“ขอบพระคุณคุณหนูมากเ้าค่ะเพียงแต่งานมงคลกำลังจะมาถึง หนูปี้มีฐานะต่ำต้อยไม่กล้าเสียมารยาทเข้าไปห้องนอนของคุณหนูเ้าค่ะ” อวิ๋นฉางย่อกายถอนสายบัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงฉะฉาน
“เตี้ยนเซี่ยมีรับสั่งให้หนูปี้นำชุดแต่งงานที่จวนอ๋องเตรียมไว้ให้คุณหนูมาส่งเ้าค่ะยังมีเครื่องประดับจำนวนหนึ่งที่หลายวันมานี้เตี้ยนเซี่ยทรงเลือกด้วยพระองค์เองเตี้ยนเซี่ยตรัสว่า หวังว่าคุณหนูจะสวมใส่ในวันพิธีมงคลเ้าค่ะหวังว่าคุณหนูจะไม่ถือโทษที่มาอย่างกระชั้นชิดเช่นนี้นะเ้าคะ”
“ลำบากกูเหนียงแล้ว”หรงหว่านซีเอ่ยทั้งรอยยิ้ม “รบกวนกูเหนียงกลับไปทูลเตี้ยนเซี่ยบอกว่าหม่อมฉันชื่นชอบเป็อย่างมากและรับไว้ด้วยความยินดี”
“เ้าค่ะ”อวิ๋นฉางขานรับ
หรงหว่านซีแสดงท่าทีให้เกียรตินางถึงเพียงนี้อวิ๋นฉางกูเหนียงผู้นี้กลับไม่ทุกข์ไม่ร้อนแต่อย่างใดเห็นทีอวิ๋นฉางกูเหนียงผู้นี้คงมีหน้ามีตายามอยู่ต่อหน้าเฉินอ๋องไม่น้อย
ทว่าหรงหว่านซีไม่อยากซักไซ้เพราะถึงอย่างไรหลังแต่งเข้าจวนไปนางย่อมต้องจัดการเื่ราวภายในจวนให้กระจ่างอย่างแน่นอน ตอนนี้ไม่จำเป็ต้องรีบร้อน
หลังบอกใบ้ให้ชูเซี่ยมอบรางวัลจึงเอ่ย“ลำบากกูเหนียงต้องเดินทางมาถึงที่นี่ เชิญเหล่ากูเหนียงดื่มชากันเถิด”
“หนูปี้ขอบพระคุณคุณหนูสำหรับรางวัลเ้าค่ะ”อวิ๋นฉางไร้ความเขินอายและน้อมรับรางวัลอย่างเป็ธรรมชาติยิ่งนัก
หรงหว่านซีกลับไม่คิดว่านางละโมบและดูออกว่าเฉินอ๋องคงมักใช้นางจัดการเื่ต่างๆเป็ปกติ นางจึงได้รับรางวัลเป็สิ่งตอบแทนจนเคยชินไม่เช่นนั้นนางคงไม่รับไปโดยไม่ปรายตามองเงินถุงนั้นสักนิด
เมื่อชูเซี่ยมอบรางวัลให้อวิ๋นฉางเสร็จจึงเข้าไปรับถาดจากหญิงรับใช้พร้อมกับจือชิว
เมื่อกลับห้องไปดูชุดแต่งงานเด็กรับใช้ทั้งสองจึงถอนหายใจออกมา
“สมกับเป็ของจากในจวนอ๋องจริงๆ!พี่ชูเซี่ย ท่านลองดูฝีมือการเย็บสิเ้าคะ ช่างประณีตยิ่งนัก!งามกว่าอาภรณ์ที่บรรดาองค์หญิงสวมใส่อีกเ้าค่ะ!”
“พูดเหมือนเ้าเคยเห็นองค์หญิงมาก่อน!เ้าทำท่าทางเหมือนไม่เคยพบเจอมาก่อนเช่นนี้คิดว่าสิ่งของภายในจวนแม่ทัพของเราด้อยกว่าอย่างนั้นหรือ? เมื่อครั้งท่านอาเซิ่นยังเป็สาวได้ขึ้นชื่อว่าเป็หญิงเย็บผ้าอันดับหนึ่งของฉีสุ่ย* เชียวนะ!”
หรงหว่านซียอมทนฟังพวกนางตีฝีปากเพราะทำให้รู้สึกถึงวันเวลาอันแสนสุข
ทว่าเด็กรับใช้สองคนนี้กลับทำตัวดีมากคาดไม่ถึงว่าจะไม่สู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง และเอ่ยถามพร้อมกันว่า“คุณหนูจะไม่ลองสวมดูหรือเ้าคะ?”
หรงหว่านซีไม่มีความคิดนี้จึงเอ่ยเพียง “แค่ดูก็รู้ว่าเป็ชุดที่ดีมาก คงไม่ต้องลองแล้วเพราะต่อให้ไม่พอดีตัวก็ยังต้องใส่อยู่ดี”
นางไม่ลืมสิ่งที่ตกลงไว้กับเฉินอ๋องนางจะไม่ยอมพ่ายแพ้เพียงเพราะเื่เล็กน้อยเช่นนี้นางไม่ได้ตั้งตารอและไม่รู้สึกกังวลต่อการแต่งงานที่เหมือนไม่ได้แต่งงานในครั้งนี้เื่มาถึงวันนี้แล้ว นางรู้ว่าต่อให้ขัดขืนเช่นไรก็ไร้ผลกลายเป็เื่จำเป็ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงเพียงแค่แต่งงานให้เสร็จสิ้นไปก็เท่านั้นแน่นอนว่าไม่จำเป็ต้องใส่ใจพิธีรีตองอะไร แล้วจะนับประสาอะไรกับชุดแต่งงานและเื่ประดับเหล่านี้?
บิดาและบุตรสาวตระกูลหรงจัดเตรียมพิธีอย่างเงียบเชียบขอแค่ข้ารับใช้ในจวนแม่ทัพมีจำนวนมากพอสำหรับใช้งานเพราะไม่จำเป็ต้องจัดเตรียมให้หรูหราอลังการมากนัก
เวลากลางวันจวนแม่ทัพไม่เคยเอะอะเสียงดังเมื่อถึงเวลากลางคืนจึงยิ่งเงียบสงัด
บุรุษรูปร่างสูงใหญ่คล่องแคล่วจำนวนสามคนสวมอาภรณ์สีดำลอบเข้าจวนแม่ทัพโดยการะโข้ามกำแพงด้านหลังจวนมุ่งหน้าไปยังเรือนนอนของแม่ทัพหรงตามที่จดจำจากแผนที่ก่อนลงมือ
ชายชุดดำสองคนอยู่ในชานเรือนอีกหนึ่งคนใช้วิชาตัวเบาะโเข้าไปอย่างง่ายดาย
แม่ทัพหรงเป็ทหารมาครึ่งชีวิตแม้หลายปีให้หลังมานี้รักษาตัวอยู่ในจวน ทว่าความระแวดระวังตัวกลับไม่ลดน้อยลงแต่หลังจากล้มป่วยติดต่อกันหลายวัน ก่อนเข้านอนดื่มยาต้มย่อมต้องนอนหลับลึกกว่าปกติ กอปรกับชายชุดดำผู้นี้มือเท้าเบายิ่งนักย่องมาถึงหน้าต่างอย่างเงียบเชียบจนเกือบไร้เสียงกระทั่งแม่ทัพหรงยังไม่รู้สึกถึงการมาเยือนของคนผู้นี้
ครั้นชายชุดดำผู้นี้ยื่นก้านต้นกกที่ด้านในมี“จุ้ยเมิ่งฉาง” เข้าไปในหน้าต่าง แม่ทัพหรงถึงรู้สึกตัว
“ผู้ใด!”ทันทีที่รู้สึกตัวจึงหยัดกายลุกขึ้นทันที
กลิ่นควันเบาบางยิ่งนักครั้นไม่ทันระวังตัว ควันสีเขาจึงถูกเป่าเข้าไปในห้อง อาศัยแสงสว่างของพระจันทร์แม่ทัพหรงมองเห็นเงาคนบริเวณหน้าต่างเขาคว้ากระบี่คู่กายบนชั้นและเดินไปทางหน้าต่างหมายจะกุมตัวคนผู้นั้นพลันพบว่าคนผู้นี้กลับวิ่งหนีไปทางประตูด้านหน้า
ครั้นแม่ทัพหรงถีบประตูออกไปพลันพบว่าคนผู้นี้ฉวยโอกาสขณะประตูเปิดออกบุกเข้ามาข้างในแม่ทัพหรง้าจับตัวคนผู้นี้ให้ได้ จึงสนใจแค่การต่อสู้กับเขาครั้นไม่ทันระวังทำให้สูดดมยาสลบเข้าไปจำนวนมากจนวิงเวียนศีรษะและสายตาพร่าเลือน...แต่ด้วยนิสัยถือดีจึงยังฝืนต่อสู้ได้เพียงครู่หนึ่งท้ายที่สุดพละกำลังที่มีไม่อาจเอาชนะฤทธิ์ยาสลบภาพตรงหน้ากลายเป็สีดำและหมดสติล้มลงบนพื้น
“นายท่าน...”ทางห้องด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกมีเด็กรับใช้ผู้หนึ่งได้ยินเสียงต่อสู้หลังสวมอาภรณ์จึงถือโคมไฟออกมาตรวจดู
เห็นได้ว่าเขาไม่คิดว่าจะเกิดเหตุคับขันยังเสียเวลาไปจุดกระทั่งโคมไฟ ครั้นยังไม่ทันได้เห็นชัดเจนว่าคือผู้ใดและยังไม่ทันได้ตื่นใก็ถูกกระบี่จ่อคอทันที!
“อึก...”
เมื่อได้ยินเด็กรับใช้ผู้นี้ส่งเสียงสะอึกลำคอมีเืสีสดไหลทะลัก ชายชุดดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “รนหาที่ตายนัก”
พวกเขาไม่กล้าเสียเวลามากเขาพ่นลมหายใจเพื่อเอาสิ่งอุดจมูกออกจากนั้นะโหนีไปทางกำแพงข้างหลังเรือนอย่างรวดเร็ว
คนทั้งสามรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนคุณหนูหรงเหตุผลหลักที่พวกเขามายังเรือนของหรงชิงเพราะ้าทำตามคำสั่งของผู้เป็นายนั่นคือการทิ้งก้านต้นกกไว้บริเวณลานด้านนอกนอกจากนั้นคือจัดการแม่ทัพหรงเพื่อให้การลักพาตัวคุณหนูหรงไม่เกิดข้อผิดพลาดใดๆ
เมื่อจัดการผู้ที่อันตรายที่สุดในจวนตระกูลหรงเสร็จเรียบร้อยผนวกกับฤทธิ์ยาสลบนี้ ภารกิจของคนทั้งสามจึงลุล่วงไปได้ด้วยดี
ชายชุดดำผู้หนึ่งใช้ผ้าห่มทำจากผ้าป่านคลุมร่างคนผู้หนึ่งสองคนที่เหลือ ผู้หนึ่งตามติดอยู่ด้านหลังเพื่อคอยระวังรอบข้าง อีกผู้หนึ่งไปยังประตูหลักของจวนตระกูลหรงใช้กริชปักจดหมายจ่าหน้าถึง “จวนแม่ทัพ” ที่เขียนด้วยอักษรสีทองสามตัว
องค์รัชทายาทนั่งอยู่ในลานขนาดเล็กของเรือนพำนักนอกเมืองก่อนจะถึงยามจื่อ จือซิงได้พาตัวคนที่เขาอยากพบเข้าไปไว้ในห้องเรียบร้อยแล้ว
“นายท่านนำตัวมาสำเร็จโดยไม่มีข้อผิดพลาดเ้าค่ะ” จือซิงรายงาน
องค์รัชทายาทพยักหน้า“ดีมาก สามคนนั้นเล่า?”
“ข้าน้อยพึ่งจะจัดการพวกเขาในป่าตอนส่งตัวคนผู้นี้มาจะฝังพวกเขาที่นี่เ้าค่ะ”
“อืม”องค์รัชทายาทพยักหน้า “ออกไปเถิด”
เมื่อได้ยินเสียงจือซิงฝังศพภายในป่าองค์รัชทายาทไม่วางใจนัก คล้ายเกรงว่าหรงหว่านซีจะรู้สึกตัวเพราะเสียงนี้จึงบีบจมูกและใช้จุ้ยเมิ่งฉางกับนางอีกจำนวนหนึ่งก่อนจะออกไปจากห้องรอกระทั่งฤทธิ์ยาระเหยหายไปถึงเข้ามาอีกหน
หรงหว่านซีในยามนี้สวมเพียงชุดนอนสีดอกบัวคล้ายกับสามารถมองเห็นทรวดทรงของร่างอรชร ใบหน้าซ่อนความอ่อนหวานคิ้วไม่แต่งกลับงาม ปากไม่แต้มกลับแดง จมูกงามประณีตทรงหยดน้ำประดับบนใบหน้ายิ่งทำให้ใบหน้ารูปไข่แลดูเรียวรี...
องค์รัชทายาทยื่นมือออกไปแต่กลับชะงักค้างกลางอากาศ
“ไม่น่าสนใจสักนิด...”องค์รัชทายาทชักมือกลับ ลอบเอ่ยว่า “สตรีที่เปิ่นกงอยากมีนางใดต้องใช้วิธีลักขโมยงั้นรึ? หรงหว่านซีสักวันหนึ่งเ้าจะต้องเป็ฝ่ายอ้อนวอนให้เปิ่นกงััเ้า”
องค์รัชทายาทคิดเช่นนี้ก่อนจะสะบัดชายอาภรณ์ลุกขึ้นเขาไม่กระทำกิริยาหยาบคายกับหรงหว่านซี แม้ยามนี้จะเป็โอกาสที่ดีของเขาก็ตาม
*แม่น้ำฉีสุ่ย : เป็แม่น้ำแถบมณฑลหูหนาน