บทที่ 12 : การผ่าตัดข้ามคืน
เวลา 20.00 น.
โรงงานเงียบสงัด พนักงานส่วนใหญ่กลับบ้านไปแล้วด้วยความกังวล เหลือเพียงลินดา กล้าหาญ และไอ้จ้อย ที่ยังคงง่วนอยู่หน้าเครื่องจักรั์
"คุณลินแน่ใจเหรอครับ?" กล้าหาญถือหัวแร้งในมืออย่างไม่มั่นใจ "เราจะทิ้งบอร์ดคอนโทรลราคาแสนกว่าบาท แล้วใส่ไอ้นี่เข้าไปแทนเนี่ยนะ?"
ในมือของลินดา คือแผงวงจรเล็กๆ ที่เธอเพิ่งประกอบเสร็จสดๆ ร้อนๆ บนแผ่นปริ้นท์อเนกประสงค์ มันดูบ้านๆ ธรรมดาๆ มีชิปตัวเล็กๆ กับตัวต้านทานไม่กี่ตัว
"บอร์ดเดิมมันแพงเพราะมันซับซ้อนเกินความจำเป็ มีฟังก์ชั่นที่ไม่ได้ใช้เยอะแยะ" ลินดาอธิบายขณะขันน็อตยึดบอร์ดใหม่เข้ากับแท่น "หลักการของเครื่องนี้ง่ายมาก... คือคุมความร้อนบ่อตะกั่วให้คงที่ 250 องศาเซลเซียส"
"ผมรู้ครับ... แต่มันต้องแม่นนะ ถ้าร้อนไป ตะกั่วเดือดงานพัง ถ้าเย็นไป บัดกรีไม่ติด"
"ฉันเลยสร้างวงจร PID Controller (Proportional-Integral-Derivative) ขึ้นมาไง"
"พี... อะไรนะครับ?" กล้าหาญกับไอ้จ้อยทำหน้างงเป็ไก่ตาแตก
"เอาเป็ว่า... มันคือวงจรที่ฉลาดพอจะรู้ว่าต้อง 'เร่งไฟ' ตอนไหน และ 'ผ่อนไฟ' ตอนไหน เพื่อให้อุณหภูมินิ่งกริบ ไม่สวิงขึ้นลงเหมือนเทอร์โมสตัทเตารีด"
ลินดาใช้แต้มวิศวกรรม 100 แต้ม (ที่สะสมมา) แลกแบบแปลน [Solid State Relay Control Logic] เธอเปลี่ยนระบบจากเดิมที่ใช้แมกเนติกคอนแทคเตอร์ (ตัวตัดต่อไฟเสียงดังป๊อกแป๊ก) มาเป็ SSR (Solid State Relay) ที่ทำงานด้วยสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เงียบ และทนทานกว่า
"พี่กล้า ต่อสายฮีตเตอร์เข้าจุดนี้... จ้อย ไปเช็คหัววัดอุณหภูมิ (Thermocouple) ว่าสายขาดไหม"
บรรยากาศการซ่อมเป็ไปอย่างเคร่งเครียด ลินดามุดเข้าไปใต้ท้องเครื่องจักรที่เปื้อนคราบน้ำมัน โดยไม่ห่วงสวย เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอกลายเป็สีมอมแมม กล้าหาญมองภาพนั้นด้วยความทึ่ง... ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แค่นั่งสั่ง แต่เธอลุยงานจริง เจ็บจริง เปื้อนจริง
เวลา 02.00 น.
"เสร็จแล้ว... น่าจะนะ" ลินดาปาดเหงื่อที่ผสมคราบดำบนหน้าผาก
"ลองเลยไหมครับ?" กล้าหาญถาม มือจับที่เบรกเกอร์
"เอาเลย... ถ้าบึ้มอีกรอบ ตัวใครตัวมันนะ" ลินดาพูดติดตลก (แต่ในใจเต้นโครมคราม)
สับเบรกเกอร์!
วูบบบบ... เสียงพัดลมดังขึ้น... ไฟสถานะสีแดงสว่างวาบ... ตัวเลขดิจิทัลบนหน้าจอ (ที่ลินดาเอาของเก่ามาติด) เริ่มวิ่ง 30°C... 50°C... 100°C...
ทุกคนกลั้นหายใจจ้องมองตัวเลข 240°C... 245°C... 250°C! และตัวเลขก็นิ่งสนิทอยู่ที่ 250 ไม่ขยับแม้แต่จุดทศนิยม
"นิ่งกริบ..." กล้าหาญกระซิบ "นิ่งกว่าบอร์ดของเยอรมันตัวเก่าอีก!"
"เยส!" ลินดาะโชูมือขึ้นฟ้า แล้วเผลอหันไปกอดกล้าหาญด้วยความดีใจ
กล้าหาญตัวแข็งทื่อ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูผสมกลิ่นน้ำมันเครื่อง ทำให้หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงยิ่งกว่าเสียงเครื่องจักร ลินดารู้ตัว รีบผละออก หน้าแดงระเรื่อภายใต้คราบเขม่า
"อะ... เอ้อ... สำเร็จแล้วเนอะ" เธอแก้เก้อ
"คะ... ครับ เก่งมากครับคุณลิน" กล้าหาญเกาหัว
"หิวไหม?" ลินดาถาม "มีมาม่าเหลืออยู่ในลังไหมจ้อย?"
คืนนั้น จบลงด้วยภาพของ CEO สาว, หัวหน้าช่าง, และเด็กฝึกงาน นั่งล้อมวงกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งหน้าเครื่องจักรที่เพิ่งชุบชีวิตขึ้นมาใหม่... เป็มื้อที่อร่อยที่สุดในรอบเดือน
