“ท่านแม่ ท่านพ่อลำเอียงเกินไปแล้วเ้าค่ะ เขาเข้าข้างคนขาพิการตลอด ครั้งนี้เพื่อจัดงานแต่งให้เ้านั่น เขาขายข้าวของในจวนจนเกือบหมดเลยนะเ้าคะ”
“อย่าพูดถึงเ้าพิการบัดซบนั่นอีกเลย ผ่านมาหลายปีแล้วเขายังนอนเป็อัมพาตอยู่บนเตียง ข้าทนมามากพอแล้ว”
“ท่านแม่ ท่านไม่รู้จริงหรือเ้าคะ ว่าท่านพ่อมีทรัพย์สินเท่าไหร่?ข้าสงสัยว่าท่านพ่อจะซ่อนเงินเอาไว้เ้าค่ะ”
“ผู้ใดจะรู้ว่าเขามีเงินเท่าไหร่กัน ครานั้นข้ารู้เพียงว่าเขาเป็พ่อค้าผู้ร่ำรวยมาจากต่างถิ่น ซื้อที่ดินหลายสิบหมู่ ปลูกเรือนใหญ่เช่นนี้ในคราเดียว หากจื่อเฉินไม่ล้มขาหัก เขาคงไม่ต้องขายที่ดินมาเพื่อรักษาเ้าพิการนั่น”
แม่ผัวลูกสะใภ้คุยกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าคนที่พวกนางพูดถึงยืนอยู่หน้าประตู
ซ่งผิงเกลียดพวกนางยิ่งนักที่เรียกซ่งจื่อเฉินว่าคนพิการ เขายิ้มเยาะมุมปากมองดูพวกนางอย่างโกรธจัด ปีนั้นหากมิใช่เพราะอยากให้เฉินเอ๋อร์มีครอบครัวที่สมบูรณ์เขาคงไม่แต่งเฉียวซื่อเข้ามา นางไม่ต่างอะไรกับสตรีที่เขาเคยพบ สมองเต็มไปด้วยแผนการร้ายกาจ เขามองนางผิดไปจริงๆ
“ท่านแม่ ท่านพ่อต้องซ่อนเงินไว้แน่เ้าค่ะ เ้าคนพิการซื้อหนังสือ ซื้อยา ของพวกนั้นล้วนต้องใช้เงิน ท่านไม่คิดว่าท่านพ่อไม่ยุติธรรมหรือเ้าคะ?เขาล้มเหลวในการเป็พ่อเลี้ยงเสียจริง”
“คนบ้านเ้าใหญ่ ต่อให้ข้าซ่อนเงินไว้จริง เ้ามายุ่งได้หรือ?” ซ่งผิงขัดจังหวะแม่ผัวลูกสะใภ้ พวกนางใตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงซ่งผิง การนินทาว่าร้ายคนอื่นลับหลังแล้วโดนจับได้ ช่างน่าอับอายยิ่งนัก
“สามี ที่เฉินซื่อพูดถึงมิใช่ท่านนะเ้าคะ นางหมายถึงพ่อตนเองเ้าค่ะ” เฉียวซื่อยิ้มฝืนๆ อธิบายซ่งผิง แม่ม่ายอย่างนางแต่งเป็ภรรยาซ่งผิงได้ นางพอใจแล้ว เพราะคนในหมู่บ้านล้วนอิจฉานาง!
จวนของพวกเราดีที่สุดในหมู่บ้าน แบบเรือนสี่ประสานหลังใหญ่โต เดินไปทางใดก็มีหน้ามีตา ครานั้นนางเสียแรงไปตั้งเท่าใดเพื่อจับซ่งผิง!
คุณสมบัติอย่างซ่งผิงจะหาคนไม่เคยแต่งงานก็ย่อมหาได้
เมื่อครู่นางด่าซ่งจื่อเฉินว่าคนพิการ จะกระทบตำแหน่งของนางในใจสามีหรือไม่!
“ข้ารู้ว่าพวกเ้าไม่ชอบเฉินเอ๋อร์ แต่เขาคือบุตรชายของข้าจึงไม่้าให้ผู้ใดใส่ร้ายเขา ั้แ่แต่งเ้าเป็ภรรยา ข้ามั่นใจว่าไม่เคยทำผิดต่อเ้า เฉียวซื่อ” ซ่งผิงผิดหวังกับภรรยาคนนี้มาก หากมิใช่เพื่อหาสถานที่ปกปิดฐานะ เขาคงไม่ทนอยู่กับสตรีเช่นนี้
“สามี บ้านซย่าว่าอย่างไรบ้างเ้าคะ?พวกเขาไม่ยอมดองกับบ้านเราหรือ?” เฉียวซื่อเปลี่ยนเื่อย่างคนกลัวความผิด นางกลัวว่าหากไปแตะซ่งจื่อเฉินอีก สามีจะหย่าขาดนาง
สตรีออกเรือนหลายคนในหมู่บ้านโจว แม้แต่หมู่บ้านอื่นๆ ต่างก็อิจฉาชีวิตคู่ของนาง
ชีวิตนางดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากติดตามซ่งผิง ลูกชายหลายคนแต่งงานมีลูก นางปลื้มใจยิ่งนัก
“แน่นอนว่างานแต่งจัดขึ้นตามกำหนดเดิม เ้ากับคนของบ้านเ้าใหญ่ก็ใส่ใจให้มากขึ้นหน่อย งานต้องจัดอย่างสมเกียรติสมฐานะ ไม่ให้เสียหน้าตระกูลซ่ง” เื่จิ่นเซวียน ซ่งผิงไม่อยากบอกแม่ผัวลูกสะใภ้คู่นี้ ในเมื่อพวกนางคิดว่าจิ่นเซวียนอ่อนแอรังแกง่ายก็ให้พวกนางสมปรารถนาแล้วกัน
“บ้านซย่าให้สินสมรสหรือไม่เ้าคะ?” เฉียวซื่อถาม
“แม้ซย่าหลี่จวินจะเป็คนโลภ แต่เขาก็กลัวเสียหน้า เลยสัญญาว่าจะยกที่นาอุดมสมบูรณ์สองหมู่เป็สินสมรสให้จิ่นเซวียน ส่วนสินสมรสอย่างอื่นข้ายังไม่รู้” ทันทีที่ซ่งผิงเอ่ยจบ พวกแม่ผัวลูกสะใภ้ก็อยู่ไม่สุข ที่นาอุดมสมบูรณ์สองหมู่หลายตำลึงเชียวหนา
ตอนเฉินซื่อกับเหล่าพี่น้องสะใภ้แต่งเข้าบ้านซ่ง สินสมรสมีเพียงผ้าห่มสองสามผืน กล่องไม่กี่หีบ และเงินก้นถุงสองสามตำลึงเท่านั้น เทียบกับจิ่นเซวียนแล้วสินสมรสพวกนางช่างน้อยนัก
“เกาซื่อและเสี่ยวเกาซื่อตระหนี่ถึงเพียงนั้น พวกนางให้ที่นาสองหมู่จริงหรือเ้าคะ?ข้าไม่เชื่อเลยเ้าค่ะ” เฉียวซื่อไม่เชื่อว่าจิ่นเซวียนจะมีสินสมรส
“สินสมรสถูกเตรียมไว้ตอนซย่าซิ่วไฉยังมีชีวิตอยู่ ได้ยินมาว่าลูกสาวของซย่าซิ่วไฉก็มีสินสมรสสองหมู่เช่นกัน พวกเ้าอย่าได้ดูเบาภูมิหลังตระกูลซย่าซิ่วไฉ พวกเขาถือเป็ตระกูลใหญ่ในหมู่บ้านซย่า” ซ่งผิงพอใจจิ่นเซวียนนัก เพราะนอกจากจิ่นเซวียนจะไม่ได้เป็ที่รักของตระกูลซย่าแล้ว นางยังเป็คุณหนูตระกูลซิ่วไฉ อ่านออกเขียนได้ ในหมู่บ้านซย่า นางเป็สตรีโดดเด่นมีชื่อเสียง ทว่าหากบุตรชายสุดที่รักของเขาไร้ข้อบกพร่อง คงไม่ให้แก้วตาดวงใจแต่งสตรีบ้านไร่มาเป็ภรรยาหรอก
“ท่านพ่อ ในเมื่อน้องสะใภ้เป็คุณหนูตระกูลซิ่วไฉ นางจะทำงานบ้านเป็หรือเ้าคะ?” เมื่อเฉินซื่อคิดว่าชาติกำเนิดของจิ่นเซวียนสูงกว่า นางก็กลุ้มใจ
“เด็กคนนั้นขยันและจิตใจดี ทำงานเป็แน่นอน พวกเ้าวางใจเถิด เื่ดูแลจื่อเฉินก็มอบให้จิ่นเซวียนไป พวกเ้าจะทำสิ่งใดก็ไปทำ” ซ่งผิงเป็พ่อเลี้ยงที่ใจดีมาก เงินที่ลูกบุญธรรมกับหลานหามาได้ นอกจากส่วนที่ต้องจ่าย เขาก็ไม่เอาอะไรมาก กลับกันจะให้เพิ่มเสียด้วยซ้ำ
ลูกบุญธรรมเป็ชายสามคน หญิงหนึ่งคน เขารักและสงสารบุตรสาวบุญธรรมที่โดนเรียกว่าสตรีอัปลักษณ์มากที่สุด นางมีปานเขียวคล้ำบนใบหน้า โดนมองเป็ลางร้าย จนแม่ผู้ให้กำเนิดยังรังเกียจนาง ตอนนี้บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ก็ยังไม่แต่งออกไป เฮ้อ อายุยี่สิบห้ายี่สิบหกแล้ว เขาร้อนใจแทนนางจริงๆ
“สามี พิธีแต่งงานต้องใช้เงินแต่ข้าไม่มีเลย ข้าควรทำอย่างไรดีเ้าคะ?” เฉียวซื่อไม่อยากเข้าเนื้อ นางเลยเอ่ยปากขอซ่งผิง ซ่งผิงจึงหยิบตั๋วเงินห้าสิบตำลึงส่งให้นาง
“นี่คือเงินก้อนสุดท้ายของข้าแล้ว เ้าเอาไปจัดการเอง ค่ายาเดือนหน้าของเฉินเอ๋อร์ข้าต้องไปล่าสัตว์ถึงจะมีเงินซื้อ”
ที่จริงซ่งผิงมีเงินเก็บส่วนหนึ่งอยู่ที่ร้านแลกเปลี่ยนเงิน เป็เงินส่วนที่เขานำออกมาจากเมืองหลวงในปีนั้น หากมิสุดวิสัยจริงๆ เขาคงไม่ใช้เพราะจะเก็บไว้ปูทางให้บุตรชาย
“งานแต่งในชนบทไม่มีค่าใช้จ่ายมากนัก ห้าอีแปะ [1] ซื้อข้าวสารได้ถึงหนึ่งถัง เนื้อหมูหนึ่งจิน ราคาเพียงสิบเจ็ดอีแปะ สามี ท่านวางใจปล่อยให้เป็หน้าที่ข้าเถิด ข้ารับรองว่างานแต่งของจื่อเฉินจะหรูหราสมฐานะเ้าค่ะ”
ได้เงินแล้วเฉียวซื่อย่อมดีใจ นางสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะจัดงานแต่งอย่างดี
แน่นอน นางไม่กล้าจัดลวกๆ หรอก หากจัดไม่สมเกียรติ ซ่งผิงจะยกโทษให้นางหรือ?
“ข้าจะไปดูเฉินเอ๋อร์” ซ่งผิงห่วงลูกคนเล็ก เขาจึงรีบสั่งการแล้วไปหาลูกชายที่ห้อง
ลูกชายคนเล็กของเขาเก่งกาจหลายด้าน เขาเลยตั้งชื่อสง่างามให้แก่เรือนของลูกชายนามว่าโม่อวิ้นเซวียน!
เรือนโม่อวิ้นเซวียนเป็เรือนที่สว่างที่สุดในเรือนสี่ประสาน ตอนซ่งจื่อเฉินย้ายเข้าไป่แรก เหล่าลูกชายบุญธรรมของซ่งผิงต่างก็ไม่พอใจกันเป็อย่างยิ่ง
“ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้วหรือขอรับ?” ซ่งผิงยังไม่ทันถึงเรือนลูกชาย แต่ประสาทหูเฉียบคมของซ่งจื่อเฉินได้ยินว่าท่านพ่อกลับมาแล้ว
“เฉินเอ๋อร์ เ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” ซ่งผิงเลิกม่านลูกปัดขึ้นก็เห็นลูกชายเอนร่างบนตั่งไม้ เสี้ยวหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติกำลังอ่านหนังสือการแพทย์ในมืออย่างตั้งใจ
“ท่านพ่อ ข้าดีขึ้นแล้วขอรับ ท่านไปบ้านซย่ามา พวกเขาว่าอย่างไรบ้าง?” ซ่งจื่อเฉินปิดหนังสือแล้วฝืนยิ้ม คราที่ท่านพ่อมาคุยเื่จับคู่ เขาไม่เห็นด้วยนัก เขาไม่อยากให้แม่นางมาเสียเวลากับคนตายทั้งเป็เช่นเขา
“ข้าพบซย่าจิ่นเซวียนแล้ว นางบอกว่ายินดีแต่งให้เ้า เฉินเอ๋อร์แม่นางคนนี้ใช้ได้ทีเดียว ข้าเชื่อว่าหากเ้าพบนางแล้วเ้าต้องชอบนางแน่” ซ่งผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังลูกชายประสบอุบัติเหตุ เขาเคยคิดจะซื้อบ่าวมาดูแลจื่อเฉิน แต่เฉียวซื่อบอกให้คนในเรือนผลัดกันดูแลก็ได้ไม่จำเป็ต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ มาครานี้ดูท่าว่าจะต้องซื้อทาสมาดูแลเฉินเอ๋อร์เสียที ไม่อย่างนั้นคงเขาคงไม่สบายใจแน่
จิ่นเซวียนมิได้ะโน้ำฆ่าตัวตายหรอกหรือ?จู่ๆ ก็เปลี่ยนความคิดจะแต่งงานกับเขา มิได้เห็นแก่เงินครอบครัวเขาหรืออย่างไร!
ซ่งจื่อเฉินไม่ประทับใจจิ่นเซวียนนัก ในใจตอนนี้ตัดสินไปแล้วว่าจิ่นเซวียนเป็สตรีที่รักชื่อเสียงเงินทอง
เงียบไปสักพัก ริมฝีปากบางน่าดึงดูดของซ่งจื่อเฉินก็เปิดขึ้น “ท่านพ่อ ยกเลิกงานแต่งเถิด ข้าไม่อยากลำบากคุณหนูซย่าขอรับ”
เชิงอรรถ
[1] อีแปะ หมายถึง เหรียญทองแดงผสม 1000 อีแปะเท่ากับ 1 ก้วน ซึ่งจะมีค่าหนึ่งตำลึงเงิน