“ท่านอาหลี่ ท่านน้าจ้าว หลานขอร้อง พวกท่านให้หรูอี้ช่วยชีวิตท่านแม่ข้าด้วยเถิด” หลิวต้าอายุสิบเจ็ดปีร้องไห้จนใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
หลิวเสี่ยงน้องสาวคนที่สามที่มาด้วยกันกับหลิวต้าคุกเข่าลงบนพื้นเย็นๆ โขกศรีษะไปทางห้องโถงบ้านหลี่ที่ปิดสนิท กล่าวอย่างสะอึกสะอื้น “ขอร้องเถิด ได้โปรดช่วยท่านแม่ด้วย แล้วพวกเราพี่น้องจะยอมเป็วัวเป็ม้าเพื่อตอบแทนพวกท่าน”
ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงพากันเดินมาล้อมดูพี่น้องบ้านหลิว แต่ทำเพียงแค่ดูเท่านั้นไม่ได้เอ่ยปากถามถึงสาเหตุ
บิดามารดาของสองพี่น้องบ้านหลิวเป็คนเลวสุดขั้ว เพื่อเงินแล้วพวกเขาสามารถใช้ความตายของทารกในครรภ์มาข่มขู่หมอตำแย และหมอในร้านยาสมุนไพรของตำบลจินจีได้เลย สุดท้ายก็ถูกนายอำเภอห่าวโบยและส่งตัวเข้าคุก เื่นี้พัวพันมาถึงคนในหมู่บ้านที่ไม่อาจไปให้หมอในร้านยาตรวจรักษาได้อีก
เดิมทีจางซื่อจะได้ออกจากคุกในเดือนสิบสอง แต่เนื่องจากในคุกสภาพแย่เกินไป อีกทั้งนางร่างกายไม่แข็งแรงก็ต้องเข้าคุกแล้ว นางทนผ่านฤดูใบไม้ร่วงมาได้ แต่ไม่อาจทนฤดูหนาวที่เย็นะเืนี้ได้ สุดท้ายถูกความหนาวเย็นจนป่วยและอาการเก่ากำเริบ
ผู้ดูแลคุกย่อมไม่ตามหมอให้จางซื่อ ปล่อยให้นางอดทนอยู่เช่นนั้น ผ่านไปไม่ถึงสองวันเห็นสภาพของนางย่ำแย่จึงไปรายงานนายอำเภอห่าว
นายอำเภอห่าวก็ส่งคนมาตามสองพี่น้องหลิวไปรับตัวจางซื่อกลับบ้าน
เมื่อสองพี่น้องบ้านหลิวรับตัวจางซื่อมาแล้ว ก็ไปที่ร้านยาในอำเภอ หมอของร้านยาทั้งหลายได้ยินชื่อจางซื่อสตรีที่เอาความเป็ความตายของทารกในครรภ์มาข่มขู่หมอในตำบลจินจี พวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่รักษาให้นาง ทั้งยังด่าสองพี่น้องบ้านหลิวกลับมาอีกด้วย
หมอเหล่านี้กลัวนางจะข่มขู่เอาเงินจากพวกเขาก่อนตนเองจะตาย ต่อให้ถูกผู้อื่นด่าว่า เห็นคนจะตายแล้วยังไม่ช่วยอีก ก็ไม่คิดสนใจชีวิตของจางซื่อเลย
พี่น้องบ้านหลิวจึงต้องพาจางซื่อกลับบ้าน จากนั้นจึงมาขอร้องหลี่หรูอี้ให้ช่วยรักษาจางซื่ออีกครั้ง
“ท่านอาหลี่ ท่านน้าจ้าว หลานโขกศีรษะให้พวกท่านแล้ว ขอร้องเถิด พวกท่านโปรดเห็นใจหลานและน้องๆ ทั้งห้าคนด้วย โปรดเห็นแก่ที่พวกเราเป็คนบ้านเดียวกัน ให้หรูอี้ช่วยรักษาท่านแม่ด้วยเถิด” หลิวต้าเห็นประตูห้องโถงและห้องนอนของบ้านหลี่ยังคงปิดสนิท ไม่มีคนเดินออกมา มีเพียงสุนัขสองตัวที่เห่าพวกเขา ก็รู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ตอนที่หลี่สือมีเื่กับชวีผิง ตนทำได้เพียงมองแต่ไม่ได้เข้าช่วยเหลือ
จ้าวซื่อกดตัวหลี่ซานที่คิดจะลงจากเตียง กล่าวกระซิบว่า “เื่นี้ผู้ใดจะทราบว่าเป็เื่หลอกลวงหรือไม่ ท่านอย่าได้สนใจเลย”
“ข้าจะออกไปดูสักหน่อย ถือโอกาสกล่าวกับสองพี่น้องนั่นสักประโยค” หลี่ซานไม่อยากให้บุตรสาวของตนรับภาระทุกอย่างเพียงลำพัง จึงคิดจะออกไปพูดกับสองพี่น้องหลิวต้าให้ชัดเจน
ตอนนี้เองด้านนอกมีเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของหลี่เจี้ยนอันดังขึ้น “หลิวต้า ชื่อของน้องสาวข้าใช่ชื่อที่เ้าจะเรียกได้หรือ”
จากนั้นจึงเป็เสียงเ็าของหลี่ฝูคัง “ครั้งที่แล้วพวกเ้าก็มาใช้วิธี หนึ่งร้องไห้ สองก่อเื่ สามขู่ฆ่าตัวตาย มาขอให้น้องสาวข้าช่วยรักษาแม่เ้า โชคดีที่น้องสาวข้าฉลาดจึงไม่ไป มิเช่นนั้นพวกเ้าคงไม่ได้ใส่ความหมอและหมอตำแยในตำบลจินจี แต่จะมาใส่ความน้องสาวข้าแทน ทำไมคราวนี้พวกเ้าคิดใช้ลูกไม้เดิมอีกหรือ ไม่มีทาง!”
จากนั้นก็เป็เสียงของหลี่อิงฮว๋า “พวกเ้าอย่ามัวโขกศีรษะอีกเลย รีบกลับไปพาแม่พวกเ้าออกจากหมู่บ้านไปให้หมอที่มีใบรับรองตรวจรักษาเถิด”
สุดท้ายก็เป็เสียงของหลี่ิ่หาน “พวกเ้ามาโขกศีรษะบีบบังคับน้องสาวข้าอยู่ที่นี่ทำไม หากมีความสามารถก็ไปหาหมอที่ร้านยาในตำบลจินจีเถิด”
หลี่ซานเดินออกมา เห็นบุตรชายทั้งสี่ยืนเรียงกันอยู่ในลานบ้าน ด้านหน้าพวกเขามีหลี่สือ อู่อวี๋เหนียน อู่ต้า และอู่เอ้อร์ยืนอยู่ด้วย
หลี่สือไม่พูดอะไร ส่วนบุรุษครอบครัวอู่ที่เป็บ่าวไพร่ของบ้านหลี่ซึ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนก็เพิ่งจะมีโอกาสก้าวเดินออกมาร่วมวงเป็ครั้งแรก
ในหมู่ชาวบ้านมากกว่าครึ่งเป็คนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบ้านหลี่ กระทั่งอาศัยเต้าหู้ตระกูลหลี่หาเงินด้วยซ้ำ ตอนนี้จึงพากันกล่าวช่วยบ้านหลี่
หลิวเสี่ยงร้องไห้จนหายใจไม่ทัน หันไปกล่าวกับชาวบ้านว่า “คราวนี้ท่านแม่ไม่ไหวแล้วจริงๆ เ้าค่ะ ข้ากับพี่ใหญ่ไม่ได้โกหก”
หลิวต้ารีบสาบาน “ท่านอาหลี่ หากหลานโกหกขอให้ฟ้าผ่าตาย ขอให้ไม่ตายดี” เื่ที่จางซื่อและสามีหลอกหลี่หรูอี้ให้ไปรักษาที่บ้านคราวที่แล้ว ตอนนั้นหลิวต้าซึ่งเป็บุตรคนโตไม่อยู่บ้าน เพราะไปทำงานอยู่ข้างนอก ไหนเลยจะรู้ว่าพ่อแม่ของตนก่อเื่เช่นนี้
ตอนนี้คนบ้านหลี่และชาวบ้านของหมู่บ้านหลี่ไม่เชื่อคำพูดที่ออกมาจากปากคนบ้านหลิวอีกต่อไปแล้ว
หลี่หรูอี้ที่แต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้องนอน กล่าวกับหลิวต้าที่อยู่อีกฝั่งรั้วว่า “คราวที่แล้วท่านอารองของข้าทะเลาะกับพวกบ้านชวี เ้าออกมาช่วยเหลือท่านอารองไว้ น้ำใจนี้ข้าจดจำไว้แล้ว”
หลิวต้าเงยหน้ามองหลี่หรูอี้ที่เหมือนกับคุณหนูน้อยที่ดูสูงศักดิ์ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด กล่าวเสียงแ่ว่า “ตอนนั้นข้าไม่ได้ช่วยท่านอารองหลี่”
“เ้าลองพูดมาเถิดว่าตอนนี้แม่เ้ามีอาการเช่นไร” หลี่หรูอี้ไม่มีความคิดที่จะไปบ้านหลิว คิดเพียงจะจัดยาให้หลิวต้าเล็กน้อย เพื่อเป็การตอบแทนน้ำใจนี้
หลิวต้ากลัวหลี่หรูอี้จะเปลี่ยนใจ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านแม่หน้าซีดขาวยิ่งกว่าหิมะเสียอีก ทั้งยังตาเหลือกเป็บางครั้ง ยามหายใจก็มีอาการไอออกมามาก ตอนอยู่ในอำเภอยังพูดได้ประโยคสองประโยค แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านกระทั่งพูดก็ยังพูดไม่ออก และไม่เรียกพวกเราพี่น้องด้วย”
เมื่อชาวบ้านได้ยินอาการของจางซื่อก็คิดว่าใกล้ตายแล้ว ต่อให้เป็เทพเซียนลงมาจากฟ้าก็รักษานางไม่ได้ สายตาที่พวกเขามองไปยังพี่น้องบ้านหลิวจึงฉายแววเห็นใจอยู่บ้าง
หากจางซื่อไม่ได้ป่วยคงยังอยู่ในคุก ชาวบ้านย่อมไม่เห็นใจพี่น้องบ้านหลิว แต่ตอนนี้จางซื่อใกล้จะตายแล้ว หลิวต้าและน้องๆ ทั้งห้าคน หลิวซื่อคนเล็กที่สุดเพิ่งจะอายุสามขวบ ตอนนี้จะไม่มีมารดาแล้ว ต่อไปชีวิตคงจะลำบากมาก
หลี่หรูอี้เอ่ยถามหลิวต้า โดยมีสายตาที่เคร่งเครียดของคนในครอบครัวมองอยู่ “อาการป่วยของแม่เ้าสาหัสนัก ข้าจะไปจัดยาให้นาง รอสักครู่”
หลิวต้ายินดียิ่งนัก รีบโขกศีรษะขอบคุณโดยพลัน
ผู้ใดจะทราบว่าคนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ์ไม่ยอมปล่อยให้หลี่หรูอี้ช่วยชีวิตจางซื่อ ยายังไม่ถูกจัดออกมาจางซื่อก็จากไปเสียแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่สาม ท่านแม่ไม่มีลมหายใจแล้ว ท่านแม่ตายแล้ว” หลิวเอ้อร์บุตรชายคนที่สี่ของจางซื่อที่มีอายุแปดขวบร้องไห้ะโเรียกให้พี่ชายและพี่สาวกลับไป
หลิวต้ารีบวิ่งกลับไปยังบ้านอันหนาวเหน็บ จางซื่อที่นอนอยู่บนเตียงอันผุพังของบ้านไม่มีลมหายใจแล้ว
หลิวซานอายุหกขวบ หลิวซื่ออายุสี่ขวบ พวกเขารู้ว่าจางซื่อตายแล้ว จึงคุกเข่าลงจับมือจางซื่อพลางร้องห่มร้องไห้เรียกแม่
หลิวต้ามองไปยังใบหน้าที่ขาวซีดราวหิมะของจางซื่อ ในหูเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ของน้องๆ เขาคิดตำหนิตนเอง พึมพำว่า “ข้าไม่ควรไปให้หมอในร้านยาของอำเภอรักษาท่านแม่ ควรพาท่านแม่กลับหมู่บ้านมาให้หรูอี้รักษานานแล้ว”
ชาวบ้านใจกล้าหลายคนเดินตามเข้ามาที่บ้านหลิว เมื่อเห็นว่าจางซื่อตายจริงๆ ก็มีคนไปบอกหลี่หรูอี้ว่าไม่ต้องจัดยาแล้ว บางคนเห็นว่าเด็กบ้านหลิวน่าสงสารจริงๆ จึงเกิดใจดีพูดคุยกับพวกเขาเื่งานศพ
“จางซื่อชั่วร้ายยิ่งนัก ์คงอยากเก็บชีวิตนางกลับไป”
“น่าสงสารหลิวต้าและน้องๆ จะไม่มีแม่แล้ว”
“แม่อย่างจางซื่อ สำหรับพี่น้องหลิวต้าแล้วไม่มีย่อมดีกว่า”
“กล่าวไร้สาระอันใดกัน ต่อให้จางซื่อจะเลวเพียงใด แต่สำหรับหลิวต้าและน้องๆ ก็นับว่าไม่แย่”
“ไม่แย่บ้านเ้าสิ ตอนที่หลิวต้ายังอายุไม่ถึงสิบเอ็ดขวบก็ต้องออกไปทำงานแล้ว เงินที่เก็บสะสมไว้ก็ถูกจางซื่อเอาไปใช้จ่ายหมด ตอนนี้หลิวต้าอายุสิบเจ็ดแล้วยังไม่ได้แต่งงานเลย”
“หลิวพั่นน้องสาวคนที่สองของหลิวต้าอายุสิบขวบ ก็ยังถูกจางซื่อส่งไปเป็บ่าวให้ครอบครัวมีเงินแล้ว นางอายุสิบสามแล้วยังผอมราวกับลิง ยังไม่ถึงวัยปักปิ่นก็ต้องเป็นางข้างห้องแล้ว เ้าฟังแล้วคิดว่าจางซื่อดีกับลูกๆ หรือ”
จางซื่อและหลิวเป่ามีลูกด้วยกันหกคน บุตรชายคนโตหลิวต้า บุตรสาวคนรองหลิวพั่น บุตรสาวคนที่สามหลิวเสี่ยง บุตรชายคนที่สี่หลิวเอ้อร์ บุตรชายคนที่ห้าหลิวซาน และบุตรชายคนที่หกหลิวซื่อ
หลิวต้าและหลิวพั่นต้องออกไปทำงานหาเงินให้ครอบครัวั้แ่ยังเล็ก
หลิวเสี่ยงที่เพิ่งจะอายุสิบสามปีก็ถูกจางซื่อส่งไปเป็สาวใช้ให้ครอบครัวใหญ่เช่นกัน ต่อมาสองสามีภรรยาถูกจับเข้าคุก หลิวต้าไม่อยากให้หลิวเสี่ยงเดินตามรอยหลิวพั่นไปเป็นางข้างห้องอีก จึงรับตัวหลิวเสี่ยงกลับมา ให้นางดูแลน้องชายอยู่ที่บ้าน
แม้ว่าจางซื่อจะตายไปแล้ว คนในหมู่บ้านก็ยังพูดถึงเื่ไม่ดีที่นางและหลิวเป่ากระทำก่อนหน้านี้
ครอบครัวหลิวไม่มีเงิน หลิวต้าจำเป็ต้องขายที่ดินแล้วนำเงินครึ่งหนึ่งออกมาจัดงานศพง่ายๆ ให้จางซื่อ
ผ่านไปสองวัน บ้านหลิวก็มีข่าวร้ายอีกครั้ง มีคนตายอีกแล้ว
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้