แปะ! แปะ! แปะ!
สิ่งที่ตอบกลับมาแก่เสว่อู๋เหินกลับเป็เสียงปรบมือที่ดังขึ้นมา แน่นอนว่าเย่ชิงหานไม่ได้กลัวหรือรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับมองเสว่อู๋เหินเป็เหมือนกับตัวตลกที่กำลังทำการแสดงอยู่
ฉะนั้นเขามีอะไรจะต้องกลัว? ลู่ซีอยู่ภายในหอเซียวเหยาที่สามารถปรากฏตัวออกมาได้ทุกเวลา ความจริงแล้วก่อนที่เขาจะมาที่นี่เขาได้ใช้โอกาสสามครั้งที่ขอร้องให้ลู่ซีทำอะไรก็ได้ให้เขาอย่างหนึ่ง เขาขอให้ลู่ซีช่วยคุ้มครองผู้คนทั้งหมดของเขตปกครองเทพา ลู่ซีรีบรับปากขึ้นในทันทีอย่างยินดี ดังนั้นตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้ต้องห่วงกังวลอีก ส่วนเื่พลังฝีของเสว่อู๋เหินเขาไม่เคยมองอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ดูการแสดงจบเขาจึงปรบมือขึ้นด้วยความพอใจ ไม่ได้สนใจเสว่อู๋เหินแต่หันไปทางหมันก้านแล้วพูดขึ้นอย่างทอดถอนใจ “หมันก้านเอ๋ยหมันก้าน! ห้าปีกว่าไม่ได้พบเจอข้านึกว่าหลังจากที่ผ่านเื่บนเกาะแห่งความมืดมิดเ้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น! เฮ้อ...คิดไม่ถึงว่าเ้ายังคงไม่เอาไหนอยู่เช่นเดิม! แค่เสว่อู๋เหินก็ทำให้เ้ากลัวได้ถึงเพียงนี้แล้ว? ต่อไปเ้าจะเป็ผู้ปกครองเผ่าคนเถื่อนได้อย่างไร? จะสยบหัวใจของหญิงสาวเผ่าคนเถื่อนได้อย่างไรกัน?
น้ำเสียงคำพูดของเย่ชิงหาน ลักษณะการวางตัวของเย่ชิงหานทำให้ผู้คนทั้งหมดเกิดความสนใจขึ้น ในเมื่อรู้ถึงพลังฝีมือของเส่วอู๋เหินแล้วยังทำท่าทางผ่อนคลายสบายใจได้ถึงเพียงนี้ ยังคงสงบเยือกเย็นพูดจาหยอกเย้าสนุกสนานได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือว่าเขาจะมีดีซ่อนเอาไว้?
ดวงตาของเย่ชิงอวี่ เย่ชิงอู่ เยว่ชิงเฉิงต่างล้วนปรากฏแสงแห่งความลุ่มหลงวาบผ่าน เห็นหรือยังนี่ก็คือผู้ชายของพวกนาง บุรุษมหัศจรรย์ที่มีเพียงคนเดียวในโลก แม้ขุนเขาจะกดทับศีรษะสีหน้าก็ไม่เปลี่ยนแปลง
“ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเพียงแค่แมลงสิบสองตัวถึงทำให้เ้ากลัวได้ถึงเพียงนี้ แม้จะดูเหมือนว่าพวกแมลงเหล่านี้จะถูกป้อนด้วยยาสมุนไพรพิษเข้าไปนิดหน่อย แต่ในสายตาข้ามองว่าสามารถบีบพวกมันให้ตายได้อย่างง่ายดาย!”
เย่ชิงหานมองดูโดยรอบทั้งสี่ทิศอย่างไม่สนใจไยดี มือลูบไปที่แหวนเซียวเหยาที่อยู่บนนิ้ว จากนั้นอาวุธสีดำที่ดูไม่ใช่ดาบและไม่ใช่กระบี่แต่ดูคล้ายไม้บรรทัดเหล็กก็ปรากฏออกมาจากกลางอากาศมาอยู่ในมือ ทำการควงสะบัดฟาดฟันบนอากาศอยู่หลายครา มือข้างที่กำดาบชี้มาทางเสว่อู๋เหินแล้วพูดขึ้น “เข้ามาได้เลยเสว่อู๋เหิน แสดงให้ข้าได้เห็นหน่อยสิว่า สิ่งที่เ้าไปเรียนมาได้แค่เพียงเล็กน้อยจากนครแห่งเทพนั้นจะสามารถต้านทานดาบของข้าได้กี่ครั้ง!”
“แหวนมิติ!”
“อืม...อาวุธสีดำสนิทเล่มนี้มันคืออะไร? ดูท่าทางทรงพลังไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว?”
“น่าสนใจ เย่ชิงหานผู้ที่ถูกเล่าขานกันทั่วทั้งเขตปกครองเทพาผู้นี้ดูเหมือนจะมีดีอยู่ไม่น้อย แต่ว่า...จะสามารถจัดการกับเสว่อู๋เหินได้หรือไม่เท่านั้นเอง?”
“ข้าว่าไม่น่าจะเป็ไปได้ แม้กระทั่งผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิอย่างเยาจีและถูเฮยล้วนถูกเสว่อู๋เหินสังหารในพริบตา เย่ชิงหานอายุเพียงเท่านี้จะมีความสามารถอะไร? เขาคงไม่น่าจะรอดเช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่ต้องมาสูญเสียคนหนุ่มที่มีพร์เช่นนี้ไปอีกคน...”
สิ่งที่เย่ชิงหานแสดงออกมาทำให้ทุกคนพลันร้องอุทานเบาๆ ออกมาด้วยความประหลาดใจ แหวนมิติพวกเขารู้จักโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำระดับสูงของแต่ละขุมกำลังต่างล้วนมีกันอยู่บ้าง แต่พวกเขาที่อยู่ในที่นี้ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้ ตอนนี้เห็นเย่ชิงหานนำอาวุธที่ดูแปลกประหลาดออกมาจากแหวนมิติชิ้นหนึ่งต่างอดไม่ได้ที่จะคาดเดากันขึ้นด้วยความสงสัย เพียงแต่ว่าพลังฝีมือของเสว่อู๋เหินนั้นแข็งแกร่งมากจนเกินไปจึงทำให้ไม่มีผู้ใดมั่นใจในตัวเย่ชิงหานแม้แต่น้อย
“อ้อ หลายปีมานี้เ้าเองก็คงพอมีการพัฒนาขึ้นมาบ้างเล็กน้อยสินะ เอาละ...ในเมื่อเป็เช่นนั้นเ้าก็ควรตายไปได้แล้ว ส่วนผู้หญิงของเ้าข้าจะช่วยเ้าดูแลเอง!” เมื่อเสว่อู๋เหินเห็นเย่ชิงหานแสดงของดีออกมาเช่นนี้ อีกทั้งพูดเปิดเผยถึงการมีอยู่ของแมลงสิบสองตัวของเขา ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา เขาไม่อยากที่จะปล่อยให้ยืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว หากชักช้าไปยิ่งกว่านี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันยากเกินจะควบคุมขึ้นมาก็เป็ได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าจะลงมือสังหารเย่ชิงหานเสียในทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว...
ภายใต้การควบคุมของเสว่อู๋เหิน พื้นดินทั้งสี่ทิศโดยรอบพลันปรากฏแสงสว่างสีทองสิบสายโผล่ขึ้นมาจากใต้พื้นดิน แสงสีทองทั้งสิบสายเ่าั้พุ่งเข้ามาจากทิศต่างๆ จากมุมต่างๆ รุมโจมตีเข้าใส่เย่ชิงหาน เขาเชื่อมั่นว่าไม่ว่าเย่ชิงหานจะทำการหลบหลีกเช่นไรก็ไม่สามารถที่จะหลบการโจมตีของแมลงปีกแข็งสีทองทั้งสิบตัวไปได้ทั้งหมด ขอแค่เพียงมีตัวใดตัวหนึ่งที่กัดลงไปบนตัวของเขาต่อให้เป็เทพก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้
เย่ชิงหานไม่ได้ทำการหลบหลีกแต่อย่างใด แม้เขาจะฝึกฝนพลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่ซึ่งสามารถคำนวณทิศทางและรูปแบบของการโจมตีของแมลงทั้งสิบตัวออกมาได้แล้วก็ตาม อาศัยท่าเท้าเปลี่ยนรูปย้ายเงาเขามีความมั่นใจแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายเข้าไปโผล่อยู่เบื้องหน้าของเสว่อู๋เหินแล้วใช้วิชาเนตรสยบิญญาจัดการกับเขาได้
แต่เขาไม่ได้หลบหลีกแล้วทำเช่นนั้น เขาหรี่ตาลงแล้วะโลอยขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับด้านหลังที่ปรากฏแสงสีม่วงลึกลับออกมา จากนั้นดาบสังหารเทพที่อยู่ในมือพลันฟาดฟันพลังแสงคมดาบที่แปลกประหลาดนับไม่ถ้วนออกมา
เขาเลือกทำการโจมตีออกไปเพราะเขาไม่มีความจำเป็จะต้องหลบ! แม้แมลงปีกแข็งสีทองจะน่ากลัวเพราะถูกป้อนด้วยสมุนไพรที่เป็ยาพิษชนิดร้ายแรง แต่ก็อย่าลืมว่าแมลงปีกแข็งสีทองก็เป็สิ่งมีชีวิตที่มีิญญาเช่นเดียวกัน และเห็นได้ชัดว่าระดับพลังิญญาของแมลงปีกแข็งสีทองไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่าผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิ ดังนั้นเมื่อถูกพลังหลอนสั่นคลอนิญญาเข้าไปเ้าแมลงปีกแข็งสีทองทั้งสิบตัวนี้จึงมึนงงไปในทันที
“กระบวนท่าวายุติดตามท่าที่เจ็ด ท่าตัดแยกทลายแมลง!”
พลังิญญาของเย่ชิงหานเล็งเป้าแมลงทั้งสิบตัวไว้ั้แ่แรกแล้ว เมื่อใช้ท่าพลังหลอนสั่นคลอนิญญาออกไปการเคลื่อนที่ของแมลงทั้งสิบตัวเชื่องช้าลงจนเริ่มจะร่วงหล่นลงไปสู่พื้น มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา จากนั้นจึงฟันพลังแสงคมดาบสีเขียวออกไปหลายสายพุ่งเข้าใส่แมลงเ่าั้จนถูกฟันขาดออกจากกันเป็สองซีก พลังป้องกันของแมลงปีกแข็งสีทองแม้จะแข็งแกร่ง และดาบสังหารเทพแม้จะยังไม่รู้ระดับที่แน่นอน แต่กระทั่งหุนตี้เองก็ยังเอ่ยปากพูดเองว่าเป็อาวุธที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“เปลี่ยนรูปย้ายเงา!”
หลังจากที่เย่ชิงหานฟันดาบออกไปสิบกว่าครั้งจึงใช้ท่าเปลี่ยนรูปย้ายเงาเลือนหายไปจากกลางอากาศ ส่วนแมลงทั้งสิบตัวถูกผ่าออกเป็สองซีกร่วงหล่นลงมาสู่พื้นเบื้องล่างท่ามกลางสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของผู้คนทั้งหลาย ซากร่างของแมลงปีกแข็งสีทองทั้งยี่สิบส่วนดูราวกับใบไม้สีเหลืองที่ถูกลมของฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านร่วงหล่นลอยปลิวไปตามแรงลมฉันนั้น...
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นี่มัน...”
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็ไปได้!”
“โอ้์...”
การลงมือของเย่ชิงหานเห็นได้ชัดว่าทำให้ผู้คนทั้งหมดตกตะลึงขึ้นจนสมองแทบจะหยุดทำงานไป ดวงตาของพวกเขาเดี๋ยวก็จ้องมองดูซากร่างของแมลงที่อยู่บนพื้น เดี๋ยวก็จ้องมองดูดวงตาของกันและกันไปมาอย่างไม่อยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็นฉันนั้น แมลงของเสว่อู๋เหินที่สามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิได้ในพริบตา สามารถทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ไม่กล้าแม้แต่ที่จะขยับตัว กลับ...กลับถูกเย่ชิงหานผ่าออกเป็สองซีกอย่างง่ายดายราวกับหั่นผักและฆ่าหมูฉะนั้น
“เป็ไปไม่ได้!!!”
เสว่อู๋เหินเองก็ไม่อยากที่จะเชื่อเช่นเดียวกัน เขากะพริบดวงตาหยินหยางเทาดำอยู่ปริบๆ แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้เห็น แมลงที่เขาเลี้ยงมายี่สิบปีระดับพลังความเร็วเทียบเท่าผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิ พลังป้องกันสามารถต้านทานการโจมตีจากสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ได้หลายครั้ง ระดับพลังโจมตีสามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือในระดับขอบเขตาาจักรพรรดิได้ทุกคนอย่างแมลงปีกแข็งสีทอง กลับถูกเย่ชิงหานผ่าออกเป็สองซีกได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?
เพียงแต่เขาไม่รู้เท่านั้นเองว่าพลังหลอนสั่นคลอนิญญาของเย่ชิงหานได้ทำให้แมลงทั้งสิบตัวอยู่ในสภาพมึนงงก่อนที่จะถูกฆ่า และเขาก็ไม่รู้อีกว่าดาบสังหารเทพเล่มนี้ของเย่ชิงหานคมกริบอย่างถึงที่สุด ผ่าแมลงของเขาได้ไม่ต่างจากการผ่าก้อนเต้าหู้...
แต่วินาทีต่อมาเขาพลันได้สติกลับคืน!
เย่ชิงหานเลือนหายไปแล้ว?
เขารู้สึกได้ถึงอันตรายจึงรีบโคจรพลังปราณรบขึ้นเตรียมตัวทำการหลบหนี ในเวลาเดียวกันก็ทำการควบคุมแมลงสองตัวที่เหลือที่อยู่เบื้องล่างให้กลับมายังร่างกายของตนเอง เพียงแต่...เมื่อเขาทำสิ่งเหล่านี้เสร็จเขาพบว่าเย่ชิงหานได้ปรากฏตัวออกมาจากกลางอากาศมาอยู่เบื้องหน้าของเขาแล้วพร้อมกับรอยยิ้มยั่วเย้าที่มาพร้อมกับแสงสีม่วง ในเวลานั้นเขาร้องขึ้นภายในใจว่า ‘จบกัน’ แล้วก็หมดสติไป
เย่ชิงหานส่ายหน้าขึ้นเบาๆ สะบัดดาบสังหารเทพออกไปฆ่าแมลงอีกสองตัวที่ซ่อนอยู่ใต้เท้าของเสว่อู๋เหินจนขาดออกเป็สองซีก จากนั้นยื่นมือออกไปกุมลำคอของเสว่อู๋เหินเอาไว้ชูขึ้นกลางอากาศหันหน้าของเขาไปยังทิศทางที่ทุกคนอยู่ สภาพที่เย่ชิงหานจับเสว่อู๋เหินยกชูเหมือนจับคอเป็ดไก่ตัวหนึ่งฉันนั้น ดูสบายๆ และช่างง่ายดาย
ต่อมาเขาส่ายหน้าขึ้นอีกครั้งแล้วจึงแทงดาบสังหารเทพเข้าไปยังตำแหน่งบริเวณท้องน้อยของเสว่อู๋เหินครั้งหนึ่งโดยไม่ได้สนใจต่อเสื้อเกราะป้องกันที่เป็สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย
ซี่...
เสียงที่ดังราวกับลูกบอลรั่วดังขึ้นท่ามกลางลานกว้างที่เงียบงันนั้น ตันเถียนของเสว่อู๋เหินถูกเย่ชิงหานทำลายลง พลังปราณรบจำนวนมากผสมกับเืสีแดงสดของเสว่อู๋เหินไหลทะลักพรั่งพรูออกมา ทำให้ระดับพลังฟ้าดินที่อยู่ภายในห้องโถงใหญ่ของเส้นทาง์เข้มข้นขึ้นมาอีกหลายส่วน
เมื่อการต่อสู้อันดุเดือดนี้จบลง เย่ชิงหานก็ค่อยๆ ถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นเขาก็ทำสายตางุนงงสงสัยมองไปยังทุกคนแล้วเอ่ยขึ้น “ทำไมข้ารู้สึกว่า เสว่อู๋เหิน...ก็ไม่เห็นจะเก่งกาจอันใดเลย?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้