นางพูดไปพร้อมกับเดินมาที่ข้างโต๊ะแล้วรินน้ำชาให้ตัวเองดื่ม “อีกเดี๋ยวจะมีคนมาที่เรือนหลัง เ้าก็บอกแค่ว่าหลับไปแล้ว ทำเหมือนไม่รู้อะไรทั้งนั้น เข้าใจหรือไม่”
เสี่ยวอวี่ได้ยินเช่นนั้นก็มึนงงเหมือนอยู่ในเมฆหมอก ไม่รู้ว่าคุณหนูของตัวเองกำลังพูดอะไร แต่นางก็พอจะเดาได้อยู่เล็กน้อย “เ้าค่ะ ข้าทราบแล้วเ้าค่ะ”
ต่อมาซูิเยว่ก็นั่งรออยู่ในห้อง ห้องนี้กันเสียงรบกวนได้ดีมาก หากข้างๆ มีอะไรเกิดขึ้นก็แทบไม่ได้ยินเลย
ส่วนห้องด้านข้างในเวลาเดียวกันนั้น คนชุดดำสองคนปีนเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลังก็เห็นจ้าวอวี้ถิงนอนอยู่บนตั่งนุ่มภายในห้อง
ก่อนหน้านี้จ้าวอวี้ถิงก็ดื่มสุราไปเล็กน้อยทำให้ขณะนี้ใบหน้าแดงระเรื่อ นางนอนหายใจนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับสาวงามมากๆ คนหนึ่งนอนหลับอยู่
คนชุดดำสองคนเดินไปยืนล้อมข้างตั่งนุ่มพลางยกมือขึ้นบีบใบหน้ารูปไข่ของนาง วันนี้จ้าวอวี้ถิงมาเข้าร่วมงานเลี้ยงจึงแต่งตัวแต่งหน้ามาอย่างดี แต่เดิมใบหน้าค่อนข้างดีอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้งดงามเข้าไปอีก
“นี่คงเป็ซูิเยว่ที่เ้านายพูดถึงสินะ”
“คงจะใช่” อีกคนพูดไปก็เริ่มลงมือไป เขาดึงคอเสื้อของจ้าวอวี้ถิงแหวกออกจนเผยให้เห็นตู้โตวสีชมพูที่อยู่ด้านใน
“เ้านายบอกว่าได้วางยานางเรียบร้อยแล้ว ไม่มีทางต่อต้านอะไรหรอก เ้าดูสิ นางหลับสนิทเลยไม่ใช่หรือ”
เขาพูดไปก็ยิ่งเพิ่มการกระทำเกินเลยมากขึ้น คนชุดดำอีกคนจึงปัดมือของเขาออก “ระวังหน่อย เ้านายบอกให้พวกเรามาสร้างสถานการณ์ว่านางถูกคนข่มเหง ไม่ได้ให้พวกเรามาทำจริง”
“เฮ้อ รู้แล้ว รู้แล้ว” คนคนนั้นพูดอย่างรำคาญ เขายกมือขึ้นไปบีบคอขาวนุ่มของนางแล้วทิ้งรอยแดงดูน่าคลุมเครือเอาไว้หลายรอยทันที
“ดูผิวละเอียดนุ่มนี่สิ นี่แม่นางของสกุลซูเชียวนะ คิดไม่ถึงว่าข้าเองก็มีบุญขนาดนี้ ช่างเป็สตรีที่งดงามมากคนหนึ่งจริงๆ”
วินาทีนี้จ้าวอวี้ถิงที่นอนหลับไม่รู้เื่นั้นไม่รู้ตัวเลยว่านางได้ขว้างก้อนหินใส่เท้าตัวเองแล้ว สาวใช้ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปพอสมควรแล้ว นางก็เริ่มะโไปพลางวิ่งไปที่เรือนหน้าพร้อมๆ กัน
“ใครก็ได้ มาจับโจรที”
ที่เรือนหน้าในเวลานี้งานเลี้ยงได้ดำเนินมาถึง่ท้ายแล้ว ทุกคนต่างดื่มกันเมามาย สติเริ่มจะเลือนราง
จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องของสตรีนางหนึ่งดังมาจากเรือนหลัง เสียงนั้นค่อยๆ ดังมาทางนี้ “ใครก็ได้มาช่วยที จับโจรที มีโจรมา”
สติที่เลือนรางของทุกคนก็พลันถูกเสียงนั้นเรียกจนได้สติ ภายในงานเลี้ยงก็เงียบลงไปทันที ในมือถือแก้วพร้อมกับหันไปมองทางเรือนหลังอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
มีเพียงองค์ชายห้าที่พอได้ยินเสียงกรีดร้องมุมปากก็ยกขึ้นทันที เขารู้ว่าแผนการของตนสำเร็จแล้ว
เพียงชั่วพริบตาเส้นทางเล็กๆ จากเรือนหลังก็มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งออกมา สาวใช้คนนั้นหน้าตาแตกตื่นวิ่งไปะโไป “มีโจร เรือนหลังมีโจร ข้าเพิ่งเห็นโจรบุกเข้าไปในห้องที่คุณหนูซูพักผ่อนอยู่”
พอทุกคนเริ่มได้สติกลับมา ภายในงานเลี้ยงก็วุ่นวายขึ้นทันที ทุกคนต่างจำได้ว่านางเป็สาวใช้ที่จ้าวอวี้ถิงพามาด้วยในวันนี้ แต่เื่ที่ว่ามีโจรบุกเข้าไปในห้องของซูิเยว่นั้นมันคืออะไรกัน?
ก่อนหน้านี้จู่ๆ ซูิเยว่ก็ออกจากงานเลี้ยงไปพักผ่อนที่เรือนหลัง เื่นี้ทุกคนต่างรู้ดี ต่อมาจ้าวอวี้ถิงผู้เป็บุตรีของเจิ้นหนานโหวก็ตามเข้าไปด้วย เหตุใดตอนนี้ถึงเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นมาได้กัน?
องค์หญิงใหญ่เป็คนแรกที่ได้สติ นางพูดเสียงเข้ม “ทหาร ไปที่เรือนหลัง ต้องคุ้มกันความปลอดภัยของแม่นางซูให้ได้”
พอนางพูดประโยคนี้จบ องครักษ์ภายในจวนก็รีบกรูกันไปที่เรือนหลัง แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงเองก็อยู่นิ่งไม่ได้แล้ว อย่างไรเื่สนุกแบบนี้มีใครบ้างที่ไม่อยากเข้าร่วมด้วย พวกเขาต่างพากันวิ่งไปที่เรือนหลัง
องค์ชายห้าวางแก้วสุราลงแล้วรีบไปที่เรือนหลังทันที
ภายในห้องของจ้าวอวี้ถิงที่เรือนหลังตอนนี้ คนชุดดำสองคนพอเห็นว่าบรรลุเป้าหมายแล้วก็ปีนออกทางหน้าต่างด้านหลังตั้งใจว่าจะหนีไปก่อนที่องครักษ์ของจวนช่างชูจะมาถึง ไม่เช่นนั้นหากองครักษ์มาถึงแล้วจะหนีก็คงยาก
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากเข้ามาใกล้ทางนี้เรื่อยๆ จากภายในห้อง ซูิเยว่ที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะก็ยกยิ้ม “ไปกันเถิด เสี่ยวอวี่”
ละครสนุกได้เปิดฉากแล้ว
นางพูดพร้อมลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูออก
ภายในเรือนมีคนกลุ่มใหญ่มาออกันแน่น องค์ชายห้ารีบสาวเท้าไวๆ ราวกับบินได้ให้มาถึงก่อนองครักษ์เพื่อจะได้เป็คนไปเปิดประตูห้องที่เดิมทีเป็ของซูิเยว่
วินาทีที่มือจะผลักประตูเข้าไป สายตาก็เห็นคนออกมาจากห้องด้านข้าง เขาก็ถึงกับชะงักค้างไปในทันที
ทุกคนต่างมุ่งสายตาไปมองทางซูิเยว่ทำให้บริเวณตรงนั้นเงียบกริบ
ซูิเยว่ออกมายืนที่หน้าประตู ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความง่วงงุน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เวลานี้เองที่องค์หญิงใหญ่มาถึง นางยืนอยู่บนขั้นบันได สายตามองเห็นซูิเยว่ผ่านกลุ่มคนมากมายที่มางานจึงเริ่มไม่เข้าใจสถานการณ์เล็กน้อย “คุณหนูซู เ้าไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?”
ซูิเยว่อยากจะหัวเราะอยู่เล็กน้อย นางยกยิ้มมุมปาก “ข้าก็แค่นอนกลางวันไปเท่านั้น จะไปมีเื่อะไรได้ล่ะ?”
สาวใช้ของจ้าวอวี้ถิงที่ยืนอยู่หน้าสุดเมื่อเห็นภาพนี้ก็ชะงักไปทันที เหตุใดซูิเยว่ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ เช่นนั้นแล้วคุณหนูของนางล่ะ?
วินาทีนี้คนที่ใมากที่สุดก็คือองค์ชายห้าที่อ้าปากค้าง เขามองซูิเยว่นิ่งพูดอะไรไม่ออก มือก็แข็งค้างอยู่กลางอากาศ
ตอนนี้ซูิเยว่ควรจะอยู่ในห้องนั้นไม่ใช่หรือ แล้วคนที่อยู่ในห้องนั้นคือใครกัน? องค์ชายห้ามีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร
ตอนนี้องค์หญิงใหญ่เริ่มไม่เข้าใจแน่ชัดว่าเกิดเื่อะไรกันแน่ “เมื่อครู่สาวใช้ของคุณหนูจ้าวมาบอกว่าเห็นโจรเข้าไปในห้องของคุณหนูซู”
สาวใช้คนนั้นก็เริ่มได้สติกลับมา นางมองไปทางซูิเยว่อย่างไม่อยากจะเชื่อแล้วเอ่ยปากเสียงสั่น “ท่าน...ท่าน เมื่อครู่ข้าเพิ่งจะเห็นว่าท่านอยู่ในห้องทางซ้ายนี้ เหตุใดท่านถึงมาอยู่ห้องข้างๆ กันได้ล่ะ?”
“อ๋อ” ซูิเยว่ทำท่าเข้าใจขึ้นมา “เป็เช่นนี้นี่เอง เมื่อครู่หลังจากที่ข้ากับสาวใช้เข้ามาในห้องแล้ว คุณหนูจ้าวก็มาหา หลังจากพูดคุยกับข้าได้สองสามประโยคนางก็อ่อนเพลียจึงเผลอหลับไปในห้องของข้า ข้าก็เลยมาพักผ่อนที่ห้องด้านข้างแทน ตอนนั้นข้าตั้งใจว่าจะบอกให้เ้าไปดูแลคุณหนูของเ้าดีๆ เพียงแต่ตอนที่ข้าออกมาด้านนอกก็ไม่เห็นเ้าแล้ว”
พอนางพูดเช่นนี้แล้วก็แปลว่าจ้าวอวี้ถิงอยู่ในห้องด้านซ้าย? เช่นนั้นห้องที่โจรเข้าไปก็คือห้องของจ้าวอวี้ถิงอย่างนั้นหรือ? ในหัวของทุกคนที่มาดูเื่สนุกก็ถึงกับขาวโพลนไป ตอนนี้เข้าใจอย่างจริงจังแล้วว่าเกิดเื่อะไรขึ้น
สีหน้าขององค์หญิงใหญ่กับฉินอี้ย่ำแย่อยู่เล็กน้อย วันนี้เดิมทีก็เป็งานเลี้ยงอยู่ดีๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็แบบนี้เสียได้
“ทหาร รีบไปตรวจสอบว่าคุณหนูจ้าวเป็อะไรหรือไม่ ปิดทั้งจวนช่างชูแล้วตรวจสอบเรือนหลัง จับคนน่าสงสัยทั้งหมดเอาไว้ ต้องจับโจรมาให้ได้”
ถึงแม้ด้านนอกจะส่งเสียงดังครึกโครมมาได้ครู่หนึ่งแล้ว แต่ภายในห้องจ้าวอวี้ถิงกลับไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ในใจขององ์ชายห้าหวั่นไหวเล็กน้อย เขารู้ว่าหากเปิดประตูห้องออกแล้วจะเห็นภาพเช่นไร เขาอยากจะห้ามไว้ แต่องครักษ์กลับไวกว่าหนึ่งก้าวเปิดประตูพุ่งเข้าไปแล้ว
ตอนที่ทุกคนมองเข้าไปด้านในก็ต่างพากันชะงัก จ้าวอวี้ถิงนอนอยู่บนตั่งนุ่มด้วยสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย อีกทั้งยังนอนหลับตาด้วยท่าทางสบายอารมณ์อีกต่างหาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้