หลงหว่านเอ๋อร์กับซูเมิ่งหาน้าเดินหนี แต่เฉินเทียนเจียวกลับยืนขวางหญิงสาวทั้งสองไว้
“หลีกไปซะ” ซูเมิ่งหานเอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก และตระกูลหลงของเธอก็เป็ประเภทสังหารคนได้มากมาย หากผู้ชายตรงหน้าแตะต้องตัวเธอล่ะก็ เธอจะเตะอีกฝ่ายปลิวออกไปจากชั้นสองแน่นอน ส่วนเขาจะรอดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้วล่ะ
“ทำไมต้องรุนแรงอย่างนี้ด้วยล่ะสาวๆ?”
เฉินเทียนเจียวมองสองสาวผู้เปรียบเหมือนนางฟ้าผ่านแว่นกันแดดด้วยหัวใจเต้นแรง อยากได้พวกเธอมาไว้ใน หากเขาพลาดผู้หญิงเช่นนี้ไป คงต้องเสียใจไปทั้งชีวิตแน่!
“ฉันคือเฉินเทียนเจียวจากตระกูลเฉิน...”
ชายหนุ่มแค่อยากแนะนำตัวและบอกให้ผู้หญิงทั้งสองคนรู้ว่าตนยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่ขณะนั้นเย่เฟิงก็มาถึงแล้ว
“ไม่ว่าแกจะเป็ลูกหลานัหรือเง็กเซียนฮ่องเต้ ถ้ามายุ่งกับผู้หญิงของฉัน ฉันจะจัดการแกให้เละ!”
หลังจากพูดจบ เย่เฟิงก็ปรากฏตัวตรงหน้าผู้หญิงทั้งสองคนราวกับภูตผี ผู้คนโดยรอบยกเว้นหลงหว่านเอ๋อร์ต่างไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร
เฉินเทียนเจียวผงะทันที ชายหนุ่มปรากฏตัวต่อหน้าคนงามทั้งสองคนในพริบตาได้อย่างไร? เขาไม่รู้จักเย่เฟิง แต่ใครกล้าขัดขวางเขา ย่อมจบไม่สวยแน่
“เด็กน้อย นี่ไม่ใช่เื่ของแก” ใบหน้าของเฉินเทียนเจียวมืดครึ้มเมื่อได้ยินคำว่า ‘ผู้หญิงของฉัน’ จากปากเย่เฟิง หัวใจของเขาลุกโชนด้วยความริษยา ชายหนุ่มสวมเสื้อราคาถูกแบบนี้จะคู่ควรกับสาวงามชั้นสูงได้อย่างไร?
เสื้อผ้าที่เย่เฟิงสวมอยู่ไม่บ่งบอกว่าเขาร่ำรวย ทำให้เฉินเทียนเจียวไม่สนใจฐานะของผู้มาใหม่เลยสักนิด
“งั้นเหรอ?”
มุมปากเย่เฟิงยกขึ้นเล็กน้อย เหตุใดบนโลกนี้จึงมีคนประเภทนี้อยู่เสมอ อาศัยอำนาจของตระกูลทำตัวหยิ่งผยองชั่วช้าไร้ยางอายอยู่นอกบ้าน โม่จิ่วเกอในโลกเทวะคนหนึ่ง ตอนนี้ยังต้องมาเจอเฉินเทียนเจียวอีก สำหรับเย่เฟิง ความเย่อหยิ่งเป็สิ่งจำเป็ แต่ความหยิ่งผยองของเฉินเทียนเจียวก็มากเกินไปจนดูโง่เขลา
แม้โม่จิ่วเกอในโลกเทวะจะไม่กล้าหยิ่งผยองแบบนี้เหมือนเฉินเทียนเจียว แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือโลกหล้าย่อมมีคนที่เหนือกว่า ในโลกเทวะยังมีหลายคนที่เก่งกาจปลีกแยกตัวออกมา เพราะเย่อหยิ่งเกินไป ตระกูลโม่แห่งเทือกเขาแดนใต้จึงไม่เก็บเขาไว้
“เย่เฟิง อย่าทำให้เขาผิดหวังล่ะ”
หลงหว่านเอ๋อร์ยิ้มออกเมื่อเห็นเย่เฟิงปรากฏตัว เธอไม่คิดอะไรมาก เพียงเร่งให้เขาจัดการเฉินเทียนเจียวที่น่ารังเกียจคนนี้โดยเร็ว
สำหรับผู้ชมรอบๆ พวกเขาคิดว่าต้องมีละครน่าสนใจของเฉินเทียนเจียวให้ได้ชมแน่นอน! ทายาทสายตรงของตระกูลเฉินเสือผู้หญิงคนดังผู้หมายตาสาวงาม!
คนเหล่านี้สามารถเข้ามาชมไข่มุกราตรีที่ราคามากกว่าแปดล้านแน่นอนเขาเข้าใจว่าตัวตนและอิทธิพลของเฉินเทียนเจียวค่อนข้างสูง และเข้าใจเครือข่ายของผู้มีตำแหน่งสูงและมีอำนาจมากแห่งเมืองเยี่ยนจิง โดยเฉพาะคนระดับเฉินเทียนเจียว
เด็กหนุ่มเสื้อดำตรงหน้า ไม่ว่าฐานะของเขาคืออะไร แต่กล้าล่วงเกินเฉีนเทียนเจียวแบบนี้ยังจะมีจุดจบที่ดี อยู่อีกหรือ?
น่าเสียดายที่สิ่งต่อไปทำให้ตาของพวกเขาแทบถลนออกมา
เย่เฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลงกับเฉินเทียนเจียวพลันสะบัดมือตบอีกฝ่ายหน้าหัน
เพียะ!
เฉินเทียนเจียวไม่สามารถตอบสนองได้ทันจึงถูกตบจนแว่นกันแดดกระเด็น แก้มของเขาแดงไปครึ่งซีก ภาพเบื้องหน้าหมุนคว้าง ก่อนจะลอยละลิ่วไปกระแทกกระจกหน้าต่างแล้วกลิ้งไปที่ถังขยะ จนเศษขยะกระจัดกระจาย
โอ้!
คนรอบข้างต่างตกตะลึง ชายหนุ่มเสื้อดำคนนี้กล้าลงมือจริงๆ เด็กหนุ่มไม่รู้หรือว่าตระกูลเฉินมีอิทธิพลภายในเมืองเยี่ยนจิง? การกระทำต่อมายิ่งแล้วใหญ่ เขาตบเฉินเทียนเจียวฉาดใหญ่ ชีวิตเด็กหนุ่มจบสิ้นแล้ว
น่าเสียดายที่ไม่เหมือนที่พวกเขาคิด เย่เฟิงตบหน้าเฉินเทียนเจียวราวกับไม่มีเื่อะไร ก่อนโบกมือทั้งสองข้าง “ขอโทษด้วย ผมคือหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของงานแสดงสินค้า ไม่ว่าใครที่กล้ากระทำลวนลามกับสาวสวยคนอื่นก็จะมีจุดจบเช่นเขา เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายกันได้แล้ว”
เมื่อเย่เฟิงพูดจบ เฉินเทียนเจียวก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่
เขาอยากะโและขอให้หน่วยรักษาความปลอดภัยช่วยเหลือตนจากชายหนุ่มตรงหน้านี้ แต่ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะดูแลความปลอดภัยที่นี่โดยการตบหน้าเขาด้วยความชอบธรรมจากข้อหาลวนลามผู้อื่นภายในงาน!
“การกระทำเช่นการลวนลามต่อหน้าผู้อื่น ยังจะมีหน้าบอกว่าฉันกล้าลงมือ? ฉันว่าฉันพูดไปสองประโยคแล้วนะ...”
ในใจของเฉินเทียนเจียวพลันเต็มไปด้วยความโกรธ รู้สึกถึงใบหน้าร้อนผ่าวขณะที่ผู้คนรอบข้างชี้มาจนรู้สึกอับอาย
ที่ผ่านมามีเพียงเขาเที่ยวตบหน้าคนอื่น แล้วคนอื่นจะตบหน้าเขาได้อย่างไร?
สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่เพิ่งถูกเขาเขี่ยทิ้งไปพลันยกมือขึ้นปิดปาก เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีใครกล้าลงไม้ลงมือกับคนอย่างเฉินเทียนเจียว เด็กหนุ่มรนหาที่ตายหรือ?
เมื่อผู้คนรอบๆ ได้ยินเสียงต่างก็เข้าใจได้ทันทีว่า ที่แท้เด็กหนุ่มใส่เชิ้ตสีดำก็คือเย่เฟิง!
หลินซือฉิงเป็ผู้เชิญบริษัทรักษาความปลอดภัยมาในครั้งนี้ และเย่เฟิงก็เป็ตัวแทนอย่างถูกต้อง ซึ่งเื่นี้ทุกคนต่างรู้กันดี อีกทั้งเย่เฟิงกับหลินซือฉิงเป็คู่หมั้นกัน จึงกล้าลงไม้ลงมือกับเฉินเทียนเจียวงั้นสินะ?
คนจำนวนมากเดากันแบบนี้และมันก็ไม่แตกต่างจากความจริงเลยสักนิด อย่างไรก็ตามถึงพวกเขาคาดเดาอย่างไร แต่สำหรับเย่เฟิงแล้วมันไม่ใช่เื่สำคัญ
เขาพลันเห็นแววตาชั่วร้ายของเฉินเทียนเจียวจึงแค่นเสียงเบา ก่อนก้าวไปข้างหน้า และดึงคอเสื้อเชิ้ตลายดอกขึ้นมา พลางจ้องดวงตาของอีกฝ่าย ก่อนจะใช้ทักษะสะกดจิตโดยไม่ลังเล
“ั้แ่นี้ไป เมื่อเห็นฉัน แกต้องเดินหลบไปซะ!”
อีกฝ่ายถูกครอบงำทันที มันฝังลึกในสมองของเฉินเทียนเจียวโดยเย่เฟิง ไม่ว่าใครก็ต่อต้านคำสั่งแบบนี้ เฉินเทียนเจียวก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น น่าเสียดายที่เขาไม่อาจต้านทานการสะกดจิตของเย่เฟิงได้ และยิ่งเขาต่อต้านมากเท่าไรสมองของเขาก็ได้รับาเ็มากเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานไอคิวของเฉินเทียนเจียวก็จะลดลงยี่สิบเปอร์เซนต์ เมื่อเปิดตาขึ้นมาเห็นเย่เฟิง อีกฝ่ายก็รีบเร่งลงบันไดไปทันที
เมื่อระดับพลังเติบโตขึ้น ความสามารถในการสะกดจิตของเย่เฟิงก็สูงขึ้นเรื่อยๆ และสามารถควบคุมได้ง่ายดายกว่าเดิม แน่นอนว่าการสะกดเช่นนี้เป็วิชาเซียน ซึ่งภายในโลกใหม่นี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้มาก นอกจากก่อความโกลาหลวุ่นวายให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่ไม่อาจตรวจเจอได้
เหตุการณ์การหลบหนีของเฉินเทียนเจียวอยู่ในสายตาของฝูงชนโดยรอบ มันเป็เื่ที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง
ฐานะของเย่เฟิงคืออะไรกันแน่ ถึงทำให้เฉินเทียนเจียวซึ่งถูกทุบตีและควรพูดโวยวาย กลับหนีไปด้วยความอึดอัดใจแบบนี้? นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
ไม่ว่าพวกเขาจะขบคิดจนสมองแทบะเิแค่ไหนก็คิดไม่ออกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เฉินเทียนเจียวเผชิญ เหตุการณ์นี้จะกลายเป็ปริศนาที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายภายในแวดวงบุคคลทรงอิทธิพลของเยี่ยนจิงทันที...
“เจี้ยนหลานล่ะ?”
เย่เฟิงหันกลับมาถามหญิงสาวทั้งสอง เขาไม่สนใจเื่ของเฉินเทียนเจียวจึงไล่ตะเพิดอีกฝ่ายราวกับมดปลวก
“เธอบอกว่าที่นี่น่าเบื่อเกินไป เลยออกไปสูดอากาศ”
ซู่เมิ่งหานอธิบาย ทันใดนั้นก็พบว่าสีหน้าของเย่เฟิงและหลงหว่านเอ๋อร์เปลี่ยนไป สายตาพวกเขามองไปทั่วชั้นสองของศูนย์การแสดงสินค้า ผู้ฝึกิญญาหลิงเฉินรายงานว่าในที่สุดนักฆ่าที่เพ่ยเค่อกรุ๊ปส่งมาก็เริ่มลงมือแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้