นิ้วของฉินเฟิงยังไม่กดปุ่มวางสายเขาพูดเสียงต่ำ“ฉันอยู่ที่ห้องพิเศษบนชั้นบนสุดของโรงแรมบ้านพักบอกผู้จัดการในล็อบบี้ให้พาเธอขึ้นมา อย่าลืมบอกชื่อฉันไปด้วยล่ะ”
ห้านาทีต่อมาเสียงออดที่ห้องพิเศษของฉินเฟิงดังขึ้นประตูถูกเปิดออกและจูต้านิวที่ใส่ชุดหรูหราแต่งหน้าก็เดินเข้ามา
เมื่อเธอยืนอยู่ในห้องพิเศษจูต้านิวก็ต้องตะลึง ตอนที่เธอเป็เมียน้อยของเฉาหยางเธอติดตามเขาไปสถานที่ไฮโซหลายที่แต่มันไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับห้องพิเศษของฉินเฟิงเลย
ความปรารถนาที่จะฉินเฟิงของเธอก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเธอคงจะทำทุกอย่างแค่เพื่อเป็คนรักของเขา
“ฉันไม่ชอบพูดเื่ไร้สาระกับคนแปลกหน้า เข้าเื่เลย”
ฉินเฟิงเพิ่งออกมาจากสปาเขาใส่ชุดคลุมและมองจูต้านิวอย่างสงบนิ่ง เขาพาเธอมานั่งใต้ร่มกันแดดบนระเบียง
จูต้านิวหวงแหนโอกาสนี้เธอไม่รีบพูดแต่เธอคิดเรียบเรียงคำพูดก่อนที่จะพูดออกมาแทน
ความจริงหลังจากที่ค้นพบตัวจริงของฉินเฟิงที่ร้านเครื่องประดับหวงเจียครั้งสุดท้ายจูต้านิวฝันทั้งวันทั้งคืนว่าฉินเฟิงอาจจะตกหลุมรักเธอและเปย์เธออย่างไรก็ตามกับไป๋ชิงที่อยู่ด้วยแล้วฉินเฟิงจะตกหลุมรักเธอได้อย่างไร?
ดังนั้นจูต้านิวจึงคิดแผนขึ้นมาในสมัยเรียนเธอเป็เพื่อนร่วมห้องเดียวกับไป๋ชิงและความสัมพันธ์ของพวกเธอก็ไม่ได้แย่ หลังจากคืนที่คะแนนสอบเข้าถูกประกาศจูต้านิวก็หดหู่และอารมณ์ไม่ดีเธอจึงเรียกไป๋ชิงไปที่บาร์เพื่อย้อมใจ
สำหรับไป๋ชิงคืนนั้นเป็คืนที่พลิกชีวิตของเธอจากหน้ามือเป็หลังมือ
จูต้านิวอิจฉาที่ไป๋ชิงเป็สาวสวยของโรงเรียนและมีคะแนนศิลปศาสตร์อยู่ระดับท็อปของเมืองเธอตั้งใจจะมอมไป๋ชิงให้เมาเมื่อมีผู้ชายมาจีบเธอจูต้านิวจึงเริ่มช่วยผู้ชายคนนั้นและส่งไป๋ชิงถึงเตียงของผู้ชายคนนั้นได้อย่างสำเร็จ
จูต้านิวรู้ว่าเธอไม่ได้แย่กว่าไป๋ชิงมากนักไป๋ชิงไม่ได้บริสุทธิ์มานานแล้ว เธอก็ยังแกล้งทำเป็เทพธิดาบริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งหมดนั่นขี้โม้ทั้งเพ
“นายน้อยฉินคะ ฉันมาที่นี่เพื่อบอกเื่สำคัญเกี่ยวกับไป๋ชิงฉันรับรองได้ว่าไป๋ชิงไม่มีทางกล้าที่จะบอกเื่นี้กับคุณแน่แม้ว่าเธอจะดูใสซื่อบริสุทธิ์..”
“ถ้าเธอกำลังจะพูดจาไร้สาระงั้นก็ออกไปได้แล้ว”ฉินเฟิงกล่าวอย่างเ็าขณะที่จิบไวน์แดง
“นายน้อยฉินคะ ไป๋ชิงไม่ได้ซิงอีกต่อไปแล้วก่อนที่เธอจะเป็กิ๊กของคุณเธอถูกคนอื่นเล่นสนุกด้วยมาก่อน” จูต้านิวไม่กล้าใส่สีตีไข่เธอรีบพูดออกมา “ฉันเห็นด้วยตาตัวเองเลยฉันสาบานต่อเทพเ้าเลยว่าคืนหลังการสอบเข้ามหา’ ลัยและเรียนจบเธอเมาที่บาร์และถูกผู้ชายพาตัวไป เธอเป็ผู้หญิงใจง่ายเธอไม่ดีพอที่จะเป็เมียเก็บของนายน้อยฉินหรอกค่ะ”
“แล้วเธอเหมาะนักหรือไง?” สายตาของฉินเฟิงเหลือบไปมองจูต้านิวเธอเงียบทันที
ฉินเฟิงก็เงียบเขาแค่อยากจะรู้เื่ของไป๋ชิงเพื่อทำภารกิจ ‘แก้ไขความเกลียดชังของไป๋ชิง’ของระบบราชันเ้าสำราญให้เสร็จเท่านั้น เขาไม่รู้จริงๆว่าเขาไปหาเื่ไป๋ชิงตอนไหน และความเกลียดชังนี้มาจากไหน
ตอนที่เขาได้ยินสิ่งที่จูต้านิวพูดเขายังจับจุดไม่เจอเห็นได้ว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย
“ฉันคิดว่าเธอเข้าใจผิดแล้ว ไป๋ชิงไม่ใช่เมียเก็บของฉัน เธอออกไปได้แล้ว”ฉินเฟิงจ้องดุไปยังจูต้านิว
จูต้านิวคิดว่าเธอต้องสำเร็จอย่างแน่นอนและไม่รู้ว่ามันจะจบแบบนี้เธอไม่พอใจอยู่ลึกๆ ทันใดนั้นเธอก็เปิดรูปในโทรศัพท์ของเธอและยื่นไปให้ฉินเฟิงดู
“นายน้อยฉินคะ คุณไม่เชื่อฉันใช่ไหม? ดูสินี่คือรูปที่ฉันถ่ายไว้ไป๋ชิงกับผู้ชายคนนั้นกำลังกอดกันอย่างใกล้ชิดหลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าห้องกันสิ่งที่ฉันบอกจริงแท้แน่นอน”
ฉินเฟิงคิดว่าจูต้านิวน่ารำคาญนิดหน่อยเขากำลังจะปาโทรศัพท์ของเธอทิ้งไปแต่ก็หยุดกลางคันเสียก่อน
เขาอ้าปากค้างและมีสีหน้าช็อกสุดขีดดวงตาของเขาแทบถลนออกมาราวกับเห็นผี
เขาหยิบโทรศัพท์มาดูคนในรูปใกล้ๆทันที รูปนี้ถ่ายที่บาร์ มีผู้ชายและผู้หญิงกำลังกอดกันใบหน้าของผู้หญิงถูกถ่ายไว้เธอน่ารักไร้เดียงสา เธอมีรอยยิ้มพราวเสน่ห์มีฟันขาวสวยและเป็นักเรียนที่ยังสาวอยู่ถ้าจูต้านิวไม่พูดว่านี่คือไป๋ชิงมองผิวเผินฉินเฟิงก็คงไม่รู้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามเมื่อมองดูรูปร่างเธอใกล้ๆเขาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือไป๋ชิงสมัยเรียนมัธยมปลายจริงๆ
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาหลักปัญหาหลักคือผู้ชายที่กำลังกอดไป๋ชิงจากด้านหลังต่างหาก
ร่างของผู้ชายหันมากอดไป๋ชิงและเขาก็ใส่หมวกเนื่องจากแสงในบาร์ริบหรี่ใบหน้าของเขาจึงเป็แค่เงาและมองเห็นไม่ชัดถึงอย่างนั้นฉินเฟิงก็เคยเห็นคนคนนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เขาอยากจะกินหมัดตัวเอง
เขาขยายภาพอีกครั้งอีกครั้ง และอีกครั้ง สีหน้าบนใบหน้าของเขาตื่นตระหนก ตื่นใและยิ่งใมากขึ้นไปอีก...เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งเพิ่มพูนในใจของเขาทันทีชายในรูปนี้คือฉินเฟิงเมื่อห้าปีก่อน นายน้อยฉิน!
ฉินเฟิงปาโทรศัพท์ไปที่โต๊ะเขาเริ่มหอบอย่างรุนแรงเขาคิดอย่างหนักเกี่ยวกับคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อนและเศษเสี้ยวความทรงจำก็พรั่งพรูขึ้นมา
บาร์ที่เต็มไปด้วยความเอ็ดตะโรแสงสีกะพริบพรึบพรับไปมาเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของผู้คน...ทันใดนั้นเด็กสาวก็โผล่ขึ้นมาเธอใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนดอกลิลลี่ที่เบ่งบาน เธอยืนเด่นอย่างชัดเจนในบรรยากาศที่โสมมของบาร์
เธอใส่เดรสสีขาวสว่างผมสั้นสีดำเงา รอยยิ้มของเธอมีเสน่ห์ดึงดูดเผยฟันสีขาวเรียงตรงและผิวของเธอก็เรียบเนียน ทุกกิริยาของเธอดึงดูดใจของฉินเฟิงสุดท้ายแล้วฉินเฟิงก็เริ่มเข้าหาเธอเขาพบว่าเด็กสาวคนนี้เมาแล้วมันง่ายมากที่จะหลอกเธอขึ้นเตียง
ในตอนนั้นฉินเฟิงยังเป็นายน้อยเ้าสำราญอยู่เขามีผู้หญิงมากมายต่อวัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตื่นขึ้นในวันถัดมาเขามองไปยังไป๋ชิงที่ยังหลับอยู่เมื่อแสงอาทิตย์ส่องกระทบใบหน้าที่สวยงามและแสนบริสุทธิ์ของเธอฉินเฟิงก็เห็นรอยยิ้มหวานบางๆ บนริมฝีปากของเธอ มันเป็ครั้งแรกที่เขาหวั่นไหวเขามองไปที่ดอกไม้สีเืที่บานอยู่บนผ้าปูเตียงสีขาวทันใดนั้นแม้แต่เขาก็ยังไม่เชื่อว่าเขาจะปรารถนาอยากจะแต่งงานกับเด็กสาวคนนี้และปกป้องเธอทั้งชีวิต
ฉินเฟิงรู้ว่านี่เป็อาการตกหลุมรักเขาไม่เชื่อว่านายน้อยเ้าสำราญอย่างเขาจะมีวันที่เขามีความรู้สึกอะไรแบบนี้กับผู้หญิง
ความสุขของชีวิตมาถึงเร็วมากมันไม่แม้แต่จะให้นายน้อยฉินได้มีโอกาสเตรียมพร้อม เขาแต่งตัวและรีบออกจากโรงแรมเขากำลังจะไปซื้ออาหารเช้าสุดเลิศหรูมาให้ไป๋ชิงเพื่อที่เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาจะได้กินอาหารที่อร่อยที่สุด
จากนี้เป็ต้นไปเขาจะเริ่มดูแลสาวสวยบริสุทธิ์คนนี้เขากำลังจะทำให้เธอเป็ผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก...
“นายน้อยฉิน นายน้อยฉินคะ...” จูต้านิวเรียกฉินเฟิงอย่างระมัดระวัง“ตื่นค่ะนายน้อยฉิน”
ฉินเฟิงกลับออกมาจากความทรงจำั้แ่ตอนที่เขาหลับตาจนถึงตอนที่ลืมตาอีกครั้งเขาผ่านไปห้าปีตอนนี้ความรู้สึกทั้งหมดได้เติมเต็มหัวใจและสมองก็หมุนติ้วอย่างบ้าคลั่งราวกับเชื่อมต่อทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับไป๋ชิงในตอนนี้
เขาเข้าใจแล้ว...ในที่สุดเขาก็เข้าใจทุกอย่าง
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้ไป๋ชิงถึงติดกล้องในห้อง666ของโรงแรมหวงเจียเพื่อใส่ร้ายเขา ทำไมบางครั้งเธอถึงเ็าแปลกๆกับเขาเหมือนกับกำลังรักษาระยะห่างกับเขาอยู่ทำไมเธอถึงโกรธและเป็บ้าตอนที่เธอได้ยินคำว่า ‘คู่ขา’
เธอกำลังแก้แค้นนั่นเองเธอ้าแก้แค้นเขา
ดังนั้นเขาจึงพบสาเหตุของภารกิจ‘แก้ไขความเกลียดชังของไป๋ชิงที่มีต่อโฮสต์’ ในระบบแล้ว
ทันใดนั้นฉินเฟิงก็สงบจิตสงบใจลงทันทีเขาตระหนักว่าไป๋ชิงไม่ได้อยู่ในห้องแล้วและรีบโทรหาเธอ
“ไป๋ชิง คุณอยู่ไหน?” ฉินเฟิงถามอย่างร้อนรนเมื่อสายติด
“ฉันกำลังนั่งดื่มชาอยู่ชั้นสาม” ไป๋ชิงกล่าวอย่างไร้อารมณ์เธอไม่รู้ว่าทำไมแต่เธอตั้งใจพูดเพิ่มเข้าไป “กับฟางจื้อิ”
หลังจากที่ไป๋ชิงพูดจบเธอได้ยินเสียงฉินเฟิงวางสายและเสียง‘ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด’ ดังตามหลัง
สีหน้าของไป๋ชิงบึ้งลงและเธอก็โยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิดด้วยเหตุผลบางอย่างเธอรู้สึกเศร้า อีตานี่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรจริงๆเหรอตอนที่เขาได้ยินว่าเธอกำลังดื่มชากับฟางจื้อิ?
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยสนใจเกี่ยวกับเธอจริงๆ
“ฉินเฟิงเหรอ?” ฟางจื้อิยังคงมีรอยยิ้มสุภาพบุรุษเขามองไป๋ชิงอย่างอ่อนโยน
ไป๋ชิงพยักหน้าสายตาของเธอเหลือบมองไปที่ชายหาดด้านนอกหน้าต่างและเหม่อลอยอีกครั้ง
ความเ็าที่เกือบจะมองไม่เห็นแวบผ่านสายตาของฟางจื้อิเมื่อเขาคิดเื่ไอ้เด็กฉินเฟิงนั่นเขาก็หงุดหงิดจนคัน
อย่างไรก็ตามนี่เป็่เวลาที่สำคัญฟางจื้อิไม่อยากจะเอาฉินเฟิงมาข้องเกี่ยว เขาเริ่มเปลี่ยนหัวข้อไปสมัยเรียนเนื่องจากฉินเฟิงไม่ได้อยู่ในความทรงจำพวกนั้นมีแค่เขากับไป๋ชิงเท่านั้น
“ไป๋ชิง จำตอนที่ผมเขียนจดหมายรักไปหาคุณตอนปีสองและคุณก็ปฏิเสธได้ไหม?หัวใจผมเป็แผล และใช้เวลาตั้งสามเดือนกว่าจะเย็บมันได้...แป๊บเดียวห้าปีก็ผ่านไปแล้ว ในตอนนั้นผมได้ค้นหาที่อยู่ของคุณผมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ในเมืองเว่ยเฉิงเลย”
สายตาของฟางจื้อิจับจ้องไปที่หน้าอกตระการตาของไป๋ชิงและอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือเข้าไปจับมือของไป๋ชิงไป๋ชิงสะดุ้งใและถอยเก้าอี้ด้วยสัญชาตญาณ
“ไป๋ชิง จริงๆแล้วผมไม่คิดว่าจะได้เห็นคุณอีกครั้งและเราทั้งคู่ก็ยังไม่แต่งงานนี่ไม่ใช่ว่าเป็โชคชะตาหรอกเหรอ? แม้แต่์ยังคิดเลยว่าเราควรจะอยู่ด้วยกันเลยเปิดโอกาสให้เรามาเจอกันอีกครั้ง”
“ครั้งนี้ผมเตรียมพร้อมไว้แล้ว ผมชอบคุณมากจริงๆ แม้ว่าคุณจะปฏิเสธผมเมื่อห้าปีก่อนแต่ในระหว่างห้าปีนั้น หัวใจของผมก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงผมหวังว่าคุณจะยอมรับและให้โอกาสผมดูแลคุณตลอดชีวิตนะ”