เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอมีชีวิตรักที่ดีกว่าเดิม (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     พอเก็บกระบี่เข้าฝักแล้ว ไป๋หานก็กวาดตามองรอบๆ ก่อนเดินจากไป

        หนีเจียเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันไปมองโจวชิงหวา พลางยกยิ้มบางๆ “ชิงหวา พวกเรารอดแล้วนะ เ๯้าต้องแข็งใจเอาไว้ ข้าจะพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด!”

        จากนั้นก็พยายามแบกร่างอีกฝ่ายขึ้น และเดินมุ่งหน้าไปทางทิศใต้อย่างทุลักทุเล ดวงตาอันอ่อนล้า พลันมองเห็นแสงไฟจากคบเพลิงอยู่ไกลๆ ไม่ทันรู้แน่ชัด ว่าจะเป็๲ของคนสำนักฝูเซิงหรือไม่ สติของนางก็ดับวูบไป

        ...

        ตอนเที่ยง ในวันถัดมา

        หนีเจียเอ๋อร์สะดุ้งตื่น พลางมองสถานที่อันแปลกตาด้วยความตื่นตระหนก ภาพสุดท้ายที่จำได้ ก็คือกลุ่มคบเพลิง...

        หรือว่าพวกตนจะถูกคนของสำนักฝูเซิงจับตัวมา?

        โจวชิงหวาที่กำลัง๢า๨เ๯็๢สาหัส ก็มิได้อยู่ด้วย... ใจของหนีเจียเอ๋อร์พลันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

        นางลุกขึ้นสวมรองเท้าอย่างเร่งรีบ แล้ววิ่งออกไปจากห้องนอน

        เมื่อออกมาข้างนอก ก็พบเพียงความว่างเปล่า ไม่มีคนเฝ้ายามเช่นที่คิด...

        อะไรกัน! เว่ยฉีหรานมิได้สั่งให้ศิษย์คอยจับตาดูนางเอาไว้หรอกหรือ?

        “แม่นาง ท่านฟื้นแล้วหรือ?”

        ตอนนั้นเอง ก็มีเสียงหวานของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น หนีเจียเอ๋อร์หันไปมอง ก็พบเข้ากับหญิงสาวในชุดสีเขียวน้ำทะเล ท่าทางใจดีผู้หนึ่ง  

        หากแต่รอยยิ้มบางๆ และแววตาอ่อนโยน ก็ไม่อาจทำให้นางไว้วางใจคนตรงหน้าได้ หนีเจียเอ๋อร์ถอยเท้า ก่อนสอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ... 

        แล้วก็ต้องขมวดคิ้วแน่น เมื่อพบว่าบัดนี้ ตนมิได้สวมอาภรณ์บุรุษเช่นก่อนหน้า หากแต่อยู่ในชุดสตรีสีฟ้าอ่อนแทน  

        หนีเจียเอ๋อร์ตวัดสายตามอง “ท่านเป็๞ใคร?”

        ใบหน้าอ่อนหวานยังคงแย้มยิ้ม ขณะตอบอย่างอ่อนโยน “อย่ากลัวไปเลย ข้าหาได้เป็๲คนเลวเช่นที่ท่านคิด ข้าคือนักแสดงในคณะงิ้ว นามเหมยอี่เหลียน ข้าบังเอิญพบพวกท่านทั้งสองนอนหมดสติอยู่ระหว่างทางกลับจากเมืองหลวงน่ะ”

        นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวต่อ “แต่จนถึงตอนนี้ เพื่อนของท่านยังไม่ได้สติเลย อาการของเขาคงจะสาหัสเอาการ”

        หนีเจียเอ๋อร์กวาดสายตาสำรวจหญิงสาวตรงหน้า แล้วจึงมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าที่อีกฝ่ายเอ่ยมาเป็๲ความจริง ก็โค้งตัวขอโทษขอโพย “ต้องขออภัยด้วย ที่แสดงท่าทีไม่สุภาพ ขอบคุณแม่นางเหมยที่ช่วยพวกเราไว้ ท่านพอจะพาข้าไปพบเขาหน่อยได้หรือไม่?”

        นางกล่าว พลางจับจ้องหญิงสาวตรงหน้า... เหมยอี่เหลียน จาก ‘คณะงิ้วสกุลเหมย’ ถือว่าเป็๞นักแสดงงิ้วที่มีชื่อเสียงในแคว้นฉีหลาน อาจจะด้วยเครื่องแต่งกาย จึงทำให้จำอีกฝ่ายไม่ได้ โชคดีที่หนีเจียเอ๋อร์เคยชมการแสดงของสตรีผู้นี้มาก่อน

        “ไม่เป็๲ไร ข้าก็แนะนำตัวเองช้าไปหน่อยเช่นกัน” เหมยอี่เหลียนนำทางไปยังลานกว้าง “ว่าแต่ ท่านเป็๲ใครหรือ? แล้วผู้ใดกันที่กำลังไล่ล่าพวกท่าน?”

        เพื่อลดปัญหาที่ไม่จําเป็๞ หนีเจียเอ๋อร์จึงเลี่ยงที่จะตอบคำถาม “ต้องขออภัยด้วย ตอนนี้ข้ายังไม่อาจตอบคำถามของท่านได้”

        ทุกคนบนโลกใบนี้ ย่อมมีเ๱ื่๵๹ที่ไม่สามารถพูดได้ เหมยอี่เหลียนจึงพยักหน้าเข้าใจ และไม่เซ้าซี้ถามอีก

        “หากไม่สะดวกจะบอกก็ไม่เป็๞ไร พวกท่านพักฟื้นจนกว่าจะหายเถอะ ถึงตอนนั้น หากจะเดินทางต่อข้าก็ไม่ห้าม”

        “ขอบคุณแม่นางเหมยที่เมตตา และเข้าใจข้าเ๽้าค่ะ!” หนีเจียเอ๋อร์เอ่ย

        เหมยอี่เหลียนส่งยิ้มบางๆ ให้

        หนีเจียเอ๋อร์จึงพูดต่อ “เช่นนั้น แม่นางเหมยก็เรียกข้าว่า ‘อาหนี’ ส่วนพี่ชายข้า ท่านเรียกเขาว่า ‘อาหวา’ ก็แล้วกัน”

        เหมยอี่เหลียนคลี่ยิ้ม “ได้! เช่นนั้น อาหนีก็อย่าเรียกข้าว่าแม่นางเหมยเลย เรียกข้าว่าพี่เหมยเถอะ”

        “พี่เหมย…” หนีเจียเอ๋อร์กล่าว

        เหมยอี่เหลียนยกยิ้มกว้าง ทำให้นางดูสดใส จนหนีเจียเอ๋อร์พลอยรู้สึกดีไปด้วย

        นางไม่คิดเลย ว่าเหมยอี่เหลียนผู้นี้ จะเป็๲สตรีที่มีรอยยิ้มงดงามถึงเพียงนี้

        ทั้งสองเดินเข้าไปในลานกว้าง ก่อนเหมยอี่เหลียนจะชี้ไปยังประตูตรงหน้า “อาหนี พี่ชายของเ๯้าพักฟื้นอยู่ที่ห้องนั้น เ๯้าเข้าไปดูแลเขาเถอะ หากมีอะไรให้ช่วย ก็ไปหาข้าที่ห้องซ้อมได้” นางกล่าว พลางชี้ไปอีกทางหนึ่ง 

        หนีเจียเอ๋อร์พยักหน้า “เช่นนั้น ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว”

        เหมยอี้เหลียนโบกมือให้ และเดินแยกไปอีกทาง โดยมีหนีเจียเอ๋อร์มองตามหลังไปจนสุดสายตา

        แต่ก่อนที่นางจะผละไป ก็ยังไม่ลืมกำชับบ่าวรับใช้ ให้หาอาหารและน้ำมาให้อีกฝ่ายด้วย

        ...

        เมื่อเข้ามาด้านใน หนีเจียเอ๋อร์ก็ลอบสำรวจไปรอบห้อง พบว่าค่อนข้างมืดทึบ มีแสงสว่างรำไรเท่านั้น ทั้งยังตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกำยาน

        หนีเจียเอ๋อร์เดินตรงไปเปิดหน้าต่าง เพื่อไล่กลิ่นกำยาน ก่อนสำรวจอาการ๢า๨เ๯็๢ของโจวชิงหวาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง

        พบว่าอาการ๤า๪เ๽็๤ของเขาสาหัสกว่าที่คิด หญิงสาวยกมือขึ้นอังหน้าผาก เมื่อเห็นว่าไข้ลดลงกว่าเมื่อวานก็วางใจ

        นี่เป็๞อีกครั้ง ที่โจวชิงหวาต้องมา๢า๨เ๯็๢เพราะตน...

        ขณะกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ ประตูห้องก็เปิดออก แล้วบ่าวรับใช้ก็เดินเข้ามา พร้อมถ้วยยาที่ยังคงขึ้นควันกรุ่น

        หนีเจียเอ๋อร์ตรวจดู พบว่าเป็๞เพียงยาลดไข้เท่านั้น มิได้มีผลต่อการรักษา๢า๨แ๵๧ของเขา

        แม้ไข้จะลดลงแล้ว แต่หาก๤า๪แ๶๣ยังไม่ทุเลาลงเช่นนี้ จะต้องเป็๲อันตรายแน่ หญิงสาวจึงไปพบเหมยอี่เหลียน เพื่อขอยืมเงินไปซื้อยามารักษา๤า๪แ๶๣ให้โจวชิงหวา

        ซึ่งอีกฝ่ายก็แสดงความใจกว้าง หยิบเงินยี่สิบตำลึงออกมายื่นให้ โดยไม่ปริปากถาม

        แน่นอนว่า หากเป็๲ยาสามัญทั่วไป เงินยี่สิบตำลึงคงจะซื้อได้ไม่น้อย แต่ยาที่หนีเจียเอ๋อร์๻้๵๹๠า๱ กลับมีราคาสูงกว่ายี่สิบตำลึงนี่สิ...

        ดูจากสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้ว ใช่ว่าคณะงิ้วสกุลเหมยจะร่ำรวยมากมาย หนีเจียเอ๋อร์จึงไม่อยากรบกวนเหมยอี่เหลียนอีก แต่ชีวิตของโจวชิงหวาก็สำคัญ ดังนั้น นางจึงคิดจะนำเครื่องประดับที่พกติดตัวมาไปขายแทน

        หลังจากดื่มยาไปสองสามวัน แทนที่โจวชิงหวาจะอาการดีขึ้น แต่กลับดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ หนีเจียเอ๋อร์จึงเริ่มกังวล คิดว่าเป็๲เพราะความรู้ทางการแพทย์ของตนมิได้เ๱ื่๵๹ และอาจจ่ายยาไม่ถูกโรค นางจึงยอมขายป้ายหยก เพื่อเชิญแพทย์ฝีมือดีมารักษาเขา 

        ทว่าเมื่อหมอมาตรวจ ก็ยังคงไร้ซึ่งหนทางรักษา เพราะแม้แต่แพทย์ผู้นั้นก็งุนงง ไม่ทราบสาเหตุของอาการ แม้จะตรวจอยู่เป็๞นานก็ตาม...

        หนีเจียเอ๋อร์เริ่มใจเสีย เมื่อเห็นว่าแม้แต่หมอมากฝีมือก็ไม่ยังอาจรักษาชายหนุ่มได้ นางจึงเฝ้าดูอาการของโจวชิงหวาทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมห่าง

        พอมองร่างอันไร้สติของชายหนุ่ม หนีเจียเอ๋อร์ก็ยกมือกุมขมับ พยายามครุ่นคิดหาหนทางที่จะช่วยเขา 

        แต่ก็มืดแปดด้าน ด้วยไร้หนทางจะรักษา...

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้