หลี่ชิงเฟิงตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือและเห็นว่ามาถึงเมืองแล้ว เขายิ้มให้หลี่ชิงหลิงอย่างเขินอายเล็กน้อย เขาเองก็ไม่คิดว่าทันทีที่ได้นั่งในตะกร้าจะหลับไป
หลี่ชิงหลิงสะพายตะกร้าขึ้นหลัง จับมือเขาและเดินตามหลิวจือโม่เข้าไปในเมือง
วันนี้เป็วันไปตลาด ในเมืองมีชีวิตชีวามาก มีพ่อค้าเร่ะโอยู่ทุกที่ หลี่ชิงหลิงในความทรงจำไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนางที่มาจากยุคปัจจุบัน ย่อมไม่เคยเห็นภาพแบบนี้แน่
นางมองด้วยความหลงใหลอยู่ชั่วขณะ
เมื่อเดินผ่านร้านซาลาเปา หลี่ชิงเฟิงที่ได้กลิ่นก็กลืนน้ำลายไม่หยุด แต่ผละสายตาออกพร้อมเม้มปาก เขารู้ว่าครอบครัวไม่มีเงินและไม่สามารถซื้อซาลาเปาได้
หลี่ชิงหลิงสังเกตเห็นปฏิกิริยาของเขา นางแตะโสมป่าในแขนเสื้อ จากนั้นหันไปถามหลิวจือโม่ "พี่จือโม่ รู้ไหมว่ามีร้านยาอยู่ตรงไหนบ้าง”
พวกเขาออกมาเช้ามาก จึงไม่ได้กินอะไรเลย แถมยังเดินทางไกลขนาดนี้ อย่าว่าแต่หลี่ชิงเฟิง แม้แต่นางก็รู้สึกหิวแล้ว
ดังนั้นนางจึงวางแผนที่จะขายโสมป่าั้แ่เนิ่นๆ กินอะไรให้อิ่มท้อง แล้วค่อยไปเดินดูช้าๆ
หลิวจือโม่ค่อนข้างคุ้นเคยกับเมืองนี้ เขาพาหลี่ชิงหลิงไปถนนอีกสายหนึ่ง ถนนสายนี้เป็ถนนทิศใต้ มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ดูเจริญรุ่งเรือง
หลี่ชิงหลิงสามารถบอกความแตกต่างจากถนนทิศใต้และเหนือได้ทันที ถนนทิศเหนือเป็ชาวบ้านธรรมดา ส่วนถนนทิศใต้เต็มไปด้วยผู้มั่งคั่ง
"เดี๋ยวเราจะไปร้านขายยาชื่อจี้ซื่อถัง ร้านขายยานี้ซื่อสัตย์สุจริต อนาคตจะซื้อยาก็ไปที่ร้านนี้” หลิวจือโม่กล่าว พร้อมเล่าเกี่ยวกับร้านขายยาทั้งหมดในเมือง
หลี่ชิงหลิงได้ข้อสรุปว่าจี้ซื่อถังบริการดี ปฏิบัติต่อคนรวยและคนจนเหมือนกัน ในขณะที่ไป๋เฉ่าถังซึ่งมีชื่อเสียงพอๆ กับจี้ซื่อถังรังแกคนจนและบริการคนรวยเท่านั้น
"นายน้อยหลี่มาแล้ว ้าซื้อยาหรือ” เห็นพวกหลิวจือโม่ทั้งสามคนเดินเข้ามา เด็กขายยาก็ถามด้วยรอยยิ้ม
ตอนพ่อแม่ของหลิวจือโม่ป่วยก็มีหมอจากจี้ซื่อถังช่วยรักษา เขาเคยมารับยาหลายครั้งแล้ว ทำให้เด็กขายยารู้จักเกือบหมด
หลิวจือโม่ส่ายหัว เขาชี้ไปที่หลี่ชิงหลิงและพูดกับเด็กขายยา "น้องสาวของข้า้าขายยา ที่ร้านรับซื้อไหม?"
เด็กขายยามองไปที่หลี่ชิงหลิงด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกัน “น้องสาวจะขายยาอะไรหรือ"
หลี่ชิงหลิงแอบพยักหน้าในใจ ร้านนี้บริการไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ได้ดูถูกนางเพราะอายุยังน้อย และเสื้อผ้าที่ซอมซ่อ
นางหยิบโสมป่าออกมาจากแขนเสื้อ เปิดผ้าคลุมออกแล้วยื่นให้กับเด็กขายยา "ท่านพี่ ข้า้าขายโสมป่านี้ ไม่รู้จะให้ราคาได้เท่าไร"
"ชิ้นนี้คงต้องเอาให้เ้าของร้านเราดู โปรดรอสักครู่" เด็กขายยารับโสมป่าจากมือของหลี่ชิงหลิง และเข้าไปในห้อง
หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนที่มีเคราสั้นก็ถือโสมของนางออกมา เมื่อเห็นเขา หลิวจือโม่ก็ยิ้มพลางเรียกเ้าของร้านโจวเป็การทักทาย
"นายน้อยหลี่นี่เอง ไม่เจอกันนานเลย" เ้าของร้านโจวยิ้มแย้ม เขามีความประทับใจที่ดีต่อหลิวจือโม่ แต่น่าเสียดายที่นางหลิวจากไปเร็ว เด็กหนุ่มคนนี้จึงต้องเลิกเรียนไป น่าเสียดายอนาคตที่สดใสเสียจริง
"นี่เ้าของร้านโจว" หลิวจือโม่แนะนำให้หลี่ชิงหลิง เด็กสาวคำนับเ้าของร้านอย่างรู้กาลเทศะทันที
“สวัสดีเ้าของร้านโจว!”
เ้าของร้านโจวเอามือลูบเครา "สาวน้อย ข้าดูโสมของเ้าแล้ว ขุดมาได้ไม่เลว รากทั้งหมดยังอยู่ แต่มันยังอายุไม่เยอะ คงให้ได้แค่หนึ่งตำลึง เ้าคิดว่าอย่างไร?”
หลี่ชิงหลิงเองก็รู้ว่าโสมอายุไม่มากนัก คงมีค่าไม่มาก สามารถขายได้ในราคาหนึ่งตำลึงก็พอใจมากแล้ว
"ได้เ้าค่ะ!" นางยื่นมือออกไปรับเหรียญเงินที่เ้าของร้านส่งมาให้ "ถ้าข้าขุดเจอสมุนไพรอื่น เอามาขายที่นี่ได้ไหม?”
"ได้ ราคาขึ้นอยู่กับสมุนไพร"
"ขอบคุณเ้าของร้าน!" หลี่ชิงหลิงโค้งคำนับเ้าของร้านโจวอีกครั้งอย่างมีความสุข เ้าของร้านโจวโบกมือ ปากบอกไม่ต้องเกรงใจ แต่ในใจคิดว่าเด็กคนนี้ซื่อสัตย์ดีจริง
หลังออกจากจี้ซื่อถังแล้ว หลิวจือโม่ก็นำหนังสือสองเล่มที่เขาคัดลอกตรงไปที่ร้านหนังสือ เมื่อนางเห็นว่าหนังสือสองเล่มของหลิวจือโม่ได้เงินเพียงยี่สิบเหวินก็ใอย่างมาก หนังสือเล่มหนาขนาดนี้ได้แค่เล่มละสิบเหวิน ราคาถูกเกินไปแล้ว ทำให้ตระหนักความยากลำบากในการหาเงินของยุคนี้เป็อย่างดี
เดินออกจากร้านหนังสือ หลิวจือโม่เห็นหลี่ชิงหลิงเหลือบมองเขาเป็ครั้งคราว เขาจับใบหน้าตนเองด้วยความสงสัย "มีอะไรหรือ มีอะไรติดที่หน้าข้าหรือ"
"ไม่มี!" หลี่ชิงหลิงส่ายหัว นางแค่รู้สึกสงสารเขาขึ้นมา จากครอบครัวที่ร่ำรวยไปจนถึงวันที่ไม่มีอาหาร การแบกทุกอย่างไว้คนเดียวคงลำบากมากแน่ “หิวจะตายแล้ว เรารีบไปหาอะไรกินกันเถอะ!”
นางจูงมือน้องชายเดินไปที่ถนนทิศเหนืออย่างรวดเร็ว นางเดินไปที่ร้านซาลาเปา เ้าของร้านเห็นว่าลูกค้ามาก็รีบถาม “แม่นางจะซื้อซาลาเปาหรือ ซาลาเปาเนื้อสองเหวิน ไส้ผักหนึ่งเหวิน ซาลาเปาใหญ่ไส้เยอะ กินแล้วต้องกลับมาซื้ออีกแน่นอน”
"ถ้างั้นข้าเอาซาลาเปาเนื้อหกลูก ซาลาเปาผักหกลูก” สิ้นเสียงหลี่ชิงหลิง หลิวจือโม่ก็เหลือบมองนางอย่างไม่เห็นด้วยนัก
“ซื้อเยอะขนาดนั้น กินหมดหรือ” เงินทองหายาก แต่นางใช้เงินสิบแปดเหวินในคราวเดียว เพิ่มอีกแค่สองเหวินก็สามารถซื้อข้าวกล้องได้ประมาณสองจิน
เดิมทีหลี่ชิงเฟิงมีความสุขมาก แต่เมื่อได้ยินที่หลิวจือโม่พูดก็รู้สึกลังเลขึ้นมาโดยพลัน ก่อนจะดึงชายเสื้อหลี่ชิงหลิงไว้ “พี่ ซื้อสามลูกก็พอ ซื้อเยอะขนาดนั้นแพงนะ”
หลี่ชิงหลิงขอให้เ้าของร้านห่อซาลาเปาและพูด "พวกเราสามคน ยังมีแม่ จือเยี่ยน แล้วก็โหรวโหรว ทั้งหมดหกคน คนละสองลูกพอดี จะไม่หมดได้ไง? ไม่ได้ซื้อบ่อยๆ สักหน่อย นานๆ ทีเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่คาดคิดว่านางจะนึกถึงแม้กระทั่งพี่น้องเขาด้วย ความรู้สึกนี้ค่อนข้างซับซ้อนไม่เบา
เมื่อเห็นว่านางจะจ่ายก็รีบหยุดไว้ หยิบเงินที่ได้มาจากการคัดลอกหนังสือที่เตรียมใช้ซื้อข้าวให้น้องสาวออกมานับจนครบสิบแปดเหวิน แล้วมอบให้เถ้าแก่ซาลาเปา
หลี่ชิงหลิงเลิกคิ้วขึ้น และเก็บมือกลับมาง่ายๆ ชาติก่อนเคยได้ยินบ่อยๆ ว่า ผู้ชายคนหนึ่งรักเราหรือไม่ก็ต้องดูว่าเขายินดีจ่ายเงินเพื่อเราหรือไม่
"อร่อย..." ในที่สุดหลี่ชิงเฟิงก็ได้กินซาลาเปาที่โหยหามานาน เขามีความสุขจนตาปิดไปหมด
"มันร้อนนะ กินช้าๆ" หลี่ชิงหลิงใส่ซาลาเปาอีกหกลูกลงในตะกร้า เห็นหลี่ชิงเฟิงกินอย่างรีบร้อนจึงรีบส่งเสียง
หลี่ชิงเฟิงพยักหน้า แต่ความเร็วในการกัดซาลาเปาไม่เปลี่ยนแปลง หลี่ชิงหลิงเห็นแล้วก็เลิกสนใจ ขอแค่ไม่สำลักก็พอ
นางเองก็หยิบซาลาเปาเนื้อมากัดและรู้สึกว่ารสชาติไม่เลว เถ้าแก่ค้าขายสุจริตดีมาก ซาลาเปาลูกใหญ่จริงๆ นางกินหมดหนึ่งลูกก็คงจะอิ่มแน่
“ท่านพี่ไม่หิวหรือ” หลี่ชิงหลิงแทะซาลาเปาไปแล้วครึ่งลูก แต่เห็นหลิวจือโม่ยังไม่กิน “รีบกินเถอะ เราต้องไปซื้อของอย่างอื่นอีกนะ!”
หลิวจือโม่ชำเลืองมองนาง แอบลังเลอยู่ในใจ แต่เมื่อเห็นนางกินอย่างเอร็ดอร่อย สุดท้ายก็ยกซาลาเปาขึ้นมากินด้วย
มันเป็ประสบการณ์แปลกใหม่ที่เขาไม่เคยมีมาก่อน รู้สึกไม่เลวเลย
หลี่ชิงหลิงพลางกินพลางดู แต่มองดูอยู่นานก็ไม่พบวิธีหาเงินเลย ต่อให้จะตั้งแผงขายก็ต้องมีเงินทุน!
พลันสายตาแหลมคมของนางจับจ้องไปที่ร้านขายผ้า ก่อนจะขอให้หลิวจือโม่และหลี่ชิงเฟิงรออยู่ข้างนอก นางจะเข้าไปดูข้างใน
มีคนมากมายกำลังซื้อของอยู่ในร้าน นางเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นผ้าตาข่ายที่แขวนอยู่ในร้าน ดวงตาก็เป็ประกาย
นางอยากจะถามว่าราคาเท่าไหร่ แต่หลังจากมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าในร้านมีคนยุ่งอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งน่าจะเป็เ้าของร้าน ช่วยไม่ได้สินะ นางยืนรอจนกว่าคนอื่นจะจ่ายเงิน จากนั้นจึงเดินเข้าไปหา
“เ้าของร้าน ที่นี่รับตาข่ายแบบนี้หรือไม่” นางชี้ตาข่ายที่แขวนอยู่
อันที่จริง ทันทีที่หลี่ชิงหลิงเข้ามาในร้าน ตู้สือเหนียงก็เห็นแล้ว แต่นางกำลังยุ่งอยู่ เห็นอีกฝ่ายเดินไปรอบๆ จึงไม่ได้พูดอะไร
ไม่คิดเลยว่าเด็กสาวตัวเล็กคนนี้จะรออย่างมีความอดทน รอถามนางอย่างสุภาพหลังจากบริการลูกค้าคนอื่นๆ เสร็จ
ความอดทนนี้ทำให้นางมีความประทับใจที่ดีต่อหลี่ชิงหลิง
"รับสิ แบบเรียบๆ นี้ราคาหนึ่งเหวิน ส่วนแบบซับซ้อนราคาสามเหวิน” ตู้สือเหนียงชี้ตาข่ายแบบต่างๆ ให้หลี่ชิงหลิงดู
หลี่ชิงหลิงพยักหน้า จำได้ว่านางจ้าวรู้วิธีถักกระเป๋า นางถามตู้สือเหนียงด้วยว่านางรับกระเป๋าหรือไม่ ตู้สือเหนียงบอกรับ แบบธรรมดาสองเหวิน แบบประณีตสี่เหวิน
“เ้าของร้าน ด้ายสีห่อละเท่าไรหรือ?”
"กำละหกเหรียญ"
หลี่ชิงหลิงซื้อด้ายสีสามห่อในราคา 18 เหวินทันที นางรู้วิธีผูกเงื่อนจีน ที่นี่ไม่มีเงื่อนจีนขาย ไว้ถักมาให้เ้าของร้านดูว่าจะขายได้เท่าไร หากราคาดี นางจะสอนให้นางจ้าว
“พี่ ซื้ออะไรมา” หลี่ชิงเฟิงถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นหลี่ชิงหลิงออกมา
หลี่ชิงหลิงยื่นมือไปจูงน้องชาย "ซื้อด้ายสีมา จะให้ท่านแม่ถักตารางมาแลกเงิน” สิ้นเสียงก็หันมองหลิวจือโม่ "พี่จือโม่ ร้านข้าวไปทางไหน?” ออกมานานขนาดนี้ ควรไปซื้อของเตรียมกลับแล้ว
หลิวจือโม่บอกให้ตามมา จากนั้นเดินนำไปเงียบๆ
หลังจากเดินไปหนึ่งเค่อก็มาถึงร้านขายข้าวร้านหนึ่ง หลี่ชิงหลิงถามราคาและซื้อข้าวขัดสีสิบจิน ข้าวกล้องยี่สิบจิน น้ำมันผักกาดก้านขาวสองจินครึ่ง ซีอิ๊วหนึ่งจิน เกลือสองจิน ใช้ไปทั้งหมดสี่ร้อยห้าสิบห้าเหวิน มองเงินที่จ่ายออกไปก็เ็ปใจขึ้นมา เงินช่างออกง่ายจริงๆ
"นี่ ของท่านพี่" หลี่ชิงหลิงยื่นข้าวขัดสีสามจินและข้าวกล้องสิบจินให้หลิวจือโม่ เขามองนางนิ่งๆ ไม่เอื้อมมือไปรับหรือส่งเสียงใด
นางใส่ตะกร้าหลังของเขาขณะพูดอย่างไม่เขินอาย "จำไว้ว่าทีหลังดีกับข้าให้มากๆ ก็พอ” นางจำที่เขาทำดีกับครอบครัวนางได้อย่างดี
หลิวจือโม่เม้มริมฝีปาก และพยักหน้าหนักๆ เขาจะดีต่อนางไปตลอดชีวิต
"ไปซื้อเนื้อเสร็จก็กลับบ้านกันได้แล้ว" หลี่ชิงหลิงรู้สึกเหมือนน้ำลายจะไหลเมื่อนึกถึงเนื้อหมูที่ห่างหายไปนาน
"ท่านจะซื้อเนื้อหรือ" หลี่ชิงเฟิงเบิกตากว้าง เมื่อเห็นหลี่ชิงหลิงพยักหน้าก็ยิ้มกว้าง เขาไม่ได้กินเนื้อมานานมากแล้ว ในที่สุดคืนนี้ก็จะได้มีเนื้อกิน
หลี่ชิงหลิงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย นางจะต้องทำงานหนักหาเงินเพื่อให้ครอบครัวได้กินเนื้อทุกวัน
“ลุง เนื้อขายยังไง” หลี่ชิงหลิงยืนอยู่หน้าแผงขายเนื้อ
"แบบมีมันสิบห้าเหวิน ไม่มีมันสิบเหวิน” เ้าของแผงขายเนื้อยิ้มสดใส "หมูที่เชือดวันนี้ดีมาก ดูมันนี่สิ! สาวน้อยอยากได้เท่าไร"
คนที่นี่ชอบกินเนื้อติดมัน ยิ่งมันยิ่งดี หลี่ชิงหลิงแอบตัวสั่น "ลุง ช่วยแล่เนื้อติดมันหนึ่งจิน ไม่ติดมันอีกหนึ่งจิน” นางเห็นกระดูกสะอาดเอี่ยม "ลุง ขอกระดูกนี่ให้ข้าเถอะ! "
"ตกลง กระดูกตรงนี้ให้เ้าหมด คราวหน้าต้องมาอุดหนุนข้านะ!" เ้าของร้านขายเนื้อผูกกระดูกให้อย่างใจกว้าง ยังไงก็ไม่มีใครซื้อกระดูกเหล่านี้อยู่แล้ว ให้ไปก็เป็น้ำใจ “สาวน้อย ทั้งหมดยี่สิบห้าเหวิน"
หลี่ชิงหลิงนับเหรียญทองแดงยี่สิบห้าเหรียญให้เขา เอาหมูใส่ตะกร้าแล้วยิ้มให้หลิวจือโม่และหลี่ชิงเฟิง "เอาละ กลับบ้านกันเถอะ!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้