เมื่อเย่เฟิงออกจากโรงแรมก็โทรหาโอวบี ให้อีกฝ่ายช่วยดูนักล่าหลุมศพจูไป่เหนี่ยวเอาไว้ อีกด้านหนึ่งให้จ้าวอี้เปยขับรถไปส่งเขาที่วิลล่าชิงเฟิงก่อน
ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด จากนั้นซ่อนหน้ากากที่เคยปลอมตัวเป็โม่จิ่วเกอในอ้อมแขน เก็บของที่เตรียมไว้ ก่อนออกจากวิลล่าและกลับไปที่รถ BMW
“จริงสิ พวกนายหารถออฟโรดให้ได้ไหม?” เย่เฟิงถามขณะอยู่บนรถ
“เื่แค่นี้เล็กน้อยมาก เออลูกพี่เย่...” เตาปาพยักหน้าพลางพูดโผงผาง
“หืม?” เย่เฟิงขยับตัวมองเตาปากับจ้าวอี้เปย ในเวลาปกติเมื่อเตาปาอยู่ต่อหน้าแก๊งอสรพิษ์จะไม่เรียกเขาว่า ‘ลูกพี่เย่’ เพราะอ้างว่าเขาเป็ญาติผู้น้อง แต่ตอนนี้?
“ลูกพี่เย่ไม่ต้องกังวล เ้าเปยเป็หลานของผมเอง เ้านี่มันรู้ทุกอย่างรวมทั้งเื่ที่ลูกพี่ไม่ใช่ญาติของผมด้วย” เตาปาอึกอักก่อนเกาหัวอธิบาย
“อืม” เย่เฟิงพยักหน้าช้าๆ “แล้วไป ยังไงเื่ก็เพิ่งเกิด ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อว่าฉันเป็น้องนายหรอก อย่าลืมสั่งให้คนของนายเตรียมรถออฟโรดสำหรับเดินทางไกลสักคันด้วย ที่ที่จะไปมันอยู่ไกลสักหน่อย”
ถนนใกลู้เาฉางไป๋สัญจรลำบากสักหน่อย รถ BMW คงไม่เหมาะ รถออฟโรดจึงตอบโจทย์ที่สุด
วิลล่าชิงเฟิงและร้านขายของโบราณโอวซื่อไม่ไกลกันมากนัก แม้ถนนจะค่อนข้างมืดแต่ด้วยความสามารถในการขับรถของจ้าวอี้เปย รถ BMW จึงมาจอดไม่ไกลจากร้านโอวซื่อได้อย่างรวดเร็ว
“พวกนายรออยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา” เย่เฟิงลงจากรถแล้วตรงไปประตูร้านโอวซื่อที่อยู่ติดถนน
เวลานี้ไฟในร้านยังเปิดอยู่ เย่เฟิงเห็นโอวบียืนอยู่หน้าประตูจากที่ไกลๆ ท่าทางกระวนกระวายราวกับรออะไรอยู่ ผมสีขาวภายใต้แสงไฟนั้นเด่นชัดมาก
“พี่โอว ผมมาแล้ว” เย่เฟิงยิ้มและทักทายเขาจากระยะไกล เขามีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับโอวบีเพราะทั้งสองคนเป็ทั้งเพื่อนและพี่น้องกัน
“ไอ้เวร เสี่ยวมี่เฟิงนายมาช้าเกินไปแล้วนะ รีบเข้าไปเลย พ่อฉันคุยกับเขาอยู่” เมื่อโอวบีเห็นเพื่อนมาแล้วก็รีบทักก่อนกระซิบ “ผู้ชายคนนั้นมาที่นี่เพื่อยืมเงิน ถ้านายมีเงินทุกอย่างก็ง่าย...”
“ขอบคุณ” เย่เฟิงผงกหัวขอบคุณอย่างจริงใจ นอกจากท่านอาจารย์ซูเฟยหยิ่งคนสวยที่อยู่ในโลกวรยุทธ์ จะมีใครช่วยเหลือเขามากขนาดนี้?
ชายหนุ่มได้รับความห่วงใยที่ห่างหายไปนานจากโอวบีและพ่อของเขา จนทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ กับสองพ่อลูก
“ขอบคุณอะไรวะ รีบเข้าไปเหอะ” โอวบีแกล้งเหยียดเย่เฟิง แล้วหันมองรถ BMW ที่จอดอยู่ริมถนน เขารู้ว่าเย่เฟิงเปลี่ยนไปเมื่อไม่นานมานี้ ถึงขนาดนั่ง BMW มาที่นี่ คงไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะมีเงินให้นักล่าหลุมศพคนนั้นยืมหรือเปล่า
หลังพูดจบ โอวบีไม่ได้เดินตามเย่เฟิงเข้าไป เวลาพ่ออยู่ที่โถงด้านใน เขาจะเป็คนเฝ้าหน้าร้านอยู่ข้างนอก แม้ของในห้องโถงด้านหน้าจะไม่ได้มีค่าเท่ากับของในห้องโถงด้านใน แต่รวมราคาแล้วก็มากโข จะให้คนอื่นหยิบฉวยหรือเอาไปทำลายคงไม่ได้
เมื่อเย่เฟิงเข้าไปด้านในห้องโถงก็เห็นโอวเอเถียงกับชายร่างผอมที่ริมหน้าต่าง สถานการณ์ดูรุนแรงมาก
“ลุงโอว ผมมาแล้วครับ” เย่เฟิงทักทายพลางมองชายร่างผอมในชุดสีน้ำเงินเข้มซอมซ่อ คิ้วและดวงตาเหมือนหนูคู่นั้นดูแย่กว่าครั้งก่อนที่เจอในงานแสดงสินค้าของตระกูลหลงเสียอีก
นี่คือนักล่าหลุมศพจูไป่เหนี่ยวจริงเหรอ?
เขาตวัดสายตามองฝ่ายตรงข้ามอย่างทะลุปรุโปร่ง การเคลื่อนไหวของนิ้วมือและเท้าไหลลื่นเป็ธรรมชาติและมีความพิเศษบางอย่างแฝงอยู่ในนั้น สิ่งนี้ทำให้ในใจของเย่เฟิงตกตะลึง นักล่าหลุมศพคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!
“เสี่ยวเฟิง มาก็ดีแล้ว คนนี้คือผู้าุโจูไป่เหนี่ยว ที่กำลังจะไปูเาฉางไป๋...” เมื่อโอวเอเห็นเย่เฟิงเดินเข้ามาก็รีบแนะนำทันที
“เดี๋ยวก่อน” จูไป่เหนี่ยวยกมือไม่ให้โอวเอพูดต่อ เขาหันมองเย่เฟิง กลอกตาไปมาอย่างพิจารณาคนตรงหน้า
น้ำเสียงของเขาแหลมเล็กน้อย แต่ดุดัน ผู้คนสามารถรับรู้อันตรายจากน้ำเสียงของเขา
“นายคือเย่เฟิง?” ในไม่ช้าจูไป่เหนี่ยวก็อึ้งงัน เมื่อจำตัวตนของเย่เฟิงได้
“ใช่ ผมเอง” เย่เฟิงคิดในใจว่าชายคนนี้ต้องเป็คนในยุทธจักรแน่นอน เพราะเขาจำตัวตนของเย่เฟิงได้ในฐานะหลานชายของเย่เวิ่นเทียน และต้องรู้ว่าเย่เฟิงไม่ได้มีชื่อเสียงเลื่องลือขนาดนั้น
“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมเป็ใคร ไม่ใช่เหรอ?” เย่เฟิงยิ้มแล้วพูดต่อ “ที่สำคัญคือผมช่วยคุณได้ และคุณก็ช่วยผมได้เช่นกัน”
“ ฉัน้าเงินสิบล้าน ให้ฉันได้ไหม?” จูไป่เหนี่ยวหัวเราะเสียงแ่
“ไม่มีปัญหา” เย่เฟิงยิ้มออกมาเหมือนกัน “แต่เงื่อนไขก็คือคุณต้องพาผมไปสุสานโบราณทีู่เาฉางไป๋ที่คุณเคยไปครั้งที่แล้ว”
เขาไม่รู้ว่าแก๊งอสรพิษ์มีเงินทุนหมุนเวียนมากแค่ไหน แต่คิดว่าเงินสดในโกดังเล็กๆ ของคาสิโนเทียนหัวน่าจะมีเงินสิบล้าน ถ้าให้เตาปาเอาเงินออกมาก็ไม่มีปัญหาอะไร
ประเด็นคือเงินสิบล้านนี้ต้องใช้ให้คุ้มค่า!
“สุสานโบราณ?” จูไป่เหนี่ยวถึงกับมึนงง “นายอยากไปูเาฉางไป๋เพราะหญ้าหลิงซีงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่” เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้เขาจะไม่รู้ว่าหญ้าหลิงซีคืออะไร แต่ก็ไม่คิดจะสนใจมัน ชายหนุ่ม้าไปสุสานของราชวงศ์ซางในูเาฉางไป๋เพื่อค้นหาร่องรอยของซูเฟยหยิ่งเท่านั้น
“อย่างนั้นนายจะไปสุสานโบราณทำไม?” จูไป่เหนี่ยวถามอย่างระมัดระวัง
“ผมไม่ถามคุณว่าจะเอาเงินสิบล้านไปทำอะไร แล้วผมจำเป็ต้องตอบคำถามของคุณเหรอ?” เย่เฟิงถามกลับพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นพูดต่อ “คุณสบายใจได้ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหญ้าหลิงซีหรอก เมื่อถึงสถานที่นั้นแล้ว คุณไปตามทางของคุณ ผมก็จะไปทางของผม ผมแค่้าให้คุณนำทางเท่านั้น”
จูไป่เหนี่ยวขมวดคิ้ว เพียงครู่เดียวก็พยักหน้าเนิบนาบ “โอเค ตกลงตามนี้”
แม้สุสานจะเป็สถานที่อันตรายมาก แต่จากประสบการณ์ของเขาก็ไม่น่ามีปัญหาในการนำทางไปยังจุดหมาย แถมยังได้เงินก้อนโตเป็ค่าตอบแทนอีกด้วย
“แต่ฉันขอเตือนไว้อย่างหนึ่งนะ” จูไป่เหนี่ยวครุ่นคิดสักพัก ก่อนมองเย่เฟิงด้วยความสนใจ “ได้ยินมาว่ามีชายสวมหน้ากากเข้าไปก่อความวุ่นวายในงานแสดงสินค้าของตระกูลหลง นายเกี่ยวข้องกับหมอนั่นหรือเปล่า? ่นี้แถวูเาฉางไป๋ไม่ค่อยสงบ มีคนของตระกูลหลงอยู่ไม่น้อย รวมถึง... ถ้านายก้าวเท้าออกจากเมืองเยี่ยนจิงเมื่อไร ฉันคงรับรองความปลอดภัยให้นายไม่ได้”
“คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเื่นั้นเลย” เย่เฟิงพึมพำ เขา้าหาซูเฟยหยิ่งไม่ว่าต้องใช้วิธีใดก็ตาม อันตรายแค่ไหนก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ “เราจะออกเดินทางได้เมื่อไร?”
อะไรบางอย่างแวบเข้ามาในความคิดของเขา หรือครั้งนี้เขาจะได้เจอหลงหว่านเอ๋อร์อีกครั้ง? เมื่อนึกถึงหลงหว่านเอ๋อร์ทีไร ชายหนุ่มก็นึกถึงตอนที่ถูกเธอเตะด้วยเท้าคู่นั้น ยังรู้สึกเจ็บที่อกจางๆ ขณะเดียวกันร่างเย้ายวนของเธอก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำของเขา ร่างกายบริสุทธิ์ดุจดอกไม้ขาวดึงดูดสายตา ยังทิ้งร่อยรอยไว้ในใจของเขา
โชคดีที่เขาพกหน้ากากติดตัวมาด้วย ถ้าได้เจอกันจริงๆ หวังว่าจะได้เล่นกับเธอ...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้