หลี่ชิงหลิงช่วยใส่ของลงในตะกร้า ทั้งสองสะพายคนละใบ รีบไปที่เมืองก่อนรุ่งสาง
ทั้งสองแบกของหนักไว้บนหลังทำให้เดินได้ไม่เร็วนัก เมื่อไปถึงเมืองก็เป็เวลากลางวันแล้ว
พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยบนถนนทิศเหนือเริ่มวางแผงลอยกันแล้ว ทั้งสองหาพื้นที่ราวหนึ่งเค่อจึงจะพบที่ว่างซึ่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
หลี่ชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก หยิบของในตะกร้าออกมาทีละอย่าง
นางใส่ของที่เตรียมไว้ลงในแม่พิมพ์ และขอให้หลิวจือโม่เปิดเตา
หลิวจือโม่จุดไฟ ดูหลี่ชิงหลิงทอดแป้งทอดไข่อย่างชำนาญ
ไม่รู้ว่าเป็เพราะตำแหน่งไม่ดีหรือเหตุผลอื่น รออยู่ครึ่งชั่วยามก็ยังไม่มีคนมาถามอะไรเลย
หลิวจือโม่ชำเลืองมองหลี่ชิงหลิง แอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้าแสดงออกมาทางสีหน้า เพราะกลัวจะทำร้ายใจหลี่ชิงหลิงเข้า
หลี่ชิงหลิงทอดสองสามชิ้น มองผู้คนที่สัญจรไปมา ขมวดคิ้ว หายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดปากะโ
“แป้งทอดไข่ แป้งทอดไข่อร่อยๆ รับรองติดใจ กินแล้วอยากกินอีก”
เสียงะโที่นุ่มนวลและคมชัดของเด็กสาวทำให้หลิวจือโม่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาหันมองมุมข้างของนาง
เขาเม้มปาก มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น ะโเสียงดังทั้งที่หลับตา
ตอนแรกแอบรู้สึกอายเล็กน้อย แต่หลังจากะโออกมา กลับไม่รู้สึกอะไรมากนัก
หลี่ชิงหลิงชำเลืองมองด้านข้าง หัวเราะและะโขันแข็งกว่าเดิม
“พวกเ้าขายอะไรหรือ” ชายชราที่ตั้งแผงขายอยู่ข้างๆ เงยหน้าขึ้นมอง “แป้งทอดไข่?” มันดูไม่เหมือนแป้งทอดไข่เลย
"ใช่ มันคือแป้งทอดไข่" หลี่ชิงหลิงหัวเราะ หั่นแป้งทอดไข่เป็ชิ้นเล็กหลายๆ ชิ้น แล้วยื่นชิ้นหนึ่งให้ลุง "ท่านปู่ ข้าให้ชิม ไม่คิดเงินเลย"
เมื่อไม่ต้องจ่ายเงิน ชายชราย่อมไม่เกรงใจ รับมากินแล้วรู้สึกว่ารสชาติไม่เลว จึงถามราคา
“ชิ้นละห้าเหวิน"
ได้ยินแบบนี้ ชายชราก็อ้าปากค้างทันที ห้าเหวิน แพงจัง?
เขาส่ายหัว เขากินของที่มีราคาแพงเช่นนี้ไม่ไหว
หลี่ชิงหลิงรู้ว่าอีกฝ่ายคิดว่าแพงไป แต่ไม่ใส่ใจ ชายชราผู้นี้จ่ายไม่ได้ แต่มีคนที่จ่ายได้
หลี่ชิงหลิงไม่กังวล แต่หลิวจือโม่กังวลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคนอื่นจะรับแป้งทอดไข่ราคาแพงเช่นนี้ได้หรือไม่?
หลี่ชิงหลิงที่รู้ความคิดเขา หยิบตะกร้าใบเล็กใส่แป้งทอดไข่ วิ่งไปหาฝูงชน เสนอให้ทุกคนลองชิม
ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีคนหนึ่งกินแล้วถามหลี่ชิงหลิงว่า มันคืออะไร
"ท่านลุง นี่คือแป้งทอดไข่ มันแตกต่างจากแป้งทอดไข่อื่นๆ แป้งทอดไข่ของข้ามีคุณค่าทางโภชนาการมาก ดีต่อสุขภาพ" นางเติมน้ำจิติญญาลงในน้ำที่บ้าน การปรุงด้วยน้ำจิติญญาจะออกมาอร่อยและดีต่อร่างกาย
นี่เป็ครั้งแรกที่ชายวัยกลางคนกินแป้งทอดไข่แบบนี้ เขาคิดว่ามันรสชาติไม่เลวจึงขอซื้อหนึ่งชิ้น
หลี่ชิงหลิงดูมีความสุขมากที่ขายสำเร็จ นางรีบกลับไปที่แผง เตรียมแป้งทอดไข่ให้ชายวัยกลางคนอย่างระมัดระวัง
“ท่านลุง ห้าเหวินเ้าค่ะ ขอบคุณเ้าค่ะ”
“แพงจัง?” ไม่ใช่ว่าชายวัยกลางคนไม่มีเงินห้าเหวิน แต่เขาแค่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ชิงหลิงยังคงเหมือนเดิม "ห้าเหวินนี้ไม่แพงเลย หลังได้กินจะรู้สึกคุ้มค่าอย่างแน่นอน" นางมั่นใจว่าชายวัยกลางคนคนนี้จะซื้อเป็ครั้งที่สอง
ชายวัยกลางคนเลิกคิ้ว ยื่นเงินห้าเหวินให้หลี่ชิงหลิงและเริ่มกินทันที
หลังจากที่กัดไปสองคำ เขาก็หยุดไม่ได้ หลังจากกินหมดหนึ่งชิ้นจึงขอให้หลี่ชิงหลิงห่ออีกสองชิ้นให้เขา
หากมีหนึ่งก็มีสอง เมื่อคนอื่นๆ เห็นว่าชายวัยกลางคนกินอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาก็มีความคิดที่จะลองบ้าง
พวกเขาไม่เคยกินแป้งทอดไข่แบบนี้มาก่อน เงินห้าเหวินก็นับว่าใช้ลองของใหม่
"สาวน้อย ให้ข้าหนึ่ง..."
“ให้ข้าด้วย!”
"ได้เลยเ้าค่ะ!" ธุรกิจมาถึงแล้ว หลี่ชิงหลิงมีความสุขยิ่งกว่าเดิม นางเริ่มทอดแล้วบรรจุให้ลูกค้า ส่วนหลิวจือโม่รับผิดชอบในการเก็บเงิน
่เช้า แป้งทอดไข่กึ่งสำเร็จรูปทั้งห้าสิบชิ้นถูกขายจนหมด
ลูกค้าบางคนที่ทราบข่าว มาถึงแล้วเห็นว่าไม่มีก็ไม่พอใจ ถามพวกเขาว่าพรุ่งนี้จะมาอีกไหม
เมื่อได้ยินหลี่ชิงหลิงตอบจากนั้นจึงจากไปอย่างวางใจ
กิจการในวันแรกไปได้สวย หลิวจือโม่ก็มีความสุขเช่นกัน เขารีบเก็บเตากลับเข้าไปในตะกร้าอย่างกระฉับกระเฉง
"ที่บ้านไม่มีไข่แล้ว ต้องไปซื้อไข่" หลี่ชิงหลิงสะพายตะกร้า หันไปมองหลิวจือโม่
หลิวจือโม่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและปรึกษากับหลี่ชิงหลิง หรือกลับหมู่บ้านไปซื้อไข่จากชาวบ้าน?
คนในหมู่บ้านต้องรู้เื่นี้เข้าสักวัน และต้องอิจฉาแน่ ดังนั้นจะเป็การดีกว่าถ้าให้ข้อดีกับพวกเขา พวกเขาจะได้ไม่บ่น แถมยังรู้สึกขอบคุณแทน
หลี่ชิงหลิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เข้าใจว่าหลิวจือโม่หมายถึงอะไร นางตกลงกลับหมู่บ้านเพื่อซื้อไข่และผัก
หลังจากคุยกันเสร็จ ทั้งสองก็ไปที่ร้านหมูเพื่อซื้อเนื้อก่อนจะกลับบ้าน
"จือเยี่ยน เปิดประตู"
เมื่อได้ยินเสียงของหลิวจือโม่ หลิวจือเยี่ยนและหลี่ชิงเฟิงก็มองหน้ากัน ก่อนจะรีบออกมาเปิดประตู
เห็นกลับมาเร็วขนาดนี้ ทั้งสองคิดว่าขายไม่ออกจึงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
ทันทีที่หลี่ชิงหลิงเห็นสีหน้าของทั้งสองคนก็รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ นางเอื้อมมือไปลูบหัว ตั้งใจถอนหายใจแล้วเดินเข้าไป
"พี่ คือ..." หลี่ชิงเฟิงเดินตามหลังหลี่ชิงหลิง อยากจะถามแต่ไม่กล้าถาม เพราะกลัวจะทำให้หลี่ชิงหลิงเสียใจ
หลี่ชิงหลิงหัวเราะพรวด วางตะกร้าลงแล้วมองหลี่ชิงเฟิง "ขายหมดแล้ว..."
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหลี่ชิงเฟิงก็เป็ประกาย "จริงหรือ?" หมดเร็วมาก เขาคิดว่าขายไม่ออกถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้
“จะโกหกเ้าทำไม ดูสิ!" หลี่ชิงหลิงเคาะหัวของเขา เข้าไปในครัว รินน้ำสองชาม นางดื่มชามหนึ่ง อีกชามส่งให้หลิวจือโม่
หลิวจือโม่หัวเราะ รับมาดื่ม
เมื่อหลี่ชิงเฟิงเห็นว่าของในตะกร้าหายไปแล้วจริงๆ ก็ะโโลดเต้นอย่างมีความสุข นี่มันสุดยอดจริงๆ ขายออกหมดเลย ครอบครัวจะได้มีเงินแล้ว
เมื่อวางทุกอย่างลงในครัวแล้ว หลี่ชิงหลิงก็เดินเข้าไปในห้อง หลังจากที่ทุกคนนั่งเรียบร้อยแล้ว นางก็เทเงินที่ได้รับในวันนี้ลงบนโต๊ะ
"วันนี้ได้เงินสองร้อยห้าสิบเหวิน ตัดเงินซื้อไข่และแป้ง กำไร หนึ่งร้อยแปดสิบเหวิน"
เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว
หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนอ้าปากค้างอีกครั้ง พวกเขาได้ หนึ่งร้อยแปดสิบเหวินในจาก่เช้าวันเดียว ถ้าขายได้มากกว่านั้นละก็...
“หลังจากธุรกิจมั่นคง เราจะส่งเ้าไปเรียนหลังตรุษจีน” เื่ไปสถานศึกษาจะรอช้าไม่ได้แล้ว
เมื่อได้ยินเื่ไปสถานศึกษา หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนก็หน้าแดงด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อพวกเขาคิดว่าจะต้องใช้เงินเท่าไร พวกเขาก็นิ่งลงอีกครั้ง
"พี่ ข้าเรียนจากพี่จือโม่ที่บ้านก็ได้ ไม่… ไม่จำเป็ต้องไปสถานศึกษา" หลี่ชิงเฟิงอยากไปจริงๆ แต่พอนึกว่าต้องส่งไปเรียนสองคนไม่ใช่เื่ง่ายแล้ว เขายอมไม่ไป ให้โอกาสนี้กับจือเยี่ยนดีกว่า
จือเยี่ยนฉลาดมาก เคยไปเรียนแล้วด้วย เขาไปน่าจะดีกว่า
“ข้าก็เหมือนกัน อยู่บ้านและเรียนรู้จากพี่ก็ไม่เลว” หลิวจือเยี่ยนออกความเห็น
สีหน้าหลี่ชิงหลิงมืดลง นางชำเลืองมองเด็กทั้งสองและพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ "ไม่ต้องกังวลเื่เงิน พวกเ้าแค่ต้องตั้งใจเรียนให้มาก" ถ้าจะส่งก็ส่งพร้อมกัน จะส่งหนึ่งไม่ส่งหนึ่งไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับทุกคน
ดวงตาของหลี่ชิงเฟิงแดงเล็กน้อย เขาพยักหน้าหนักๆ ขอแค่ได้ไปเรียน เขาจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังอย่างแน่นอน
หลิวจือเยี่ยนตอบรับเช่นกัน ก่อนจะก้มหัวและเช็ดน้ำตา
ในอนาคตเมื่อเขาประสบความสำเร็จ เขาจะตอบแทนพี่ชิงหลิงอย่างแน่นอน
นางทำเพื่อพวกเขามากมายจริงๆ
สีหน้าหลี่ชิงหลิงอ่อนลง นางลูบหัวทั้งสองคนเบาๆ บอกพวกเขาว่าอย่ารู้สึกกดดัน ทำไปตามปกติก็พอ
นางกลัวว่าความกดดันทางจิตใจที่มากเกินไปจะไม่ดีต่อการเจริญเติบโตของพวกเขา
“พี่เก็บไว้” หลี่ชิงหลิงหยิบออกมาห้าสิบเหวิน ผลักส่วนที่เหลือให้หลิวจือโม่ ขอให้เขาเก็บไว้ “ข้าจะไปซื้อไข่ในหมู่บ้านกลับมา”
หลังจากพูดจบ นางก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ป้าหวงเป็คนดี นางอยากไปช่วยซื้อไข่ นับเป็การช่วยเหลือและทำให้ชีวิตนางดีขึ้น
"ป้าหวง อยู่บ้านหรือเปล่า" หลี่ชิงหลิงยืนหน้าประตูบ้านของป้าหวงและะโเสียงดัง
"มาแล้ว!" ป้าหวงกำลังสานตะกร้าไม้ไผ่ เมื่อได้ยินเสียงใครบางคนะโ นางก็รีบวางโครงไม้ไผ่ลง เดินออกมาเปิดประตูและประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นหลี่ชิงหลิง "เสี่ยวหลิงหรือ เข้ามาสิ!"
หลี่ชิงหลิงทักทาย เดินตามป้าหวงเข้าไป
“เสี่ยวหลิง มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
หลี่ชิงหลิงก็ไม่อยากอ้อมค้อม นางถามป้าหวงตรงๆ ว่าที่บ้านมีไข่ไหม นางอยากซื้อ
คนในหมู่บ้านมักเสียดายไม่กินไข่ เก็บไข่ทั้งหมดไปขายในเมือง
"มี จะเอาเท่าไร" ครอบครัวของป้าหวงเพิ่งเก็บไข่ได้ห้าสิบฟอง เดิมทีเตรียมรอให้มากกว่านี้หน่อยแล้วนำไปขาย
"เท่าที่มี" หลี่ชิงหลิงหัวเราะ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ป้าหวงมองก็หลี่ชิงหลิงด้วยความประหลาดใจ นางคิดว่าหลี่ชิงหลิงซื้อมากินเสียอีก "ที่บ้านมีไข่ห้าสิบฟอง จะเอาทั้งหมดจริงๆ หรือ?" ดูเหมือนว่าหลี่ชิงหลิงจะล่าสัตว์ทำเงินได้จริงๆ ถึงซื้อไข่จำนวนมากในครั้งเดียวแบบนี้
