ด้านนอกสวนห่างไปราวสิบลี้ ที่นี่มีโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งหนึ่ง อู๋ิและชายชราขั้นราชันระดับสูงสุดสองคนนั้นกำลังดื่มสุราด้วยความหดหู่
ทั้งสามคนชนแก้วดื่มกันไปเรื่อยๆ ไม่มีใครกล่าวอะไรเลย
ทันใดนั้นเอง เฝิงเทียนวิ่งผ่านถนนสายเล็กๆ เข้ามาแล้วนั่งลงที่โต๊ะเดียวกัน
“เป็อย่างไรบ้าง”
เฝิงเทียนถามอู๋ิและชายชราสองคนนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“คุณชายรอง แผนการล้มเหลวไปแล้ว”
ชายชราที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นว่าอู๋ินั่งนิ่งจึงกล่าวขึ้น
“ล้มเหลว? เป็ไปได้อย่างไร พลังของพวกท่านทั้งสามจะล้มเหลวได้อย่างไร!”
เฝิงเทียนตื่นใทันทีที่ได้ยินว่าล้มเหลว กล่าวด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“ที่นั่นยังมียอดฝีมืออยู่ด้วย”
อู๋ิดื่มสุราเข้าไปก่อนจะกล่าว
“ใครกัน”
“ข้าไม่รู้ แต่มั่นใจได้เลยว่าเป็คนที่ตระกูลเฝิงเชิญมา”
“ตระกูลเฝิงของข้าเชิญมา? ไม่มีทาง! ในตระกูลข้ามียอดฝีมือกี่คนข้ารู้ดี ตัดยอดฝีมือข้างกายท่านพ่อท่านแม่ข้าไป มีเพียงสามคนที่มีพลังเหนือกว่าพวกท่าน แต่สามคนนั้นไม่เคยออกมาจากอาณาเขตตระกูลเลย จะยังมีใครไปอยู่กับพี่ใหญ่ได้อีก”
เฝิงเทียนนับนิ้วอย่างพิจารณา คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
อู่ิก็อยากรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายเป็ใคร เพียงแค่ม่านพลังที่ปรากฏขึ้นตอนนั้น เขามิอาจแยกแยะได้เลยว่าเป็ใคร ส่วนถ้าจะไปตรวจสอบอีกฝ่าย ตอนนี้เขาไม่กล้าเลยจริงๆ
ดูจากฝีมือของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้ หากครุ่นคิดสักเล็กน้อย เป็ไปได้มากว่าอีกฝ่ายจะอยู่ที่นั่นมาตลอด
“จะเป็ยอดฝีมือลึกลับที่เ้าไม่รู้หรือเปล่า”
อู๋ิมองเฝิงเทียนพลางถาม แต่เขาก็สงสัยมากเช่นกันว่าอาจไม่เป็อย่างนั้นก็ได้ ตระกูลเฝิงมีอำนาจเพียงใด เขาอยู่ในตระกูลเฝิงมานานขนาดนี้ โดยพื้นฐานแล้วไม่น่าจะมีคนแบบนั้นได้เลย
“เื่นี้ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน”
เฝิงเทียนส่ายหัว เื่นี้เขาไม่รู้เลยจริงๆ เนื่องจากเขายังไม่ได้ปกครองตระกูลอย่างแท้จริง ที่ไม่รู้นับเป็เื่ปกติ
“ช่างเถอะ ปล่อยไป แต่ยังมีอีกเื่ คงจะไปลงมือในสวนนั้นไม่ได้อีกแล้ว”
“ใช่ คนผู้นั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว”
ชายชราอีกคนหนึ่งกล่าวเสริมทันที พวกเขาสองคนโดนเด็กโจมตีมายับเยินทำให้พวกเขาเสียหน้ามาก แต่พวกเขาเลื่อมใสเสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนยิ่งนัก พลังระดับนั้น อายุแค่นั้น ต้องมีความสำเร็จยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน
“เด็กพวกนั้นก็ยอดเยี่ยมเช่นกันหรือ”
เฝิงเทียนถามชายชราคนหนึ่ง เขารู้ว่าเริ่นเสี้ยวเทียนยอดเยี่ยมมาก แต่เด็กสองคนนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ หรือ
“เด็กหนุ่มคนนั้นมีพลังมากพอที่จะเอาชีวิตข้าได้”
อู๋ิดื่มสุราเข้าไปอีกครั้ง แล้วกล่าวเสียงเย็น
ประโยคเดียวทำให้ทุกคนเงียบลง อู๋ิมีพลังระดับไหนแล้ว พวกเขารู้ดีว่าคนที่ทำให้อู๋ิรู้สึกเป็ภัยได้ แม้แต่ขั้นจักรพรรดิทั่วๆ ไปยังทำไม่ได้ แต่เด็กคนนั้นกลับทำได้!
หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่ อู๋ิพลันกล่าวขึ้นมาอีก
“ไม่มีโอกาสสังหารในสวน แต่ยังมีโอกาสที่อื่นอีก ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะไม่ออกมา”
ตอนที่พวกอู๋ิกำลังวางแผนกันอยู่ เฝิงเป่าเป่าไม่ได้นิ่งเฉย เสิ่นเลี่ยนและเริ่นเสี้ยวเทียนได้รับาเ็หนัก หลังจากจัดที่พักให้พวกเขาแล้ว เฝิงเป่าเป่าจึงไปจัดการเื่เคลื่อนย้ายส่วนการผลิต
ตอนนี้การผลักดันกระดานหมากออกสู่ตลาดกำลังเกิดผลขึ้นมาแล้ว เริ่มเข้าสู่จวนของบุคคลสูงส่งทั้งหลายในเมืองชางฉง ส่วนเขาต้องสร้างตัวหมากอย่างดีและทำกระดานหมากให้งดงาม และยังต้องจดทะเบียนการค้าเป็ของตนเอง หากมีคน้าเล่นจำเป็ต้องมาซื้อไปจากเขา
ก้าวแรกของเขาคือเล็งเป้าหมายไปยังชนชั้นสูงเป็หลัก นำกระดานหมากออกสู่ตลาดของชนชั้นสูง ใช้ตลาดนี้เป็การปูทางเพื่อให้แพร่หลายยิ่งขึ้น หลังจากแพร่หลายออกไปแล้ว เขาค่อยผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำลง เป็กระดานหมากที่เข้าถึงสามัญชนได้มากขึ้น
เมื่อตลาดทั้งสองแบบเปิดแล้ว ยากที่จะไม่ได้กำไรจากปันผลที่ผู้คนนับหมื่นล้านบนทวีปหลิงโซ่วจับจ่ายใช้สอย
เฝิงเป่าเป่าประมาณการอย่างคร่าวๆ ตลาดกระดานหมากเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าถึงหมื่นล้านเหรียญทอง
หมื่นล้านเป็จำนวนเท่าไร มันคือรายได้จากภาษีทั่วทั้งเมืองชางฉงในระยะเวลาหลายสิบปี
ทางด้านเฝิงเป่าเป่า กำลังดำเนินการผลักดันออกสู่ตลาดอย่างมีระเบียบแบบแผน ส่วนเสิ่นเสวียนที่อยู่ในมิติใต้หนองน้ำนอกเมือง กำลังถึง่สำคัญของการสร้างหุ่นเชิดแล้ว
ในมิติใต้หนองน้ำ ร่างของแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิยืนอยู่กลางอากาศ ไอพลังน่ากลัวแผ่ซ่านออกมาจากร่างอย่างต่อเนื่อง พลังนั้นรุนแรงมากจนสามารถสังหารผู้ฝึกตนต่ำกว่าขั้นบรรพบุรุษได้อย่างง่ายดาย นี่คือพลังของผู้แข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิ
ภายในร่างของหุ่นเชิดเปี่ยมไปด้วยพลังจากค่ายกล กลุ่มก้อนพลังทั้งหลายภายในร่างเกือบถึงจุดอิ่มตัวแล้ว หินพลังงานหลายพันก้อนก่อนหน้านี้สลายหายไปหมด ตอนนี้มีเพียงพลังจากร่างของเสิ่นเสวียนที่ยังคงพุ่งเข้าไปภายในร่างหุ่นเชิดไม่หยุดหย่อน
เสิ่นเสวียนลืมตาขึ้น เขาะโออกไปเสียงดังก้อง พลังที่ส่งออกจากร่างของเสิ่นเสวียนถูกตัดไปทันที
หุ่นเชิดหัวเสียเนื่องจากไม่มีพลังส่งผ่านเข้าไปในร่าง ทว่าเสิ่นเสวียนกล่าวเพียงคำเดียวกลับทำให้ร่างของเขาแข็งทื่อ กลายเป็เหมือนรูปปั้นในชั่วพริบตา
หุ่นเชิดยืนนิ่งค้างอยู่กลางอากาศ
พลังรุนแรงจากร่างก็เริ่มจางหายไป โชคดีที่ก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนสร้างค่ายกลไว้หลายแห่ง ไม่อย่างนั้นผู้แข็งแกร่งจากเมืองชางฉงคงเข้ามาล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว
“น่าสนใจดีนี่! ไม่เลวเลยทีเดียว”
ขณะนั้น เสวียนหลิงเอ่อร์ที่สวมชุดสีแดงก็เหาะออกมาอีกครั้ง นางมองร่างของแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิอย่างพิจารณา แล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ทักษะเช่นนี้ แข็งแกร่งกว่าโลกนี้มาก”
“เฮ้อ ต้องยกความดีความชอบให้ท่านป้าอย่างท่านที่ช่วยเหลือข้า ไม่อย่างนั้นข้าคงล้มเหลวไปนานแล้ว”
เสิ่นเสวียนถอนหายใจออกมา มองหุ่นเชิดตรงหน้าแล้วพยักหน้าด้วยความภูมิใจ
ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จแล้ว
หุ่นเชิดมีพลังยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับกลาง ด้วยหุ่นเชิดคนนี้เพียงพอที่เขาจะปกป้องตนเองได้แล้ว
“ใช่แล้ว เ้ายังมีร่างของตาแก่จื่อกวงอยู่ไหม” เสวียนหลิงเอ่อร์คิดไปถึงร่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงก่อนหน้านี้ นั่นเป็วัตถุดิบชั้นดี หากนำมาสร้างเป็หุ่นเชิดต้องแข็งแกร่งกว่าแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิอย่างแน่นอน
“ร่างนั้นข้ายังควบคุมไม่ได้ในตอนนี้ อาจทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรได้”
เสิ่นเสวียนส่ายหัวพลางกล่าว หุ่นเชิดอย่างนั้นเขาสร้างได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้
หากต้องสร้างหุ่นเชิดคนนั้นขึ้นมา อย่างน้อยพลังยุทธ์ของเขาต้องถึงขั้นแยกเทวะเสียก่อน
“ก็จริง ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ในเมื่อเ้าสร้างหุ่นเชิดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาคุยธุระของพวกเราแล้วหรือยัง”
เสวียนหลิงเอ่อร์ส่งยิ้มให้เสิ่นเสวียน รอยยิ้มงดงามเช่นนี้เกือบทำให้เสิ่นเสวียนคลุ้มคลั่ง
“เฮ้อ ท่านหมายถึงเข้าไปอย่างนั้นสินะ!”
“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ” เสวียนหลิงเอ่อร์กลอกตามองเสิ่นเสวียน
“เสี่ยวต้งเทียน ต้นสือฮวา”
“อยากเข้าไปต้องรอให้ข้าคลายผนึกก่อน ตอนนี้ท่านยังเข้าไม่ได้ ข้าก็เข้าไม่ได้เช่นกัน”
เสิ่นเสวียนส่ายหัวพลางกล่าว
แผนการของเขาในครั้งนี้ หนึ่งคือ สร้างหุ่นเชิดป้องกันตนเอง สองคือคลายผนึกผังเมืองซานเหอเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
เพิ่มพลังหยวนก่อกำเนิด และคลายผนึกผังเมืองซานเหอ
นี่คือแผนการก่อนหน้านี้ของเขา แต่หลังจากฝึกฝนถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดแล้ว เขาจึงพบว่าการคลายผนึกผังเมืองซานเหอยากยิ่งกว่าที่ตนเองคิดไว้มาก
ตอนนั้นที่เขาะเิตัวเองในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีผนึกผังเมืองซานเหอเอาไว้ นอกจากเขาแล้ว แม้แต่เซียนยังเปิดไม่ออก
ตอนนี้อยากคลายผนึกก็ทำได้ เพียงแต่พลังจิติญญาของเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น การคลายผนึกจะทำให้เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย หากเป็เช่นนี้ตนเองอาจอ่อนแรงลง และอันตรายจะเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร เสวียนหลิงเอ่อร์เป็คนที่ดูลึกลับมากคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อนาง แต่กันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง
“เชื่อใจข้าไหม ข้าช่วยเ้าได้”
จู่ๆ เสวียนหลิงเอ่อร์ก็กล่าวกับเสิ่นเสวียนเช่นนั้น