ในตอนที่หลินหร่านกำลังจะเดินออกไปจากทะเลสาบนั้น
“เ้าไม่อยากรู้หรือว่าปีนั้น เ้าตายได้อย่างไร” หลินเสี่ยวฉีะโไล่หลัง
หลินหร่านหยุดชะงักฝีเท้าโดยพลัน
ปีนั้น? หมายถึง่ที่เขาอายุสิบขวบอย่างนั้นหรือ ตอนที่เ้าของร่างเดิมในตอนนั้นถูกคนผลักตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง
ถึงแม้ว่าหลินหร่านเวลานั้นจะไม่ใช่ตัวเขา แต่เขาก็อยากรู้
เหตุใดถึงได้เป็เช่นนั้น? เวลานั้นเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดเขาถึงได้มาเกิดในร่างนี้?
และเป็เพราะว่าเขาได้มาอยู่ในร่างของผู้อื่น ถึงได้พบเจอคนรักเพียงผู้เดียวที่เขามีในสองชาติภพ
ดังนั้น นี่ถือเป็หน้าที่ของเขาที่จะช่วยหาสาเหตุการตายของเ้าของร่างเดิม
หลินหร่านหันกลับมามองหลินเสี่ยวฉี
“พระชายาเพคะ อย่าไปฟังเื่ไร้สาระจากนางเลยเพคะ”
“นั่นสิเพคะ เรารีบไปจากที่นี่กันเถิดเพคะ”
เหม่ยจื่อกับหลานจื่อต่างพยายามโน้มน้าว
หลินหร่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ว่าหลินเสี่ยวฉีไม่น่าไว้ใจ แต่ว่า…
“ข้ารู้...แต่...ข้าอยากรู้เื่นี้ยิ่งนัก” หลินหร่านเอ่ยเสียงเบากับตนเอง ทว่าติงหร่วนและคนอื่นๆ ต่างก็ได้ยิน
หลินหร่านก้าวไปด้านหน้าก่อนเดินกลับไปที่ศาลา พวกติงหร่วนจึงไม่ได้เอ่ยห้ามอะไรอีก
หลังจากที่หลินหร่านฟื้นกลับมาก็ถูกผู้คนกล่าวหาว่าเป็คนที่มีลางร้าย จนกระทั่งถูกขับไล่ออกจากจวนแม่ทัพ ั้แ่นั้นเป็ต้นมา พระชายาก็ใช้ชีวิตอย่างกับมดไปวันๆ
เมื่อต้องหวนนึกถึงปีที่ตนเองจบชีวิต พระชายาคงรู้สึกปวดใจทุกครั้ง นี่คงเป็เหตุให้พระชายาอยากรู้เื่นี้
นี่คือสิ่งที่ติงหร่วนกับหลานจื่อคิด จึงได้ทำใจปล่อยพระชายาไป
หลินหร่านกับหลินเสี่ยวฉีพูดคุยกันอยู่บนศาลา ติงหร่วนและคนอื่นๆ ยืนรออยู่รอบๆ ศาลาไม่ห่างไปมากนัก
หากหลินเสี่ยวฉีคิดจะลงมือทำอะไรขึ้นมา พวกเขาจะได้เข้าไปช่วยทัน
“เ้าพูดมาเถอะ ในตอนนั้นข้าตายได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าตกลงไปในหลุมน้ำแข็งหรอกหรือ?” หลินหร่านเริ่มบทสนทนา กล่าวเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว
“เ้าได้เป็พระชายาจ้านหวังคงสุขสบายดีสินะ” หลินเสี่ยวฉีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง แววตาดูเศร้าสร้อย
หลินหร่านขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ดูท่าทางเ้าคงจะมีความสุขมาก...แต่เ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็ทุกข์และเ็ป มารดาข้าตายเพราะเ้า ท่านพี่ของข้าพิการก็เพราะเ้า…อีกทั้งท่านอ๋องผู้นั้นยังคิดจะทำลายชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าอีก” หลินเสี่ยวฉีเริ่มแผดเสียงอันแหบแห้ง
หลังจากหลินหร่านกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่จวน เวลาต่อมาหลินฮวาเหนียนก็ค้นหาสามีให้กับนาง
เริ่มแรกนั้น ผู้ที่มาสมัครล้วนแต่ธรรมดา ไม่มีใครถูกใจนางเลย บางคนก็ยังไม่ดีพอ บางคนทางบ้านก็ฐานะไม่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของนางมักเอาหลินหร่านมาเปรียบเทียบเสมอ แต่สามีของหลินหร่านเป็ถึงชายผู้ถูกขนานนามว่าเทพเ้าแห่งา จะหาคนธรรมดาที่ไหนมาเปรียบเทียบได้
หลังจากนั้น ไม่รู้เป็เพราะท่านอ๋องรับรู้อะไรเข้า ถึงได้คิดว่านางออกเรือนช้าเกินไป
หลินฮวาเหนียนเป็บิดาของหลินหร่าน อวี้ฉู่จาวคงไม่อยากลงมือทำอะไรเองนักจึงได้ริเริ่มหาคนมาจัดการแทน
ไม่นานก็มีแม่สื่อผู้หนึ่งกล่าวอ้างนามของท่านอ๋องพาคนมาสมัคร หากไม่ใช่คนพิการจากหมู่บ้านทางตะวันออกก็เป็คนใบ้จากหมู่บ้านทางตะวันออก
นางยังบอกอีกว่าให้แม่นางหลินเป็ผู้เลือกเอง
หลินเสี่ยวฉีไม่ใช่คนโง่เขลา การกระทำเช่นนี้ นับว่าเป็การผลักให้นางตกลงไปในกองเพลิงชัดๆ
สำหรับงานเลี้ยงเทศกาลชมดอกไม้วันนี้ ฮองเฮาได้ส่งกฤษฎีกาไปยังจวนของเหล่าขุนนางในเมืองหลวงทุกคน ในนั้นเขียนไว้ว่าหญิงสาวที่อายุเหมาะสมแก่การออกเรือนแล้ว สามารถมาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้ เนื่องจากฮองเฮา้าเลือกสนมให้กับองค์ชายสี่อวี้ฉู่เฉิง!
จวนแม่ทัพฮวาเวยก็ได้รับกฤษฎีกานี้
เนื่องจากในจวนไม่มีบุตรสาวคนอื่นแล้ว หลินฮวาเหนียนจึงไม่ได้คิดจะให้ใครมาร่วมงาน
ทว่า เมื่อหลินเสี่ยวฉีทราบเื่นี้แล้ว นางจึงได้คุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาส
แม้หลินฮวาเหนียนไม่อยากละเมิดคำสั่งของท่านอ๋อง แต่เขาก็ไม่อยากให้บุตรสาวของตนไปแต่งงานเป็ภรรยาชาวป่าชาวเขา จึงได้รับปากให้นางมาร่วมงาน
หลินเสี่ยวฉีอยู่ในสถานะที่แสนต่ำต้อยและโดดเดี่ยว หากถูกเลือกให้เป็สนมขององค์ชายก็จะได้เข้ามาอยู่ในวังหลวง ถึงอย่างนั้น เวลานี้นางก็ทำได้แค่รออยู่รอบนอกเพื่อให้ถูกเรียกเข้าไปเท่านั้น
เมื่อครู่นี้เอง นางจึงได้เห็นท่าทีของเหล่าฟูเหรินน้อยใหญ่และฮองเฮาที่ไม่พอใจหลินหร่าน
ตอนแรกคิดว่าจะได้เห็นอีกฝ่ายเป็ตัวตลก แต่ใครจะไปรู้ กลับกลายเป็อีกครั้งที่รู้สึกราวกับถูกโจมตี
หลังจากนางเห็นว่าหลินหร่านออกมาจากสวนอวี้ฮวาแล้ว นางจึงรีบใช้โอกาสนี้แอบตามมา
ฉับพลัน หลินเสี่ยวฉีก้าวเข้ามาใกล้หลินหร่าน
เมื่อหลินหร่านเห็นว่าหลินเสี่ยวฉีมีท่าทีเปลี่ยนไปจึงถอยหลังออกมาสองก้าว
“เ้าดูสิ คุณชายน้อยตระกูลหลินของเราเปลี่ยนไปมากเพียงไหน” หลินเสี่ยวฉีมองหลินหร่านที่สวมฮวาฝู1 พร้อมกับท่าทีที่ดูมีพลังเมื่อครู่ แล้วเมื่อมองดูตนเอง “ในขณะที่เ้าค่อยๆ ดีขึ้น แล้วเหตุใดข้าถึงได้ยิ่งแย่ลงล่ะ”
“เ้า้าจะพูดอะไรกันแน่” หลินหร่านเริ่มทนไม่ไหวกับท่าทีแปลกๆ ของหลินเสี่ยวฉี
หากคนผู้นี้ไม่ได้รู้สาเหตุการตายของเขาจริงและมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้ง เขาก็ไม่อยากจะพูดคุยด้วยแล้ว
หลินเสี่ยวฉีเห็นท่าทีไม่พอใจของหลินหร่านจึงส่ายหัวเบาๆ “ได้ ข้าไม่พูดแล้ว”
หลินหร่านเป็คนที่มีอารมณ์โกรธเคืองเช่นนี้ได้อย่างไร หากเป็เมื่อก่อน ไม่ว่าพวกเขาพูดหรือทำอะไรก็ได้แต่แสดงท่าทีอ่อนแอและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
เช่นนั้นแล้ว เหตุใดเมื่อเข้าไปอยู่ในตำหนักของท่านอ๋องเพียงไม่นาน กลับแสดงอารมณ์มากมายเช่นนี้
“ต่อจากนี้ เรามาพูดถึงสาเหตุการตายของเ้ากันเถอะ”
หลินหร่านรอฟังในทันที
“น่าจะเป็ตอน่ฤดูหนาว...” หลินเสี่ยวฉีเอ่ยเสียงต่ำลงพลางก้าวเข้าไปใกล้หลินหร่าน “ทะเลสาบที่อยู่หลังจวนแม่ทัพของเรากลายเป็ลานน้ำแข็งทั้งหมด พอถึงหน้าหนาว พวกเราเหล่าเด็กๆ ในจวนต่างก็ชอบพากันไปเล่นที่นั่น โดยเฉพาะเ้า ตอนนั้นท่านพ่อทำรถน้ำแข็ง2 ให้เ้ากับมือ รถน้ำแข็งคันนั้นทำออกมาได้ดีทีเดียว ่ที่ท่านพ่ออยู่ข้าไม่กล้าแม้แต่จะแตะมันด้วยซ้ำ แต่ปีนั้นท่านพ่อไม่อยู่ ข้าเลยขอเ้า แต่เ้าไม่ให้ข้า ข้าจึงแย่ง…”
หลินเสี่ยวฉีเล่าเื่นี้ไปพร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มของนางชวนให้ผู้คนที่เห็นล้วนตื่นตระหนกและหวาดกลัว
“พอเ้าไม่ให้ข้า ในตอนที่เ้านั่งอยู่บนรถน้ำแข็ง ข้าจึงออกแรงผลักเ้า รถน้ำแข็งเริ่มวิ่งเร็วจนหยุดไม่ได้ เ้าออกห่างไปไกล ก่อนจะค่อยๆ ตกลงไป…” หลินเสี่ยวฉีเปลี่ยนมาเอ่ยเสียงดังในตอนท้าย
หลินหร่านฟังแล้วเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจ ใน่ท้าย เขาถูกทำให้ใจนตัวสั่น
ความทรงจำการตายของเ้าของร่างเดิมที่เขามีนั้นขาดหาย ในตอนนั้น หลินหร่านคิดว่าเป็นางเว่ยที่หาคนมาผลักเขาให้ตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง
ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วจะเป็หลินเสี่ยวฉีที่เจตนาก่อเหตุเองกับมือ
ความทรงจำของเ้าของร่างเดิมยังคงอยู่ในหัวเขา แต่บางอย่างหากไม่ได้ถูกกระตุ้นก็จะจำไม่ได้ ไม่รับรู้และไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อผลึกนั้นถูกเปิดออก ความทรงจำเ่าั้จึงหลั่งไหลกลับมา
เวลานี้เ้าของร่างคือเขา ความทุกข์และความหวาดกลัวเ่าั้จึงตกมาอยู่ที่เขาที่ต้องเป็คนแบกรับ
ฝ่ามือคู่นั้น ทะเลสาบกว้างใหญ่ ฝ่ามือและฝ่าเท้าที่เย็นเฉียบทำให้เขาหมดสติและหายใจไม่ออกจากการสำลักน้ำ…
“เป็อย่างไร นึกออกหรือยัง? เ้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยใช่หรือไม่ว่าเป็ข้า เพราะตอนนั้นเ้ามองไม่เห็นข้าด้วยซ้ำ มือทั้งสองข้างของข้าจับไหล่ของเ้าเอาไว้เช่นนี้” หลินเสี่ยวฉีขยับมาอยู่ด้านหลังของหลินหร่าน นางวางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่เขา
ติงหร่วนกับหลานจื่อที่มองดูการกระทำของหลินเสี่ยวฉีอยู่ด้านล่างของศาลา เมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนศาลาทันที
ทว่า…
“พอข้าออกแรง เ้าก็ตกลงไป”
ศาลาอยู่ข้างทะเลสาบ ถึงแม้จะมีรั้วกั้นขวางอยู่ แต่หลินหร่านที่จมอยู่กับความทรงจำของเ้าของร่างเดิมในเวลานั้น ทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากความรู้สึกหวาดกลัวต่อความตายได้
เพียงหลินเสี่ยวฉีออกแรงควบคู่ไปกับเจตนาที่้ากระทำ ทำให้ทั้งคู่ตกลงไปจากศาลา ร่วงหล่นลงไปในทะเลสาบ
เมื่อตกลงไป สายน้ำจึงสาดกระเด็นเป็วงกว้าง
------------------------------------------------
1 ฮวาฝู หมายถึง ชุดที่มักใส่ในโอกาสสำคัญต่างๆ กล่าวได้ว่าเป็ชุดที่ค่อนข้างเป็ทางการกว่าชุดที่สวมใส่ปกติ
2 รถน้ำแข็ง คือ ตัวรถซึ่งมีที่นั่งและไม้ค้ำสำหรับเลื่อนบนลานน้ำแข็ง คล้ายกับสกี
