เฟยหยางค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาจากภวังค์แห่งความมืดมิด ความรู้สึกหนักอึ้งในอกยังไม่จางหายไปไหน ราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่ทับถมอยู่ พิษของเห็ดเมาที่หลอกหลอนนางมาตลอดทั้งคืนเริ่มจางลง ทิ้งไว้เพียงความทรงจำเลือนรางของเหตุการณ์เมื่อคืนที่ค่อยๆ แจ่มชัดขึ้น
"ข้าเสียรู้ให้ไป๋หลัน!" เฟยหยางพึมพำกับตัวเอง ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็เส้นตรง ความโกรธเกรี้ยวและความอัปยศอดสูรวมตัวกันเป็เปลวเพลิงที่แผดเผาภายในอก นางจำได้ลางๆ ถึงภาพของไป๋หลันที่หลอกล่อนางให้กินอาหารที่ป้ายด้วยเห็ดเมา แล้วหลังจากนั้น... ความทรงจำก็ขาดหายไป
"พระชายา" เสียงของเปาหม่าดังขึ้นข้างเตียง นางประคองถ้วยยาส่งให้เฟยหยาง "นี่คือยาบำรุงร่างกาย ท่านรีบดื่มเถิดเพคะ"
เฟยหยางรับถ้วยยา ดื่มมันจนหมดโดยไม่ปริปากบ่น ร่างกายของนางยังคงอ่อนเพลีย แต่จิตใจกลับร้อนรุ่มด้วยความแค้น
"เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง" นางถามเสียงแหบพร่า
เปาหม่าเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความกังวล "หลังจากที่ท่านสลบไป ท่านอ๋องก็รีบไปหาพระชายาเอกที่เรือนทันที พระองค์ไม่ได้อยู่ดูแลท่านเลยแม้แต่น้อย และอยู่กับพระชายาเอกตลอดค่อนคืนเ้าค่ะ"
คำพูดของเปาหม่าราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจของเฟยหยาง ความหึงหวงและความเ็ปแผ่ซ่านไปทั่วร่าง นางยึดติดกับมู่หรงเยว่มาโดยตลอด ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้เขา แต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าความรักของนางเลย
"ชินอ๋อง..." นางพึมพำชื่อเขา นางพยายามกีดกันเขากับไป๋หลัน สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายป้ายสี แต่ไม่ว่านางจะทำเช่นไร เขาก็ยังคงมองข้ามความรักของนางและไปหาไป๋หลันจนได้
"พระชายา" เปาหม่าพยายามปลอบใจ "ท่านอย่าได้กังวลไปเลย ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องไม่ได้มีใจให้พระชายาเอกหรอกเพคะ"
"ไป๋หลัน!" เฟยหยางกัดฟันกรอด ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธ นางจะไม่ยอมให้ไป๋หลันแย่งชิงทุกอย่างไปจากนาง นางต้องทำอะไรสักอย่าง
"เปาหม่า" นางหันไปหาสาวใช้คนสนิท "ไปตามคนของเรามา ข้าจะไปหาพระชายาเอกเดี๋ยวนี้"
เปาหม่าพยักหน้ารับคำ เฟยหยางลุกขึ้นแต่งตัวด้วยชุดสีแดงเพลิง สวมเครื่องประดับทองอร่าม นางจะต้องทำให้ไป๋หลันได้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็ใหญ่ในจวนนี้
ภายในห้องโถงอันโอ่อ่าของจวนชินอ๋อง เป่ากงกง ขันทีผู้รับใช้ใกล้ชิดไทเฮา พระมารดาของชินอ๋อง เดินเข้ามาด้วยท่าทีนอบน้อม
"พระชายา" เป่ากงกงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม "ไทเฮาทรงมีรับสั่งให้ข้ามาแจ้งว่า พระองค์ทรงปรารถนาจะเสวยอาหารท้องถิ่นบ้านเกิดของพระชายาพ่ะย่ะค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไทเฮาโปรดให้พระชายาจัดสำรับสามอย่างที่เป็อาหารขึ้นชื่อของเมืองหางโจวบ้านเกิดของพระชายา"
ไป๋หลันยิ้มรับ "เรียนเป่ากงกง หม่อมฉันรู้สึกเป็เกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ทำอาหารให้ไทเฮาเสวยเพคะ"
เป่ากงกงพยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นกล่องไม้แกะสลักอย่างประณีตให้ไป๋หลัน "นี่เป็ของกำนัลเล็กๆ น้อยๆ จากไทเฮา ขอพระชายารับไว้นะพ่ะย่ะค่ะ"
ไป๋หลันเปิดกล่องออก ภายในบรรจุวัตถุสีเขียวมรกต รูปทรงคล้ายหยดน้ำ เปล่งประกายระยิบระยับ
"หยกน้ำค้าง!" ไป๋หลันอุทานออกมาเบาๆ "ไทเฮาทรงมีน้ำพระทัยอย่างยิ่ง หม่อมฉันซาบซึ้งใจเป็ล้นพ้น"
"พระชายาโปรดวางใจ ไทเฮาทรงพอพระทัยในตัวของพระชายายิ่งนัก" เป่ากงกงกล่าว
"เช่นนั้น ข้าขอตัวไปเตรียมสำรับสำหรับไทเฮาสักครู่ ระหว่างนี้เป่ากงกงเชิญเดินเล่นชมสวนได้ตามอัธยาศัยได้เลยเ้าค่ะ" ไป๋หลันกล่าวเชิญ
เป่ากงกงโค้งคำนับ "ขอบพระทัยพระชายาไป๋หลัน"
ไป๋หลันเดินออกจากห้องโถงไปยังห้องครัว ทิ้งให้เป่ากงกงเดินชมสวนอันร่มรื่นเพียงลำพัง ความรู้สึกภาคภูมิใจเอ่อล้นในใจของไป๋หลัน ของกำนัลจากไทเฮาเป็เครื่องยืนยันถึงความโปรดปรานที่พระองค์มีต่อนาง และนั่นทำให้ไป๋หลันมั่นใจว่าแผนการของนางกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
ในห้องครัว ไป๋หลันเริ่มลงมือเตรียมอาหารด้วยความตั้งใจ นางจะต้องทำให้สำรับนี้เป็ที่ประทับใจของไทเฮาให้จงได้ เพื่อที่นางจะได้ก้าวเข้าใกล้ชินอ๋องมากขึ้นอีกก้าวหนึ่ง
"สำรับแรก ข้าจะทำ 'ปลาตะเพียนน้ำแดง' " ไป๋หลันพึมพำกับตัวเอง นี่คืออาหารขึ้นชื่อของหางโจวที่ขึ้นชื่อเื่รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม ปลาตะเพียนสดๆ ตัวใหญ่ถูกนำมาแล่เอาแต่เนื้อ นำไปทอดจนเหลืองกรอบ ราดด้วยซอสน้ำแดงที่ปรุงจากน้ำตาล มะเขือเทศ และเครื่องเทศสูตรพิเศษของไป๋หลัน กลิ่นหอมของซอสน้ำแดงอบอวลไปทั่วห้องครัว ทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ต่างน้ำลายสอ
"สำรับที่สอง ข้าจะทำ 'กุ้งหลงในเล่ห์ไหม' " ไป๋หลันเลือกกุ้งตัวโตสดๆ มาผ่าหลังชุบแป้งทอดกรอบ ราดด้วยซอสสีทองที่ทำจากไข่แดงและน้ำผึ้ง เส้นหมี่ขาวถูกนำมาทอดเป็รังไหมกรอบๆ วางกุ้งลงไปตรงกลาง ราวกับกุ้งกำลังหลงอยู่ในเล่ห์ไหมจริงๆ
"และสำรับสุดท้าย ข้าจะทำ 'ข้าวห่อใบบัว' " ไป๋หลันนำข้าวเหนียวนุ่มๆ มาผัดกับเห็ดหอม กุนเชียง และเครื่องปรุงรสต่างๆ ห่อด้วยใบบัวแล้วนำไปนึ่งจนสุก กลิ่นหอมของใบบัวอบอวลอยู่ในข้าวเหนียว ทำให้อาหารจานนี้มีรสชาติและกลิ่นที่เป็เอกลักษณ์
เมื่อสำรับทั้งสามเสร็จเรียบร้อย บ่าวรับใช้ก็นำไปจัดวางใส่ภาชนะที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม ไป๋หลันมองสำรับอาหารที่ตัวเองบรรจงทำด้วยความภาคภูมิใจ นางมั่นใจว่าไทเฮาจะต้องพอพระทัยในรสชาติอาหารของนางอย่างแน่นอน ก่อนที่จะกลับไปยังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่จวนของหญิงสาว
ความวุ่นวายปะทุขึ้นในห้องครัวหลวงเมื่อเฟยหยางมาถึง นางอาละวาดทำลายข้าวของและวัตถุดิบที่เตรียมไว้สำหรับถวายอาหารแด่ไทเฮา
"อ๊ากกก!" นางกรีดร้องเสียงดัง มือคว้าแจกันลายครามใบใหญ่ใกล้ตัว ฟาดมันลงกับพื้นอย่างแรง เสียงแตกดังสนั่นหวั่นไหว บ่าวไพร่ในครัวต่างตกตะลึง หยุดกิจกรรมในมือ มองมาที่เฟยหยางด้วยความหวาดกลัว
ความโกรธของเฟยหยางไม่หยุดอยู่แค่นั้น จาน ชาม เครื่องเคลือบต่างๆ ถูกปัดปาลงพื้นแตกกระจายไม่ยั้ง เครื่องเทศนานาชนิดถูกคว่ำเทลงพื้น กลิ่นหอมของเครื่องเทศแปรเปลี่ยนเป็กลิ่นฉุนเมื่อปะปนกับฝุ่นผงที่ฟุ้งกระจาย
"ทำลายมันให้หมด!" นางะโลั่น น้ำตาแห่งความคับแค้นไหลอาบสองแก้ม นางคว้ามีดทำครัวขึ้นมา ฟันมันลงบนเขียงไม้เสียงดังสนั่น จนเขียงเป็รอยลึก
บ่าวไพร่บางคนพยายามเข้ามาห้าม แต่เฟยหยางผลักพวกเขาออกไปอย่างแรง "อย่ามายุ่งกับข้า! ปล่อยให้ข้าทำลายมัน!"
เสียงดังโครมครามดังต่อเนื่อง เฟยหยางไม่สนใจว่าการกระทำของนางจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ใด นาง้าเพียงระบายความคับแค้นในใจออกมาให้หมดสิ้น
เป่ากงกง ขันทีผู้จงรักภักดีต่อไทเฮา แทบคลั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่เคยพบเห็นการกระทำที่อุกอาจและิ่เบื้องสูงเช่นนี้มาก่อน
ด้วยความเดือดดาล เป่ากงกงสั่งให้ทหารไปตามชินอ๋องมาโดยพลัน เขา้าให้ชินอ๋องมาจัดการกับชายารองของเขาที่ก่อเื่อื้อฉาวนี้ ชินอ๋องมาถึงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่คาดคิดว่าเฟยหยางจะกล้าทำเื่เช่นนี้ เขาเข้าใจดีว่าการกระทำของเฟยหยางไม่เพียงแต่เป็การดูิ่ไทเฮาเท่านั้น แต่ยังเป็การท้าทายอำนาจของเขาอีกด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้