ปัง!
เสียงดังออกมาจากประตูอวี่เหวินเสียงสะดุ้งด้วยความใและหันไปมอง ประตูหน้าหายไปแล้วและมันก็ปลิวเข้ามาในห้องชายผอมสูงยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าหนักหน่วงและเยือกเย็นอวี่เหวินเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นฉากนี้
ฉินเฟิงโซเซเล็กน้อยขณะที่ยืนอยู่ทางเข้าหน้าประตูเขากวาดสายตาที่เกรี้ยวกราดไปทั้งห้องเมื่อเขาเห็นหลินเป้ยเป้ยกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยเืเต็มหัวหัวใจของเขาก็หยุดเต้นอย่างฉับพลัน จิตสังหาระเิออกจากร่างกายเขาพุ่งไปข้างหน้าและโผล่มาที่ด้านข้างของหลินเป้ยเป้ย
“เป้ยเป้ย เกิดอะไรขึ้น? เป้ยเป้ย ตื่นสิ”เขาโอบกอดเธอและเรียกชื่อของเธอเบาๆ แต่หลินเป้ยเป้ยดูหลับเหมือนตายเธอไม่ได้ยินอะไร
เขากดนิ้วที่คอของหลินเป้ยเป้ยทันทีเขายังรู้สึกถึงชีพจรของหลินเป้ยเป้ยอยู่ ก่อนหน้านี้เขากังวลอย่างมากแต่นี่ทำให้เขาผ่อนคลายลงนิดหน่อย เพียงแค่นึกเขาก็ใช้แต้มสำราญ 100 แต้มซื้อยาสมานทองขั้นต้นบดเม็ดยาให้เป็ผงและแต้มที่แผลของหลินเป้ยเป้ยเบาๆ
หลังจากทำทุกอย่างแล้วฉินเฟิงค่อยๆ วางหลินเป้ยเป้ยลงและยืนขึ้นพร้อมกับมองอวี่เหวินเสียงเหมือนกับมองคนตาย
“บอกมา แกอยากตายแบบไหน?”
เสียงของเขาทั้งทุ้มต่ำและเข้มแข็งออร่าของเขาดูเหมือนมีพลังกลืนแม่น้ำและพลิกมหาสมุทร สายตาของเขาเย็นเหมือนน้ำแข็งตอนนี้เขายืนขึ้นด้วยร่างกายที่โซเซเล็กน้อยเขาดูเหมือนเทพาที่มีความสามารถพูดให้คนตายและเลือกประเภทการตายได้
การมาถึงอย่างกะทันหันของฉินเฟิงทำให้อวี่เหวินเสียงกลัวแต่หลังจากใจเย็นลงเขาก็ส่ายหัวและหัวเราะดังๆครั้งล่าสุดตอนที่พวกเขาสู้กันบนสนามกีฬาในมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิง พวกเขาเสมอกันและยากที่จะบอกว่าใครเหนือกว่า
อย่างไรก็ตามอวี่เหวินเสียงผ่านการฝึกฝนอย่างหนักและเลื่อนจากขั้นสามไปขั้นสี่แล้วเห็นได้ว่าเขาไม่กลัวการเผชิญหน้ากับฉินเฟิงอีกครั้ง
“ฮ่าๆๆ พ่อต่างหากที่ควรจะถามแกอย่างนั้น...แกคิดว่าแกแตะต้องพ่อได้เหรอ?น่าสนุกนี่ ถึงแม้ว่าแกจะไม่มา แต่หลังจากเสร็จกิจกับยายสำส่อนนี่พ่อจะไปขยี้แกเป็การส่วนตัวเอง”
อวี่เหวินเสียงหัวเราะอย่างหยิ่งยโสฉินเฟิงไม่ได้สนใจและสีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแม้แต่น้อย เขายืนอย่างเงียบๆแล้วกล่าวอย่างเย็นะเื “ในเมื่อแกไม่อยากเลือก งั้นฉันจะเลือกให้แกเอง!”
หลังจากพูดจบฉินเฟิงก็เคลื่อนไหว
เขาเคลื่อนไหวดั่งสายฟ้าแลบและมาอยู่ต่อหน้าอวี่เหวินเสียงทันทีนวมเหล็กเหมันต์ส่องประกายความเยือกเย็นและกระแทกเข้าที่ท้องของอวี่เหวินเสียงอย่างโเี้หมัดเรียบง่ายนี้ทรงพลังเหลือคณานับ มันส่งอวี่เหวินเสียงปลิวลอยออกไปกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรงและจมลึกเข้าไป
หลังจากหมัดแรกฉินเฟิงก็ขยับเท้าและโผล่มาอยู่ต่อหน้าอวี่เหวินเสียงอีกครั้ง
ในตอนนี้อวี่เหวินเสียงมีสีหน้าหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อเขาอยู่ที่ขั้นสี่มีพละกำลัง 5 เท่าและความเร็ว 1.5เท่า อย่างไรก็ตามต่อหน้าฉินเฟิงเขาถูกล้มภายในหมัดเดียวก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัวเขาก็แพ้แล้ว
หลังและเอวของเขาฝังอยู่ในกำแพงคอนกรีตขาและท้องส่วนบนของเขาห้อยออกมาด้านนอก นี่เป็สถานการณ์ที่แปลกมากสามารถเห็นได้แค่ในหนังเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มันเกิดขึ้นในชีวิตจริงแล้วแม้แต่อวี่เหวินเสียงก็ยังยากที่จะเชื่อ
“เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้...พ่ออยู่ที่ขั้นสี่นะโว้ยพ่อจะชนะแกไม่ได้ได้ยังไงวะ? ฉินเฟิง พ่อจะขยี้แก”
อวี่เหวินเสียงลืมความเ็ปในร่างกายสายตาของเขาไร้ชีวิตชีวาเหมือนกับมีคนดึงเอาิญญาของเขาออกไปเขากลายเป็บ้าไปแล้วพยายามเหวี่ยงหมัดเพื่อต่อยฉินเฟิงเขามีสภาพน่าสมเพชและดูตลกอย่างพูดไม่ออก
“อวี่เหวินเสียง แกจะต้องเสียใจที่ได้เกิดมาแน่นอน”
ฉินเฟิงเหวี่ยงไปอีกหมัดพร้อมกับคำรามพลังทำลายของเขาน่าสะพรึงกลัวเมื่อเขาใส่นวมเหล็กเหมันต์เขาต่อยขาของอวี่เหวินเสียงข้างหนึ่ง
“แครก” ต้นขาของอวี่เหวินเสียงหัก
ด้วยเสียง“ปัง” ขาของเขาก็กระแทกฝังไปกับกำแพงและก็ไม่เคยได้ออกมาอีกเลย
“อ้าก...ฉินเฟิง ระ...รีบหยุดเร็ว ปล่อยฉันไป แล้วฉันจะไม่รบกวนนายอีกฉันขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”หมัดนี้ทำให้อวี่เหวินเสียงรู้สึกตัวหลังความเจ็บทิ่มแทงในร่างของเขา ทำให้เขาร้องออกมาอย่างเ็ป
เขาสูญเสียความหยิ่งและความมั่นใจก่อนหน้านี้ไปแล้วถ้าเขาไม่ได้ติดอยู่ในกำแพงจนขยับไม่ได้เขาจะต้องคุกเข่าต่อหน้าฉินเฟิงและกราบอ้อนวอนให้ไว้ชีวิตเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ในสายตาของนายน้อยร่ำรวยพวกนี้หน้าตากับเกียรติไม่มีอะไรเทียบกับการมีชีวิตรอดได้
“แกคิดว่ามันเป็ไปได้หรือไง?” ฉินเฟิงคำรามอย่างเ็าขณะที่ต่อยไปอีกครั้ง
หมัดนี้กระแทกเข้ากับขาอีกข้างของอวี่เหวินเสียงกระดูกขาของเขาแตกละเอียดและขาก็ฝังเข้าไปในกำแพง
ฉินเฟิงไม่หยุดเขารัวหมัดเข้ากับอวี่เหวินเสียงอย่างต่อเนื่อง เขาตั้งใจเลี่ยงจุดตายของอวี่เหวินเสียงและกระแทกส่วนอื่นของร่างกายอวี่เหวินเสียงดูสิ้นหวังขณะที่ร่างของเขาโดนต่อยฝังเข้ากำแพงทีละนิดๆมันเจ็บมากจนเขาอยู่ระหว่างความเป็ความตาย แต่เขาทำอะไรไม่ได้
ความรู้สึกสิ้นหวังที่ไม่มีตัวตนก่อนหน้านี้โผล่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวถูกอย่างที่ฉินเฟิงกล่าวก่อนหน้านี้ อวี่เหวินเสียงเริ่มเสียใจทันทีเขาเสียใจอย่างลึกซึ้งที่ลักพาตัวหลินเป้ยเป้ยเขาเสียใจที่ยั่วยุฉินเฟิงที่แข็งแกร่ง...และเขาเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้
การอยู่แบบนี้มันแย่ยิ่งกว่าตายเขาอยากตายแต่ก็ทำไม่ได้ เขามีชีวิตอยู่แต่ก็ทุกข์ทรมานไปทุกส่วนอวี่เหวินเสียงไม่อยากมีประสบการณ์แบบนี้อีกแล้วตลอดชีวิต
ปัง!
แขนของอวี่เหวินเสียงโดนกระแทกติดกำแพง
ปัง!
แขนอีกข้างของเขาก็ถูกกระแทกจนฝังเข้าไป
ปัง!
หมัดนี้กระแทกเข้าที่ท้องและส่งร่างทั้งร่างฝังในกำแพงเหลือเพียงหัวที่ยังอยู่ด้านนอกเท่านั้น
ทันใดนั้นอวี่เหวินเสียงก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งในที่สุด ใน่เวลาสุดท้ายก่อนที่เขาจะตาย เขาจะได้เป็อิสระสักที เขาไม่กลัวจริงๆ แล้วเขาคาดหวังมาก เขา้าให้ฉินเฟิงรีบต่อยสมองของเขา...เขาทนการทรมานนี้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ตูม!
หมัดกระแทกเข้ากับกะโหลกของอวี่เหวินเสียงและโลกก็เงียบลง
อย่างไรก็ตามในหัวของฉินเฟิงยังไม่จบนี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเพราะหลินเป้ยเป้ยาเ็ฉินเฟิงจึงโกรธเกรี้ยวอย่างเต็มที่ หลังจากนี้เขาจะไปหน้าประตูบ้านของตระกูลอวี่และฆ่าล้างมันทั้งตระกูล
เขาได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าอวี่เหวินเสียงจะเสียใจที่เกิดมาบนโลก
ฉินเฟิงไม่ได้ล้อเล่นเมื่อพูดคำพวกนั้นออกมา...
ฉินเฟิงมองดูอวี่เหวินเสียงที่ตอนนี้ถูกฝังอยู่ในกำแพงด้วยความไร้อารมณ์แล้วเขาก็ี้เีจะชายตามองเศษมนุษย์นี้และหันไปหาหลินเป้ยเป้ย
เขานั่งยองๆและรวบหลินเป้ยเป้ยมาไว้ในอ้อมกอด ฉินเฟิงเรียกเธอหลายครั้งแต่หลินเป้ยเป้ยยังไม่รู้สึกตัวและอยู่ในสถานะสลบไสลฉินเฟิงจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและโทรหาลุงฝูเขากล่าวรวบยอดสถานการณ์และบอกให้ส่งคนมาให้ไวที่สุด