ตอนที่ 5
ข้าจะนอนกับท่าน
หลังจากที่เขาสั่งให้ทหารไปนำเหล้าจากหอบุปผา ซึ่งเป็หนึ่งในกิจการของสกุลหลง รอเพียงไม่นานก็มีรถจากหอบุปผานำสุรามาส่งพร้อมสาวงามอีกหลายคน พอให้เหล่าทหารได้กระชุ่มกระชวย
"ให้พวกนางกลับไปเถอะ"
เขาหันไปบอกกับสตรีที่ดูเหมือนจะเป็หัวหน้าของพวกนาง เมื่อได้รับคำสั่งสาวงามเ่าั้จึงได้พากันนั่งรถม้ากลับไปทันที
"เหตุใดท่านไม่ให้นางอยู่ต่ออีกหน่อยเล่า หรือท่านกลัวว่าจะอดใจไม่ไหวงั้นหรือ"
สองเท้าของนางเดินเข้าไปใกล้หลงเยี่ยนเล็กน้อย มือเล็กยกขึ้นโบกให้สตรีเ่าั้ที่นางหันกลับมามอง
"เ้าอย่ามาทำให้เหล่าทหารของข้าต้องมีกิเลส นั่นสุราที่เ้าอยากได้ข้านำมาให้แล้ว"
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่ไม่ได้บ่งบอกว่าเขากำลังสบอารมณ์หรือไม่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอสนใจเสียเท่าไหร่ ลี่เซียนหันหลังก่อนจะเดินเข้าไปร่วมวงสังสรรค์ทันที เธอยกจอกเหล้าขึ้นและดื่มอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ชีวิตในโลกปัจจุบันเธอเป็นักดื่มอยู่แล้วนี่จึงไม่ใช่ปัญหา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ ความหวานที่เป็ธรรมชาติและความขมปร่าที่ปลายลิ้น ทำให้เธอนึกถึงเหล้าผลไม้ที่ชื่นชอบอย่างช่วยไม่ได้
“ท่านแม่ทัพ”
เธอเรียกเขาเบา ๆ ขณะที่หันไปยกไหสุรามาสองไห มือเล็กตบลงที่พื้นข้าง ๆ สองสามครั้งเป็การสื่อให้หลงเยี่ยนนั้นนั่งลงข้างเธอ ชายหนุ่มมองเธออย่างไม่เข้าใจก่อนจะขมวดคิ้ว ใบหน้าของพระชายาขึ้นสีแดงระเรื่อ ดวงตาที่เด็ดเดี่ยวเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนบัดนี้กำลังฉ่ำเยิ้ม
“ท่านแม่ทัพ เหตุใดท่านถึงไม่ดื่มสุราที่ข้าชนะการดวลของท่านกัน หรือว่าท่านยังแค้นเคืองข้าในใจอย่างนั้นหรือ”
หลงเยี่ยนมองเธออย่างพิจารณา สลับกับมองไหสุราที่นางกอดเอาไว้แน่น ก่อนจะปรายตาไปมองอีกไหที่นางยื่นให้
"ไหนี้ข้าให้ท่าน! มาดื่มกัน!"
ลี่เซียนยื่นให้เขาอีกครั้ง หลงเยี่ยนเอื้อมมือไปรับไหสุรามาก่อนจะยกขึ้นดื่ม หญิงสาวตบที่พื้นข้างนางอีกครั้งทำให้แม่ทัพนั้นเดินไปนั่งลงข้าง ๆ เขามองนางที่มีท่าทางไม่คุ้นตาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาไม่เคยเห็นนางในด้านนี้มาก่อน
“เ้าก็ดื่มให้น้อยหน่อย สุราฮวาจื่อเหมือนจะไม่แรง แต่มันสามารถล้มม้าได้ทั้งตัวเชียวนะ”
"รู้แล้วน่า"
ผ่านไปหลายชั่วยาม ที่ภายในสนามฝึกนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เมื่อเหล้าเข้าปาก ความครึกครื้นก็เริ่มต้นขึ้น เธอฟังเหล่าทหารที่ร้องเพลงที่เธอไม่รู้จัก แต่เมื่อได้ฟังกลับรู้สึกได้ว่ามีพลังเป็อย่างมาก
"นี่คือเพลงอะไรงั้นหรือ"
"เพลงของกองทัพ ร้องเพื่อปลุกใจเหล่าทหารก่อนออกศึก"
"เช่นนั้นหรือ"
และดูเหมือนว่าพระชายาอย่างเธอนั้นจะเข้ากับเหล่าทหารในกองทัพได้ดี ผ่านไปจนเกือบเข้ายามจื่อ [1] ที่หลงเยี่ยนนั้นฟังเธอพูดคุยกับเหล่าทหารอย่างเป็กันเอง หัวเราะกันอย่างสนุกสนานจนทหารบางส่วนเริ่มขอตัวกลับไปยังที่พัก
“พระชายา นี่ก็ดึกมากแล้วเมื่อไหร่เ้าจะกลับจวน”
“ท่านแม่ทัพ.. นานทีข้าจะได้มีความสุขเช่นนี้ เหตุใดท่านต้องมาพรากความสุขไปจากข้ากันเล่า”
ลี่เซียนพูดพลางยิ้มจนตาหยีขณะยกไหขึ้นดื่ม เขาเหลือบตาไปมองไหสุรากว่าสี่ไหที่นางดื่มเพียงคนเดียว ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสตรีเช่นนางนั้นดื่มเก่งเพียงนี้
"เ้าเมาแล้ว"
"ไม่! เอ้า.. ชนนนนนน"
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ความจริงแล้วเขาไม่ต้องอยู่ตรงนี้ก็ได้ แต่เมื่อเห็นว่านางยังอยู่ที่นี่เขาก็ไม่กล้าที่จะไปไหน ทั้งสองมองดูเหล่าทหารที่ล้มลงเพราะฤทธิ์ของสุราไปทีละคนสองคน
"ฮ่าฮ่า ทหารเหล่านี้คออ่อนเสียจริง"
หลังจากนั้นไม่นาน ลี่เซียนเริ่มร้องเพลงที่เธอเคยฟังในโลกปัจจุบันออกมา แม้ว่านางจะเมาแต่เสียงก็ยังมีความไพเราะและเป็ธรรมชาติ ท่ามกลางการร้องเพลงของเธอ ถือเป็สิ่งแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ชายหนุ่มนั่งฟังพร้อมยกไหเหล้ามาดื่ม
“แม้ข้าจะฟังไม่รู้เื่ แต่เพลงที่เ้าร้องไพเราะมาก”
หลงเยี่ยนพูดพลางยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจว่าเธอนั้นร้องว่าอะไร แต่เสียงของนางนั้นดึงดูดให้เขาสงบลง รู้สึกได้เลยว่าหัวใจที่ฟุ้งซ่านนั้นสงบขึ้น
“ข้าไม่อยากกลับ.. ข้าชอบที่นี่มากกว่า”
ลี่เซียนพูดพลางขยับตัวไปมาบนม้านั่งไม้ เธอเริ่มเอียงหัวไปข้าง ๆ พยายามพิงไหล่ของหลงเยี่ยนเหมือนเด็กที่เหนื่อยล้า
“เ้าเมามากแล้ว กลับกันเถอะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย
“ไม่เอา ข้าไม่อยากกลับ ไป ๆ เ้ามันเป็แม่ทัพเืเย็น ออกไปห่าง ๆ ข้าเลย”
เธอทำท่าหงุดหงิดเหมือนเด็ก ๆ แต่ท่าทางนี้กลับทำให้หลงเยี่ยนต้องขมวดคิ้ว เขาพยายามจับเธอให้ยืนขึ้น แต่ร่างกายของลี่เซียนกลับทิ้งดิ่งไม่ยอมทำตามที่เขา้า เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลือกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรต่อ มือแกร่งตวัดไปข้างหลังและยกเธอขึ้นอย่างไม่ลังเล
“หยุดดิ้น.. หากเ้ายังดิ้นอีกข้าจะโยนทิ้งข้างทาง”
เขากล่าวก่อนจะย่อตัวลงและพาดลี่เซียนไว้บนหลัง หญิงสาวผวาแล้วกอดรอบคอเขาไว้แน่น
"ไป๋ลี่เซียน! ปล่อยคอข้าเดี๋ยวนี้หายใจไม่ออก!"
"อืม.."
เธอครางออกมาเบา ๆ ก่อนจะคลายอ้อมแขนนั้นออกช้า ๆ แม่ทัพหลงเยี่ยนเพียงแค่ยิ้มขำให้กับท่าทางของเธอแล้วเดินกลับจวน นี่คงเป็ครั้งแรกที่เขาเดินแบกสตรียามค่ำคืน ดวงจันทร์กลมโต สายลมพัดอ่อน ๆ แม้ร่างกายของทั้งสองจะมีแต่กลิ่นสุรา แต่ก็ถือว่าเป็กลิ่นสุราที่หอมมากเช่นกัน
"หากเ้าตื่นมาแล้วจำได้ว่าตัวเองทำเื่อะไรไว้บ้าง เ้าจะทำหน้ายังไงกันนะ"
ผ่านไปไม่นานเขาได้พาเธอเดินกลับมาที่จวน เมื่อมาถึงก็เห็นว่าสาวใช้ของพระชายานั้นยังนั่งรอที่หน้าห้อง ใบหน้าของนางดูดีใจมากเมื่อเห็นว่าทั้งสองนั้นกลับมา
"คุณหนูเป็อะไรเ้าคะ"
"นางไม่ได้เป็ไร เ้าไปพักเถอะเดี๋ยวข้าพานางไปนอนให้ห้องเอง"
สาวใช้รีบเดินไปเปิดประตูห้องให้ก่อนจะขอตัวออกไปพักผ่อน หลงเยี่ยนแบกหญิงสาวมาเข้ามาด้านใน เขาหันหลังแล้ววางนางลงบนเตียงช้า ๆ ในตอนที่เขากำลังจะเดินออกจากตรงนั้น ไป๋ลี่เซียนกลับกระชากแขนของเขาเอาไว้ ด้วยความใเพราะไม่ทันตั้งตัว ทำให้ร่างของหลงเยี่ยนนั้นเสียการทรงตัวและล้มลงไปบนเตียงข้าง ๆ
“เ้า!”
ไม่ทันได้เด้งตัวออกจากตรงนั้น เพียงแค่พริบตาเดียวร่างของเขาก็ถูกหญิงสาวนั้นก่ายเอาไว้จนขยับตัวไม่ได้
"เ้าจะทำอะไร"
นางไม่ได้ตอบอะไรออกมา มีเพียงรอยยิ้มหวานกับดวงตาที่ปรือจนแทบลืมตาไม่ขึ้นผุดบนใบหน้าของนางเท่านั้น
“ท่านแม่ทัพ.. วันนี้ท่านก็เหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นเรามานอนหลับกันดีกว่า”
ลี่เซียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขา ใบหน้าเล็กซุกเข้าไปที่อกแกร่ง แขนเรียวกอดเขาเอาไว้ราวกับว่าหากเธอไม่กอดให้แน่นเขาจะหายไป
“เ้า”
ผู้ที่ได้ฉายาว่าแม่ทัพปีศาจเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ มือของเขาพยายามแกะข้อมือของเธอออกแต่ลี่เซียนกลับไม่ยอมปล่อย
“สามี.. นอนกันเถอะ”
เธอบ่นพึมพำเบา ๆ ก่อนจะกดศีรษะของตัวเองไปที่อกของเขาเหมือนกับเด็กที่้าการปลอบโยนจากใครบางคนในยามที่รู้สึกเหงา ชายหนุ่มรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่ไม่เคยเป็เช่นนี้มาก่อน เสียงหัวใจขอตัวเองดังก้องในหู เขาพยายามข่มอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่เข้าใจเอาไว้
“เ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไร”
เขาถามขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มือหนาพยายามจะแกะมือของเธอออก แต่ยิ่งเขาพยายามแกะมากเท่าไหร่ พระชายาของเขาก็ยิ่งกอดเอาไว้แน่นมากเท่านั้น
“อื้อ! อยู่นิ่ง ๆ ห้ามไปไหน.. คืนนี้ข้าจะนอนกับท่าน”
เชิงอรรถ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้