ไม่นานก็ถึงวันที่คุณนายลู่นัดรับเงินและของขวัญคืนจากคู่สามีภรรยาสวี่ต้าซาน
เช้าวันนั้น สวี่ฮุ่ยเพิ่งเปิดประตูห้อง สวี่ต้าซานก็เดินเข้ามาหา “ฮุ่ยฮุ่ย พ่ออยากคุยกับลูกหน่อย”
สวี่ฮุ่ยมีท่าทีเ็า “คุยเื่อะไรคะ?”
สวี่ต้าซานอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “วันนี้คุณนายลู่จะมาบ้านเรา ลูก…พอจะคุยกับคุณนายลู่ ให้ทางบ้านลู่ช่วยให้แม่เขากลับไปทำงานที่เดิมได้ไหม?”
สวี่ฮุ่ยปฏิเสธทันที “ทำไมหนูต้องช่วยแม่ด้วย ั้แ่เล็กจนโต แม่เคยทำดีกับหนูบ้างไหม?”
กู่ซิ่วที่ยืนแอบฟังอยู่นอกประตู ได้ยินดังนั้นก็รีบพุ่งเข้ามา “ฮุ่ยฮุ่ย แค่ลูกขอร้องคุณนายลู่ให้พาแม่กลับไปทำงานที่เดิมได้ แม่จะทำดีกับลูกตลอดไปเลย”
สวี่ฮุ่ยปรายตามองเธอ “แม่หมายความว่า ถ้าหนูไม่ช่วยให้แม่ได้กลับไปทำงาน แม่ก็จะยังทำไม่ดีกับหนูเหมือนเดิมเหรอ?”
“งั้นก็ตามนั้น หนูไม่กลัวหรอก แล้วก็ชินแล้วด้วย”
กู่ซิ่วพูดตะกุกตะกัก “ฉัน…ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น…”
แต่สวี่ฮุ่ยไม่สนใจเธอ หลังจากแต่งตัวเสร็จก็หิ้วปลาไหลเดินออกไป
เมื่อขายปลาไหลแล้วกลับมาถึงตำบลเถาฮวา สวี่ฮุ่ยนึกถึงคุณนายลู่กับหลาน ๆ ที่จะมา เธอเลยซื้อน้ำอัดลมสิบขวดแถวตำบลกลับบ้านไปด้วย
เห็นสองสามีภรรยาสวี่กับสวี่เยว่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ
บนโต๊ะเต็มไปด้วยของขวัญที่กู่ซิ่วซื้อมาเพื่อชดเชยให้คุณนายลู่ มุมปากของสวี่ฮุ่ยก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เธอดีใจที่เห็นพวกเขากลัว
ราว ๆ สิบโมงเช้า ก็มีเสียงรถยนต์ดังมาจากนอกบ้าน ตามด้วยเสียงของคุณนายลู่ “ฮุ่ยฮุ่ย อยู่บ้านไหม?”
“อยู่ค่ะ อยู่ค่ะ!” สวี่ฮุ่ยรีบวิ่งออกมาจากบ้านไปประคองคุณนายลู่
ครั้งนี้คุณนายลู่ยังคงพาพวกพี่น้องลู่ฉี่โหย่วมาเหมือนเดิม
คุณนายลู่ให้สวี่ฮุ่ยเดินประคองนำหน้า และมีหลานชายทั้งสามเดินตามหลัง ดูมีสง่าราศีมาก
คุณนายลู่เห็นว่าที่หัวของสวี่ฮุ่ยถูกแกะผ้าพันแผลออกแล้ว แต่ยังมองไม่เห็นสภาพแผลที่ชัดเจน
พอเข้ามาในบ้าน คุณนายลู่เลยถามถึงาแที่หัวของสวี่ฮุ่ยด้วยความเป็ห่วง “แม่หนู เปิดหน้าม้าให้ย่าดูแผลหน่อยสิ”
สวี่ฮุ่ยเปิดหน้าม้าอย่างว่าง่าย “ไม่เป็อะไรมากแล้วค่ะ อีกไม่กี่วันก็ตัดไหมได้แล้ว”
คุณนายลู่ตั้งใจดูแผล แผลอยู่ใกล้ไรผม มีหน้าม้าบังอยู่ ไม่ทำให้เสียโฉมเลย
แต่ถ้าไม่ไว้หน้าม้า รอยแผลเป็นี้ก็ยังส่งผลบ้างเล็กน้อย
ถึงจะเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น แต่คุณนายลู่ยังคงไม่พอใจ
คุณนายลู่กวักมือเรียกลู่ฉี่อู่ “เอากระเป๋าฉันมาให้หน่อย”
ลู่ฉี่อู่รีบยื่นกระเป๋าให้ด้วยความเคารพ
คุณนายลู่รับมาเปิดกระเป๋า หยิบเครื่องสำอางนำเข้าหกขวดในนั้นออกมาให้สวี่ฮุ่ย
“นี่คือครีมลดรอยแผลเป็ที่ย่าฝากคนไปซื้อที่เยอรมัน ได้ยินมาว่าได้ผลดีกับรอยแผลเป็เล็ก ๆ แบบนี้มาก”
“หนูลองใช้ดูนะ ถ้าได้ผล ย่าจะฝากคนไปซื้อให้อีก”
สวี่ฮุ่ยพูด “รอยแผลเป็บนหัวหนูไม่รุนแรงค่ะ หกขวดนี้ก็น่าจะพอแล้ว” แล้วเก็บครีมลดรอยแผลเป็ไว้
สวี่เยว่มองจนตาค้าง
แผลเป็บนหัวของเธอหนักกว่าสวี่ฮุ่ยมาก เธอก็อยากได้ครีมลดรอยแผลเป็เหมือนกัน
สวี่เยว่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “คุณย่าลู่ หัวหนูก็เจ็บเหมือนกัน แถมยังอักเสบด้วยค่ะ”
เธอทำหน้าเว้าวอนน่าสงสาร “หมอบอกว่าแผลหนูสามารถเลี่ยงการอักเสบได้ ถ้าทำความสะอาดฆ่าเชื้อบ่อย ๆ”
“หนูไม่รู้เื่พวกนี้ พี่สาวรู้ แต่พี่สาวไม่เตือนหนู พี่เขาทำความสะอาดแค่แผลของตัวเองค่ะ”
สวี่ต้าซานไม่รู้จะมองสวี่เยว่ด้วยสายตาแบบไหน
เธอเกลียดสวี่ฮุ่ยถึงขั้นใส่ร้ายสวี่ฮุ่ยต่อหน้าคุณนายลู่เลยเหรอ!
แม้แต่กู่ซิ่วยังทำหน้าเหวอ
คุณนายลู่ไม่ชอบสวี่เยว่ เธอไม่รู้ตัวบ้างหรือไง? ยังจะเข้าไปใกล้อีก!
คุณนายลู่เหลือบมองสวี่เยว่อย่างเสียไม่ได้ “ย่าเป็คนบอกให้ฮุ่ยฮุ่ยไม่ต้องช่วยเธอเอง!”
“เธอเคยได้ยินนิทานเื่ชาวนากับงูเห่าไหม ย่าไม่อยากให้ฮุ่ยฮุ่ยเป็ชาวนาที่ถูกงูกัดตาย!”
พูดจบ คุณนายลู่ก็ยิ้มขอโทษ “ย่าลืมไป เธอเรียนไม่เก่ง คงไม่เคยได้ยินนิทานเื่นี้”
สวี่เยว่้าทำลายชื่อเสียงสวี่ฮุ่ยต่อหน้าทุกคนนักใช่ไหม งั้นก็บอกไปเลยว่าเธอเป็คนสั่งเอง ตบหน้ายัยตัวแสบนี้ซะ!
สวี่เยว่อับอายขายหน้าจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
คุณย่าลู่ละสายตาจากสวี่เยว่ แล้วหันมาพูดคุยกับสวี่ฮุ่ยด้วยท่าทีสนิทสนมเหมือนเดิม “ย่าเห็นข่าวการแต่งงานคลุมถุงชนของหนูในหนังสือพิมพ์ แล้วยังได้ยินพี่ลู่ของหนูเล่าว่าหนูถูกบังคับจนต้องเอาหัวโขกกำแพง ย่าสงสารหนูแทบตายแน่ะ”
กู่ซิ่วกับสามีรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า กระดากถึงที่สุด