โสมโบราณชั้นยอด ระดับสูงกว่าโสมโบราณชั้นสูงถึงสองขั้น!
“สัญลักษณ์ัปรภพสามารถปกปิดการแผ่กระจายของพลังฟ้าดินได้ ไม่แน่ข้าอาจจะชิงโสมชั้นยอดนั่นมาได้โดยที่คนของราชวงศ์ไม่รู้ตัว!”
หลงอวี้ตาเป็ประกาย แต่ปัญหาคือ คนของราชวงศ์นั้นแข็งแกร่งสุดขีด แค่ชายหนุ่มเกราะทองนั่นก็มีระดับพลังที่ไม่อาจหยั่งถึงแล้ว
การชิงอาหารจากปากของราชวงศ์นั้น คงมีแค่เขาคนเดียวที่กล้าคิด โสมโบราณชั้นยอดช่างน่าดึงดูดเหลือเกิน หากหลงอวี้ได้มันมาอาจจะทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่ขั้นแปดเลยก็ได้
“ศิษย์น้อง เ้าคิดอะไรอยู่?”
หลิงหานที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ ไม่มีอะไร”
หลงอวี้หัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า
“จริงสิศิษย์พี่ กระบี่เล่มนี้ท่านเอาไปก่อนเถิด เสียดายชุดเกราะของเ้าถานเจียนชุดนั้นที่พังไป ไม่อย่างนั้นคงได้ยุทธภัณฑ์ป้องกันดีๆ มาใช้สักชิ้นแล้ว”
เขาพูดพลางยื่นกระบี่ของฮวาชิงเล่มนั้นให้หลิงหาน
“ศิษย์น้อง นี่เ้าทำอะไรน่ะ?”
หลิงหานเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ไม่ยอมรับไว้
“ยุทธภัณฑ์ชิ้นนี้เ้าเป็คนสู้ชนะมาได้ ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร? กระบี่เล่มนี้ข้าว่าเ้าใช้เองดีแล้ว!”
“อย่างนั้นก็ได้”
หลงอวี้พยักหน้ารับ
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าหลิงหานผู้นี้เป็คนที่คู่ควรจะคบหาเป็มิตรสหาย
ด้วยลักษณะนิสัยของหลงอวี้ เขาจะระมัดระวังเป็พิเศษในการจะคบหาเป็มิตรกับใคร เขาจึงเอากระบี่เล่มนี้มาลองใจอีกฝ่าย และก็ได้รู้ว่าหลิงหานไม่ใช่พวกละโมบโลภมาก ทั้งยังมีน้ำใจมากด้วย!
แต่ไม่ใช่แค่หลงอวี้เท่านั้นที่ลองใจ เมื่อครู่นี้หลิงหานเองก็ลองใจหลงอวี้เช่นกัน
ตอนที่ถานเจียนยอมลดตัวมาขอความเมตตาจากหลงอวี้นั้น แม้หลิงหานจะไม่พูดอะไร แต่เขาก็หวังว่าหลงอวี้จะลงมือกำจัดอีกฝ่าย หากหลงอวี้ทำไม่ได้ หลิงหานคงผิดหวังในตัวเขาไม่น้อย!
เพียงแต่ตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดูจะแน่นแฟ้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“จริงสิศิษย์พี่ โสมโบราณชั้นยอดที่ว่านั่น ปรากฏขึ้นที่ไหนหรือ?”
หลงอวี้แสร้งถามส่งๆ
“เ้ามองไปทางทิศตะวันตกสิ”
หลิงหานไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าหลงอวี้เพียงสงสัยเท่านั้น จึงชี้ไปทางทิศตะวันตก
“มองเห็นยอดเขาลูกนั้นไหม? ได้ยินว่าโสมชั้นยอดอยู่สูงขึ้นไปราวๆ ร้อยจ้างบนยอดเขานั่นแหละ!”
สูงขึ้นไปร้อยจ้าง!
หลงอวี้มองไปทางทิศตะวันตก เห็นยอดเขาสูงทะลุเมฆลูกหนึ่งตั้งห่างออกไปราวๆ ร้อยลี้
“มีคนััได้ถึงพลังฟ้าดินที่เข้มข้นสุดขีดจากใต้เขาลูกนั้น จึงกลับไปรายงานราชวงศ์”
หลิงหานกล่าวพร้อมส่งเสียงหัวเราะ
“เป็ไปได้ยากที่คนทั่วไปจะปีนขึ้นเขาร้อยจ้างเพื่อเก็บโสมได้”
ร้อยจ้าง เป็ความสูงที่ไม่น้อยเลยจริงๆ ดูท่าการจะเก็บโสมชั้นยอดนี้ คงต้องลงแรงสักหน่อยแล้ว
ข่าวดีก็คือ คนของราชวงศ์เหมือนจะยังมาไม่ถึง
หลงอวี้รีบวางแผนในใจ หรือบางทีเขาน่าจะลองไปดูก่อน?
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่พาหลิงหานไปด้วยอยู่แล้ว การแย่งชิงโสมโบราณชั้นยอดจากมือราชวงศ์นั้น เื่แบบนี้หากเล็ดลอดออกไปคงมีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่!
ไม่ว่าจะเื่ความปลอดภัยของตัวเองหรือของหลิงหาน ก็ไม่ควรพาเขาไปด้วยทั้งนั้น
แต่ตอนนี้ โจทย์ยากคือการหาวิธีปลีกตัวออกจากหลิงหาน โดยที่อีกฝ่ายจะต้องไม่รู้สึกสงสัย หลงอวี้ก็จะรีบร้อนเกินไปไม่ได้ เขาค่อยๆ คิดหาวิธีตามสถานการณ์ตรงหน้า
“ศิษย์พี่ พวกเราลองตามหาโสมโบราณกันอีกสักหน่อยดีกว่า ั้แ่เข้ามาท่านเหมือนจะยังไม่ได้อะไรไปเลยนี่”
หลงอวี้พูด
“เ้าพูดอะไรแบบนั้น? ยังมียุทธภัณฑ์โซ่เหล็กสีดำของหลิ่วิเซวียนชิ้นไง มันใช้ดีมากเลยนะ!”
หลิงหานหัวเราะร่า
“ถ้ามาป่าโสมโบราณแล้วไม่ได้โสมโบราณกลับไปเลย มันออกจะไม่คุ้มค่าสักเท่าไรนะ ศิษย์พี่ เราลองไปหาทางนี้กันเถิด”
หลงอวี้พูดพร้อมกับเลือกเส้นทางมาเส้นหนึ่ง
หลิงหานรีบก้าวเท้าตามไป เดินตามหลงอวี้ลึกเข้าไปในป่า เส้นทางที่หลงอวี้เลือกมานั้น เป็เส้นทางที่มุ่งไปทางทิศตะวันตกที่เป็ที่ตั้งของโสมโบราณชั้นยอด
หลังจากเดินไปได้ครึ่งทาง จู่ๆ ทั้งสองก็ได้กลิ่นคาวเื พวกเขาพลันระวังตัวขึ้นมาทันที
“นี่มันศพของศิษย์น้องในลัทธิเรา!”
ลูกศิษย์ระดับล่างของลัทธิสยบฟ้าในชุดสีน้ำเงินผู้หนึ่งถูกแหวกอก เจาะท้องแล้วแขวนไว้บนต้นไม้ข้างหน้า!
ภาพนี้ ทำเอาทั้งสองคนหน้าถอดสี
ใครกันทำไมโหดร้ายทารุณขนาดนี้?
“เขาเพิ่งตายได้ไม่นานนี้เอง!”
หลงอวี้กวาดตามองไปรอบๆ มองปราดเดียวก็พบเบาะแส!
“ศิษย์พี่ ท่านคอยดูศพของศิษย์น้องผู้นี้เอาไว้นะ ข้าจะไล่ตามฆาตกรไป!”
พอหลงอวี้พูดจบก็รีบพุ่งไปยังทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูง ไม่สนใจว่าหลิงหานจะคิดเห็นเช่นไร!
หลิงหานเห็นเช่นนั้นก็คิดในใจว่าศิษย์น้องหลงอวี้ทำอะไรเด็ดขาดเหลือเกิน เขาเองก็คิดจะไล่ตามฆาตกรไปเหมือนกัน แต่กลับถูกศิษย์น้องผู้นี้ตัดหน้าไปก่อน แบบนี้ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร...
หลงอวี้ที่พุ่งไปไกลหลายลี้ พอรู้ว่าหลิงหานไม่ได้ไล่ตามมา ก็ลอบถอนหายใจโล่งอก
หลังจากนั้นเขาได้เพ่งสมาธิทั้งหมดไปยังเป้าหมายที่กำลังไล่ตามอยู่ในตอนนี้
“ไอ้ลูกศิษย์ของลัทธิพันไหมนั่น มันสังหารโหดคนของลัทธิสยบฟ้าแล้วชิงโสมโบราณระดับกลางไปหนึ่งต้น ตอนนี้มันกำลังแอบดูดกลืนพลังฟ้าดิน แต่น่าเสียดายที่ข้าหาตัวมันเจอแล้ว!”
ดวงตาของหลงอวี้สาดประกายเย็นะเื
“โสมโบราณชั้นยอดปรากฏพอดี ข้าจะได้ใช้งานไอ้หมอนี่!”
ทว่าความเร็วของลูกศิษย์ลัทธิพันไหมคนนั้นจะไม่ได้ด้อยไปกว่าหลงอวี้เลย!
แม้หลงอวี้จะใช้วิชาวายุก้าวพริบตาและเร่งเร้าพลังของรองเท้าเหมันต์คลั่งแล้ว ก็ทำได้แค่ััถึงความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายที่กำลังวิ่งหนีเท่านั้น ยังไม่ได้เห็นตัวอีกฝ่ายเลย!
“รองเท้าเหมันต์คลั่ง เป็ถึงยุทธภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง ความสามารถในการเร่งความเร็วน่าจะไม่ได้มีแค่นี้แน่”
หลงอวี้ตาเป็ประกายขึ้นมา
“ตามที่ผู้เฒ่าขาวบอก ผู้ฝึกยุทธ์และยุทธภัณฑ์สามารถสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างกันได้ ยุทธภัณฑ์ที่สร้างสายสัมพันธ์ได้แล้ว จะต้องทรงพลังมากขึ้นแน่นอน!”
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็เพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่รองเท้าเหมันต์คลั่งอีกครั้ง ระหว่างที่วิ่งก็รู้สึกถึงลมปราณที่ไหลเวียนอยู่บนรองเท้าไปด้วย
หลงอวี้ไม่ได้ลองทำแบบนี้ครั้งแรก และทุกครั้งที่ทำก็จะรู้สึกถึงระยะห่างระหว่างตัวเขากับรองเท้าเหมันต์คลั่งที่ใกล้กันมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถสร้างสายสัมพันธ์กับมันได้สักที
ตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไล่ตามไม่ทัน ศักยภาพแฝงของหลงอวี้พลันถูกดึงออกมา
บนสัญลักษณ์ัปรภพนั้นได้มีลายเส้นสีดำลึกลับหลายสายไหลเวียนพัวพันล้อมรอบรองเท้าเหมันต์คลั่ง ทำให้รองเท้าเหมันต์คลั่งที่เป็สีขาวราวกับน้ำแข็งปรากฏลายเส้นลึกลับเพิ่มขึ้น
ตึก! ตึก! ตึก!
รองเท้าเหมันต์คลั่งนั้นก็ราวกับมีหัวใจ มันเต้นเป็จังหวะเดียวกับหัวใจของหลงอวี้
“สร้างสายสัมพันธ์ เป็ความรู้สึกแบบนี้แหละ!”
หลงอวี้เบิกตาโต พลันรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถูกส่งมาจากรองเท้าเหมันต์คลั่ง ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มสูงขึ้นแทบจะทันที!
หลังจากนั้นหลงอวี้ก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลำแสงสายหนึ่ง ไม่นานนักก็เริ่มมองเห็นลูกศิษย์ของลัทธิพันไหมที่กำลังวิ่งหนีอยู่ข้างหน้า
มันเป็ผู้ชายร่างผอมแห้งจนหนังติดกระดูกในชุดสีเขียว ใบหน้าซูบตอบ ดวงตาลึกโบ๋ ระดับพลังอยู่ที่วิถียุทธ์ขั้นเจ็ด!
‘ในบรรดาลูกศิษย์ของลัทธิพันไหมที่มาป่าโสมโบราณครั้งนี้ ผู้ที่มีวรยุทธ์ขั้นเจ็ดมีไม่มากนัก เ้าคนตรงหน้าน่าจะเป็คนสุดท้ายของลัทธิพันไหมที่มีวรยุทธ์ขั้นเจ็ด!’
หลงอวี้คิดในใจ ใช้ลมปราณเร่งเร้ารองเท้าเหมันต์คลั่งอย่างต่อเนื่อง!
วินาทีต่อมา พลันมีหิมะเย็นะเืสายหนึ่งพุ่งออกมาจากรองเท้า โถมไปทางลูกศิษย์ลัทธิพันไหมคนนั้นอย่างเกรี้ยวกราด!
พออีกฝ่ายเห็นเช่นนั้น ก็สบถในใจหนึ่งคำ พยายามจะควบคุมเงาขัดขวางการไล่ล่าของหลงอวี้ แต่ในตอนนั้น หิมะอันเย็นะเืที่ปล่อยออกมาจากรองเท้าเหมันต์คลั่งได้ปกคลุมเขาไว้ทั้งตัว
ความเร็วของเขาได้ถูกหิมะลดทอนลงในพริบตา!
‘ผสานใจ เป็ขั้นแรกของการสร้างสายสัมพันธ์กับยุทธภัณฑ์ คิดไม่ถึงว่าแค่ผสานใจกับรองเท้าเหมันต์คลั่ง จะสามารถเพิ่มความเร็วขึ้นได้เกือบหนึ่งเท่าตัว แถมยังปล่อยหิมะออกมาก่อกวนอีกฝ่ายได้อีก!’
หลงอวี้รู้สึกยินดีสุดประมาณ วินาทีต่อมาตัวเขาที่เบาดุจสายลม ได้ก้าวพริบตาหนึ่งก้าว จนในที่สุดก็ไล่ตามอีกฝ่ายทัน!
“แก่นสยบฟ้า สะกดมันไว้!”
หลงอวี้เห็นว่าอีกฝ่ายคิดจะต่อต้าน จึงปล่อยแก่นสยบฟ้าออกมาสะกดพลังอีกฝ่ายทำให้ลมปราณในตัวอีกฝ่ายไหลเวียนช้าลงถึงเจ็ดแปดส่วน
หลงอวี้ในตอนนี้ สามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ที่วิถียุทธ์ขั้นเจ็ดได้อย่างง่ายดาย
เมื่อแก่นสยบฟ้ามาถึง อีกฝ่ายก็ไม่มีพลังจะต่อต้านแม้แต่น้อย ยากจะจินตนาการได้ว่า หากบรรลุไปถึงขั้นมหาพลังฟ้าดิน หรือถึงขั้นเขตแดนได้ละก็ จะมีพลังในการสยบคู่ต่อสู้มากขนาดไหน?
หลงอวี้เพียงยกมือขึ้น แก่นพลังถูกปลดปล่อย ลูกศิษย์ลัทธิพันไหมคนนั้นก็แทบจะเสียความสามารถในการต่อต้าน ใบหน้าซูบตอบเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ทั้งที่ระดับวรยุทธ์ขั้นที่เจ็ดเหมือนกัน แต่ทำไมเ้าหลงอวี้ถึงแข็งแกร่งมากขนาดนี้?
คนผู้นั้นคิดอย่างไรก็ไม่อาจเข้าใจได้!
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ฆ่าเ้าหรอก แค่อยากจะเจรจากับเ้าหน่อย”
หลงอวี้แสยะยิ้มบางๆ
“เจรจาหรือ”
คนผู้นั้นใช้น้ำเสียงแหบแห้งถามอย่างสงสัย
“ข้า้าให้เ้าช่วยข้าเก็บของชิ้นหนึ่ง ถ้าตกลงข้าจะลองคิดเื่ไว้ชีวิตเ้าดู เป็อย่างไร แบบนี้ยุติธรรมมากเลยใช่ไหม”
หลงอวี้ตอบกลับ
“เก็บของอะไร”
อีกฝ่ายถามโดยไม่รู้ตัว
“โสมโบราณชั้นยอด!”
หลงอวี้ตอบ
คนผู้นั้นหน้าถอดสีไปทันที
“เ้าให้ข้าไปชิงของของราชวงศ์อย่างนั้นหรือ เป็ไปไม่ได้!”
“ทำไม เ้าไม่ตกลงหรือ”
หลงอวี้พูดอย่างเฉยชา
“อย่างนั้นข้าคงต้องฆ่าเ้า แล้วไปหาคนอื่นแทน!”
คนผู้นั้นหน้าซีดทันที ตัวเขาที่ถูกกดทับด้วยแรงมหาศาล รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอวี้ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้าตกลง
“ข้าลองดูก็ได้”
เขาตอบ
“ดีมาก อย่างนั้นก็ไปกันเลย”
หลงอวี้จับตัวคนผู้นั้นไว้ มุ่งหน้าไปทางูเาสูงที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกที่ห่างออกไปนับสิบลี้ทันที
เขาใช้วิชาวายุก้าวพริบตาแล้ว ทำให้ตัวเบาดุจสายลม
น่าเสียดายที่การผสานใจระหว่างเขากับรองเท้าเหมันต์คลั่งได้ยุติลงแล้ว
‘การผสานใจเมื่อครู่ เป็แค่การสร้างสายสัมพันธ์ชั่วคราวด้วยความสามารถของสัญลักษณ์ัปรภพ หากคิดจะผสานใจกับรองเท้าเหมันต์คลั่งอย่างแท้จริง ดูเหมือนจะยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ...’
หลงอวี้คิดในใจเช่นนั้น มุ่งหน้าไปยังที่หมายพลางัักับการไหลเวียนของลมปราณบนรองเท้า ปรับตัวให้เข้ากับรองเท้า หวังว่าวันที่จะสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับมันได้จะมาถึงในเร็ววัน
ความเร็วนั้นมีความสำคัญกับผู้ฝึกวรยุทธ์อย่างมหาศาลจริงๆ!
เพียงแต่การสร้างสายสัมพันธ์กับยุทธภัณฑ์ไม่ใช่เื่ที่จะทำสำเร็จได้ง่ายๆ หลงอวี้ได้แต่ค่อยๆ ทำไปทีละน้อย
และระยะทางสิบลี้ได้ผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดูเาสูงทะลุเมฆนั่นก็ปรากฏตรงหน้าไม่ห่างจากหลงอวี้
แม้จะยังมีระยะห่างอยู่อีกหลายลี้ แต่เขาก็ััได้ถึงพลังฟ้าดินอันเข้มข้นชวนลุ่มหลงที่แผ่จากบนยอดเขาได้
‘โสมโบราณชั้นยอด ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย!’
หลงอวี้ชื่นชมในใจ ยิ่งเข้าใกล้จุดหมาย ความคิดของเขาก็ยิ่งสงบเยือกเย็น
การจะแย่งชิงของของราชวงศ์มาย่อมไม่ใช่เื่ง่ายๆ!
หลงอวี้ซ่อนตัวตามต้นไม้ที่ยังอยู่ห่างหลายลี้ เขาใช้กระบี่พาดคอลูกศิษย์ลัทธิพันไหมคนนั้นไว้ ควบคุมตัวอีกฝ่ายไว้อย่างแ่า
หลังจากนั้น เขาก็ได้ขึ้นไปบนยอดต้นไม้โบราณต้นหนึ่งแล้วมองไปด้านล่างของูเาสูงลูกนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้