เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวลูบหัวตัวเองอย่างอายๆ “ลูกผู้ชายจะติดแม่ตลอดไม่ได้หรอกครับ” ความจริงแล้ว่นี้เห็นงานใหม่ของเนี่ยเซิงเสี่ยวยุ่งมาก ทุกวันมักจะกลับบ้านตอนฟ้ามืดแล้วทุกครั้ง
ในตอนนั้นคุณครูก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้วมองไปยังด้านหลังของเหนี่ยวเหนี่ยว “เอ๋ คุณเหยียนยังไม่กลับหรือคะ”
เหยียนจิ่งจื้อชี้ไปที่เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว “ผ่านทางพอดี ผมพาเด็กคนนี้ไปส่งที่บ้านด้วยแล้วกันครับ”
“อา ได้สิคะ” คุณครูสาวรีบจูงมือเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวไปอยู่ข้างกายเหยียนจิ่งจื้อ ดูแล้ว ไม่เพียงจะเป็หนุ่มรูปงาม แต่ยังจิตใจดีอีกด้วย ใบหน้าของคุณครูมีสีแดงเจือขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณเหยียนด้วยนะคะ”
“ไม่รบกวนหรอกครับ” มือซ้ายของเหยียนจิ่งจื้อถูกเหยียนเจียอวี๋จูงเอาไว้ จึงยื่นมือขวาไปทางเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวเช็ดเหงื่อที่มือออกด้วยความตื่นเต้น ตอนที่วางมือลงไปที่ฝ่ามือของเหยียนจิ่งจื้อเขาก็แทบจะร้องไห้ พ่อในฝันของเขาจูงมือเขาตอนเลิกเรียนอย่างอ่อนโยนแบบนี้ แล้วก็เพอร์เฟกต์แบบนี้แหละ เขาพยายามขยี้ตาของตัวเอง สุดท้ายน้ำตาก็ไม่ได้ไหลออกมา ไม่อย่างนั้นกคงขายหน้าแย่เลย
วันนี้เหยียนจิ่งจื้อไม่ได้พาคนขับรถมาด้วย ตัวเขาเข้าไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับรถ จากนั้น
เหยียนเจียอวี๋ก็รีบปีนขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วมองไปยังเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวที่ยืนนิ่งอยู่ด้านนอก
“อาสองบอกว่าจะไปส่งนายกลับบ้านทำไมนายยังไม่รีบขึ้นมาอีก” เหยียนเจียอวี๋พูดอย่างรำคาญ อาสองเขางานยุ่งมากๆ ยุ่งจนถึงขั้นไม่มีเวลาเล่นกับเขา
เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวเองก็กังวลมาก เดินไปยังหน้าต่างรถของเหยียนจิ่งจื้อ “คุณอาครับ บ้านของผมอยู่ใกล้มาก เดินไปถึงถนนเส้นนั้นก็ถึงแล้ว ไม่ต้องไปส่งหรอกครับ”
เมื่อเห็นใบหน้าเล็กๆ ขยับอยู่ต่อหน้าตัวเอง เหยียนจิ่งจื้อก็พยายามอย่างหนักที่จะไม่วู่วามไปดึงผมมาหนึ่งเส้นแล้วนำมันไปตรวจดีเอ็นเอ เขายกมือขึ้นไปจับหัวของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว “เหนี่ยวเหนี่ยว แม่ของนายวันๆ ทิ้งนายเอาไว้โดยที่ไม่สนใจเลยหรือ?”
“แม่ดีกับผมมากครับ” เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวรีบแก้ความเข้าใจผิดว่า “ไม่สนใจ” ของเขาทิ้ง จากนั้นก็ก้มหน้า “แต่ว่าผมไม่มีพ่อ แม่ก็เลยลำบากมาก จะต้องทำงานหาเงินให้เหนี่ยวเหนี่ยวใช้ ก็เลยไม่มีเวลามารับเหนี่ยวเหนี่ยว”
เหยียนจิ่งจื้อเม้มปากด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ในใจเกลียดคำว่า “ไม่มีพ่อ” มาก เขาเดินลงจากรถแล้วไล่เหยียนเจียอวี๋ลงจากรถด้วย
“เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว ฉันหิวน้ำแล้ว”
เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวกระพริบตา รู้สึกว่าอาสองของเหยียนเจียอวี๋แปลกมากจริงๆ ทำไมหิวน้ำจะต้องบอกเขาด้วยล่ะ เขาลูบกระเป๋ากางเกงของเขา จากนั้นก็ค่อยๆ ลูบไปเจอเงินห้าหยวนที่แม่ให้เขาเมื่อเช้าพร้อมบอกว่าถ้าหากเขาหิวก็ไปซื้อขนมปังกิน ก่อนจะส่งเงินนั้นให้กับเหยียนจิ่งจื้อ “คุณอา ผมมีอยู่แค่นี้”
ความจริงแล้วเขาไม่อยากจะใช้เงิน แต่ว่าถ้าหากสามารถทำให้คนที่เหมือนพ่อคนนี้หายหิวน้ำได้ เขายอมกินขนมปังน้อยลงสองชิ้นก็ได้
“ไปๆ ใครเขาอยากได้เงินนายกัน” เหยียนเจียอวี๋เบียดเข้ามา รีบหยิบแบงก์แดงออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดประจบเหยียนจิ่งจื้อ “อาสองอยากกินน้ำอะไร ผมจะไปซื้อให้”
เหยียนจิ่งจื้อไม่ได้ตอบคำถามเหยียนเจียอวี๋ พลางมองเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวที่ค่อยๆ เก็บเงินจำนวนน้อยนิดของตัวเองเข้ากระเป๋าด้วยท่าทางหวั่นๆ พลางก้มหน้าอย่างละอาย ในตอนนั้นเหยียนจิ่งจื้อพลิกทุกความรู้สึกในใจ ณ นาทีนี้เขาไม่ได้คิดเลยว่าเป็ลูกชายของตัวเองหรือไม่ แต่ว่าความรู้สึกเอ็นดูนั้นกลับเป็ของจริง
ได้ยินคนพูดบ่อยๆ ว่าลูกสาวจะต้องเลี้ยงอย่างคนรวย ลูกชายจะต้องเลี้ยงอย่างคนจน แต่ถ้าหากเป็ลูกชายของเขา เหยียนจิ่งจื้อ เช่นนั้นก็ควรรักดั่งดวงใจและเลี้ยงดูอย่างร่ำรวย
“อาสอง อาสองวางเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวลงนะ!” จนกระทั่งเหยียนเจียอวี๋ร้องโวยวายไม่หยุด
เหยียนจิ่งจื้อถึงพบว่าตัวเองนั้นได้อุ้มเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวขึ้นมา สองมือจับอยู่ใต้รักแร้ของเขา เขาถึงขั้นเห็นความตื่นเต้นในแววตาของเด็กน้อย
“อ่อ ไม่มีอะไร ฉันแค่ลองดูว่าระหว่างพวกนายสองคนใครหนักกว่า” เหยียนจิ่งจื้อรีบวางเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวลง ก่อนจะหันไปอุ้มเหยียนเจียอวี๋ขึ้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะถูกสายตาของเด็กน้อยทำให้ลนลานขนาดนี้
เมื่อเหยียนเจียอวี๋ถูกอาสองอุ้มก็ดีใจ “อาสอง ผมหนักกว่านิดหน่อยใช่ไหม?” ถึงจะเป็เื่แค่นี้เขาก็จะแข่ง
เหยียนจิ่งจื้อวางเหยียนเจียอวี๋ที่ร้องดีใจลง “เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว น้ำข้างนอกไม่สะอาด ฉันอยากไปกินน้ำที่บ้านนาย”
เหยียนเจียอวี๋ถลึงตาใส่เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว รู้สึกว่าอาสองดูแลเ้าหมอนี่เป็พิเศษจึงร้องเหอะออกมาเบาๆ “น้ำบ้านเขามีอะไรอร่อยกันอาสอง”
แต่ชัดเจนว่าเขาจะพูดอะไรออกไปก็ไม่มีประโยชน์ อาสองยังคงทิ้งรถแล้วตามเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวไปอยู่ดี เหยียนเจียอวี๋คิดว่าถ้าหากไม่ใช่เขาหน้าหนาไปจับมืออาสอง ไม่แน่อาสองก็อาจจะทิ้งเอาไว้ก็ได้
คุณลุงคุณป้าร้านผลไม้ต่างรู้สึกประหลาดใจมาก มองดูผู้ชายหล่อสูงที่เดินตามหลังเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวอย่างพิจารณา พร้อมพูดกันไปต่างๆ นานา รวมถึงการคาดเดาว่า “เป็พ่อของเด็กคนนี้หรือเปล่า” ด้วย เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวจึงหน้าแดงมาตลอดทางไปจนถึงบ้าน
ยืนอยู่หน้าห้องหมายเลข 303 เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวหยิบกุญแจออกมาจากด้านในสุดของกระเป๋าอย่างระมัดระวัง และตั้งใจไขกุญแจเปิดประตู แต่สุดท้ายเพราะด้วยความตื่นเต้นเกินไป กุญแจจึงถูกผู้ชายข้างหลังรับไป หลังหมุนสองรอบและเปิดประตูเข้าไปแล้ว เขาก็มองการตกแต่งภายในห้องอย่างพิจารณา จึงทำให้ลืมส่งกุญแจคืนให้กับเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว
“อาสอง อาสองเห็นอะไรหรือ?” เหยียนเจียอวี๋เบียดเข้าไปข้างในอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็มองไปทางเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวอย่างใ “เอ๋ สะอาดกว่าบ้านของฉันอีก”
สำหรับเื่นี้แล้วเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวภูมิใจมาก “แน่นอน แม่ของฉันทำความสะอาดบ้านเก่งที่สุด” ดีใจยิ่งกว่าชมตัวเองเสียอีก
จากตำแหน่งของเหยียนจิ่งจื้อสามารถเห็นเสื้อผ้าหลายตัวตากอยู่ที่ระเบียง หนึ่งในนั้นยังมีชุดยูนิฟอร์มของเนี่ยเซิงเสี่ยวที่เคยใส่ตอนทำงานที่เฉินตงตากเอาไว้ด้วย ั้แ่ก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ ชีพจรของเขาก็เต้นเร็วขึ้น
ผ้าม่านสีชาเข้ม ตอนที่ฝนตกเขาชอบดึงผ้าม่านลง จากนั้นก็ฟังเสียงฝนโปรยปรายในบรรยากาศที่เงียบสงบ ราวกับว่าโลกทั้งใบนี้เป็ของพวกเขา
เครื่องซักผ้าวางไว้ที่หน้าประตูห้องน้ำ เขารู้ว่ามันสะดวก
บนโต๊ะชามีจานอยู่สองใบ ใบหนึ่งใส่ลูกอมสัปปะรดเอาไว้ อีกใบหนึ่งวางเปล่า ทุกครั้งที่เขากลับบ้านมาพักผ่อนเขามักจะชอบถอดนาฬิกาที่ใส่มาทั้งวันออก เพื่อป้องกันการหาไม่เจอเขาจึงเตรียมจานเอาไว้ใบหนึ่ง
......
เหยียนจิ่งจื้อเดินไปทุกๆ พื้นที่ภายในบ้านอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็จับหัวที่ปวดอย่างรุนแรง แล้วไปบีบที่ไหล่ของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวเอาไว้อย่างตื่นเต้น ริมฝีปากสั่น พูดอะไรไม่ออก เขาไม่สามารถเรียงภาพแต่ละภาพที่ปรากฏขึ้นในหัวของเขาได้ แต่ว่าสามารถมั่นใจว่าตัวเอกในภาพเ่าั้มีเนี่ยเซิงเสี่ยว และยังมีตัวเขากับเด็กที่อยู่ตรงหน้านี้...
แก้วน้ำที่เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวถืออยู่ในมือเกือบจะถูกเหยียนจิ่งจื้อเขย่าจนตก เขามองเหยียนจิ่งจื้อที่หายใจติดขัดอย่างเป็กังวล “คุณอาเป็อะไรครับ? รีบดื่มน้ำเถอะ”
เหยียนจิ่งจื้อรับน้ำจากมือของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว มืออีกข้างก็เอื้อมไปลูบหัว “เหนี่ยวเหนี่ยว ไปโรงพยาบาลกับฉัน”
เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวยังไม่ทันได้ถามเหยียนจิ่งจื้อว่าทำไมจะต้องไปโรงพยาบาลกับเขา ประตูก็เปิดออก เนี่ยเซิงเสี่ยวเดินเข้ามาพร้อมทั้งยังพูดไปด้วย ด้านหลังยังมีจ้าวหยวนฟางตามมา “หยวนฟาง เหนี่ยวเหนี่ยวไม่เป็อะไรจริงๆ ไม่ต้องมาดูเขาหรอก”
จากนั้นตอนที่เห็นเหตุการณ์ในบ้าน มือที่ถือของที่เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวอยากได้ก็ไร้เรี่ยวแรง แอปเปิลพากันกลิ้งตกอยู่บนพื้น
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเหยียนจิ่งจื้อจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเหนี่ยวเหนี่ยวเร็วขนาดนี้ ั้แ่เจอกับเหยียนจิ่งจื้ออีกครั้งเธอก็รู้ว่าเขาคือะเิเวลา แต่ว่ามาะเิเร็วขนาดนี้เธอไม่สามารถรับมือได้
“แม่เหนี่ยวเหนี่ยวสวัสดีครับ นี่คืออาสองของผม” เหยียนเจียอวี๋ชอบเนี่ยเซิงเสี่ยว เหมือนกับที่ชอบอาสอง มีความรู้สึกดีกับคนคนนี้มาก ดังนั้นเมื่อเห็นพวกเขาไม่ขยับถึงทักทายออกมาก่อน
เนี่ยเซิงเสี่ยวเม้มปาก จ้าวหยวนฟางที่อยู่ข้างกายเธอกำลังคิดอะไรเธอรู้ดีที่สุด ในที่สุดหลังจากเงียบมาได้ครึ่งนาทีก็เงยหน้าขึ้นมา แววตาดุมองไปยังเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว “ทำไมพาคนแปลกหน้าเข้าบ้านง่ายๆ แม่ไม่เคยสอนลูกว่าเวลาอยู่คนเดียวให้ระวังถูกคนหลอกหรือ?”
น้ำเสียงแบบนี้ในสายตาคนนอกอาจจะดูนิ่งสงบ แต่ว่าเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวรู้ว่าแม่กำลังโกรธมาก เขาเดินเข้าไปจับมือเนี่ยเซิงเสี่ยว “แม่ครับ คุณอาคนนี้เป็คนที่ผมเคยพูดกับแม่ครั้งที่แล้ว ที่เหมือนกันผมมาก...”
เนี่ยเซิงเสี่ยวย่อตัวลงไปตัดบทเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว “เนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว แม่ไม่รู้จักคนคนนี้ ถึงแม้จะเหมือนกันมากแล้วอย่างไร แม่ไม่รักลูกหรือ? อย่าทำตัวน่าสงสาร้าความรักจากพ่อทุกวินาทีนะ! เด็กแบบลูกน่ะไม่มีใครรักหรอก!”
น้ำตาของเหนี่ยวเหนี่ยวไหลออกมา ไหล่ห่อน้อยๆ ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ