“พวกเ้าอยู่นี่อย่างที่คิด!”
หลิวหยวนชั่งกายผอมโทรม อาภรณ์ยาวพละพลิ้ว ผมเทาปลิดปลิว ย่างสามขุมเข้ามาในโพรงน้ำแข็งทีละก้าวๆ
เขาปิดผนึกทางออก พลังปราณแกร่งกล้าเป็คลื่นพันล้อมรอบกาย ลมหิมะตามร่าง สายตาราวกับฟ้าแลบมองแวบเดียวก็เห็นเ่ิู เขาหัวเราะเย็นะเืยามเอ่ย “เป็หนูที่จับยากซะจริง ที่แท้ก็มาแอบอยู่นี่ แต่ว่าจบแค่นี้แหละ”
“ที่แท้ก็เ้านี่เอง?” เ่ิูนึกได้ในทันที
หากเป็หลิวหยวนชั่งแล้วล่ะก็ ทุกอย่างก็ลงตัว อย่างน้อยเขาก็มีสิทธิ์เข้าแทรกกระทำการนอกกฎในกรมสดแนม ให้นายกองสี่นายลอบฆ่าเขาระหว่างทาง และยังัวานรแดนหิมะนั่น คงหนีไม่พ้นเป็สัตว์ร้ายที่เ้าแก่กะโหลกนี่ชุบเลี้ยง
“เ้าควรจะรู้นานแล้วนะว่าเป็ข้า” หลิวหยวนชั่งปรี่เข้ามาเรื่อยๆ กลิ่นอายแข็งแกร่งทำให้เปลวเพลิงไหววูบ โพรงน้ำแข็งใต้พื้นดินเงียบสงัดขึ้นไม่รู้กี่เท่าตัว จิตสังหารในดวงตานั้นราวกับมีชีวิต เขาถาม “เ้าคิดว่าข้ากลัวเ้าจริงๆ น่ะหรือ? คิดว่าข้าจะยอมปล่อยให้เ้าลอยนวล? เล่ยเอ๋อร์ของข้า เ้าเป็คนฆ่าอย่างนั้นใช่ไหม?”
เ่ิูเงียบงันชั่วอึดใจ รู้ดีว่าวันนี้จบไม่สวยแน่
หลิวหยวนชั่งเป็เ้าสำนักสำมะโนประชา ไม่เพียงฐานันดรสูงส่งเท่านั้น พลังกายเองก็ไม่อาจดูเบาได้ หาใช่คู่ต่อสู้ของเขาไม่
“ไม่ผิด ข้านี่แหละฆ่าหลิวเล่ย” เ่ิูพยักหน้ารับ เขาเสริม “เลี้ยงลูกไม่สั่งสอน พ่อนั่นแหละที่ผิด โอ๋จนลูกชายตัวเองกลายเป็พวกอันธพาลแส่หาเื่ จะช้าหรือเร็วก็ต้องโดนคนอื่นฆ่าอยู่ดี เขาพาลูกมือมาจะฆ่าข้า แต่กลับโดนข้าฆ่าแทน สมน้ำหน้าดีแล้วนี่”
“ฮ่าๆๆ เ้าพูดว่าสมน้ำหน้า” หลิวหยวนชั่งหัวเราะบ้าคลั่ง
เสียงหัวเราะแห่งโทสะและอาดูรสะท้อนกลับกลิ้งทั่วโพรงน้ำแข็ง
“วันนี้ ข้าจะฆ่าเ้าเป็หมื่นๆ ครั้ง ทำให้เ้าร้องขอความตายไม่ได้ความเป็ไม่มี จนเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้เลย” หลิวหยวนชั่งเหมือนราชสีห์แก่กล้าแผงคอชี้
เ่ิูหัวเราะ “เ้าอยากแก้แค้นก็มาเลย แต่ว่า เื่นี้ไม่เกี่ยวกับทหารรักษาปราการพวกนี้ เ้าปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
“หน่อมแน้ม” หลิวหยวนชั่งหัวเราะเย็นเหมือนแมวเล่นหนู “ทำเป็วีรบุรุษอะไรต่อหน้าข้าวะ? ไอ้โง่สามหาว! คิดว่าข้าจะปล่อยพวกมันให้มีชีวิตอยู่ต่อคอยเป็พยานให้หรือไร? คนที่อยู่กับเ้าทุกคนสมควรตายทั้งหมด เ้าให้ข้าไว้ชีวิตพวกมัน ข้าก็จะฆ่าพวกมันก่อนอันดับแรก ให้เ้ามองเห็นพวกมันตายต่อหน้าต่อตา”
โจมตีออกไปตามอารมณ์เดือดพล่าน
กำลังภายในสีน้ำเงินสาดซัดออกมา ดั่งอัสนีบาตปรี่สังหารเยี่ยนฝาน
พลังปราณอันน่ากลัวเป็ลูกคลื่นกลอกกลิ้ง
เ่ิูใ เขาแวบกายไปขวางอยู่หน้าเยี่ยนฝาน สวนหมัดทั้งสองออกไป
เ่ิูสำแดงพละกำลังทั้งหมด กระดูกและกล้ามเนื้อสั่นะเืทั้งร่าง กระดูกสันหลังอัดแน่นราวพญาัเก้าหัวโบยบิน ในกายมีเสียงกรีดร้องแห่งับางเบา หมัดพุ่งจู่โจม ตวาดเกรี้ยวกราดไม่หยุดยั้ง ไอหมัดปะทะกับสายฟ้าสีน้ำเงิน
นี่คือการโจมตีที่เ่ิูใช้แรงมากที่สุดครั้งหนึ่ง
ตูม!
สายฟ้าสีน้ำเงินกระจายออก
“อึก...พรวด!”
เ่ิูพ่นเืออกมาเป็สาย ถูกแรงปะทะจนกระเด็นไปชนกับผนังน้ำแข็งห่างไปยี่สิบเมตร เสียงครึกโครมสะท้อนก้อง ผนังน้ำแข็งพังทลาย เ่ิูถูกฝังไปครึ่งตัว
“ใต้เท้า?”
“คุ้มครองใต้เท้าเร็ว!”
เหล่าทหารวิ่งพล่านเข้าไปดึงตัวเ่ิูออกมาจากกองน้ำแข็ง
เ่ิูใบหน้าขาวซีด มุมปากมีคราบเืแต่งแต้ม รู้สึกถึงเพียงความรวดร้าวในร่าง เอ็นและกระดูกไร้กำลัง ใกล้จะสูญเสียความรู้สึกเต็มที พริบตาก็ไม่เหลือแม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืน โดยเฉพาะอวัยวะภายในทั้งห้าอวัยวะกลวงทั้งหก ที่เหมือนถูกไฟร้อนๆ แผดเผา เจ็บจนเ่ิูตามองเห็นดาว
“อวัยวะทั้งห้ายังไม่ทันคืนที่ก็ะเืจนวุ่นวายอีกแล้ว...ต่อจากนี้แย่แน่”
เ่ิูรู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลท่วม
“ที่แท้เ้าก็เจ็บหนักนี่เอง ฮ่าๆๆ” หลิวหยวนชั่งชะงักครู่หนึ่ง ก็หัวเราะอย่างสะใจ “เห็นทีวันนี้จะเป็ฟ้าลิขิต ให้เ้าต้องตายในเงื้อมมือของข้า”
เ่ิูส่งเสียงฮึในลำคอ เขาดิ้นรนจะลุกขึ้นให้ได้
ทว่าแข้งขากลับอ่อนเผละ ความเ็ปในกายทำให้เขาเกือบสลบ จะยืนก็ยังยืนไม่ไหว
“เฮอะๆๆ เ้าดูท่าทีสวะของเ้านี่สิ ยังอยากต่อกรกับข้าอีก?” หลิวหยวนชั่งปลดปล่อยโทสะและความรู้สึกชั่ววูบออกมาไม่ปรานี
เขาเยาะเย้ย “ข้าเห็นมามากไอ้พวกอัจฉริยะที่เพิ่งเรืองอำนาจได้วันเดียวก็ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง จะท้าสู้มันให้หมดทั้งโลก ไม่เห็นผู้าุโอยู่ในสายตา สุดท้ายตายอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ ข้าอดทนมามากในลู่ิ ไม่ว่าเ้าจะยกหางสูงแค่ไหนก็ต้องตายคามือข้า”
เ่ิูสำลักเื เขากัดฝันบังคับกระตุ้นกำลังภายใน
ทว่าก็รู้สึกได้ถึงหายนะของกำลังภายในกายที่ยากจะควบคุมได้ เหมือนเข็มเหล็กที่ไม่อาจกำเนิดพลังอะไรได้เลย
“ข้าจะคุ้มกันเอง พวกเ้าปกป้องใต้เท้า รีบไป”
เยี่ยนฝานวางเ่ิูไว้บนหลังทหารนายหนึ่ง เขาคำรามเกรี้ยวกราด ชักดาบออกมาพุ่งเข้าหาหลิวหยวนชั่ง
นายทหารคนแรกนิ่ง เขาโอดร้องด้วยความเศร้า ก่อนแบกเ่ิูไปทางช่องทางที่ใกล้ที่สุดโดยไร้ลังเล
“เหล่าเยี่ยน รักษาตัวด้วย”
“พี่ใหญ่เยี่ยน ชาติหน้าเรามาเป็พี่น้องกันอีกเถอะ”
ทหารนายอื่นะโกึกก้องโดยไม่หันกลับมามอง จากนั้นก็ตามทหารนายแรกไป
ใบหน้าของพวกเขา มีแต่น้ำตาอุ่นร้อนหลั่งเผาะๆ
ทุกคนเข้าใจดีว่าหันหลังคราวนี้ เท่ากับชั่วนิรันดร์
การหันหลังหนีมิใช่เพราะรักตัวกลัวตาย
แต่เพราะเป็ทหารกล้า บางครั้งก็ต้องทำสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย
เยี่ยนฝานดิ้นรนครั้งสุดท้ายเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ก็เพื่อจะชิงเวลาอย่างน้อยสิบอึดใจ ให้พวกเขาพาเ่ิูหนี
สัญญาที่รู้กันดีและไม่ต้องคาดการณ์ล่วงหน้านี้ ได้บ่มเพาะจนเติบใหญ่ในชีวิตทหารหลายสิบปีตั้งนานแล้ว
เหล่าทหารผู้รักษาปราการต้องเด็ดเดี่ยวและรวดเร็วเฉกเช่นยามนี้ และสำหรับหลิวหยวนชั่งยอดฝีมือนั้นก็สนองตอบไม่ทัน กว่าจะรู้ตัว ทหารสี่นายก็แบกเ่ิูหนีไปทางโพรงน้ำแข็ง พริบตาเดียวก็มองไม่เห็นตัวไปแล้ว...
เยี่ยนฝานคว้าดาบยาวปรี่เข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้เป๋สวะ หลีกไป!”
หลิวหยวนชั่งเงื้อมือฟาดใส่ พลังปราณพวยพุ่ง
สายฟ้าสีน้ำเงินกรีดร้องผ่าอากาศ
เยี่ยนฝานไม่อาจหลบหนีได้ทัน เขาโดนแรงโจมตีเต็มเปา ดาบยาวในมือแตก เศษดาบทิ่มแทงร่าง ทั้งตัวถูกแรงจู่โจมจนลอยละลิ่ว หน้าอกมีรอยฝ่ามือประทับอยู่กับตา ร่างกายเกือบจะทะลุ
หลิวหยวนชั่งตามโพรงน้ำแข็งไปอย่างเร็วรี่
ทว่าตอนกำลังจะเหิน กลับรู้สึกถึงความแน่นที่ขา
เขาก้มหน้ามอง เห็นเยี่ยนฝานที่ยังไม่ตายคลานเข้ามาอย่างนึกไม่ถึง สองแขนยึดขาขวาหลิวหยวนชั่งไว้อย่างเอาเป็เอาตาย สีหน้าและแววตาบ่งชัดว่าจะยึดไว้อย่างถึงที่สุด
“ไอ้โง่”
หลิวหยวนชั่งสีหน้ามืดหม่น เขาตวัดฝ่ามืออีกครั้ง
เปรี้ยง!
ร่างกายเยี่ยนฝานะเิ
เืเนื้อแดงฉานและกระดูกขาวสาดกระเซ็นทั่วโพรงน้ำแข็ง ทิ่มแทงตายิ่งนักเมื่ออยู่ใต้แสงแห่งเปลวเพลิง
แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว หัวหน้าผู้รักษาปราการยังใช้แขนสองข้างที่ยังอยู่ดียึดขาหลิวหยวนชั่งไว้แ่า นิ้วทั้งห้าจิกเสื้อผ้าขาด
“โชคไม่ดี”
หลิวหยวนชั่งสาปส่ง เขาขยับขาทีหนึ่ง แขนสองข้างนี้ก็แหลกเละไม่ต่างกับอย่างอื่น
พอถูกถ่วงเวลาขนาดนี้ ทหารนายแรกก็วิ่งไปจนหาตัวไม่เจอแล้ว
“ฮึ ดูซิว่าเ้าจะหนีไปไหนได้”
หลิวหยวนชั่งหัวเราะเย็น เขากระตุ้นกำลังภายในเคลื่อนกายไวเหมือนแสง ไล่ตามโพรงน้ำแข็งที่เ่ิูหายไป
...
“ปล่อย...ปล่อยข้าลง”
เ่ิูว่ากัดฟัน
เขาอดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
ตอนที่เยี่ยนฝานปรี่เข้าไปอย่างไม่คิดชีวิตนั้น เ่ิูก็ะเืใจเพราะหัวหน้าทหารนายนี้อีกหน
แม้จะพบกันได้ไม่ถึงสองวัน แต่เ่ิูก็มิใช่ะเืใจจากเขาเป็ครั้งแรก ไม่รู้เพราะอะไร เด็กหนุ่มถึงได้ััถึงบางสิ่งวิเศษบนกายพวกเขาที่คนอื่นๆ ไม่มี รังแต่จะกระแทกใจเขาอยู่ร่ำไป
“ใต้เท้า หลบอยู่ที่หุบเขาน้ำเงินเถิด รับรองว่ามีฟืนไฟ” ทหารนายแรกแบกเ่ิูไว้แน่น
ทั้งสี่คนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
รูปแบบของโพรงหินคดเคี้ยวและซับซ้อน หนำซ้ำพื้นก็ยังลื่นมาก บางที่บนทางเดินเหมือนเป็บันไดลื่น เหล่าทหารแบกเ่ิูลื่นลงไปจากโพรง
เสียงหายใจหอบถี่ของทุกคนดังในโพรงน้ำแข็งอันเงียบงัน
ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่าทางออกอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่ามีทางไปหรือไม่มี
เป็ที่ชัดเจนว่าตอนนี้มิใช่เวลาจะมาเสวนาปัญหาข้อนี้
สิ่งแรกที่ควรทำ คือสลัดการไล่ล่าของหลิวหยวนชั่งให้หลุด
ไม่อย่างนั้นแล้ว ทุกอย่างก็สูญเปล่า
เ่ิูอยากจะดิ้นรนลงจากหลังของทหารนายแรกหลายครั้ง
ทว่าเพราะความรวดร้าวในร่างกายทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ ทั้งที่เดิมทีอาการาเ็ของเขาใกล้จะฟื้นฟูแล้วแท้ๆ แต่พอรับมือกับการจู่โจมของหลิวหยวนชั่งเข้าไป กลับทำให้เจ็บหนักเข้าไปอีก อาการร้ายแรงขึ้น สูญสิ้นความสามารถในการต่อสู้ไปจนหมด
ประมาณชั่วพักจิบชาต่อมา
อากาศในช่องทางเดินค่อยๆ เบาบางลงทุกที
โพรงน้ำแข็งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นแห่งนี้อย่างกับเขาวงกต เสมือนว่าไร้ซึ่งทางออก
ผ่านไปอีกชั่วพักจิบตา
ด้านหน้าปรากฏเป็พื้นที่ขนาดเล็กราวห้องศิลาั์
ผนังสี่ด้านมีรูขนาดสองสามเมตรสิบกว่ารู ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง แล้วก็ไม่อาจรู้ว่าจะพาไปโผล่ที่ไหน
พื้นที่เหมือนรังผึ้งอีกแล้ว
เหล่าทหารพักผ่อนกันอยู่ในห้องนี้พักหนึ่ง ส่งสัญญาณมือโดยไร้เสียง เห็นเพียงรอยยิ้มบางบนใบหน้าของทหารนายที่สอง ที่โบกมือให้สหายคนอื่นแล้วหันหลังตรงไปยังโพรงน้ำแข็งอีกโพรง เข้าโพรงน้ำแข็งห่างออกไปสองสามเมตร
ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ รวมทั้งนายที่แบกเ่ิูเลือกอีกทางหนึ่ง พวกเขารีบลงไปด้วยความเร็ว
เ่ิูเข้าสู่สภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น
...
ชั่วครู่ต่อมา หลิวหยวนชั่งผู้ไล่ฆ่าเหมือนมัจจุราช ในที่สุดก็มาถึงห้องรวงผึ้งแห่งนี้จนได้
เขากวาดตามองสภาพรอบด้าน ก่อนนิ่งงันไปน้อยๆ ไม่นึกเลยว่าจะมาพบเจอทางแยกมากมายขนาดนี้
ตอนที่กำลังจะสำรวจว่าควรไปทางไหนดีนั้นเอง หางตาก็เหลือบเห็นแสงเล็กๆ จากช่องทางทางขวา มีบางอย่างกำลังส่องแสง หลิวหยวนชั่งร้องลั่น เขาไม่เสียเวลาคิด รีบสลายตัวเป็ลำแสงไล่ตามไปยังทางนั้นทันที
“จะไปไหน มาหาข้านี่มา”
พอมองเห็นร่างที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุนตรงหน้าเป็ทหารรักษาป้อมนายหนึ่ง หลิวหยวนชั่งก็ดีใจหนัก
ทว่าทางในนี้น้ำแข็งแกร่งลื่นเกินไป เขาไม่กล้าใช้แรงมากเกิน หาไม่แล้ว หากะเืจนถึงผนังน้ำแข็งจนมันถล่มลงมาทั้งโพรง มีหวังไม่รู้ว่าอีกกี่โพรงจะพลอยถล่มตาม ตัวเขาถึงตอนนั้นก็คงหนีไม่รอด ตายอนาถแน่
เพราะใจยังพะว้าพะวัง ดังนั้นหลิวหยวนชั่งจึงไม่อาจจับทหารที่หนีอย่างลื่นไหลราวกับหนู แม้ในยามร้อนใจ
“รนหาที่”
หลิวหยวนชั่งกระสับกระส่าย
ไล่ตามอยู่หลายสิบอึดใจ ทหารรักษาป้อมที่เคยวิ่งหนีอุตลุดกลับหยุดนิ่งเสียอย่างงั้น
ระยะห่างของสองร่างน้อยลงทุกที
ที่แท้ก็เพราะเจอทางตัน
“เฮอะๆ ทำไมไม่ไปต่อล่ะ?” หลิวหยวนชั่งปรี่เข้ามาใกล้ “คนอื่นๆ ล่ะ? เ่ิูไปไหน?”
นายทหารหันหลังกลับมาเผชิญหน้าหลิวหยวนชั่ง
เขาหายใจหอบถี่ เหงื่อไหลท่วมร่าง เขากระตุ้นกำลังภายในทั้งหมดที่มีเพื่อหนี สุดท้ายก็มิใช่คู่ต่อสู้ของหลิวหยวนชั่งอยู่ดี
ทว่า มองชายที่ไม่รู้ว่าพลังเหนือกว่าตนกี่เท่า มองชายที่ไม่รู้ว่าเป็บุคคลสำคัญน่านับถือกว่าตนกี่เท่า ทหารนายที่สองกลับคลี่ยิ้ม เขาสงบลงได้อย่างรวดเร็ว
เขายืนเผชิญหน้าหลิวหยวนชั่งผู้โกรธจัดอย่างสงบ ไม่มีแววหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย แววตาล้วนมีแต่เยาะเย้ยและเหยียดหยาม สองมือเท้าเอว เงยหน้าหัวเราะร่า
“หัวเราะอะไร? เ้ามันรนหาที่ตาย! รีบบอกมา คนอื่นอยู่ที่ไหน?” หลิวหยวนชั่งเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ทายสิ” ทหารนายที่สองหรี่ตา
หลิวหยวนชั่งชะงักงัน
บัดนั้นเอง ที่พลังประหลาดได้ก่อกำเนิดขึ้นในร่างทหารนายที่สอง ะเิออกมาอย่างไม่อาจควบคุมราวกับูเาไฟ
ตูม!
ะเิตัวเอง
เืเนื้อกระจัดกระจาย กระดูกขาวแหลกละเอียด
พลังอันน่ากลัวแผ่รังสีพร้อมทำลายล้างทุกอย่าง พุ่งเข้าหาหลิวหยวนชั่ง
หลิวหยวนชั่งสะบัดมือ ปราณสีน้ำเงินเป็คลื่นดั่งกำแพงแสง คุ้มกันจากเศษกระดูกที่ซัดเข้ามาหาเขา
“เ้าสมควรตาย” หลิวหยวนชั่งทั้งตะลึงทั้งโกรธ
เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้ได้ในทันทีว่าถูกหลอกเข้าให้แล้ว
ทหารนายนี้จงใจล่อเขามาที่นี่ คนอื่นจะได้พาเ่ิูหนีไปอีกทาง
ขณะเดียวกับที่โมโห หลิวหยวนชั่งก็รู้สึกะเืใจอย่างบอกไม่ถูก
เขาครองตำแหน่งสูงส่งมานาน คบค้าสมาคมกับชนชั้นสูงเพริศแพร้วไม่เว้นแต่ละวัน พบเจออัจฉริยบุคคลมาก็มาก จึงทำให้เป็คนตาสูง ไม่เห็นพวกจอมยุทธ์หรือทหารชั้นต่ำอยู่ในสายตา
ในสายตาของหลิวหยวนชั่ง ทหารเหล่านี้ก็เหมือนกับมดปลวก โง่เง่าและอัปลักษณ์ สกปรกไม่เจริญตา ราคาชีวิตถูกๆ อย่างดีก็ยังพอมีราคาให้ใช้ได้บ้าง
ทว่าวันนี้ ทหารและจอมยุทธ์ชั้นต่ำที่เขาไม่เคยเห็นในสายตากลับทำให้เขาตอบโต้ไม่ได้มาหลายรอบแล้ว
หลิวหยวนชั่งไม่อาจไม่ยอมรับ ว่าเขาะเืจนถึงแก่น
เหล่าทหารชั้นต่ำต้อยที่ไร้ค่าแม้แต่จะพูดคุยด้วย กลับกล้าหาญถึงขั้นนี้ ไม่กลัวตายถึงขั้นนี้
เขายืนเงียบๆ อยู่หลายสิบอึดใจ จากนั้นจึงกลับเส้นทางหลัก
เขากลับมาถึงห้องรวงผึ้งในเวลาอันรวดเร็ว
ช่องทางโพรงน้ำแข็งหลายสิบช่องได้ถูกตรวจสอบหมดแล้วรอบหนึ่ง ในที่สุดเขาก็พบร่องรอย หาช่องทางที่เ่ิูและพรรคพวกเข้าไปได้สำเร็จ หลิวหยวนชั่งยังคงไล่ฆ่าต่อไป
...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เื่แบบเดิมเกิดขึ้นอีกหน
“ว่ามา เ่ิูหายไปไหน?” หลิวหยวนชั่งรุดเข้าใกล้ทหารนายที่สี่
“ถุย” นายทหารขากน้ำเืออกมา ชักดาบที่บั้นเอวพร้อมสู้ศึก เขาปรี่เข้ามาด้วยใบหน้าดุร้ายและห้าวหาญ เงื้อดาบจะฟาดฟัน
หลิวหยวนชั่งยกมือเล็กน้อย
ปราณสีน้ำเงินจู่โจมราวฟ้าผ่า
ดาบยาวในมือทหารนายที่สี่แตก ตัวลอยไปกระแทกกับผนังน้ำแข็ง กระดูกไม่รู้แหลกไปกี่ชิ้น
“ถ้าเ้าพูด ข้าไม่อ้อมค้อม ถ้าไม่พูด จะให้เ้าร้องขอความตายดีกว่าเป็”
หลิวหยวนชั่งร้อนรนถึงที่สุด ั์ตาวาววามด้วยความบ้าคลั่งมืดขรึม ทั้งตัวราวกับูเาไฟ น่ากลัวอย่างทึบทึม
“ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ” ทหารนายที่สี่นอนจมกองเื เขาไม่ขยับเขยื้อนเลย แต่กลับยังยิ้มได้ และหัวเราะตอกหน้าอย่างดื้อรั้น “มาๆๆ ลองดูสักตั้ง มีลูกไม้อะไรสำแดงออกมาให้หมด ให้ปู่แกดูซิว่าข้าจะขอความเมตตาหรือเปล่า”
หลิวหยวนชั่งโมโห
เขายกมือขึ้น พลังปราณคลุ้มคลั่งเป็คลื่นทำลายท่อนล่างของนายทหารจนแหลกเป็เนื้อเหลว
ใครจะรู้ว่าทหารนายที่สี่จะไม่มองแม้แต่แวบเดียว เขายังคงนอนอยู่บนพื้น หน้าเบิกบานด้วยรอยยิ้ม เขาเงยหน้ามองโพรงน้ำแข็งโค้งยามเอ่ยแ่เบา “พี่ใหญ่เยี่ยน ท่านรอข้าที่ใต้พิภพ ในปรโลกนะ อย่าให้ข้าเหงาล่ะ...”
หลิวหยวนชั่งชะงัก
เขาดีดนิ้ว
สายลมจากนิ้วแทงหัวนายทหารจนทะลุ
สุดท้ายแล้วหลิวหยวนชั่งก็ยังให้ความตายที่ไม่อ้อมค้อมแก่เขาอยู่ดี
เพราะมาจนถึงขั้นนี้แล้ว หลิวหยวนชั่งก็ได้เข้าใจว่าทหารรักษาป้อมนายนี้มีปณิธานที่จะตายอย่างแรงกล้า แม้จะกระทำการโเี้ต่อร่างกายเขาขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะเสียเวลาเปล่าอีกต่างหาก
นอกจากความโกรธแล้ว หลิวหยวนชั่งก็รู้ถึงความยกย่องทหารชั้นต่ำคนนี้ในก้นบึ้งของใจ
“เ่ิูใช้วิธีไหนถึงได้ทำให้ทหารรักษาป้อมพวกนี้สละชีวิตเพื่อมันได้?”
หลิวหยวนชั่งนึกไม่ออกเลยจริงๆ
เขาหันกายออกจากทางแยกสายนี้
...
...
“เ้าเป็ใคร?”
เ่ิูมองชายชุดดำตรงหน้าเขานี้
เขาฟื้นฟูขึ้นบ้างแล้วในที่สุด พอบังคับให้ยืน เดินหรือพูดได้
และใกล้กายเขา ก็มีเพียงแค่ทหารนายแรกคนเดียวเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เพื่อให้สลัดการไล่ล่าของหลิวหยวนชั่ง ทหารนายอื่นได้ตัดสินใจจะอยู่ต่อ เพื่อเบนความสนใจหลิวหยวนชั่ง ความจริงแล้วก็ไม่ต่างกับส่งไปตายเลย
เ่ิูเพิ่งเคยรู้สึกเกลียดชังความอ่อนแอของตัวเองก็คราวนี้
เขาได้นับทหารรักษาป้อมเหล่านี้เหมือนเป็ครอบครัวตัวเองไปแล้ว
แต่กลับมีปัญญาทำได้แค่มองพวกเขาถูกฆ่าตาย ไม่มีน้ำยาจะต่อสู้
แข็งแกร่ง!
ข้าจะต้องแข็งแกร่งให้ได้
เ่ิูไม่เคยกระหายพลังขนาดนี้มาก่อน
แต่ก่อนอื่น เขาต้องมีชีวิตอยู่รอด
เขาข่มความเศร้าแสนสาหัสกลับลงไป ยอมไม่ไปต่อสู้สุดชีวิตกับหลิวหยวนชั่ง แต่ลี้มาจนถึงที่นี่โดยมีทหารนายแรกคอยประคอง
ไม่นึกเลยว่า จะมีชายอาภรณ์ดำปรากฏกายขึ้นขวางทางออก
“เ้าเป็ใคร?” เ่ิูถาม
“คนที่สนใจในตัวเ้ามาตลอด” บุรุษชุดดำน้ำเสียงต่ำทุ้ม ราวกับบีบอัดออกมาจากในอก แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของเขาจะน่ากลัวยิ่งยวด กระทั่งจะน่ากลัวว่าหลิวหยวนชั่งหลายสิบเท่า เพราะเ่ิูััได้ถึงความกดดันจนหายใจไม่ออกแผ่ออกมาจากชายผู้นี้
เป็ผู้แข็งแกร่งที่น่าครั่นคร้าม
และเป็ศัตรูหาใช่มิตร
“เพื่อจะมาถึงที่นี่ มดตัวจ้อยได้ตายเพื่อปกป้องเ้า น่าสงสาร เสียดายนัก ที่บุรุษเป็ผู้บริสุทธิ์แต่แหวนหยกจึงกลายเป็ผู้ร้าย” ชายอาภรณ์ดำหัวเราะเสียงแหลม แล้วจึงยื่นมือ “เอาล่ะ ส่งมาสิ”
เ่ิูนิ่ง “ส่งอะไร?”
“ส่งของวิเศษในตัวเ้ามา ข้าจะไม่ฆ่าเ้า จะให้เ้าได้มีชีวิตอยู่ต่อ” บุรุษชุดดำยิ้มประหลาด “หากเ้าหนีการไล่ฆ่าของหลิวหยวนชั่งได้ เ้าก็มีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้