“ขอโทษด้วย ฉันช่วยเธอไม่ได้” บางทีอาจจะเป็เพราะอีกฝ่ายหมดสิ้นซึ่งพลังที่จะสามารถใช้ออกมาได้แล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีก แต่เย่เทียนเซี่ยก็ตอบกลับไปแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ยินก็ตาม หากเขา้าจะช่วยมัน สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือทำลายผลึกเทพั ซึ่งนั่นเป็สิ่งที่เขาทำไม่ได้ ต่อให้เขามีพลังมากพอจะทำได้เขาก็ไม่อาจทำ จากสายตาที่หลงโม่หยามองไปยังผลึกเทพัและสีหน้าของเขาก็บอกได้ชัดเจนว่าผลึกเทพันี้มีความสำคัญต่อเผ่าัอย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าในโลกนี้จะมีใครมีพลังมากพอจะสามารถทำลายมันได้อีก ถ้าหากมีคนที่สามารถทำลายผลึกเทพัได้จริง สิ่งที่พวกเขาจะได้รับจะต้องเป็ความเกลียดชังจากเผ่าัและการตามล่าอย่างแน่นอน
ในฐานะที่เป็เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปที่สาบสูญและยังเป็เผ่าพันธุ์ที่มนุษย์ให้ความเคารพบูชา แล้วอย่างนี้จะมีใครกล้าไปกระตุกหนวดัที่เป็มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปที่สาบสูญเล่า ขณะเดียวกันถ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้แข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ ใครจะกล้าปลดปล่อยมันออกมาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังล่ะ มอนสเตอร์ที่สามารถทำให้เทพัถึงกับต้องใช้ชีวิตของมันกักขังเอาไว้ ถ้าหากเป็มอนสเตอร์ชั่วร้ายขึ้นมาแล้วใครจะต่อกรกับมันได้ล่ะ?
เย่เทียนเซี่ยวางมือของตัวเองลงไปบนผลึกเทพัอย่างไม่ลังเล ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงไอพลังที่ถ่ายเทจากฝ่ามือของเขาเข้ามา ความรู้สึกนั้นทำให้เย่เทียนเซี่ยคิดถึงหินอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเขาทำลายไปที่เมืองเทียนเฉินขึ้นมาทันที จริงๆแล้วหินิญญาทั้งสองก้อนนี้ก็มีความคล้ายคลึงกันเป็อย่างมาก ก่อนที่เขาจะได้ใช้มันสิ่งที่ต้องทำก็คือการััเพื่อเป็การเชื่อมพลัง....... สิ่งที่แตกต่างไปก็คือหินอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์จะทำการเชื่อมต่อพลังก็เพื่อทดสอบพลังและคุณสมบัติของมันว่าเป็พลังประเภทอะไรและอยู่ในขั้นไหน แต่ผลึกเทพักลับใช้พลังของตัวมันเองไปกระตุ้นพลังัที่ยังไม่ตื่นขึ้นมาของฝ่ายตรงข้ามและมีจุดประสงค์เพื่อปลุกให้มันตื่นขึ้นมา
ทันทีที่ฝ่ามือของเขาััเข้ากับผลึกเทพั แสงสีขาวของผลึกเทพัก็ส่องแสงสว่างออกมาจากฝ่ามือของเขาจนกระทั้งคลอบคลุมไปทั่วทั้งร่าง มันทำให้ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสว่างสีขาวหนึ่งชั้น และนำความรู้สึกอบอุ่นตลอดทั้งร่างมาให้เย่เทียนเซี่ยราวกับว่าร่างกายของเขากำลังอยู่ในสปาก็ไม่ปาน
หลงโม่หยาพยักหน้าน้อยๆก่อนจะพูดออกมา “ไม่เลว ร่างของเ้ามีพลังัหลับใหลอยู่จริงๆ ไม่อย่างนั้นผลึกเทพัไม่มีทางเกิดปฏิกิริยาเช่นนี้แน่ แม้ว่าเ้าจะมีพลังั แต่ทว่าร่างของเ้าเอนเอียงไปทางมนุษย์ซะมากกว่า และเมื่อพ่อเป็คน แม่เป็ั ถ้าไม่ได้ผ่านการใช้ผลึกั พลังของเ้าคงจะตื่นขึ้นมาช้ากว่านี้มากๆ จนบางทีอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาเลยชั่วชีวิตก็เป็ได้ อย่างไรก็ตามเพราะเ้ามีสายเืของั แม้ว่าพลังัของเ้าจะไม่ตื่นขึ้นมาและยังเติบโตมาอย่างเช่นมนุษย์ปกติ ร่างของเ้าก็จะยังทนทานกว่ามนุษย์ทั่วไปอยู่หลายเท่าและพลังของเ้าก็จะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปอยู่หลายเท่าเช่นกัน เพราะัอย่างพวกเรามีพลังและร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไรล่ะ”
เย่เทียนเซี่ยหลับตาแน่น ร่ายกายสงบนิ่งไม่ไหวติง ความรู้สึกที่เขาััได้ทำให้ทั่วทั้งร่างของเขารู้สึกคุ้นเคยและยังมีความรู้สึกที่ร้อนรุ่มราวกับมีใครมาจุดไฟเอาไว้ในใจของเขา แต่ความรู้สึกเ่าั้กลับไม่ส่งผลกระทบต่อเสียงของหลงโม่หยาที่เขาได้ยินอยู่ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นผลึกเทพัก็ส่องแสงสีขาวสว่างจ้าออกมา........... เทียบกับแสงสีขาวที่ผลึกเทพัปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ แสงสีขาวในตอนนี้ยิ่งสว่างจ้ายิ่งกว่าและยังเป็แสงสีขาวที่บริสุทธิ์ไร้ที่ติไม่มีสีอื่นเจือปนเลยแม้แต่นิดเดียว และในตอนนี้ร่างของเย่เทียนเซี่ยก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีขาวแบบเดียวกันอีกชั้นหนึ่ง
หลงโม่หยาเฝ้าดูความเคลื่อนไหวตรงหน้า และแล้วใบหน้าของเขาก็แสดงความแปลกใจออกมา “แสงสว่าง........ พลังิญญาัของเ้ามีคุณสมบัติธาตุแสง!”
“...................”
“เผ่าพันธุ์ัของพวกเรามีพลังและร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด พลังโจมตีและพลังป้องกันก็แข็งแกร่งไม่เป็สองรองใคร ถ้าหากต้องใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง พลังของเผ่าัเราก็มักจะเลือกการต่อสู้ทางกายภาพ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคุณสมบัติธาตุสักเท่าไรนัก......แต่ก็มีับางตัวที่มีพร์อย่างมากที่สามารถทำลายกฎนั้นได้พร้อมทั้งถือครองคุณสมบัติของธาตุ ท่ามกลางพลังัที่มีคุณสมบัติของธาตุธรรมชาติแล้ว....... ั้แ่เผ่าัของเราถือกำเนิดขึ้นมาจนถึงวันนี้ ในรอบหลายพันปีถึงจะปรากฏัที่มีพลังคุณสมบัติแห่งธาตุขึ้นมาสักตัว และัเช่นนั้นยังแข็งแกร่งกว่าัธรรมดามากมายนัก ัที่มีคุณสมบัติแฝงอยู่ในพลังเ่าั้ถ้าหากปรากฏตัวขึ้นมาแล้วก็มักจะกลายเป็ผู้แข็งแกร่งท่ามกลางเผ่าพันธุ์ของเรา..... ปัจจุบันัทั้งหมดในเผ่าพันธุ์ของเราั้แ่หมื่นปีก่อนจนมาถึงตอนนี้มีัที่มีพลังที่แฝงไว้ด้วยคุณสมบัติแค่สองตัวเท่านั้น ตัวหนึ่งมีคุณสมบัติความมืด และพลังของพวกมันยังไปถึงจุดสุดยอดในระดับอสูร์ด้วย ส่วนอีกตัวหนึ่งมีพลังที่มีคุณสมบัติธาตุแสงเหมือนกับเ้า และยังเป็หนึ่งในสามัที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถไปถึงระดับเทพอสูรได้อีกด้วย”
“แต่เ้า......... เ้าเป็มนุษย์ที่มีพลังัอันมีคุณสมบัติธาตุแสง!” หลงโม่หยาตกตะลึง การปรากฏของพลังแห่งแสงบนร่างของเย่เทียนเซี่ยทำให้เขาต้องประหลาดใจ มีเพียงแค่ัที่มีพร์สูงส่งเท่านั้นถึงจะสามารถมีพลังที่มีคุณสมบัติแฝงได้ ทว่าพร์อันสูงส่งเช่นนั้นน่าจะเป็ัพันธุ์แท้ที่มีพลังอันบริสุทธิ์มากกว่า ั้แ่เผ่าพันธุ์ัถือกำเนิดขึ้นมาจนถึงวันนี้ัที่มีพลังซึ่งมีคุณสมบัติแฝงทั้งหมดล้วนเป็เช่นนั้น ไม่เคยมีัพันธุ์ผสมซึ่งถือกำเนิดมาจากการผสมผสานระหว่างมนุษย์และัถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับพลังัซึ่งมีคุณสมบัติแฝงมาก่อน
หากแม่เป็ั พ่อเป็มนุษย์ ัแบบนี้ยิ่งเอนเอียงไปทางมนุษย์มากกว่า มนุษย์ที่แม้แต่พลังัก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาแต่กลับพลังซึ่งมีคุณสมบัติแห่งแสง แบบนี้จะไม่ให้เขาตกตะลึงได้อย่างไร เนื่องจากพลังแห่งแสงที่ผลึกเทพัสะท้อนออกมาไม่น่าจะเป็เพราะการเรียนรู้เวทมนต์แห่งแสง เพราะผลึกเทพัจะตอบสนองต่อพลังัเท่านั้น ไม่มีทางที่มันจะจับััของพลังอย่างอื่นด้วยแน่นอน
“เผ่าพันธุ์ัของเรามีคุณสมบัติเพียงสองอย่างเท่านั้น หนึ่งคือแสง และอีกหนึ่งคือความมืด ัที่มีพลังแห่งแสงจะกลายเป็ัแห่งแสง ไม่เพียงแต่มีร่างกายและพลังที่แข็งแกร่งเหมือนัทั่วไป แต่ยังมีพลังป้องกันอันแข็งแกร่งและสามารถรักษาตัวเองได้ นอกจากนี้มันยังมีพลังโจมตีธาตุแสงอีกด้วย ส่วนัแห่งความมืดที่มีพลังแห่งความมืดจะมีพลังในการทำลายล้างที่แข็งแกร่งและยังมีพลังแห่งความมืดที่น่ากลัวอีกด้วย การปรากฏของพลังธาตุไม่เพียงจะขึ้นอยู่กับพร์ของพลังั ยังขึ้นอยู่กับจิตใจด้วยเช่นกัน จิตใจของัเอนเอียงไปในด้านสว่างและรวมเข้ากับพร์ก็มีความเป็ไปได้ที่หลังจากเกิดมาจะมีพลังัแห่งแสง ถ้าจิตใจของัเอนเอียงไปในด้านมืด ภายใต้แรงหลักดันจากพร์อันสูงส่งก็เป็ไปได้ที่จะปลุกพลังัแห่งความมืดขึ้นมาได้ ัที่มีพลังแห่งความมืดนั้นไม่จำเป็ต้องเป็ัที่ชั่วร้ายเสมอไป เพราะความมืดไม่ได้แสดงถึงความชั่วร้าย แต่ก็ไม่ใช่ัที่ดีเช่นกัน ตอนนี้าาเผ่าัของเราคือัที่มีพลังแห่งแสงสว่าง ส่วนัแห่งความมืดผู้แข็งแกร่งนั้นเขาได้จากเผ่าัไปนานแล้วโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ไหนเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมีพลังอันแข็งแกร่ง แต่เวทมนต์ของเขาก็ถูกกำหนดให้ไม่สามารถสืบทอดภารกิจผู้พิทักษ์ของเผ่าัเราได้”
หลงโม่หยาอธิบายให้เย่เทียนเซี่ยฟังอย่างละเอียด...... เพราะไม่เคยมีมนุษย์ผู้มีพลังัแห่งแสงซึ่งเป็พลังับริสุทธิ์มาก่อน และการปรากฏตัวของมนุษย์คนนี้จะต้องสร้างความปั่นป่วนมากมายให้เผ่าัแน่ๆ สิ่งนี้เป็สิ่งที่เขาควรจะรู้ ขณะเดียวกันเมื่อสามารถเชื่อมต่อกับพลังัแห่งแสงได้นั้นก็หมายความว่าเขามีจิตใจที่อยู่ในด้านสว่าง ไม่น่าจะเป็มนุษย์ที่ชั่วร้าย
แสงสีขาวบนร่างของเย่เทียนเซี่ยค่อยๆสว่างจ้ามากขึ้น ความรู้สึกร้อนรุ่มในใจของเขายังคงมีอยู่ มันยังคงขยายตัวอยู่ในใจของเขาอย่างต่อเนื่องก่อนจะหายไป......... มันคือพลัง มันคือพลังที่ตื่นขึ้นมาและยังหลอมรวมเข้ากับร่างกายภายในจนกลายเป็พลังที่เป็ของเขา
การตื่นขึ้นของพลังัมิใช่จะเกิดได้เพียงชั่วข้ามคืน มันจำต้องผ่านกระบวนการอย่างช้าๆ หลงโม่หยาไม่ได้พูดอะไรอีก เขารับรู้ได้ถึงพลังัของเย่เทียนเซี่ยที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
ในตอนนั้นเองความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้หลงโม่หยาต้องตกตะลึงก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
แสงสว่างบนร่างของเย่เทียนเซี่ยดับวูบไปจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ ขณะนั้นเองแสงสว่างที่ฉายออกมาจากผลึกเทพัก็หายไปเช่นกันจนเหลือเพียงแสงสีขาวที่เป็แสงเดิมของของผลึกเทพัเท่านั้น ไม่ต้องรอให้สีหน้าของหลงโม่หยาออกอาการตกตะลึงแสงสีดำกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ทันใดนั้นแสงทั้งหมดก็หายไป พื้นที่โดยรอบเปลี่ยนเป็ความมืดมิด สิ่งเดียวที่สามารถมองเห็นได้ก็คือร่างของเย่เทียนเซี่ยและผลึกเทพัที่ส่องแสงสีดำออกมาอย่างชัดเจน
ความมืด................
หัวใจของหลงโม่หยาหยุดนิ่งไปเป็เวลานานราวกับมันได้หยุดเต้นไปแล้ว ใบหน้าของหลงโม่หยาอึ้งค้างไปถึงสามวินาทีถึงจะสามารถพูดออกมาได้อย่างใ “ความมืด........ พลังัแห่งความมืด.......”
“เป็ไปไม่ได้........ นี่มันเป็ไปไม่ได้!!”
เมื้อกี้พลังัแห่งแสงก็ทำให้เขาตกตะลึงมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ร่างของเย่เทียนเซี่ยยังปรากฏพลังแห่งความมืดขึ้นมาอีก.... พลังัแห่งความมืดและแสงสว่าง
แสงสว่างและความมืด พลังัสามารถมีธาตุได้เพียงสองธาตุเท่านั้น ัที่มีพลังธาตุนั้นน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย แต่ไม่เคยมีัตัวไหนปรากฏพลังธาตุทั้งแสงสว่างและความมืดออกมาพร้อมกันเลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะเดิมทีพลังธาตุทั้งสองที่เป็แสงสว่างและความมืดต่างก็ควบคุมและต่อต้านซึ่งกันและกัน ไม่มีทางที่มันจะมาปรากฏในร่างของสิ่งมีชีวิตในเวลาเดียวกันได้ การต่อต้านและการควบคุมของพวกมันนั้นรุนแรงยิ่งกว่าน้ำและไฟ มันเป็ธาตุที่ไม่มีวันผสมผสานกันได้ หากที่ไหนมีความมืดที่นั่นย่อมไม่มีแสงสว่าง และหากที่ไหนมีแสงสว่างที่นั่นย่อมไม่มีความมืด
แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าหลงโม่หยาอย่างฉับพลันในตอนนี้กลับล้มล้างทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อมั่น
“เป็ไปไม่ได้....... เป็ไปไม่ได้..........พลังัแห่งแสงและพลังัแห่งความมืดจะปรากฏออกมาพร้อมกันได้อย่างไร..... นี่มันเป็ไปไม่ได้!” หลงโม่หยาเบิกตากว้าง เขาพึมพำกับตัวเองเสียงเบา แม้กระทั่งผ้าคลุมที่ปิดบังส่วนหัวของเขาก็เลื่อนหลุดลงไปจนเผยให้เห็นผมยาวสีขาวแซมเทาเขาก็ยังไม่รู้ตัว ไม่เพียงแค่เขา ภาพตรงหน้าไม่ว่าใครในเผ่าัมาเห็นเข้าก็ล้วนต้องตกละตึงจนไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่นอน
ไม่ต้องพูดถึงว่าแสงสว่างและความมืดไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้เลย....... ผู้ที่มีพลังัแห่งแสงมักจะมีจิตใจที่เอนเอียงไปในด้านสว่างอันดีงาม แต่ผู้ที่มีพลังัแห่งความมืดนั้นจะมีจิตใจที่เอนเอียงไปในด้านมืด ทั้งสองสิ่งนี้เป็จิตใจและนิสัยที่ขัดแย้งกันและไม่มีทางที่จะปรากฏขึ้นมาในตัวคนๆเดียวพร้อมกันได้
นี่มันเื่อะไรกันแน่............
แสงแห่งความมืดห่อหุ้มร่างกายของเย่เทียนเซี่ยไว้ท่ามกลางดวงตาอันสั่นไหวของหลงโม่หยา ไม่กี่วินาทีต่อมาเย่เทียนเซี่ยและแสงสีดำเข้มข้นที่อยู่บนผลึกเทพัก็สั่นไหวขึ้นมาแล้วค่อยๆอ่อนแสงลง และทันใดนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยพลังแห่งแสงสว่างก่อนหน้านี้
แต่แล้วในที่สุดความมืดก็ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางแสงสว่างอีกครั้ง แต่สิ่งที่ยังคงสะท้อนอยู่ในหัวของหลงโม่หยา ก็คือแสงแห่งความมืดที่ผุดพรายขึ้นมาเมื่อครู่นี้ แสงว่างที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาอีกครั้งไม่อาจคงอยู่ได้นานนักจากนั้นมันก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็มืดสลัว หลังจากสลับกันอยู่นานหลายวินาทีในที่สุดแสงแห่งความมืดก็เข้ามาแทนที่ทำให้บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง
แสงแห่งความมืดคงอยู่ได้สามวินาทีก็ถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างอีกครั้ง ในเวลานี้เย่เทียนเซี่ยและแสงบนผลึกเทพัก็เริ่มสลับไปมาระหว่างแสงสว่างและความมืด ความเร็วในการสลับกันของแสงทั้งสองค่อยๆเปลี่ยนจากช้ากลายเป็รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกใช้เวลาหลายวินาทีในหนึ่งครั้งก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็ครั้งละวินาทีจนไปถึงหลายครั้งต่อวินาที.............
