๆ กัน “ให้ข้ามาช่วยเ้าพูดดีกว่าไหม?”
ซูเฟยซื่อหันศีรษะไปด้วยความประหลาดใจระคนสยองเกล้า อวี้เสวียนจีกำลังเล่นละครอะไรอีก? หรือว่าเขายังรังเกียจปัญหานางไม่มากพอ?
หยานเอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้ยังตะลึงงันไป ระหว่างอวี้เสวียนจีกับนาง กล่าวได้ว่าเป็คนเบื้องสูงที่มิอาจปีนป่ายถึง ทั้งไม่เต็มใจที่จะััผู้คนอีกเด็ดขาด แต่ตอนนี้กลับจะช่วยพูดให้นาง
ไม่รู้ว่าทำไม นางไม่เพียงรู้สึกอึดอัด ทว่ากลับรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีกระแสหนึ่ง
“ข้าอุปราชมีสิ่งหนึ่งที่สามารถตรวจสอบคดีนี้ให้กระจ่าง แต่ถ้าในที่สุดพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณหนูสามได้แล้ว ข้าจะเปลือยร่างหญิงรับใช้ปากสามหาวคนนี้เดินเร่ร่อนตามถนน ส่วนที่คุณชายชุยลอบสังหารฮ่องเต้ นั่นเป็โทษปะาเก้าชั่วโคตร เพียงหวังว่าถนนในปรภพจะกว้างพอ ไม่ถูกร้อยสองร้อยกว่าคนในตระกูลชุยของเ้าปิดกั้น มิฉะนั้นข้าอาจได้สร้างเวรกรรมเข้าจริงๆ แล้ว”
อวี้เสวียนจีขมวดคิ้วแกล้งโทษตนเอง ซูเฟยซื่อดูเขาจนเกือบะเิเสียงหัวเราะ ปีศาจ อย่างไรก็คือปีศาจ ถ้าเขากลัวสร้างเวรกรรม เกรงว่าทั้งเมืองหลวงคงถล่มลงมาหมดแล้ว