เมื่อคิดถึงลูกน้อยทั้งสองที่อยู่ในท้อง นางจึงเริ่มจินตนาการขึ้นมา ทั้งสองคนกำลังมีความสุข โดยที่ไม่ได้สังเกตว่าตรงหน้ามีรถม้าคันหนึ่งจอดลง ดวงตาทั้งสองข้างกำลังมองเขม็งจ้องมาที่นาง
“แปลก เหตุใดข้ามองนางแล้วจึงรู้สึกคุ้นเคยนัก?” โจวอ้าวเสวียนขมวดคิ้ว นี่คือครั้งที่สองที่เขาเห็นแผ่นหลังนี้ ครั้งแรกคือที่ท่าเรือ ภายใต้ผู้คนที่เดินไปมาอย่างเร่งรีบ แผ่นหลังนี้กลับติดอยู่ในใจ รู้สึกแค่ว่าแผ่นหลังของคนผู้นั้นช่างคุ้นตาเสียจริง
หลังจากทำงานเสร็จก่อนจะเข้านอน จู่ๆ กลับคิดขึ้นมาได้ว่าแผ่นหลังนั้นคือเฉินเนี้ยนหรานไม่ใช่หรือ
วันนี้ยามเห็นสตรีนางนั้นลูบท้องกลมของตนเอง ความคุ้นเคยจึงยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีก
ลางสังหรณ์ของเขาแม่นยำเสมอ
ว่าคนนี้คือผู้ใด?
“จอด!”
โจวอ้าวเสวียนสั่งให้จอดรถม้าโดยไม่คิดสิ่งใดทั้งนั้น
เฉินเนี้ยนหรานที่ถูกเื่ฝาแฝดทำให้ใอยู่ จึงไม่ทันสังเกตว่ามีบุรุษคนหนึ่งกำลังสาวเท้ายาวๆ มาทางตน
รอจนกระทั่งนางพบว่าตรงหน้าจู่ๆ ก็มีคนมุ่งหน้าเข้ามาหา เมื่อเงยหน้าขึ้นและสบเข้ากับดวงตาตกตะลึงคู่นั้น
โลกถล่มลงในวินาทีนั้น การตอบสนองตอนนี้ เฉินเนี้ยนหรานคิดเพียงอยากจะหนีไปให้ไกล บางทีวันนี้นางไม่ควรจะมาที่นี่
เหตุใดกันนะ เฉินเนี้ยนหรานยังคิดว่าหากวันนั้นนางไม่ไปเดินบนถนน ชาตินี้คงไม่มีความเกี่ยวข้องกับโจวอ้าวเสวียนอีก
ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนกับความรู้สึกของทั้งสองคนนี้ ที่คลุ้มคลั่งจนไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดใดมาบรรยาย
โจวอ้าวเสวียนจ้องท้องของนางที่นูนขึ้นมาผิดปกติ เืทั้งร่างคล้ายจะหยุดไหล
กลับเป็เฉินเนี้ยนหรานที่หลังจากตกตะลึงเพียงชั่ววินาที มือที่กำอยู่ก็คลายออกและทำความเคารพโจวอ้าวเสวียน “ที่แท้ก็เป็คุณชายห้านั่นเอง ข้ายังมีของที่ต้องซื้อ ขออนุญาตกลับก่อนนะเ้าคะ”
หมุนตัวแล้วจากไปโดยไม่ทิ้งความรู้สึกใดใดไว้เลย
แต่โจวอ้าวเสวียนกลับพุ่งมาอยู่ตรงหน้าของนาง มือสั่นๆ ค่อยๆ ยื่นมาวางลงที่ท้องของนาง
ท่าทางนี้ทำให้เฉินเนี้ยนหรานใกอดท้องของตนเองแน่น “คุณชายห้า โปรดระวังกิริยาด้วยเ้าค่ะ”
หนิวซื่อเห็นว่าคนรอบๆ กำลังชี้มาทางนี้ จึงมองโจวอ้าวเสวียนด้วยสีหน้าขาวซีด “คุณชายท่านนี้ ไร้มารยาทเกินไปแล้ว นายหญิงพวกเรารีบไปเถิดเ้าค่ะ”
ตอนนี้ทั้งสองคนไม่สนใจเลือกห้องแล้ว เฉินเนี้ยนหรานมีเพียงความคิดเดียวคือรีบออกห่างจากบุรุษผู้นี้
นางรู้สึกเสียใจภายหลังมาก ปกปิดมาหลายเดือน เหตุใดจึงไม่สำรวม เหตุใดถึงได้ออกมาเดินข้างนอก ทั้งยังเจอกับคนที่เป็ทั้งคนรักและศัตรูเช่นคนผู้นี้
“เฉินเนี้ยนหราน นั่นคือลูกของข้า” แต่นางไปไม่ได้ โจวอ้าวเสวียนหมุนตัวมาจับมือของนางเอาไว้ กัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา ดวงตาถลึงมองแล้วยังสีหน้าดุดัน ทำให้เฉินเนี้ยนหรานใ รีบส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่...”
โจวอ้าวเสวียนในตอนนี้ ทำให้นางรู้สึกว่าเขาไม่ชอบที่นางตั้งครรภ์ลูกของเขามาก และชีวิตของเขาจะต้องออกเรือนกับสตรีหลายคน สามารถพูดได้ว่าต่อไป เพื่ออำนาจแล้ว เขามีความเป็ไปได้ที่จะแต่งอนุเข้ามาอีก และจะมีสตรีอีกมากมายที่จะคลอดลูกของเขา
แต่นางเป็เพียงสตรีในหมู่บ้านกลางเขาคนหนึ่งเท่านั้น
“ไปกับข้า” โจวอ้าวเสวียนเห็นท่าทีของนางจึงโกรธจนหน้าเขียว สตรีคนนี้ตั้งครรภ์แล้วยังกล้าที่จะหนีไปอย่างเห็นแก่ตัว ทั้งยังไม่บอกเขาสักคำ
เมื่อเห็นแววตาหม่นแสงของเขา เฉินเนี้ยนหรานค่อยๆ สงบลง นางในตอนนี้จะหวั่นไหวไม่ได้
กลับเป็หนิวซื่อ “เฮ้ คุณชายท่านนี้ ท่านลากนายหญิงของข้าด้วยเหตุใด รีบปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ”
โจวอ้าวเสวียนกวาดตาไปมอง “ไสหัวไป” เขาในตอนนี้กำลังโกรธมาก มีหรือจะมีสีหน้าที่ดีกับสตรีที่เข้ามาขวางตนเอง หนิวซื่อเมื่อถูกเขาตำหนิก็ใยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง
“ได้ พวกเราไปกัน” เฉินเนี้ยนหรานตีมือของเขา จัดเสื้อผ้าของตนเอง แล้วเงยหน้าเดินไปข้างหน้า “ไปเถิด คุณชายห้า”
มองผู้คนที่รุมมองอยู่บนถนนไม่ไกล ทั้งยังมีคนกำลังพูดกันเงียบๆ ชี้มาทางโจวอ้าวเสวียนที่มีหน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดา นั่นคือคุณชายห้าซึ่งยามนี้เป็ญาติกับราชวงศ์ และวันนี้ก็เป็ถึงผู้นำสกุลโจว คนเช่นนี้กลับมาฉุดรั้งสตรีท้องโต...
ใจของเฉินเนี้ยนหรานสงบลง เื่ในวันนี้ถูกโจวอ้าวเสวียนทำร้ายจนหมดสิ้นจริงๆ
เพียงแต่ ตอนนี้จะต้องจัดการให้คุณชายกลับไปเสียก่อน
ทั้งสองคนเดินมาถึงโรงเตี๊ยมที่อยู่ไม่ไกลหลังหนึ่ง นี่เป็สถานที่ที่เฉินเนี้ยนหรานทานข้าวกับหนิงเซียงเมื่อครู่ คิดไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงครู่เดียวก็ต้องกลับมาที่นี่อีก
เฉินเนี้ยนหรานถอนหายใจ สั่งหนิวซื่อที่ยืนเป็กังวลอยู่ไม่ไกล “พี่สะใภ้ เ้ายืนรออยู่ข้างนอกก่อน ข้ากับคุณชายห้าเคยรู้จักกันมาก่อน”
หนิวซื่อมองออกว่านายหญิงกับโจวอ้าวเสวียนคุ้นเคยกัน ดังนั้นจึงรับคำและไปยืนอยู่ด้านข้าง
เมื่อเข้าไปในห้อง เฉินเนี้ยนหรานก็พาท้องโตๆ ของตนเองไปนั่งอยู่ตรงข้ามโจวอ้าวเสวียน
“กล้าปกปิดแล้วตั้งครรภ์ลูกของข้า เฉินเนี้ยนหราน เ้านี่เก่งกาจเสียจริง” โจวอ้าวเสวียนมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตาดุร้าย ตอนนี้ใจของเขายังไม่ตื่นมาเผชิญความเป็จริง
เฉินเนี้ยนหรานยกชาขึ้นมาจิบเบาๆ “คุณชายห้า ข้ากับท่าน...เหมือนจะเคยมีความสัมพันธ์กันแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะเ้าคะ!”
มองมุมปากของนางเผยยิ้มหยัน โจวอ้าวเสวียนเกิดความรู้สึกแปลกใจ “เ้าหมายความว่าอย่างไร?” เขาเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างไร” เฉินเนี้ยนหรานค่อยๆ วางถ้วยชาลงอย่างไม่รีบร้อน “เพียงรู้สึกว่าท่านภูมิใจว่าตนเองเก่งกล้ามากไป มีความสัมพันธ์เพียงหนึ่งครั้ง ท่านคิดว่าจะทำให้ข้าตั้งครรภ์ได้หรือ?”
นางปรายตามองเขา รอยยิ้มยิ่งแฝงความเย้ยหยันมากขึ้น
นางที่เป็เช่นนี้ ทำให้ความนิ่งสงบภายนอกของโจวอ้าวเสวียนพังทลาย
“เ้า...เ้าคิดจะพูดสิ่งใด? สมควรตายนัก!”
เฉินเนี้ยนหรานเงยหน้าขึ้น จ้องเขาด้วยความเห็นใจ “คุณชายห้า ข้าคิดว่าท่านเข้าใจผิดมาตลอดแล้ว ั้แ่ต้นจนถึงตอนนี้ ลูกที่ข้าตั้งครรภ์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับท่านเลย เด็กคนนี้คือลูกของข้า ของเฉินเนี้ยนหรานคนนี้ ข้ามีสัมพันธ์กับท่านคืนนั้น ยามที่ยังอยู่ในจวนของท่านข้าได้ดื่มน้ำแกงระงับการตั้งครรภ์เข้าไปแล้ว จวนของท่านยิ่งใหญ่เพียงนั้นน้ำแกงระงับการตั้งครรภ์คงไม่เป็ของปลอมหรอกกระมัง? พ่อของเด็กคนนี้ ไม่ใช่ท่าน”
“เพล้ง...” ถ้วยชาที่โจวอ้าวเสวียนกำอยู่ในมือถูกบีบจนแตก
มองใบหน้าของเขาที่โกรธจนสั่น เฉินเนี้ยนหรานจึงหลุบตาลง ปกปิดความสงสารเอาไว้ในใจ “ข้าไม่ได้มีบุรุษเพียงแค่ท่านคนเดียว พ่อของเด็กเป็คนอื่น แม้จะเป็เื่ที่ไม่คาดคิด แต่ข้ายังอยากจะคลอดเด็กคนนี้ออกมา” นางหลับตาลง ทำท่าทางเ็ปเจียนตาย
นางที่เป็เช่นนี้ทำให้ใจของโจวอ้าวเสวียนเย็นเยียบ เพราะท่าทางเช่นนี้ของนางดูคล้ายไม่ได้โกหก
“คุณชายห้า พวกเรามีความสัมพันธ์กันแค่คืนเดียว มันจบลงไปแล้ว ต่อไปไม่ต้องมาหาข้าอีก ข้าเพียงปรารถนาใช้ชีวิตอยู่กับลูกอย่างสงบสุข ท่านมีฮูหยินแล้ว ข้าเองก็มีชีวิตของตนเอง ชะตาของพวกเรามันจบลงไปนานแล้วเ้าค่ะ”
เมื่อพูดประโยคนี้จบ เฉินเนี้ยนหรานก็ลุกขึ้นแล้วรีบออกไป
โจวอ้าวเสวียนไม่ได้รั้งเอาไว้อีก เขาแค่จ้องเศษถ้วยชาตรงหน้า
ฝ่ามือของเขามีเืหยดลงมา แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ หัวใจเหมือนถูกคนแทงจนเป็รู เจ็บจนเกินจะทานทน
เขาเจ็บ สตรีนางนั้นเคยผ่านมือชายอื่น เขาเกลียด เกลียดสตรีนางนั้นที่หลายใจ...
หนิวซื่อเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอกห้อง พร้อมทั้งปลอบลูกไปด้วย จนกระทั่งเห็นเฉินเนี้ยนหรานเดินออกมา นางจึงรีบรุดเข้าไปหา “นายหญิง”
เฉินเนี้ยนหรานเอามือไปวางไว้ที่ฝ่ามือของนางอย่างไร้เรี่ยวแรง “พี่สะใภ้ พวกเราไปกันเถิด”
หนิวซื่อใที่พบว่า นายหญิงที่ปกติมักจะนิ่งเฉยราวกับูเาไท่ซาน ตอนนี้กลับตัวสั่นไปทั้งตัว สีหน้าขาวซีด
จึงยกมือข้างหนึ่งไปประคองหน้า ถึงได้พบว่าร่างกายของนางเกร็งแน่น
ท่าทางเ็ปจนเหมือนิญญาหลุดออกมา ทำเอาหนิวซื่อใรีบพยุงนางออกไปด้านนอก ไม่สนใจจะประหยัดตำลึงเรียกรถม้าพากลับเรือน ตอนถูกลมพัดบนรถ ใจของเฉินเนี้ยนหรานถึงสงบลงมาบ้าง
“นายหญิง กลับไปแล้วดื่มน้ำสักหน่อยนะเ้าคะ” หนิวซื่อไม่กล้าถามนายหญิงว่าเกิดเื่ใดขึ้น แต่ลางสังหรณ์ของนาง คุณชายห้าที่ดูมีอำนาจไม่ธรรมดานั้นกับนายหญิงมากความสามารถของนาง เกรงว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมาก
หลังจากกลับมาถึงเรือน เฉินเนี้ยนหรานดื่มน้ำอุ่นแล้วเรียกสองสามีภรรยาสกุลจ้าวมา หลังจากสั่งงานเสร็จแล้วจึงได้นอนลงพักผ่อน
ขณะเดียวกัน ที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าสกุลโจว
“อะไรนะ? เ้าบอกว่าเหล่าอู่ลากสตรีท้องโตคนหนึ่งหรือ? จริงหรือ?” ฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“เ้าค่ะ จากที่ข้ามองไกลๆ อยู่ครู่หนึ่ง สตรีนางนั้นเหมือนว่าจะเป็หญิงอุ่นเตียงของคุณชายห้าเมื่อตอนนั้น” โจวฝูค้อมตัวรายงานอีกครั้ง
“เช่นนั้นก็ไม่แปลก ดี ดี ดี ดีมาก ข้ายังกังวลถึงปัญหาที่เหล่าอู่จะไม่มีทายาท ตอนนี้มีเื่ของสาวใช้คนนี้ ตอนนี้ดีแล้ว ฮ่าๆ ”
โจวฝูไม่ได้หัวเราะตาม ทว่ากลับทำท่าทางอยากจะพูดแต่ไม่ยอมพูดออกมา
“โจวฝู เ้าอยู่กับข้ามานานแล้ว มีปัญหาอันใดก็พูดมาตรงๆ ” ฮูหยินผู้เฒ่ามองท่าทางลังเลของนางออกจึงเก็บรอยยิ้มแล้วนั่งลง
“ขออนุญาตฮูหยิน ตอนแรกข้าจำได้ว่าข้านำน้ำแกงระงับการตั้งครรภ์ให้สาวใช้คนนี้ดื่มแล้ว ตอนนั้นน้ำแกงนี้เป็ฮูหยินเป็คนให้นำไปให้ด้วย เด็กคนนี้...จะเป็ลูกของคุณชายห้าจริงหรือ?”
รอยยิ้มของฮูหยินผู้เฒ่าแข็งค้าง “จริงด้วยสิ ตอนนั้นข้าได้ให้น้ำแกงระงับการตั้งครรภ์ไปจริง หลังจากนั้นสาวใช้คนนั้นได้ใกล้ชิดกับคุณชายอีกหรือไม่?”
“เื่นี้โจวฝูไม่ทราบเ้าค่ะ”
ฮูหยินเฒ่าหน้าตึงเครียด “เื่ที่เกี่ยวข้องกับทายาทสกุลโจว เ้าไปสืบมาให้ละเอียด รวมถึงเื่ของสตรีนางนั้นล้วนต้องไปสืบมาให้ข้าอย่างละเอียด เื่นี้หากทำได้ดีล่ะก็เ้าจะได้รางวัลไม่น้อย”
“เ้าค่ะ เื่นี้ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด แม้เส้นผมสักเส้นข้าก็จะสืบหาให้ชัดเจน” โจวฝูรับคำหนักแน่น
ฮูหยินผู้เฒ่าที่ผ่านเื่น่ายินดีและน่าเสียใจ อารมณ์จึงหดหู่มาก โบกมือบอกให้โจวฝูออกไป
สาวใช้ที่คอยดูแลอยู่ข้างกายนางมาตลอดค่อยๆ ก้มตัวให้นางอย่างระมัดระวัง
“หงเอ๋อร์ ข้ารู้สึกว่าสาวใช้คนนั้นจะต้องตั้งครรภ์ทายาทของสกุลโจวอยู่”
หงเอ๋อร์ยิ้มอ่อน “เ้าค่ะ ฮูหยินพูดว่าใช่ เช่นนั้นก็ต้องใช่เ้าค่ะ”
“เ้านี่น่ะ เฮ้อ เพียงแต่เื่น้ำแกงระงับการตั้งครรภ์จะอธิบายอย่างไรล่ะ?”
แววตาของหงเอ๋อร์วาววับขึ้น เื่บางเื่ คำพูดบางคำ นางไม่สามารถพูดออกมาได้ตรงๆ เื่ในจวนนี้ปากมาก หูตาเป็สับปะรด
