แสงไฟคบขยับเข้าใกล้หมู่บ้านไท่ผิงอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามแปลกประหลาดดังก้องในความมืด ชาวบ้านกลุ่มใหญ่รวมตัวกันที่ประตูหมู่บ้าน ผู้ชายถืออาวุธที่หาได้ - มีด ขวาน บางคนมีปืนเก่าๆ สองสามกระบอก
หลินเว่ย ยืนอยู่แถวหน้าสุด ข้างๆ เขาคือ หลิวซิน และ ประมุขเจิ้งลี่หัว ทั้งสามเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง
"ทุกคนอยู่ในตำแหน่ง!" ประมุขเจิ้งลี่หัวะโสั่ง "ยิงเมื่อข้าสั่งเท่านั้น!"
หลินเว่ยสูดหายใจลึก รวบรวม พลังชี่ ในตัว เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลเวียนตามแขนขา ผลจากการฝึกฝนกับนางชานซู เขาพร้อมใช้ ท่าัปกป้อง เพื่อป้องกันทุกคน หากจำเป็
ไฟคบเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดพวกเขาก็เห็นชัดว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไร - กลุ่มคนประมาณสิบคนกำลังเดินโซเซมาอย่างไร้จุดหมาย บางคนมีาแเหวอะหวะ เสื้อผ้าฉีกขาด ดวงตาเบิกกว้างอย่างผิดปกติ และส่งเสียงครางประหลาดคล้ายสัตว์
"พระเ้า..." หลินเหว่ยหมิน กระซิบ "พวกเขาเป็ชาวบ้านจากหมู่บ้านของเด็กอ้วน ข้าจำพวกเขาได้!"
"พวกเขาได้รับเชื้อแล้ว" เสวียนเหมย บอกเสียงเครียด ยืนอยู่ไม่ไกล "นี่คือผลของไวรัสใหม่"
หนึ่งในผู้ติดเชื้อเห็นกลุ่มชาวบ้านไท่ผิง และส่งเสียงคำรามดังลั่น ก่อนจะพุ่งตัววิ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ
"เล็ง!" ประมุขเจิ้งลี่หัวสั่ง คนถือปืนยกอาวุธขึ้น
"รอก่อน!" หลินเว่ยะโ รีบยกมือขึ้น "ัปกป้อง!"
พลัง ชี่ สีทองพุ่งออกจากร่างของหลินเว่ย กระจายเป็แผงพลังงานกึ่งโปร่งใส ขวางระหว่างชาวบ้านไท่ผิงกับผู้ติดเชื้อที่กำลังวิ่งเข้ามา ร่างของผู้ติดเชื้อชนเข้ากับแผงพลังงานนั้นเต็มแรง แต่ไม่สามารถทะลุผ่านได้ เขาล้มกลิ้งไปกับพื้น ก่อนจะลุกขึ้นและพยายามอีกครั้ง
"อย่าฆ่าพวกเขา!" หลินเว่ยะโ "พวกเขาเป็แค่ผู้ติดเชื้อ อาจมีวิธีรักษา!"
"แต่พวกเขากำลังจะบุกเข้ามา!" หลินเหว่ยหมินะโกลับ
"ข้าจะสกัดพวกเขาไว้ ขณะที่คนอื่นล้อมรั้วให้แ่ากว่าเดิม" หลินเว่ยบอก รักษาแผงพลังงานเอาไว้แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าจากการใช้พลัง
ผิงเหวย วิ่งเข้ามาหาหลินเว่ย "คุณจะทำได้นานแค่ไหน?"
"ไม่แน่ใจ" หลินเว่ยตอบด้วยเสียงเครียด เหงื่อเริ่มไหลบนใบหน้า "แต่มีบางอย่างผิดปกติ ผู้ติดเชื้อพวกนี้ไม่เหมือนที่เราเคยเจอ พวกเขาดูมีสติมากกว่า... ราวกับกำลังทำตามคำสั่ง"
ขณะที่ผู้ติดเชื้อยังคงพยายามผลักตัวเองผ่านแผงพลังงาน ดร.หลี่เจียน สังเกตอย่างใกล้ชิด "ดูพฤติกรรมของพวกเขาสิ" เขากล่าว "มันไม่ใช่การโจมตีแบบไร้สติ แต่เหมือนพวกเขากำลังทดสอบจุดอ่อนของแผงพลังงาน"
หลิวซินเลื่อนสายตามองไปรอบๆ "และดูเหมือนพวกเขาจะพยายามล้อมหมู่บ้านเรา"
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องดังมาจากอีกด้านของหมู่บ้าน ชาวบ้านบางคนวิ่งมาอย่างตื่นตระหนก
"มีผู้บุกรุกที่รั้วด้านหลัง!" พวกเขาะโ "พวกมันกำลังปีนข้ามรั้วเข้ามา!"
"นี่เป็การโจมตีที่วางแผนมาแล้ว" ประมุขเจิ้งลี่หัวสรุป "มีคนบังคับพวกเขาอยู่"
หลินเว่ยกัดฟัน การรักษาแผงพลังงานทำให้เขาเหนื่อยล้าลงทุกที "ผมไม่สามารถป้องกันทั้งหมู่บ้านได้..."
"อพยพทุกคนไปที่หอสังเกตการณ์กลางหมู่บ้าน" ประมุขเจิ้งลี่หัวสั่ง "มันเป็อาคารที่แข็งแรงที่สุด เราจะตั้งรับที่นั่น"
ขณะที่ชาวบ้านเริ่มถอยเข้าไปในหมู่บ้าน หลินเว่ยยังคงรักษาแผงพลังงานไว้ ท่ามกลางผู้ติดเชื้อที่โจมตีไม่หยุด
"รีบไปเถอะ!" หลิวซินกระตุ้นเขา "นายจะหมดแรงเอา!"
"อีกแป๊บเดียว..." หลินเว่ยตอบ พลังชี่ยังคงไหลเวียนออกจากตัวเขา แต่เริ่มอ่อนลง
ทันใดนั้น เสียงปืนสองนัดดังขึ้นจากป่าด้านข้าง ผู้ติดเชื้อสองคนล้มลงกับพื้น เืไหลนองจากศีรษะ
"หลบเข้าไปในหมู่บ้าน เดี๋ยวนี้!" เสียงะโคุ้นหูดังมาจากป่า
นางชานซู ปรากฏตัวพร้อมชายสองคนที่ถือปืนลูกซอง เธอดูเหนื่อยล้าและมีรอยเืเปื้อนเสื้อผ้า แต่ยังยืนอย่างสง่า
"นางชานซู!" ผิงเหวยร้องด้วยความโล่งอก "ท่านรอดมาได้!"
"ไม่มีเวลาอธิบาย ทุกคนรีบเข้าไปในหมู่บ้าน!" นางชานซูสั่ง "พวกมันไม่ได้มาแค่สิบคน มีอีกเป็ร้อยตามมา!"
หลินเว่ยปล่อยแผงพลังงานลง ขาของเขาสั่นเทาจากการใช้พลัง แต่หลิวซินช่วยพยุงเขาไว้ ทุกคนรีบถอยเข้าไปในหมู่บ้าน ด้านหลังพวกเขา ผู้ติดเชื้อพุ่งตัวตามมาทันที
ชาวบ้านลี้ภัยไปยังหอสังเกตการณ์กลางหมู่บ้าน อาคารไม้สูงสามชั้นที่มีกำแพงแข็งแรง เมื่อทุกคนเข้าไปข้างในแล้ว ประตูถูกปิดล็อคอย่างแ่า ชายฉกรรจ์หลายคนรีบขนข้าวของมาขวางประตูและหน้าต่างชั้นล่าง
หลินเว่ยทรุดตัวลงนั่งพิงผนัง หอบหายใจหนัก ผิงเหวยรีบเข้ามาตรวจชีพจรของเขา
"คุณใช้พลังมากเกินไป" เธอบอก "ต้องพักผ่อน"
"ไม่มีเวลา" หลินเว่ยตอบ พลางดึงกระติกน้ำมาดื่มอึกใหญ่ "ผมต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"
นางชานซูเดินเข้ามาหาพวกเขา สีหน้าเคร่งเครียด "หมู่บ้านที่เราไปสืบเจอกับหายนะ ทุกคนถูกฉีดด้วยไวรัสรุ่นใหม่ พวกเขาเปลี่ยนเป็... อย่างที่พวกเ้าเห็น"
"แต่มันแตกต่างจากไวรัสเดิม" เสวียนเหมยเสริม หลังจากสังเกตผู้ติดเชื้อผ่านหน้าต่างชั้นสอง "พวกเขายังมีสติสัมปชัญญะระดับหนึ่ง สามารถทำตามคำสั่งได้"
"ใครเป็คนสั่ง?" หลินเว่ยถาม พยายามลุกขึ้นยืน ด้วยความช่วยเหลือจากหลิวซิน
"ไม่แน่ใจ" นางชานซูตอบ "แต่เราเห็นคนในชุดป้องกันสีดำ ควบคุมผู้ติดเชื้อด้วยอุปกรณ์บางอย่างที่ส่งคลื่นเสียง พวกมันติดตามเราจากหมู่บ้านนั้น"
จากด้านนอก เสียงกระแทกประตูดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้องและคำรามของผู้ติดเชื้อที่พยายามบุกเข้ามา
"มีใคราเ็บ้าง?" ผิงเหวยถามพลางมองไปรอบๆ ห้อง
"มีคนโดนข่วนสองคน" ชาวบ้านคนหนึ่งตอบ "แต่ยังไม่มีอาการผิดปกติ"
"กักตัวพวกเขาไว้ก่อน" เสวียนเหมยแนะนำ "เราไม่รู้ว่าไวรัสนี้แพร่กระจายอย่างไร"
ขณะที่ทุกคนกำลังรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน จ้าวหยางมองออกไปนอกหน้าต่างชั้นสาม "มีคนมา... แต่ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ"
ทุกคนรีบวิ่งขึ้นไปดู จากตำแหน่งที่สูงกว่า พวกเขาเห็นกลุ่มคนในชุดป้องกันสีดำทั้งตัวประมาณสิบคน เดินเข้ามาในหมู่บ้านอย่างช้าๆ แต่ละคนถือปืนและอุปกรณ์แปลกๆ ที่ดูคล้ายเครื่องส่งคลื่นเสียง
หนึ่งในคนชุดดำยกเครื่องขยายเสียงขึ้น "ความต้านทานเป็เื่ไร้ประโยชน์" เสียงผู้ชายดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน "มอบตัวหลินเว่ยให้เรา แล้วทุกคนจะปลอดภัย"
หลินเว่ยกำหมัดแน่น "พวกมันตามผมมา..."
"ไม่ใช่แค่นาย" หลิวซินตอบ "พวกมัน้าข้อมูลในแฟลชไดรฟ์ด้วย"
"แฟลชไดรฟ์! มันอยู่ที่ไหน?" หลินเว่ยถามอย่างร้อนรน
"อยู่ที่ข้า" จ้าวหยางตอบ หยิบแฟลชไดรฟ์ขึ้นมาจากกระเป๋า "ข้าไม่เคยปล่อยมันห่างตัว"
"เราไม่มีเวลามากนัก" ประมุขเจิ้งลี่หัวบอก "ประตูและหน้าต่างจะต้านไม่ได้นาน โดยเฉพาะถ้าพวกมันมีอาวุธ"
"ข้ามีแผน" นางชานซูกล่าว ทุกคนหันไปมองเธอ "มีอุโมงค์ลับใต้หอสังเกตการณ์นี้ นำไปสู่ป่าด้านนอกหมู่บ้าน ข้าสร้างมันไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้"
"ทำไมท่านไม่บอกเราแต่แรก?" หลินเหว่ยหมินถาม
"ไม่มีใครควรรู้จนกว่าจะจำเป็จริงๆ" นางชานซูตอบ "ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว"
เสียงกระแทกประตูดังขึ้นอีกครั้ง แรงกว่าเดิม ไม้ที่ขวางประตูเริ่มแตกร้าว
"หลินเว่ย" นางชานซูหันมาที่เขา "เ้าและเพื่อนของเ้าต้องไปจากที่นี่ ไปให้ถึงเซียนซาน นั่นคือความหวังสุดท้ายของเรา"
"แล้วชาวบ้านล่ะ?" หลินเว่ยถาม "เราจะทิ้งพวกเขาไว้ไม่ได้"
"ข้าจะพาชาวบ้านไปอีกเส้นทางหนึ่ง" นางชานซูตอบ "อุโมงค์แยกเป็สองทาง คนส่วนใหญ่จะไปกับข้า แต่พวกเ้าต้องไปเซียนซาน"
ความลังเลปรากฏในดวงตาของหลินเว่ย แต่แล้วเขาก็พยักหน้า รู้ดีว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง "ท่านมีแผนที่เซียนซานไหม?"
"นี่" นางชานซูส่งห่อผ้าเก่าให้เขา "แผนที่โบราณ จะนำทางเ้าไปยังทางเข้าลับของูเาศักดิ์สิทธิ์ และนี่..." เธอหยิบถุงผ้าเล็กๆ ส่งให้ "ผงสมุนไพรโบราณ จะช่วยป้องกันพวกเ้าจากไวรัสชั่วคราว"
เสียงประตูแตกดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้องของผู้ติดเชื้อที่พยายามเข้ามา
"ไม่มีเวลาแล้ว!" ประมุขเจิ้งลี่หัวะโ "รีบไปเถอะ!"
นางชานซูรีบพาทุกคนลงไปยังชั้นล่างสุดของหอสังเกตการณ์ ด้านหลังชั้นเก็บเสบียง มีประตูลับซ่อนอยู่ใต้พรม เมื่อเปิดออก เผยให้เห็นบันไดหินทอดลงไปในความมืด
"เตรียมคบเพลิง" นางชานซูสั่ง ชาวบ้านรีบจุดไฟ
"ข้าจะพาชาวบ้านไปทางขวา" นางชานซูอธิบายอย่างรวดเร็ว "พวกเ้าไปทางซ้าย เส้นทางจะนำไปสู่ป่าลึกด้านตะวันตกของหมู่บ้าน จากนั้นมุ่งหน้าไปทางูเาตามแผนที่"
"ท่าน... จะปลอดภัยใช่ไหม?" หลินเว่ยถาม เสียงแฝงความกังวล
นางชานซูยิ้มบางๆ "ข้าอยู่รอดมาได้หลายวิกฤตแล้ว เด็กน้อย อย่ากังวลถึงข้า"
้า เสียงต่อสู้ดังขึ้น บางคนในกลุ่มของประมุขเจิ้งลี่หัวกำลังต้านการบุกรุกอย่างสุดกำลัง
"เวลาของเราหมดแล้ว" นางชานซูกล่าว จับมือหลินเว่ยแน่น "เรียนรู้ให้มาก ที่เซียนซาน ความจริงทั้งหมดรอเ้าอยู่"
"ข้าสัญญาว่าจะกลับมา" หลินเว่ยตอบ "และช่วยทุกคนให้ได้"
นางชานซูพยักหน้า ก่อนจะหันไปนำชาวบ้านลงอุโมงค์ทางขวา หลินเว่ยและกลุ่มของเขา - หลิวซิน เสวียนเหมย ผิงเหวย จ้าวหยาง ดร.หลี่เจียน และประมุขเจิ้งลี่หัว เริ่มลงอุโมงค์ทางซ้าย
"รอด้วย!" เสียงของหลินเหว่ยหมินดังขึ้น เขาวิ่งตามลงมา "ข้าจะไปกับพวกคุณ ข้ารู้พื้นที่ป่าด้านนั้นดี"
หลินเว่ยพยักหน้า รับหลินเหว่ยหมินเข้ากลุ่ม "เราต้องรีบ"
พวกเขาลงไปในอุโมงค์ที่มืดและชื้น มีเพียงแสงจากคบเพลิงส่องนำทาง อุโมงค์แคบและเตี้ย บาง่พวกเขาต้องก้มตัวลงเพื่อเดินผ่าน เสียงต่อสู้จาก้าค่อยๆ เบาลงตามระยะทางที่พวกเขาเดินไปในอุโมงค์
"นางชานซูสร้างอุโมงค์นี้ไว้นานแล้วหรือ?" หลินเว่ยถามหลินเหว่ยหมิน
"ข้าไม่รู้เลย" หลินเหว่ยหมินตอบ "อุโมงค์นี้ไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อน นางชานซูมีความลับมากมาย"
"เธอคือผู้พิทักษ์คนสุดท้าย" หลินเว่ยกล่าว เสียงของเขาสะท้อนในอุโมงค์แคบ "เธอรู้เื่เซียนซานและวิชาัทะยานฟ้า... มันไม่ใช่เื่บังเอิญ"
พวกเขาเดินตามอุโมงค์ต่อไปอีกประมาณสิบนาที ก่อนจะเจอทางขึ้น หลิวซินปีนขึ้นไปก่อนเพื่อสำรวจ
"ปลอดภัย" เขากระซิบลงมา "เราอยู่ในป่าแล้ว ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร"
ทีละคนพวกเขาปีนขึ้นจากอุโมงค์ ออกมาสู่ป่าทึบที่มืดมิด มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องผ่านเรือนยอดไม้ เสวียนเหมยรีบปิดประตูลับที่พรางตาได้อย่างแเีด้วยพื้นดินและใบไม้
"เราปลอดภัยแล้วหรือ?" ผิงเหวยถาม มองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง
"ยังไม่แน่" หลิวซินตอบ "ต้องเคลื่อนที่ต่อไป อย่าทิ้งร่องรอย"
หลินเว่ยหยิบแผนที่โบราณออกมา พยายามอ่านมันภายใต้แสงจันทร์อันริบหรี่ "เรากำลังอยู่ทางตะวันตกของหมู่บ้าน ต้องมุ่งหน้าไปทางนั้น..." เขาชี้ไปยังเทือกเขาไกลๆ ที่ตัดกับท้องฟ้า
ทันใดนั้น เสียงสุนัขเห่าดังมาจากระยะไกล ตามด้วยแสงไฟจากคบเพลิงที่กำลังเคลื่อนที่มาทางป่า
"พวกมันตามมา!" ประมุขเจิ้งลี่หัวกระซิบเสียงเครียด
"วิ่ง!" หลินเว่ยสั่ง ทุกคนพากันวิ่งเข้าไปในป่าลึก โดยมีหลินเหว่ยหมินนำทาง
พวกเขาวิ่งผ่านต้นไม้ใหญ่ พุ่มไม้หนาทึบ ลำธารเล็กๆ ทุกคนพยายามไม่ทิ้งร่องรอย แต่เสียงสุนัขยังคงตามมา แม้จะเบาลงบ้าง
หลังจากวิ่งได้ประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเขาเจอทางแยก หลินเหว่ยหมินลังเล
"ปกติข้าไม่เคยมาไกลขนาดนี้" เขาสารภาพ "ไม่แน่ใจว่าทางไหนดีกว่ากัน"
หลินเว่ยมองแผนที่อีกครั้ง แต่เห็นเพียงสัญลักษณ์โบราณที่ยากจะตีความ
"ดูสิ" เสวียนเหมยชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้ทางแยกทางขวา "มีสัญลักษณ์แกะสลักอยู่"
ทุกคนเข้าไปดูใกล้ๆ บนต้นไม้มีสัญลักษณ์คล้ายัถูกแกะสลักไว้อย่างละเอียด
"เหมือนกับในแผนที่" หลินเว่ยกล่าว เทียบสัญลักษณ์กับที่ปรากฏในแผนที่ "ทางนี้!"
พวกเขารีบมุ่งหน้าไปทางขวา เข้าสู่ป่าที่หนาทึบยิ่งขึ้น ระหว่างทาง พวกเขายังเจอสัญลักษณ์ัแกะสลักบนต้นไม้อีกหลายต้น ยืนยันว่าพวกเขากำลังไปถูกทาง
ตูม!!!
เสียงะเิดังมาจากทิศทางที่พวกเขามา เสียงสุนัขที่เคยตามหยุดเห่าทันที
"ข้าหวังว่านางชานซูจะปลอดภัย..." ผิงเหวยกระซิบ
"เธอเป็นักเอาตัวรอดที่เก่งที่สุดที่ผมเคยเจอ" หลินเว่ยให้กำลังใจ "เธอจะรอดได้"
พวกเขาเดินทางต่อไปในป่า เมื่อเวลาผ่านไป แสงจันทร์ส่องสว่างขึ้น ช่วยให้มองเห็นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทิศทางของพวกเขาเริ่มไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกว่ากำลังเข้าใกล้เชิงเขา
"ข้ารู้สึกถึงบางอย่าง..." หลินเว่ยกล่าว หยุดชะงักกะทันหัน
"อะไรหรือ?" หลิวซินถาม มือเลื่อนไปจับด้ามมีดที่เหน็บไว้ที่เอว
"พลังงานแปลกๆ..." หลินเว่ยตอบ ตัวสั่นเล็กน้อย "เหมือนที่ผมรู้สึกเมื่อใช้ พลังชี่ แต่มันอยู่รอบตัวเรา... ในอากาศ"
"เราอาจจะเข้าใกล้เซียนซานแล้ว" เสวียนเหมยเสนอ "หรือแหล่งกำเนิดพลังชี่ที่นางชานซูพูดถึง"
พวกเขาเดินต่อไปอีกไม่กี่ร้อยเมตร จนมาถึงชายป่า ด้านหน้าเป็ทุ่งโล่งกว้าง และไกลออกไปคือเทือกเขาใหญ่ที่เด่นตระหง่านใต้แสงจันทร์
"นั่นมันต้องเป็เซียน..." หลินเว่ยไม่ทันพูดจบ ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาจากความมืด ปักลงตรงหน้าเขาไม่กี่นิ้ว
"ระวัง!" หลิวซินะโ ทุกคนรีบหลบเข้าหลังต้นไม้ใหญ่
ธนูเพิ่มอีกสองสามดอกพุ่งมา แต่ไม่โดนใคร
"ใครอยู่ที่นั่น!?" ประมุขเจิ้งลี่หัวะโถาม มือกำปืนเก่าของเขาแน่น
ไม่มีคำตอบ เพียงความเงียบงันที่ทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัด
"ผมจะดู" หลินเว่ยกระซิบ รวบรวม พลังชี่ เตรียมใช้ ท่าัปกป้อง เป็โล่
"อย่า!" หลิวซินกระซิบห้าม "นายยังอ่อนล้าจากการใช้พลังก่อนหน้านี้"
ทันใดนั้น วัตถุกลมขนาดเล็กถูกโยนเข้ามาใกล้พวกเขา
"ะเิ!" จ้าวหยางะโ ทุกคนรีบพุ่งตัวออกจากจุดนั้น
แต่แทนที่จะะเิ วัตถุนั้นกลับปล่อยควันสีม่วงหนาทึบออกมาอย่างรวดเร็ว ควันแผ่กระจายไปทั่ว ทำให้ทุกคนไอและตาพร่ามัว
"ัหลับใหล!" หลินเว่ยะโในความสับสน พยายามใช้เทคนิคการหายใจที่นางชานซูสอน แต่ความอ่อนล้าทำให้เขาทำได้ไม่เต็มที่
หลิวซินพยายามวิ่งออกจากกลุ่มควัน แต่ร่างกายของเขาเริ่มหนักอึ้ง "มัน... ยาสลบ..." เขากล่าวก่อนจะล้มลงกับพื้น
ทีละคน สมาชิกในกลุ่มเริ่มล้มลงหมดสติ แม้แต่หลินเว่ยที่พยายามต้านทานด้วยพลังชี่ ก็รู้สึกเปลือกตาหนักอึ้ง ก่อนที่ความมืดจะเข้าครอบงำเขา...
...
หลินเว่ยลืมตาขึ้นช้าๆ ปวดศีรษะตุบๆ เขาพยายามขยับตัว แต่พบว่าข้อมือและข้อเท้าถูกมัดด้วยเชือกที่ทำจากเส้นใยพืชแข็งแรง เขาอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ที่มีแสงคบเพลิงวาบไหว เพื่อนๆ ของเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย ทุกคนถูกมัดเช่นเดียวกัน บางคนยังไม่ฟื้น
"หลินเว่ย?" เสียงของผิงเหวยดังมาจากด้านข้าง "คุณโอเคไหม?"
"ผมไม่เป็ไร" หลินเว่ยตอบเบาๆ "ใครทำแบบนี้?"
"พวกเขา" ผิงเหวยกระซิบ พยักเศียรไปทางด้านหน้าถ้ำ
หลินเว่ยมองตาม เห็นกลุ่มคนประมาณสิบคนยืนอยู่อีกฝั่งของถ้ำ พวกเขาสวมชุดสีขาวเรียบง่าย ทั้งชายและหญิงทุกวัย ทุกคนมีรอยสักรูปัเล็กๆ บนข้อมือ พวกเขากำลังพูดคุยกันเสียงเบา
หนึ่งในนั้น ชายชราร่างผอมสูงในชุดขาวยาว ที่ดูเหมือนเป็ผู้นำ หันมามองหลินเว่ย เมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้
"เ้าตื่นแล้ว" ชายชรากล่าว เสียงของเขาลึกและแหบ "เ้าคือหลินเว่ย?"
"ใช่" หลินเว่ยตอบ พยายามรวบรวมพลังชี่ แต่รู้สึกว่ามันอ่อนแรงผิดปกติ "พวกคุณเป็ใคร? ทำไมจับพวกเราไว้?"
"เ้ากล้าดีอย่างไร ถามเราด้วยน้ำเสียงนั้น!" หญิงกลางคนคนหนึ่งในกลุ่มตวาดลั่น "เ้าบุกรุกดินแดนศักดิ์สิทธิ์!"
"อดทนไว้ ฉือชิน" ชายชราเอ่ยห้าม ก่อนจะหันมาที่หลินเว่ยอีกครั้ง "เราคือผู้พิทักษ์แห่งความลับ ผู้ปกป้องเซียนซานและความรู้โบราณมานับพันปี"
"ผู้พิทักษ์...?" หลินเว่ยทวนคำ จำได้ว่านางชานซูเคยพูดถึง "พวกคุณรู้จักนางชานซูไหม?"
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปเล็กน้อย "ชานซู... นามนี้ข้าไม่ได้ยินมานานแล้ว เ้ารู้จักนางได้อย่างไร?"
"เธอช่วยชีวิตเรา" หลินเว่ยตอบ "สอนผมเกี่ยวกับพลังชี่ และวิชาัทะยานฟ้า เธอบอกให้เรามาที่เซียนซาน"
เสียงพึมพำดังขึ้นในกลุ่มผู้พิทักษ์ พวกเขามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจและสับสน
"เ้าโกหก!" ชายหนุ่มผู้หนึ่งในกลุ่มะโ "ชานซูหายไปหลายสิบปีแล้ว! ถูกไล่ออกจากกลุ่มผู้พิทักษ์เพราะทรยศ!"
"เงียบ!" ชายชราตวาด ทุกคนเงียบลงทันที เขาเดินเข้ามาใกล้หลินเว่ยจนแทบชิด จ้องมองเขาอย่างพิจารณา "ชานซูสอนเ้าวิชาัทะยานฟ้า? พิสูจน์มา"
"ถ้าคุณแก้มัดให้ผม..." หลินเว่ยเสนอ
"เ้าคิดว่าเราโง่หรือ?" ฉือชินสวนกลับ
"ไม่ต้องแก้มัด" ชายชรากล่าว "ถ้าเ้าเรียนวิชาัทะยานฟ้าจริง เ้าจะรู้สิ่งที่ต้องทำ"
หลินเว่ยมองชายชราครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจ เขาหลับตาลง เริ่มเพ่งสมาธิและควบคุมลมหายใจตามที่นางชานซูสอน "ัหลับใหล..."
แม้จะถูกมัด ร่างกายของหลินเว่ยก็เริ่มผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด ลมหายใจของเขาลึกและสม่ำเสมอ
รอบกายเขา พลังชี่เริ่มหมุนวนเป็ประกายสีทองอ่อนๆ เชือกที่มัดข้อมือเขาเริ่มหลวม
"ัตื่นกาย..." หลินเว่ยกระซิบ ร่างกายของเขาเริ่มตัวตรงขึ้น แม้จะยังนั่งอยู่กับพื้น
พลังชี่เข้มข้นขึ้น เชือกที่พันรอบข้อมือเขาเริ่มเปื่อยยุ่ย ก่อนจะขาดออกและร่วงลงพื้น
ผู้พิทักษ์แสดงสีหน้าตื่นตะลึง บางคนถอยหลังด้วยความประหลาดใจ
หลินเว่ยลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาเรืองแสงสีทองอ่อนๆ "และนี่คือ... ัสยายปีก"
เขายกแขนขึ้นกางออกเป็จังหวะ พลังชี่พุ่งออกจากร่างกายเป็คลื่น ทำให้เชือกที่มัดข้อเท้าขาดออก
ชายชรายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ "ไม่น่าเชื่อ... ชานซูสอนเ้าได้ดี"
"ตอนนี้ ปล่อยเพื่อนของผม" หลินเว่ยบอก ลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง
"ยังไม่ได้" ชายชราตอบ "เ้าอาจเรียนวิชาัทะยานฟ้า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไว้ใจเ้า เ้าต้องผ่านการทดสอบก่อน"
"การทดสอบอะไร?" หลินเว่ยถาม
"การทดสอบสามขั้น" ชายชรากล่าว เสียงเคร่งขรึม "เพื่อพิสูจน์ว่าเ้าสมควรได้รับความลับของเซียนซาน หากผ่าน เราจะปล่อยเพื่อนของเ้า และบอกสิ่งที่เ้า้ารู้ หากล้มเหลว..." เขาหยุดไปครู่หนึ่ง "...เ้าและเพื่อนทุกคนจะตาย"