เหตุการณ์นี้ทำให้เย่ชิงหยุนตกตะลึงอย่างยิ่ง
หากถามว่าในโลกปัจจุบันโอสถใดมีค่าที่สุดและหายากที่สุดย่อมต้องเป็โอสถที่เพิ่มอายุขัย
ท้ายที่สุดนอกเหนือจากโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับจักรพรรดิในตำนานที่สามารถเพิ่มอายุขัยได้ทั้งยุคสมัยโอสถอื่นที่เพิ่มความยืนยาวนั้นหายากยิ่ง
ส่วนใหญ่ที่สามารถยืดอายุได้เพียงไม่กี่ร้อยปีก็ถือว่าหายากอย่างยิ่งแล้ว
และ‘ในมือเขานี้สามารถเพิ่มอายุขัยได้ถึงพันปีโดยตรง
ทว่าเย่ชิงหยุนก็ฉงนใจเพราะเขาเกิดในตระกูลสูงศักดิ์และเคยเห็นโอสถนับไม่ถ้วน
แต่เขาไม่เคยเห็น‘โอสถ’ประเภทนี้มาก่อน
ด้วยความอยากรู้เขาอดไม่ได้ที่จะถามซูเซวียน
ฝ่ายหลังกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“นี่คือนํ้าแห่งความสุข”
นํ้าแห่งความสุขชื่ออะไรแปลกประหลาดแต่การดื่มมันเพิ่มอายุขัยได้พันปีนับว่าให้ความสุขอย่างแท้จริง
อืมชื่อนี้เหมาะสมยิ่ง
ในขณะเดียวกันฉือเหรินจากการสนทนาของทั้งสองก็ได้รู้ว่า‘โอสถ’ที่ดูไม่น่าสนใจนี้สามารถเพิ่มอายุขัยได้ถึงพันปี
์!
ดวงตาของฉือเหรินสว่างวาบราวกับชายโสดสามสิบปีได้พบรักแรกของเขา
ต่างจากเย่ชิงหยุนที่ยังเยาว์วัยฉือเหรินใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตหากเขาไม่ได้ถูกผนึกในผลึกิญญาเขาคงสูญสลายไปโดยสิ้นเชิง
บัดนี้ที่เขาออกจากผลึกิญญาและยอมจำนนต่อซูเซวียนหมายความว่าเขากำลังใช้พลังชีวิตทุกขณะ
เมื่อมี‘โอสถเพิ่มอายุขัยพันปีอยู่ตรงหน้าเขาจะไม่ตื่นเต้นยิ่งได้อย่างไร!
สมกับผู้ยิ่งใหญ่สิ่งที่เขาหยิบออกมาง่ายๆก็ท้าทาย์ถึงเพียงนี้ข้าชอบข้าชอบ
ซูเซวียนย่อมรู้ถึงความผันผวนทางอารมณ์ของทั้งสองคนตรงหน้าแต่เขาไม่ได้กล่าวมากนี่เพียงแค่จุดเริ่มต้น
เมื่อเขาจับรางวัลได้สิ่งที่ท้าทาย์ยิ่งกว่านี้ในอนาคตพวกเขาจะไม่กลัวจนตายหรือ
ต่อมาเขาพลิกมือสั่งให้ทั้งสองซ่อนตัวในเงามืด
ส่วนตัวซูเซวียนเองนั่งพิงเก้าอี้มองถุงเก็บสมบัติในมือ
ทุกอย่างยังเหมือนเดิมด้วยความคิดทรัพยากรภายในแยกออกและจัดเรียงอย่างเป็ระเบียบ
สำหรับอาวุธระดับนักบุญซูเซวียนโยนมันเขาคลังอาวุธอย่างไม่ใส่ใจ
อาวุธระดับนักบุญมีค่าสูงสำหรับผู้อื่นแต่สำหรับซูเซวียนมันไม่พิเศษเลยมันไม่ทรงพลังเท่าลมหายใจเดียวของเขาเสียด้วยซ้ำ
หลังจัดการทุกอย่างซูเซวียนยังคงนั่งพิงแต่จิตใจของเขายังครุ่นคิดถึงวัสดุสำหรับสร้างเมืองใหม่
มีตัวเลือกหลายอย่างแต่ซูเซวียนตัดสินใจไม่ได้
“ช่างมันเถอะไม่ต้องรีบรออีกไม่กี่วันอาจมีสิ่งค้นพบใหม่”
หลักการสำคัญของซูเซวียนคือไม่แข่งขันภายในหรือทำลายตนเองดังนั้นเขานอนลงอย่างสบายใจ
เขานอนอยู่นั่นจนถึงวันรุ่งขึ้น
ไม่ต้องสงสัยซูเซวียนถูกปลุกด้วยเสียงแจ้งเตือนของระบบ
“ข้าบอกเ้าระบบเ้าเป็คนมากกว่านี้ได้ไหมรอให้ข้าตื่นตามธรรมชาติก่อนแล้วค่อยแจ้งเื่จับสลากได้หรือไม่”
ระบบไม่ตอบแต่แสดงท่าทาง‘ตกลง’ในใจของเขา
ซูเซวียนพูดไม่ออกระบบนี้มีบุคลิกจริงๆ
ทว่าเขาไม่สนใจตราบใดที่มันยอมก็เพียงพอ
ทันทีนั้นซูเซวียนเริ่ม่จับสลากอันน่ารื่นรมย์
เขาข้ามมิติไปจนถึงผลลัพธ์สุดท้าย
【ติ้ง! ขอแสดงความยินดีที่จับได้บะหมี่สำเร็จรูปหมื่นถุง】
หืม?
์! เจตนาเลือกอาหารและเครื่องดื่มจากชาติกก่อนของข้าหรือ
มุมปากของซูเซวียนกระตุกเล็กน้อยเขาคล้ายเห็นภาพตัวเองจับรางวัลได้ของว่างทุกประเภทในอนาคต
เช่นบิสกิต เส้นเผ็ด ไอศกรีม ฮอตดอก และอื่นๆ
แต่เขาต้องยอมรับว่าเขาค่อนข้างตั้งตารอ
เขายังคิดถึงสิ่งเหล่านี้จากชาติก่อน
ต่อมาซูเซวียนด้วยความคิดหยิบมันออกมาและที่น่าประหลาดใจบะหมี่เหล่านี้ไม่ใช่บะหมี่ธรรมดามันมีผลลัพธ์ที่ท้าทาย์
ผลลัพธ์นั้นง่ายหลังจากกินมันจะสามารถยกระดับขอบเขตการบ่มเพาะถึงขอบเขตตำหนักม่วงได้ทันทีโดยไม่มีผลข้างเคียงราวกับบ่มเพาะด้วยตนเอง
แน่นอนว่านี่ไร้ประโยชน์สำหรับผู้ที่มีขอบเขตสูงกว่าแต่สำหรับผู้ที่ต่ำกว่าขอบเขตตำหนักม่วงนี่คือโอสถศักดิ์สิทธิ์ที่สั่นะเืโลก
“ไม่เลว ไม่เลว ข้าสามารถให้มันแก่สมาชิกตระกูลซูแล้วพวกเขาจะถึงขอบเขตตำหนักม่วงทั้งหมดประหยัดเวลาได้มาก”
ซูเซวียนดีใจยิ่งเพราะยังมีสมาชิกตระกูลซูจำนวนมากที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตตำหนักม่วง
โดยเฉพาะสมาชิกจากสาขาย่อยที่เข้ามาร่วมครั้งนี้
บะหมี่กรอบเหล่านี้มาถูกจังหวะ
ต่อมาซูเซวียนไม่ลังเลหยิบบะหมี่หนึ่งถุงจากซองและกินอย่างมีความสุข
ขณะกินเขาถอนหายใจ“ใช่ รสชาตินี้ข้าคิดถึงมันนัก”
ราชันะกินบะหมี่—ภาพนี้สวยงามเกินไปโชคดีที่ไม่มีใครเห็นมิฉะนั้นคงเสียศักดิ์ศรีเกินไป
กินหมดในไม่กี่คำรวมกับนํ้าแห่งความสุขมันคือความสุขคูณสอง
“น่าเสียดายที่ไม่มีสามสิ่งของโอตาคุคือบะหมี่และฮอตดอกมิฉะนั้นคงสมบูรณ์แบบ”
ซูเซวียนถอนหายใจ
ในขณะนั้นมีเสียงดังจากนอกบ้านและไม่นานกลุ่มคนพุ่งเข้ามาในลานบ้านเป็สามผู้าุโใหญ่และคนอื่นๆที่กลับมา
เพื่อแก้ปัญหาของซูโหรวโดยเร็วที่สุดและกลับสู่ตระกูลพวกเขาเดินทางไม่หยุดทั้งวันทั้งคืนยิ่งสิ้นหวังกว่าตอนออกเดินทาง
ในที่สุดพวกเขากลับถึงตระกูล
ในขณะนี้สามผู้าุโใหญ่และคนอื่นๆดูยุ่งเหยิงและโทรมยิ่ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ซูเซวียนโบกมือเบาๆและทันใดนั้นคนเหล่านี้รู้สึกราวกับอาบลมฤดูใบไม้ผลิอบอุ่นทั่วร่างราวอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ
วินาทีต่อมาพวกเขาพบว่าพลังชีวิตของตนฟื้นคืนเต็มไปด้วยพลังราวกับต่อสู้ได้สิบวันสิบคืนโดยไม่เหนื่อย
“คารวะ ท่านประมุข”
ปาฏิหาริย์เช่นนี้สามผู้าุโใหญ่และคนอื่นๆชินแล้วจึงไม่เป็ไร
แต่สำหรับสมาชิกสาขาย่อยที่เห็นเป็ครั้งแรกพวกเขายอมจำนนทันทีและคารวะอย่างนอบน้อม
โดยเฉพาะซูโหรวดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวังขณะมองซูเซวียน
ซูเซวียน‘อืม’ส่งสัญญาณให้ทุกคนไม่ต้องพิธีการ
ในขณะนี้ซูเซียวก้าวออกมาจะพูดแต่ถูกซูเซวียนโบกมือห้าม
“ข้ารู้เื่แล้วถึงแม้ร่างเทพสายฟ้าสูงสุดจะตื่นได้ยากแต่ก็ไม่ใช่เื่เป็ไปไม่ได้”
“ตลอดอดีตที่ผ่านมาความล้มเหลวในการปลุกร่างพิเศษเกิดจากไม่พบวิธีที่ถูกต้องต่อให้มีทรัพยากรมหาศาลก็ไร้ผลหากไม่มีพลังสายฟ้าบริสุทธิ์หล่อเลี้ยง”
แม้ว่าซูเซวียนไม่เคยเห็นร่างกายนี้แต่ในฐานะราชันะเขาสามารถมองเห็นแก่นแท้ของร่างศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ในพริบตา
ดังนั้นเขาสามารถเผยความลับ์ได้ด้วยคำพูดเดียว
ทุกคนเข้าใจทันทีด้วยสีหน้า‘ข้าได้เรียนรู้แล้ว’
ทว่าปัญหาใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพลังสายฟ้าบริสุทธิ์เป็สิ่งหายากยิ่งมีข่าวลือว่ามีอยู่ในทัณฑ์สายฟ้าเก้า์เท่านั้น
และทัณฑ์สายฟ้านั้นปรากฏเฉพาะในเวลาที่กำหนดเป็สิ่งที่พบได้แต่ไม่สามารถแสวงหาได้จะหามันได้อย่างไร
เมื่อเผชิญกับความงุนงงของทุกคนซูเซวียนเพียงกล่าวสองคำ“สายฟ้ามา!”