“เ้าสี่ เ้าสี่มาหาพี่ตรงนี้มา” เพิ่งจะนั่งลงในหอประชุมได้ไม่นานก็เห็นเจี่ยหยวนผู้รูปร่างอ้วนท้วมชูนิ้วมืออวบอ้วนราวหัวไชเท้าเพื่อทักทายกัวไฮว่
“เ้าอ้วนเจี่ย ะโเรียกใครฮะ” ข้างๆเจี่ยหยวนมีคนถามขึ้นสี่ตัวอันตรายให้เ้าอ้วนะโเรียกอย่างสนิทสนมแบบนี้ไม่ใช่เื่ดีแน่
“พี่ไฮว่เ้าอ้วนนั่นเรียกพี่อยู่รึเปล่า” ถังซีถามขึ้นยิ้มๆ
“เรียกฉันเหรอ ฉันไม่รู้จักเขาเขาเรียกฉันทำไมกันเมื่อกี้พวกเธอก็เห็นแล้วนี่เขายังกล้าลวนลามนักเรียนหญิงที่ฟู่จงคนแบบนี้ฉันจะไปรู้จักได้ยังไงกัน” กัวไฮว่พูดด้วยใบหน้าเฉยเมย
“เจี่ยหยวนเ้าสองแห่งสี่ตัวอันตรายนักธุรกิจผู้โดดเด่นที่สร้างตัวมาจากสองมือเปล่านอกจากว่านิสัยเ้าเล่ห์แต่ดูเหมือนว่าเขาทำธุรกิจได้ไม่เลวเลย มีเกียรติมากๆ เลยล่ะตาบ้านายไม่รู้จักเขาหรือไงฉันจำได้ว่าตอนเรียนที่จิ่วจงคนบางคนพาเขามาล่าผู้หญิงที่จิ่วจงด้วย”
“เ้าสี่ทางนี้ ทางนี้ ไม่แนะนำสาวสวยที่อยู่ข้างๆ ให้พี่รู้จักสักหน่อยเหรอ”ชายหนุ่มที่เป็ตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้ข้างกายมีสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่เป็สาวสวยที่แท้จริงอีกทั้งนักเรียนทั้งฟู่จงรู้จักเธอทั้งนั้น เธอคือสาวหวานประจำรุ่นของอู่เฉิงหลี่เสี่ยวฮวาผู้เป็หลานสาวของหลี่สวินอวี้ส่วนชายคนนั้นเป็ใคร ก็มีหลายคนรู้จักเขาเขาคือเ้าสามแห่งสี่ตัวอันตรายเดิมเป็รองหัวหน้าศูนย์วางแผนครอบครัวตอนนี้เป็รองหัวหน้ากรรมการประจำเมืองถึงจะเป็รองหัวหน้าเหมือนเดิมแต่คนทั่วไปก็มองออกว่าได้รับเลื่อนตำแหน่งมา
“พี่ไฮว่คนคนนั้นเรียกพี่น่ะ” ซูเยี่ยพูดอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่รู้จักเอาแฟนตัวเองมายังจะมาหาผู้หญิงคนอื่นอีกมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไรเขาเป็พนักงานราชการนะสงสัยฉัน้างานความผิดซะแล้ว” กัวไฮว่พูดอย่างเมินเฉยกว่าเดิม
“พี่ไฮว่พี่เป็สุภาพบุรุษจริงๆ พวกเราไปทางนั้นกันเถอะ” มู่หรงเวยเวยพูดยิ้มๆ “ตาบ้าบ้าของจริงนายเป็เ้าสี่สี่ตัวอันตรายนะ พี่สองพี่สามของตัวเองยังไม่รู้จัก”
“น้องสี่ฉันเติมเงินในบัตรให้แล้วนะรับซะสิ” ในขณะที่กัวไฮว่หมุนตัวกลับไปนั้นเสียงอันแหบแห้งก็ดังขึ้นข้างหูเขา“วันหลังยังต้องไปเที่ยวเล่นกับแกที่ใต้หล้าอู่เฉิงอีกถึงจะล่อสาวไม่ได้แต่ห้าร้อยล้านนี่ก็มากพอที่จะไปผลาญได้่นึงเลยนะฮ่าๆ” คนที่พูดไม่ใช่หลี่เย่าจะเป็ใครได้อีก
“เสี่ยวถังซีไปกันเถอะมองอะไรน่ะ” กัวไฮว่แสร้งทำเป็ไม่ได้ยินมือหนึ่งดึงถังซีมือหนึ่งดึงโหยวโยวโยวจากนั้นก็เดินไปแถวข้างหน้า
“กัวไฮว่ ถ้าเดินอีกก้าวอินทรีทรายนี่จะลั่นแล้วนะถ้าแกมั่นใจว่าแกวิ่งไวงั้นเชิญเดินต่อไปเลย” ขณะหลี่เย่าพูดอยู่ก็มีปืนปรากฏอยู่ในมือของเขาหลี่เย่าพูดยิ้มๆ “มีปืนในที่สาธารณะใช่มีปืนในพี่มีใบปืนน่ะบอดี้การ์ดชั้นสูงเขาปืนกันได้”
“พี่ใหญ่พี่เองเหรอเนี่ย เมื่อกี้ผมก็ว่าเสียงเหมือนพี่เลยพี่ไม่ได้ออกไปปฏิบัติภารกิจเหรอ ทำไมมาที่ฟู่จงได้ล่ะ” กัวไฮว่หมุนตัวเดินกลับไปหาหลี่เย่ากอดเขาทีหนึ่งเด็กหนุ่มสูงร้อยเจ็ดสิบห้าโอบหลี่เย่าผู้สูงร้อยเก้าสิบห้าก็ออกจะรู้สึกแปลกๆไ ปหน่อย
“พี่ใหญ่ยังอยากกินเหล้าอีกไหม ถ้าอยากก็ร่วมมือกันหน่อยผมไม่ได้ขู่พี่นะผมพูดเื่จริง โอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเหล้าสิบจิน” กัวไฮว่พูดเบาๆ ข้างหูหลี่เย่า
“ราคาขาดตัวสิบจินพี่คิดมาแล้ว แกจัดการไปตามความเหมาะสมเถอะ” หลี่เย่าพูดอย่างไร้ความรู้สึก เป็าาทหารใบหน้าเต็มไปด้วยความโเี้
“ดีพี่เย่าพอแล้วล่ะพี่ไปจัดการเื่พี่สองพี่สามแล้วกันพวกเขานิสัยแย่มากเลย” กัวไฮว่ตบหลี่เย่าเบาๆแล้วพูดด้วยเสียงค่อย
“ตกลง” หลี่เย่าพูดจบก็มองสาวสวยทั้งสี่ยิ้มๆ กัวไฮว่เดินกลับไปข้างๆสาวสวยทั้งสี่อีกครั้ง
“พี่ใหญ่ฉันเองาาทหารหลี่เย่า” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ตาบ้าเขาคือพี่ใหญ่สี่ตัวอันตรายนายยอมรับแล้วใช่ไหมว่ารู้จักเขาน่ะ” ซูเยี่ยถามขึ้นขำคิกคัก
“เสี่ยวเยี่ยจื่อโตแล้วกล้าล้อพี่นะซูเฉิงเ้าเด็กนั่นสั่งสอนน้องสาวมาไม่ดีคอยดูแล้วกันว่าฉันจะจัดการกับเ้าเด็กนั่นยังไง” หลี่เย่าพูดยิ้มๆ “ไม่รบกวนพวกเธอแล้วล่ะฉันไปทางนั้นก่อนเดี๋ยวพอการประมูลสิ้นสุดลงไปกินข้าวกันนะ” พูดจบหลี่เย่าก็หมุนตัวจากไป
“ทำไมจะไม่ยอมรับพี่ใหญ่ตัวเองล่ะทหารของประเทศจีนรักษาความสงบประเทศลงโทษคนชั่วยกย่องคนดีวีรบุรุษของจริงถ้าพวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงของฉันนะ ฉันก็คงแนะนำเขาให้พวกเธอไปแล้ว” กัวไฮว่พูดด้วยใบหน้าจริงจัง
“แค่กๆ รักษาความสงบประเทศลงโทษคนชั่วยกย่องคนดีรังแกคนอ่อนแอคนโรคจิตเต็มไปด้วยความ้า...” ซูเยี่ยพูดเสียงเบา
“อะแฮ่มเสี่ยวเยี่ยจื่อเธอได้ยินใครพูดข้อดีพี่ใหญ่ฉันมาเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย” กัวไฮว่พูดเสียงเบา
“คนในยุทธภพร่ำลือกันมาน่ะแต่ว่าของนายนี่น้อยกว่าหน่อยเพราะไม่มีสองข้อแรก” ซูเยี่ยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“อะแฮ่ม ไม่พูดแล้วการประมูลจะเริ่มขึ้นแล้ว เดี๋ยวพอเสร็จเราไปกินข้าวกันวันนี้เป็วันสุดสัปดาห์กินหลายแก้วได้จริงไหมเสี่ยวเยี่ยจื่อ” กัวไฮว่หรี่ตาพลางพูดขึ้น
“ใช่ ใช่ ใช่ วันนี้ในที่สุดพี่ไฮว่พี่ไฮว่ก็พูดเื่จริง ฮิๆ เหมือนว่าวันนี้เสี่ยวซีมีของมาประมูลเหมือนกันเดี๋ยวนายต้องไปซื้อมานะ” ซูเยี่ยพูดยิ้มๆ
เวลาเก้าโมงตรงหอประชุมที่บรรจุนักเรียนได้หมื่นคนก็เต็มไร้ซึ่งที่นั่ง นักเรียนโรงเรียนฟู่จงนั่งข้างหนึ่งส่วนบุคคลชั้นสูงจากทั่วสารทิศนั่งอีกด้านหลินซวงใส่กระโปรงยาวปรากฏอยู่บนเวที
“ตาบ้า ตาแทบหลุดแล้ว” ซูเยี่ยมองกัวไฮว่ที่น้ำลายแทบไหลออกมาแล้วพูดด้วยเสียงดัง
“แหะๆ ฉันก็ว่าทำไมคนบนเวทีถึงได้คุ้นหน้าคุ้นตาขนาดนี้ที่แท้ก็คุณครูหลินซวงของเรานี่เอง” กัวไฮว่พูดเสียงเบา “แม่มันเถอะปิดตากันเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าเป็เมียๆ ของฉัน พวกแกจะกล้ามองกันแบบนี้หรือเปล่า” เขาคิดในใจ
“สวัสดีตอนสายนะคะนักเรียนทุกคนแล้วก็แขกจากทั่วสารทิศทุกท่านฉันชื่อหลินซวงเป็ครูวิชาภาษาของโรงเรียนฟู่จงแล้วก็เป็พิธีกรงานประมูลครั้งนี้ด้วยขอบคุณทุกคนมากนะคะที่มาร่วมงานประมูลครั้งนี้กันอย่างคึกคักเงินที่ได้จากงานประมูลทั้งหมดจะนำไปใช้สร้างโรงเรียนประถมรอบๆ เมืองอู่เฉิงฉันขอขอบคุณแทนพวกเขาด้วยนะคะ” พูดจบหลินซวงก็โค้งตัวให้กับคนที่อยู่ล่างเวทีเสียงปรบมือก็พลันดังขึ้นมา
“วันนี้มีของประมูลทั้งหมดร้อยแปดสิบเอ็ดชิ้นหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือกันนะคะไม่พูดมากดีกว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าดิฉันตอนนี้ก็คือของประมูลชิ้นแรกค่ะ” หลินซวงพูดพลางเปิดผ้าสีแดงออกมาข้างในนั้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ในเครื่องเคลือบ
“นี่เป็หน้าหนังสือตงปัวหลินจื้อ[1]ที่ผอ.หลี่สวินอวี้เก็บไว้ค่ะราคาขั้นต่ำห้าพันหยวนเพิ่มราคาแต่ละครั้งไม่ต่ำว่าร้อยหยวนเชิญเริ่มได้เลยค่ะ”หลินซวงพูดยิ้มๆ
“ฉันจะเอาของที่ผอ.หลี่สวินอวี้เก็บเอาไว้ ขอบคุณผอ.หลี่ในครั้งนั้นด้วยครับ”ชายหนุ่มแต่งกายดูดีผู้หนึ่งพูดขึ้นด้วยเสียงเบา“ห้าพันหยวน”
“ตงปัวหลินจื้อของเหล่าหลี่เมื่อก่อนเคยมีโอกาสได้เห็นที่บ้านของเหล่าหลี่เป็ของแท้ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบได้หกพันหยวนครับ” ผู้าุโท่านหนึ่งพูดยิ้มๆ
“ห้าหมื่น ลุงหลินนายท่านบ้านหนูบอกแล้วว่าต้องให้หนูเอากลับไปให้ได้ขอโทษด้วยนะคะ” ผู้หญิงอายุสามสิบกว่าปีพูดขึ้นยิ้มๆ
“แสนนึงประธานสวี่บริษัทอสังหาวั่นฝูให้ราคาหนึ่งแสนยังมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมคะ” หลินซวงพูดเสียงเบา “ขอบคุณประธานสวี่มากนะคะถือเป็การเปิดการประมูลครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวค่ะ” หลินซวงประกาศให้สาวแกร่งประจำตระกูลสวี่ประมูลตงปัวหลินจื้อหน้าหนึ่งไปโดยทันทีโดยไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อนแบบงานประมูลอื่นๆทั่วไปและมีราคาสูงกว่างานประมูลทั่วไปนิดหน่อย
[1] เป็หนังสือที่เขียนโดยนักเขียนสมัยราชวงศ์ซ่ง