บทที่ 29 บังเอิญเจอเซียวอี้เหม่ย
รถที่ซูอี้อวิ๋นขับมาเป็รถสองที่นั่ง ไม่สามารถพากลับไปได้พร้อมกันทั้งสามคน
แต่ผู้ชายคนนี้คือใจถึงมาก โทรศัพท์เรียกรถอีกคันมาเลย
ภายในรถ เย่หรงเอาแต่ถามเื่ชีวิตในมหาวิทยาลัยของเย่จื่อเฉิน ซูอี้อวิ๋นก็หัวเราะร่าตอบกลับไป
"คุณน้า ตอนนี้เย่จื่อเก่งแล้วนะครับ มีเงินอยู่ในมือตั้งหลายล้าน คุณน้าเตรียมตัวมีความสุขได้เลยครับ"
"เงินเยอะขนาดนี้ลูกไปเอามาจากไหน?" เย่หรงอึ้งไป แล้วพูด "จื่อเฉิน ลูกคงไม่ได้หลงผิดไปทำอะไรไม่ดีมาหรอกนะ"
"จะเป็ไปได้ยังไงล่ะครับ..."
เย่จื่อเฉินกับซูอี้อวิ๋นอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
ตรู๊ดดด
โทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้นมา คนที่โทรเข้ามาคือเซียวไห่
ถ้าเป็ก่อนหน้านี้เย่จื่อเฉินยังพอมีความรู้สึกดีกับเซียวไห่อยู่บ้าง แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าไม่มีความรู้สึกดีอยู่เลยสักนิดเดียว
ไม่รับ
เพียงครู่เดียวโทรศัพท์ของซูอี้อวิ๋นก็ดังขึ้น
"เย่จื่อ ฉันคิดว่าน่าจะโทรมาหานายนะ"
ซูอี้อวิ๋นยื่นโทรศัพท์ไป เย่จื่อเฉินหัวเราะหึแล้วพูด
"ไม่รับ"
"รับเถอะ เ้าเด็กฮวางินั่นทำอะไรไม่จริงจัง แต่พี่ไห่เขาเป็คนดีนะ นายก็เห็นแก่หน้าฉันหน่อย รับเถอะ ไม่งั้นคนกลางอย่างฉันก็ลำบากใจแย่สิ"
พอถอนหายใจยาว เย่จื่อเฉินจึงรับโทรศัพท์มาแนบข้างหู
"เสี่ยวเย่ นี่พี่ไห่นะ"
"อืม"
น้ำเสียงของเย่จื่อเฉินมีความเ็าอย่างบอกไม่ถูก คำที่เซียวไห่จะพูดขึ้นจึงเงียบไป จากนั้นจึงพูดขึ้น
"ฮวางิบอกฉันหมดแล้ว คุณป้าใมาก ขอโทษจริงๆ นะ"
"พี่ไห่ พี่คิดว่ามาพูดขอโทษเอาตอนนี้ มันไม่สายเกินไปเหรอ?" เย่จื่อเฉินพูดกลั้วหัวเราะ "ตอนที่ฮวางิกับพวกนักลงทุนทุบบ้าน ทำไมถึงไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น โชคดีที่แม่ผมดวงดี ถ้าแม่ผมอยู่ในบ้านจริงๆ พวกพี่จะรับผิดชอบเื่นี้ได้ไหม?"
"ต่อให้ย้อนกลับไปได้ แล้วคนที่อยู่ข้างในไม่ใช่แม่ผม แต่เป็ชาวบ้านคนอื่น พวกพี่ยังจะตั้งใจมาขอโทษเหมือนอย่างตอนนี้ไหม?"
"เสี่ยวเย่ เื่นี้ฮวางิเขาทำไม่ถูกจริงๆ พวกเราจะทำการชดใช้ค่าเสียหายให้"
"ชดใช้? พวกพี่จะชดใช้อะไรได้ เงินเหรอ พวกพี่คิดว่าผมอยากได้การชดใช้พวกนั้นเหรอ? พวกพี่แค่เอาเงินทุนค่ารื้อถอนบ้านมาให้ถึงมือผมก็พอ แล้วเราสองคนจะไม่มีอะไรติดค้างกัน"
เย่จื่อเฉินตีขอบเขตเอาไว้อย่างชัดเจน เซียวไห่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยิ้มแล้วพูด
"โอเค ฉันเข้าใจแล้ว เอาโทรศัพท์ให้เสี่ยวอวิ๋นหน่อย ฉันมีอะไรจะพูดกับเขาหน่อย"
"เอาไป"
เย่จื่อเฉินโยนโทรศัพท์ใส่มือซูอี้อวิ๋น ซูอี้อวิ๋นถอนหายใจอยู่ในใจ แล้วรับโทรศัพท์มาแนบข้างหู
"เสี่ยวอวิ๋น ช่วยฉันเกลี้ยกล่อมเสี่ยวเย่หน่อย"
"ผมจะพยายามก็แล้วกัน" ซูอี้อวิ๋นเหลือบมองเย่จื่อเฉินความขุ่นเคืองบนใบหน้ายังไม่จางหายไป แล้วพูด "แต่ผมไม่กล้ารับประกันนะ"
"รบกวนนายด้วย"
พอวางสายโทรศัพท์ ซูอี้อวิ๋นก็หันไป เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นทันที
"ไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อม ฉันไม่ได้ว่าง่ายขนาดนั้น"
"นายเห็นฉันเป็อะไร" ซูอี้อวิ๋นกลอกตาอย่างอารมณ์ไม่ดี "ทั้งๆ ที่รู้ว่านายกำลังโกรธสุดๆ แล้วยังจะโน้มน้าวนาย ไม่เท่ากับวิ่งเข้าหาปลายกระบอกปืนหรือไง ฉันแค่อยากถามนายว่านายคิดจะให้คุณน้าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่มีที่พัก ฉันมีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ไม่มีคนอยู่ นายจะให้คุณน้าไปอยู่ที่นั่นก่อนหรือเปล่า?"
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันหาโรงแรมเปิดห้องให้แม่ก่อน แล้วตอนบ่ายฉันจะไปซื้อบ้านสักหลังก็เรียบร้อยแล้ว"
"จริงด้วยสิ ลืมไปเลยว่าตอนนี้นายเป็เศรษฐีแล้ว"
"นายนี่นะ..."
เย่จื่อเฉินอดส่ายหน้าหัวเราะไม่ได้
เมื่อจัดการเื่ที่อยู่ให้เย่หรงเรียบร้อยแล้ว เย่จื่อเฉินก็ปรี่ไปที่สำนักงานขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่แถวนั้น
เพิ่งเปิดประตูเข้าไป พนักงานขายผู้หญิงก็เดินมาหยุดอยู่ข้างกายเขาด้วยความกระตือรือร้น
"คุณผู้ชาย ้าดูห้องเหรอคะ?"
พูดตามจริง เย่จื่อเฉินยังงงอยู่เลย
ดูเหมือนว่าในนิยาย ที่นี่เหมือนจะมีฉากที่ต้องได้รับสายตาดูถูกมาแล้วจากนั้นก็ตบหน้ากลับไป แต่นิยายยังไงมันก็คือนิยาย พนักงานสาวยังคงมีจรรยาบรรณในวิชาชีพอยู่มาก
"ผม้าดูบ้านครับ"
"......" พนักงานสาวอึ้งไปนิดอย่างเห็นได้ชัด เธอกวาดตามองทั้งตัวของเย่จื่อเฉินโดยอัตโนมัติ แม้ในใจจะใอยู่มากแต่ก็ยังยิ้มแนะนำ
พื้นที่บ้านเดี่ยวและห้องชุดทั่วไปไม่ได้อยู่โซนเดียวกัน พนักงานสาวพาเย่จื่อเฉินไปทางโซนด้านหลังของบ้านเดี่ยว
เพิ่งเปิดประตูเข้าไป เย่จื่อเฉินก็ได้ยินเสียงะโด้วยความเหนื่อยใจ
"เถียนเถียน หนูห้ามวิ่งไปทั่วนะ อยู่ข้างๆ แม่นะคะ"
เถียนเถียน
เย่จื่อเฉินหันไปมองตามเสียง ก็เห็นใบหน้ารูปไข่ที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มของเถียนเถียนวิ่งตรงเข้ามาหาเขา แล้วกอดขาเขาเอาไว้
"คุณพ่อ!"
"จื่อเฉิน"
เซียวอี้เหม่ยก็อึ้งไปเหมือนกัน เธอมองเย่จื่อเฉินที่อุ้มเถียนเถียนขึ้นด้วยความประหลาดใจ ริ้วสีแดงจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้ามีเสน่ห์ของเธอ
พนักงานสาวที่อยู่ข้างๆ ก็อึ้งไปเหมือนกัน คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็สามีของประธานเซียว
โชคดีที่เมื่อครู่นี้เธอไม่ได้เสียมารยาทใส่ ไม่อย่างนั้นคงได้มีปัญหาจริงๆ แน่
"คุณผู้ชายคะ ถ้าคุณรู้จักกับประธานเซียว งั้นดิฉันก็ต้องขอตัวก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจก็สามารถเรียกดิฉันได้ตลอดเวลาเลยค่ะ"
พนักงานสาวถอยออกไปอยู่ทางด้านข้างอย่างรู้หน้าที่ เย่จื่อเฉินจึงอุ้มเถียนเถียนเดินไปหาเซียวอี้เหม่ย
"พี่เหม่ย พี่ก็อยู่ด้วยเหรอ"
"อืม" ไม่รู้ว่าทำไมตอนที่ตอบกลับไปเซียวอี้เหม่ยถึงได้หลบตา ทุกอย่างนี้ตกอยู่ในสายตาของเย่จื่อเฉิน ถึงในใจจะสงสัยแต่ก็ไม่อยากคิดมาก
"เธอ..."
"พี่..."
หลังจากที่เงียบไปนาน ทั้งคู่ก็เปิดปากพูดขึ้นมาพร้อมกัน
ทั้งสองฝ่ายยิ้มให้กัน แล้วเซียวอี้เหม่ยจึงพูดขึ้น
"เธอพูดก่อนเลย"
"พี่เหม่ยมาซื้อบ้านที่นี่เหรอ?"
หลังจากที่ถามไปแล้ว เย่จื่อเฉินก็รู้สึกว่าเขาถามได้ปัญญาอ่อนมาก มาที่นี่ถ้าไม่มาซื้อบ้านแล้วจะมาทำอะไรได้อีก หรือว่าจะมาจีบพนักงานขายผู้ชาย?
เซียวอี้เหม่ยเองก็อดหัวเราะไม่ได้ แล้วจึงพยักหน้าตอบ "มาซื้อบ้าน แต่อยากมาซื้อให้เธอ แต่ดูแล้ว เธอก็น่าจะมาซื้อบ้านเหมือนกันใช่ไหม?"
"ให้ผม?" เย่จื่อเฉินอึ้งไปนิด เถียนเถียนที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้ก็ปัดป่ายจะลง
เมื่อวางเถียนเถียนลงบนพื้นแล้ว เถียนเถียนน้อยก็วิ่งวุ่นอยู่ในล็อบบี้อีกครั้ง
"เถียนเถียน ไม่วิ่งสิลูก"
"ประธานเซียวคะ เดี๋ยวทางเราจะดูแลความปลอดภัยของเถียนเถียนให้เองค่ะ" พนักงานสาวยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจ เย่จื่อเฉินจึงเปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง "พี่ซื้อบ้านให้ผมทำไม?"
"ครั้งที่แล้วเธอช่วยฉันแก้ปัญหาวิกฤติร้านจิวเวลรี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนเธอยังไง ก็เลยอยากซื้อบ้านให้เธอสักหลัง ต่อให้เธอไม่อยู่ก็ยังสามารถเก็บไว้เป็อสังหาริมทรัพย์ได้"
"ที่จริงไม่ต้อง..."
เพียะ!
แง...
เย่จื่อเฉินยังพูดไม่จบ ในห้องล็อบบี้ก็เสียงฝ่ามือดังขึ้นชัดเจน จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของเถียนเถียนตัวน้อย
"เถียนเถียน"
เซียวอี้เหม่ยใ ก่อนจะวิ่งไปหาเถียนเถียน เย่จื่อเฉินเองก็ตามหลังไปติดๆ
บนใบหน้าเล็กของเถียนเถียนมีรอยฝ่ามือชัดเจน พนักงานยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
ตรงข้ามเธอมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ หญิงสาวแต่งตัวสวยมีเสน่ห์ ยืนด่าอยู่ด้วยใบหน้าไม่พอใจ
"ลูกใครมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในนี้ ผู้ใหญ่ก็ไม่มาดูแล ทำกระโปรงตัวใหม่ของฉันสกปรกหมดเลย น่าโมโหจริงๆ"
พรึบ
ในขณะที่หญิงสาวยังคงด่าไม่หยุดอยู่นั้น เซียวอี้เหม่ยก็เดินไปตรงหน้าเถียนเถียนแล้วอุ้มเธอขึ้น
"กระโปรงของคุณราคาเท่าไร ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายให้!"