น้ำหนักของฝ่าเท้าที่กำลังเร่งจังหวะย่ำเดินเข้ามาด้านใน เฮนรี่หันมองท่าทางของคนที่กำลังเข้ามาในห้องทำงาน สีหน้าของมิกาเอลกำลังดูไม่ได้สุด ๆ มันดูยุ่งเหยิงอย่างกับหมีกินผึ้ง ใบหน้าก่ำแดงจนเขาเองก็ไม่กล้าที่จะสบตานั่น
ปึ้ง!! มิกาเอลทุบลงไปที่โต๊ะทำงานตัวเองอย่างเต็มแรง เขารู้สึกดั่งกับว่าเส้นเืภายในกายของเขากำลังพลุ่งพล่านด้วยความดาลเดือด หัวใจของเขาเ็ปราวกำลังถูกกรีดอย่างช้า ๆ นาเซียหายตัวไปราวเกือบเดือน แต่เขาเอาแต่กำลังนึกลังเล และคิดร้ายต่อนาง
“มีเื่อะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือครับท่านดยุก” เฮนรี่ไม่กล้ากล่าวมากไปกว่านี้ อารมณ์มิกาเอลในตอนนี้ช่างน่ากลัวเสียกว่าตอนที่ออกไปปราบเหล่าสัตว์ปีศาจพวกนั้นเสียอีก
“นาเซียหายตัวไป”
“เป็ไปได้อย่างไร ท่านหญิงอยู่ที่…”
“นางหายไปหลังจากเสร็จสิ้นการอภิเษก” มิกาเอลยกหินเวทเคลื่อนย้ายที่เอามาจากลาฟาซวางบนโต๊ะของเขา เฮนรี่มองหินเวทที่เคยเป็สีม่วงอำพัน เขารู้สึกว่ามันช่างดูน่าสงสัยนัก หากนี่คือหินเวทที่นาเซียใช้เอง งั้นแสดงว่านางกำลังพาตัวเองไปที่ห่างไกล เพราะหินเวทจะลดปริมาณของสีลงตามระดับเมื่อทำการเคลื่อนย้ายไปยังที่ต่าง ๆ ในระยะของมัน ดังนั้นแล้วหินเคลื่อนย้ายส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็สีม่วงที่อ่อนลงแต่ไม่ถึงกลับเปลี่ยนเป็สีอื่น หากแต่หินเวทที่อยู่ตรงหน้าเขามันเปลี่ยนเป็สีฟ้าเข้ม นอกจากจะใช้เคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ห่างไกลไม่พอ นางยังไปอยู่ในสถานที่ตามสภาพอากาศของสีที่หินพาไป
“ท่านดยุกคิดว่ายังไงกับสีของหินเวทนี้” เฮนรี่ทักขึ้น เพราะไม่เพียงแค่เขาเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สงสัย แต่หากเป็ผู้ที่ใช้หินเวทเคลื่อนย้ายอยู่เป็ประจำอย่างมิกาเอล และเขาแล้วละก็ต้องรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้แน่นอน
“เ้ากำลังจะบอกว่า หินเวทเคลื่อนย้ายมันเปลี่ยนไปเพราะอากาศของสถานที่แห่งนั้นงั้นรึ” มิกาเอลเอ่ยถามถึงสิ่งที่เขาก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เฮนรี่พยักหน้ารับ และเป็สถานที่อื่นไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่
“อาณาเขตเวย์มง?” เฮนรี่เอ่ยขึ้น อาณาเขตเวย์มง เขตการปกครองของ ไวเคาน์ซิเปรีย เคนัน
“เ้าคิดว่า...เพราะสีของหินเวทนี้มีสีฟ้าดั่งน้ำทะเลในเขตเวย์มงสินะ” มิกาเอลยกมือแตะคางตนเองราวกับกำลังใช้ความคิด
“ครับ อาณาเขตเวย์มงทั้งห่างไกล และยังไม่ติดเมืองหลวงของแคลบอร์น ทำให้สีอุณภูมิสภาพอากาศเด่นชัดจนเป็สีน้ำเงินเช่นนี้ยังไงละ” เฮนรี่รีบอธิบาย เขาศึกษาเกี่ยวกับหินเวทนี้มานานพอที่จะแยกสีชนิดของมันได้อย่างแม่นยำ เพราะหลังจากที่มิกาเอลได้เข้ามาปราบสัตว์ปีศาจที่นี่ เขาก็ได้บังเอิญพบหินเวทพวกนี้ ทำให้ชนะพวกสัตว์ปีศาจได้ หลังจากนั้นเขาก็นำหินพวกนี้มาศึกษาดูจนรู้ว่าความพิเศษของหินอัญมณีพวกนี้คือมานาที่หลากชนิด แต่ที่โดดเด่นเลยก็คือการใช้เป็พาหนะเคลื่อนย้าย ทำให้ย่นระยะเวลาเดินทางได้เร็วขึ้น มิกาเอลลุกขึ้นอย่างไม่ลังเลเขาคว้าหินนั่นมาก่อนจะหยิบหินอีกชุดออกติดตัวไป
“ท่านดยุกกำลังจะไปที่เวย์มงอย่างงั้นหรือ”
“แล้วเ้าจะให้เรานั่งรออยู่ที่นี่หรือยังไงเฮนรี่” กล่าวเสร็จมิกาเอลก็รีบออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับโยนหินเวทลง
.....
~ ที่พักแรมครอบครัวเกรซี่~
นาเซียยืนจ้องชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอเพิ่งเห็นเมื่อไม่กี่วันก่อน ดูท่าทางเหมือนเขากำลังจะทำเพื่อความแน่ใจ บุตรชายคนที่สองของไวเคาน์เวย์มง คงไม่เชื่อว่าเธอคือโซเฟีย
“ลอร์ดมีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ” นาเซียจ้องหน้าเบเนดิกที่กำลังยืนยิ้มให้แก่เธออย่างเป็มิตร แต่สำหรับเธอแล้วมันดูน่ากลัวเสียมากกว่า เธอไม่้าให้ใครได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ เพราะเธออยากให้นาเซียคือตัวละครที่ได้ตายไปจากเนื้อหาหลักแล้วมากกว่า
“คือ..หากเลดี้โซเฟียไม่ว่าอะไร ผมอยากชวนเลดี้ไปดื่มชาด้วยกันจะได้ไหมครับ” เบเนดิกก้มหน้าในขณะที่มือทั้งสองเข้าของเขากลับคว้ามือเธอไว้ทั้งสองข้างเช่นกัน ‘ท่าทางนี่มันอะไรกัน’ นาเซียฝืนยิ้มก่อนจะชักมือกลับ
“ดิฉันสามารถปฏิเสธลอร์ดได้อย่างนั้นหรือคะ” นาเซียรีบถาม เพราะหากเป็ชาวบ้านทั่วไปแล้วย่อมไม่สามารถปฏิเสธขุนนางระดับสูงได้เลย อีกทั้งหากเลือกปฏิเสธได้สำหรับสาวชาวบ้านแล้วเบเนดิน่าจะเป็ที่นิยมในหมู่สาว ๆ เสียมากกว่า เช่นนั้นเขาคงต้องยังไม่เคยได้รับการปฏิเสธอย่างแน่นอน
“หากเลดี้ไม่้า ทำเช่นนั้นก็ได้ครับผมไม่ว่าเลดี้หรอก” เบเนดิกตอบเสียงเบา ‘นั่นไงล่ะ….ว่าแต่ท่าทางเหมือนลูกสุนัขนี่มันอะไรกันทำไมฉันรู้สึกสงสารด้วยล่ะ’ นาเซียมองดวงตาดังกวางน้อยของเขาที่กำลังสั่นไหวเพื่อรอคำตอบจากเธอ
“งั้นรอฉันสักครู่นะคะ” นาเซียบอกก่อนจะเดินไปหลังเคาร์เตอร์ร้าน และถอดผ้าคลุมออก เธอเดินหายไปทางประตูทางออกด้านหลัง สักพักเธอก็กลับมาพร้อมกับเอเลนา ก่อนที่เอเลนาจะยืนสวมเสื้อคลุมแทนเธอ นาเซียยกมือขึ้นรวบผมเพียงครึ่งก่อนจะม้วนเก็บเพื่อให้คล่องตัวสักเล็กน้อยก่อนจะหยุดยืนจ้องหน้าเบเนดิก
“ลอร์ดไม่ไปหรือคะ” นาเซียเอียงศีรษะเอ่ยถามเบเนดิกที่กำลังจ้องเธอค้างอยู่
“เลดี้จะไปดื่มชากับผมใช่ไหมครับ” น้ำเสียงดีใจราวเด็กน้อยของเบเนดิอดทำให้เธอกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้
“ก็ลอร์ดชวนดิฉันเองไม่ใช่หรือคะ”
“ครับ…งั้นผมจะพาเลดี้ไปดื่มชาที่กำลังเป็ที่นิยมในตอนนี้อยู่ครับ ที่สำคัญไม่ไกลที่พักแรมครอบครัวเกรซี่แน่” เบเนดิกรีบรับรองพร้อมยิ้มกว้างอย่างดีใจ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้พบคนที่เหมือนกับคนที่เขาชื่นชอบมานาน แม้จะไม่ใช่นางแต่เขาก็รู้สึกว่าโซเฟียไม่มีมุมไหนที่ต่างจากนางเลย ต่างก็เพียงแววตาที่ดูสดใส และท่าทางที่ดูเป็กันเอง แต่สำหรับเขาแล้วเขารู้สึกชักจะชอบโซเฟีย เสียมากกว่าเลดี้ตระกูลดาร์เรลซะอีก