หนิงเทียนกรีดร้องโหยหวนเสียงดัง สายฟ้าร้องลั่นและฟ้าแลบปลาบแปลบหลายร้อยสายปกคลุมทั่วฟากฟ้า
นี่คือทัณฑ์์ซึ่งถือเป็ภัยพิบัติสำหรับผู้บำเพ็ญ แต่ไม่มีผู้ใดเคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีทัณฑ์์เกิดขึ้นกับขอบเขตจิตหยั่งลึก
หนิงเทียนคำรามลั่น ์ช่างไม่ยุติธรรม เขาถูกโจมตีโดยไม่มีเหตุผล หลอกลวงยิ่งนัก!
เขา้าต่อต้านทัณฑ์์ด้วยหมัดเดียว จิติญญาแห่งการต่อสู้นี้น่าชื่นชมอย่างยิ่ง
เส้นลมปราณทั้งเก้าสั่นะเื แผนที่จิติญญาทั้งเก้าปรากฏขึ้นพร้อมกัน ซึ่งแม้แต่หนิงเทียนเองก็ยังใ
เมื่อแผนที่จิติญญาสุดท้ายถูกควบแน่นสำเร็จ เขาก็ยังไม่ได้ตรวจสอบอะไรเพิ่มเติม
เส้นลมปราณที่เก้าของหนิงเทียนมาจากโลกอื่น แผนที่จิติญญาที่ควบแน่นนั้นลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้ ประตูมิติที่เกิดขึ้นว่างเปล่าและเต็มไปด้วยแสงแห่งความโกลาหลอย่างละครึ่ง ทั้งยังคอยระงับพลังของแผนที่จิติญญา
ประตูมิติแห่งนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง ยามที่หนิงเทียนต่อสู้กับทัณฑ์์ คำอธิบายที่เกี่ยวข้องก็ปรากฏขึ้นในใจ
“แผนที่จิติญญาเก้ามิติ เริ่มจากท้องนภา ประตูกางกั้น หยินหยางมีเส้นทางที่แตกต่าง ลัทธิเต๋าแปรเปลี่ยน พัฒนาทุกสรรพสิ่ง ประตูแห่งการสร้างสรรค์ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์”
แผนที่จิติญญาสุดท้ายของหนิงเทียนชื่อว่าแผนที่จิติญญาเก้ามิติ มันเกิดขึ้นจากการหลอมรวมและการควบแน่นของประตูพิเศษเก้าบาน ซึ่งประกอบด้วยกฎอันไร้ขอบเขต
ประตูมิติบนแผนที่จิติญญานั้นลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้ มันมีภาพซ้อนทับกันซึ่งแสดงพลังอันรุ่งโรจน์แห่ง์ ทั้งยังส่งพลังที่ผู้คนหวาดกลัว
ประตูมิตินี้ไม่ใช่เื่เล็ก มันมีรูปร่างคล้ายประตูสู่ภายในมีกฎสูงสุดอีกแปดข้อ
แผนที่จิติญญาเก้ามิติส่งผ่านข้อมูลมาว่าเริ่มจากท้องนภา หมายความว่าประตูสู่์เป็บานแรกของประตูมิตินี้ อันที่จริงประตูมิตินี้มีทั้งหมดเก้าแห่ง และตอนนี้มีเพียงรูปแบบแรกเท่านั้นที่เปิดใช้งานได้
บานประตูที่แตกต่างกันมีชื่อและกฎที่ต่างกัน เช่นประตูหยินหยาง ประตูมหัศจรรย์ และประตูสรรค์สร้าง แต่ละบานล้วนมีข้อดีของมันเอง
รอบกายของหนิงเทียนมีเงาประตูมิติหลายแห่ง ซึ่งมีรูปร่างเหมือนประตูสู่์ แตกต่างจากบงกชสีมรกต ต้นไม้แห้งเหี่ยว หญ้าต้นน้อย เถาวัลย์เขียว ลำธารวงแหวน เปลวเพลิง เนินเขา และเสาลม ตลอดจนเส้นลมปราณฟ้าประทานทั้งเก้าและแผนที่จิติญญาซ่อนเร้นเก้าสาย
สถานการณ์ของหนิงเทียนเป็เื่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็ต้นหญ้า ดอกไม้ ต้นไม้ เถาวัลย์ หรือดิน ไฟ น้ำ และลม ล้วนเป็สิ่งที่หาได้ยากในทุกยุคทุกสมัย สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคือประตูมิติสุดท้าย มันมีเก้ารูปแบบ ประตูสู่์เป็เพียงประตูแรก และยังเป็ประตูมิติเดียวที่เขาเข้าใจและเปิดใช้งานได้ในปัจจุบัน
แผนที่จิติญญาสั่นะเืก่อนเสียงอันน่าอัศจรรย์ดังมาจากประตูสู่์ ซึ่งประกอบด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมที่เป็วิวัฒนาการของตัวตนทางจิติญญา
ทัณฑ์์นั้นน่าสะพรึงกลัว แสงแห่งอัสนีนั้นทรงพลังด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง แสงเหล่านี้ต่าง้ากำจัดหนิงเทียนให้สิ้นซาก
หนิงเทียนไร้ที่หลบซ่อน กายาสุวรรณะผสานความร่วมมือกับทะลวงพันชั้น แผนที่จิติญญาในร่างของเขาต่างเบ่งบาน พลังิญญาที่พลุ่งพล่านกลายเป็หมัดที่อยู่ยงคงกระพันก่อนเข้าต่อต้านสายฟ้าท่ามกลางศึกนองเื
เสียงที่ดังกึกก้องทำให้ทั้งหุบเขาสั่นะเื ฟ้าร้องและฟ้าผ่าที่น่าสะพรึงกลัวราวกับดาบแสงที่ไม่อาจทำลาย ก่อนจะโจมตีหมัดของหนิงเทียนจนแตกพ่าย และฉีกกระชากเสื้อผ้าของเขาจนขาดวิ่น
หนิงเทียนร้องลั่น จิติญญาการต่อสู้ของเขาราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชน เขาได้เปิดใช้งานยันต์เต๋าอนันต์และวาโยพิโรธ ร่างของเขากำลังบ้าคลั่ง แผนที่จิติญญาทั้งเก้าในร่างกายของเขาปลดปล่อยคลื่นแสงลึกลับออกมาราวกับัแหวกว่ายในสายน้ำขนาดั์
ดอกไม้ ต้นหญ้า ต้นไม้ และเถาวัลย์ภายนอกร่างกายของหนิงเทียนรวมกันเป็หอคอยทรงสามเหลี่ยม ขณะที่ดิน ไฟ น้ำ และลมก็รวมกันเป็หอคอยทรงสามเหลี่ยมอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน ทั้งสองหมุนวนและเคลื่อนไหวไปรอบๆ ประตูมิติ
ร่างกายของหนิงเทียนเปล่งประกายและร้อนผ่าว ทุกรูขุมขนสูดพลังจิติญญา ก่อนจะเปล่งแสงสุกใสราวกับเตาเผาที่กำลังลุกไหม้
เมื่อเผชิญกับหายนะอันน่าสะพรึงกลัว หนิงเทียนไม่คิดยอมแพ้ เขาที่ยามนี้ไม่ต่างจากสัตว์ที่ติดกับดักยังคงคิดสู้ต่อไป
พลังหมัด คมกระบี่ ทักษะทางร่างกาย และความเร็วของเขา รวมกับทักษะเก้าเนตร์ ต่อสู้กับสายฟ้าและแข่งขันกับฟ้าที่ร้องคำรามอย่างต่อเนื่อง
ประตูสู่์บนแผนที่จิติญญาเก้ามิติของหนิงเทียนเปล่งประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีสัน สัญลักษณ์ทางจิติญญาต่างๆ ลอยออกมาจากประตู ก่อนจะกลายเป็ทักษะชั้นยอดที่เข้าถึงท้องฟ้าในก้าวเดียว
นี่คือกฎสูงสุดที่มีอยู่ในประตูสู่์ หมายความว่า หากข้ามประตูนั้นจะสามารถไปถึง์ได้ในก้าวเดียว ซึ่งนี่คือหนทางสู่์
การขึ้นไปถึง์ในก้าวเดียวถือเป็พลังวิเศษสูงสุดในการประสานงานโดยรวม ซึ่งสามารถรวมแผนที่จิติญญาทั้งเก้าในร่างของหนิงเทียนเข้าด้วยกัน ถือเป็การผสานรวมดิน ไฟ น้ำ ลม ต้นไม้ ดอกไม้ ต้นหญ้า และเถาวัลย์เข้าด้วยกันได้อย่างแท้จริง
เมื่อครั้งที่หนิงเทียนอยู่ในขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นแปด เขายังคงไม่สามารถรวมดิน ไฟ น้ำ ลม ดอกไม้ ต้นหญ้า ต้นไม้ และเถาวัลย์ได้อย่างแท้จริง ยามนั้นิญญาวาโยเคยกล่าวไว้ว่าเป็เพราะหนิงเทียนยังไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเขาก็พลาดขั้นตอนสุดท้ายไปหนึ่งก้าว
ตอนนี้หนิงเทียนได้เข้าสู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเก้าแล้ว เส้นลมปราณทั้งเก้าของเขาจึงเสร็จสมบูรณ์ไปโดยปริยาย แผนที่จิติญญาต่างตื่นขึ้น ทั้งเก้าเส้นรวมเป็หนึ่งเดียวก่อนจะขึ้นสู่์
เหตุการณ์ทัณฑ์์คราวนี้หนิงเทียนตระหนักได้ทันทีว่าทั้งร่างของเขากำลังสลาย เส้นลมปราณทั้งทั้งเก้าสั่นะเืและคำราม แผนที่จิติญญาทั้งเก้าได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ การจัดและการผสมผสานวิชาและทักษะต่างๆ รวมทั้งการผสมผสานตามทักษะยุทธศาสตร์ครอง์ ทั้งหมดกลายเป็ผู้นำทางก้าวขึ้นสู่์ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากยันต์เต๋าอนันต์และวาโยพิโรธ ทั้งสองกำลังเสริมพลังและบรรเทาความโกรธเกรี้ยวของพายุ ยามนี้การหลอมรวมเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้นแล้ว
หอคอยสามเหลี่ยมทั้งสองข้างกายหนิงเทียนลอยเข้าไปในประตูมิติ ทำให้เกิดความวุ่นวายใน์และโลก จนห้วงมิติเวลาเริ่มไหลอย่างปั่นป่วน
นี่คือการเชื่อมต่อของเส้นลมปราณทั้งเก้าซึ่งเข้ากันได้ภายใต้การทิ้งะเิแห่งทัณฑ์์ มันทำให้เกิดฟันเฟืองอันน่าสะพรึงกลัวจนหนิงเทียนกระอักเืและกรีดร้องอย่างดุเดือด ผลคือเขาเกือบตาย
การหลอมรวมครั้งแรกล้มเหลว หนิงเทียนประสบกับความพ่ายแพ้อย่างหนัก สายฟ้าผ่าทะลุร่างและทำลายการป้องกันของกายาสุวรรณะนิรันดร์อย่างสิ้นเชิง
ดวงตาของหนิงเทียนเบิกกว้างอย่างไม่ยินยอม เขาเงยหน้ามองฟากฟ้าและร้องคำราม แหล่งกำเนิดชีวิตพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อซ่อมแซมร่างกายที่เสียหาย แผนที่จิติญญาทั้งเก้าเชื่อมโยงถึงกัน
สายฟ้าฟาดเหมือนปลายหอกท่พุ่งมาอย่างรวดเร็วจนไม่มีที่ซ่อน สายฟ้านั้นเหมือนกับค้อนทองสัมฤทธิ์ที่ฟาดใส่กล้ามเนื้อและกระดูกของหนิงเทียน
ดอกไม้และต้นหญ้าในหุบเขาล้วนเหี่ยวเฉา ทั้งหมดกลายเป็เถ้าถ่าน และพลังแห่งภัยพิบัติ์อยู่ยงคงกระพันอย่างถึงที่สุด
หนิงเทียนอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง ทั้งยังอันตรายและคาดเดาไม่ได้ กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตกำลังฟื้นคืนชีพ แก่นแท้และเืในร่างกายของเขาต่างลุกไหม้ ทำให้เขาได้รับพลังที่มากเพียงพอ
สัญลักษณ์แห่งิญญาแวบขึ้นมาในใจ มันคือวิธีใช้หนึ่งก้าวสู่์ทั้งฉุนเฉียวและลึกลับ นั่นเพราะเขายังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้
ฟ้าร้องและฟ้าผ่าที่เดือดพล่านนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าปรมาจารย์รุ่นเยาว์เสียอีก หลังจากทำลายกายาสุวรรณะนิรันดร์ก็เข้าทำลายทะลวงพันชั้น กระบี่เลื่อนลอยไร้แก่นแตกสลาย และการทำลายยังลามไปถึงทักษะเก้าร่างเถาวัลย์ั
ความตายปกคลุมร่างของหนิงเทียน ทว่าจิติญญาการต่อสู้ของเขายังคงดำเนินต่อไป แต่สถานการณ์ยามนี้เลวร้ายอย่างยิ่ง
เก้ากระบวนท่าของบงกชสีมรกตดำเนินไปเพียงชั่วครู่หนึ่ง ทักษะเก้าเนตร์ก็ถูกปิดกั้นด้วยสายฟ้า แหล่งกำเนิดชีวิตถูกระงับไว้จากพลังอัสนี วาโยพิโรธถูกทัณฑ์์โจมตีโดยตรง
ทักษะฝังบุปผาที่เหลืออยู่พยายามดิ้นรนเพื่อยืดชีวิต ทว่ามันก็ถูกทำลายลงหลังจากนั้นไม่นาน
มีเพียงประตูสู่์เท่านั้นยังคงยืนหยัดอยู่ได้ วิธีใช้หนึ่งก้าวสู่์ฉายแววอย่างรวดเร็วในใจของหนิงเทียน
พลังแห่งอัสนีบาตเริ่มผนึกกำลังกันกลางเวหา พวกมันระดมยิงจนหนิงเทียนแทบหมดทางรอด
หนิงเทียนคำรามขึ้นใน่วิกฤตของชีวิต จิติญญาของเขายังคงโห่ร้อง ศักยภาพถูกกระตุ้น ยันต์เต๋าอนันต์และวาโยพิโรธยังคงปะทะกันและผสานกัน แล้วการหลอมรวมก็เสร็จสมบูรณ์ก่อนตายพอดี
สายฟ้าหลายร้อยสายที่ดูราวเสาแสงทอดยาวเข้าพันรอบร่างของหนิงเทียน พลังสายฟ้านั้นทำลายไม่ได้ ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาเริ่มไหม้และจิติญญาก็ฉีกออกจากกัน
ร่างกายของหนิงเทียนเริ่มแตกสลาย ิญญาเกือบสูญสิ้น แต่ครู่ต่อมา แหล่งกำเนิดชีวิตก็ปะทุขึ้น แผนที่จิติญญาทั้งเก้าเชื่อมโยงถึงกันอีกครั้ง แก่นแท้โลหิตที่เผาไหม้ในร่างของเขากลายเป็พลังิญญาที่สง่างามและบริสุทธิ์ ควบคู่ไปกับพลังเย็นลึกลับที่เหลืออยู่ในร่างซึ่งเป็พลังที่มาจากซูิเยวี่ย และมันกระตุ้นให้เืเนื้อของเขาถูกจัดระเบียบใหม่อีกครั้ง
ยุทธศาสตร์ครอง์หมุนอย่างบ้าคลั่ง กลืนแสงของสายฟ้า ดูดพลังแห่งทัณฑ์์เข้าไปในประตูสู่์ ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
ขณะนั้นหนิงเทียนตระหนักได้อย่างชัดเจนว่ากล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตในร่างกำลังดูดซับพลังของสายฟ้า พลังของแสงแห่งความโกลาหลในกายมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนใบที่สี่จะเริ่มแตกหน่อ
เส้นทางทั้งสามไม่ว่าจะเป็เส้นทางเต๋าพฤกษา เส้นทางแห่งจิติญญาและเส้นทางิญญาล้วนเข้ากันได้ดี ทั้งสามกลืนกินแก่นแท้ของทุกสิ่งในฟ้าดิน ช่วยให้การฝึกฝนของหนิงเทียนปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเก้าในพริบตา บงกชสีมรกต ต้นไม้แห้งเหี่ยว หญ้าต้นน้อย เถาวัลย์เขียว ตลอดจนลำธารวงแหวน เปลวเพลิง เสาลม และเนินเขาต่างลอยออกไป เงาทั้งเก้าก่อตัวเป็วงล้อกระจายแสง ก่อนสายฟ้าจะแตกสลายพร้อมเสียงดังกึกก้อง
ทัณฑ์์กลางอากาศกระจัดกระจายไปราวกับควันและหมอกที่เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว
ทัณฑ์์ที่อธิบายไม่ได้นี้ได้รับการแก้ไขแล้ว จากนั้นประกายไฟของกระแสสายฟ้าก็พุ่งเข้าสู่ิัของหนิงเทียนอย่างรวดเร็ว
หนิงเทียนยืนอยู่บนท้องฟ้าอย่างภาคภูมิใจ ความคิดของเขายังคงอยู่ในกระบวนการรู้แจ้ง
แม้หายนะครั้งนี้จะเป็อันตราย แต่มันก็ทำให้หนิงเทียนสมหวังเช่นกัน เขาแตกสลายและลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งและสามารถใช้หนึ่งก้าวสู่์ได้สำเร็จ ผสมผสานดอกไม้ ต้นหญ้า ต้นไม้และเถาวัลย์ ดิน ไฟ น้ำ และลมเข้ากับประตูสู่์ พร้อมผนึกกำลังอันยิ่งใหญ่ได้จนเสร็จสิ้น
นี่คือสิ่งที่พบได้แต่ไม่สามารถแสวงหาได้ เช่นเดียวกับเส้นลมปราณฟ้าประทานทั้งเก้าของเขา เป็เื่ยากที่จะพบหนึ่งในหลายสิบล้านปี
ต้นไม้ ดอกไม้ ต้นหญ้า และเถาวัลย์ในร่างของหนิงเทียนสอดคล้องกับเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ ดิน ไฟ น้ำ และลม ทั้งยังสอดคล้องกับเส้นทางแห่งจิติญญา แต่ประตูสู่์กลับมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเส้นทางิญญา
ในบรรดาแผนที่จิติญญาทั้งเก้า แผนที่จิติญญาเก้ามิติพิเศษที่สุด ประตูสู่์ควบคุมดอกไม้ พืช ต้นไม้ เถาวัลย์ ดิน ไฟ น้ำ และลม ซึ่งทำให้เกิดการผสานอันยิ่งใหญ่
เมื่อยุทธศาสตร์ครอง์ทำงานควบคู่กับการผสานระหว่างวิถีแห่งเต๋าธรรมชาติและเส้นทางิญญา ผลที่ได้จึงไม่ต่างจากหนิงเทียนได้เกิดใหม่ ซึ่งผลการปรับปรุงเป็สิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน หนิงเทียนก็ถอนตัวจากสภาวะแห่งการรู้แจ้ง เขาไม่ได้รีบเร่งเข้าสู่ขอบเขตผนึกดารา เขารู้สึกว่า่นี้เขาพัฒนาเร็วเกินไปและยังตกตะกอนได้ไม่เพียงพอ
ดิน ไฟ น้ำ และลมของหนิงเทียนสอดคล้องกับตา หู ปาก และจมูก การปรับปรุงด้านรสชาติ การดมกลิ่น การมองเห็น และการได้ยินจึงเพิ่มขึ้นเป็สองเท่า ทั้งยังให้ผลที่ซ้อนทับกัน ไม่เพียงแต่เขาจะมีทักษะเก้าเนตร์เท่านั้น เขายังมีหูทิพย์และมีประสาทััด้านกลิ่นที่เหนือชั้น รวมไปถึงความสามารถในการระบุสมุนไพรและพิษนับร้อยชนิดอีกด้วย
การผสมผสานระหว่างยุทธศาสตร์ครอง์กับดอกไม้ ต้นไม้ ต้นหญ้า และเถาวัลย์ทำให้ทักษะคุมิญญาของหนิงเทียนมีความลึกลับและคาดเดาไม่ได้ การผสมผสานระหว่างดิน ไฟ น้ำ และลม ทำให้เขาสามารถสื่อสารกับทุกสิ่งในูเาและแม่น้ำได้
นี่เป็ความสามารถที่ท้าทาย์ ซึ่งสามารถเชี่ยวชาญและเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เมื่อเข้าสู่่สมบูรณ์ของขอบเขตจิตหยั่งลึก และเสร็จสิ้นการหลอมรวมอันยิ่งใหญ่
หนิงเทียนล้มลงกับพื้นพร้อมหันมองไปรอบๆ ต้นหญ้าและดอกไม้ทักษะคุมิญญาล้วนเปล่งประกาย ทั้งหมดนี้เป็การตอบสนองต่อการจ้องมองของหนิงเทียนที่มีข้อมูลจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจ พร้อมกับเสียงนับไม่ถ้วนเพื่อสื่อสารกับเขา
“ที่นี่คือที่ใด?”
“พื้นที่แกนกลางของูเาไป่หลิง” เสียงหญ้าต้นน้อยตอบกลับ
หนิงเทียนประหลาดใจมาก ประตูสู่์อยู่ในพื้นที่แกนกลางของูเาไป่หลิง หลังจากเข้าผ่านประตูสู่์เข้ามาแล้ว เหตุใดจึงปรากฏตัวที่บริเวณแกนกลางของูเาไป่หลิงได้? แล้วเช่นนี้จะออกไปนอกพื้นที่แกนกลางได้อย่างไร?
ปราณกระบี่ทำให้เกิดฟ้าร้องมาจากระยะไกล พลังนั้นทะลุชั้นเมฆหมอก ก่อนจะฟาดลงบนูเาพร้อมเสียงกัมปนาทที่ดึงดูดความสนใจของหนิงเทียน
ไม้ไผ่สีเขียวปรากฏขึ้นในห้วงอากาศด้วยความสูงถึงหมื่นจั้ง ทั่วลำไผ่เต็มไปด้วยแสงแห่งความโกลาหลสีเขียวที่เปล่งประกายขึ้นมาจากใบไผ่ ก่อนควบแน่นเป็ลำแสงแล้วเข้าต่อสู้อย่างดุเดือดกับปราณกระบี่ในเมฆหมอก
“อสูริญญาระดับห้า! นี่คือเ้าแห่งจิติญญาที่ทรงพลังในูเาไป่หลิง”
หนิงเทียนมองผ่านกลุ่มเมฆด้วยดวงตาแห่งจิติญญาอย่างประหลาดใจ เขาเห็นั์ถือกระบี่ยาวกำลังวาดสายฟ้าและควบคุมพลังอัสนี พร้อมเผชิญหน้ากับต้นไผ่สีเขียวนั้น
“ปรมาจารย์เหนือเมฆา คนผู้นั้นเป็ซิงซิวหรือหยวนซิวกัน?” หนิงเทียนใช้ทักษะควบคุมิญญาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้นหญ้าและดอกไม้รวมตัวกันอยู่ใต้ฝ่าเท้า ก่อนจะกลายเป็เส้นทางหญ้าสีเขียวที่ช่วยยกร่างของเขาขึ้น เมื่อรวมกับทักษะคุมวาโย มันก็ช่วยพาเขาข้ามูเาถึงสองลูกได้ในพริบตา
ความเร็วนี้ทำให้หนิงเทียนหวาดกลัวยิ่งนัก ทักษะควบคุมิญญารวมกับทักษะคุมวาโยให้ผลที่น่าอัศจรรย์ใจเหลือเกิน
