“เื่ในเรือนแม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ควรทำเหมือนเป็เื่ใหญ่ การที่เ้าอยากจะปลูกเรือนที่นี่ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ข้าขอแนะนำเ้า เ้าลองฟัง” ท่านจ้าวเดินวนรอบที่ดินของซ่งอวี้และที่ดินผืนที่ซื้อ พอจะมีความคิดบางอย่างในใจแล้ว เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโถง ท่านจ้าวก็พูดขึ้น
ซ่งอวี้รีบเงี่ยหูฟัง
"ที่ดินผืนที่เ้าซื้อและเรือนของเ้าในตอนนี้กว้างขวางยิ่งนัก วันข้างหน้าเ้าต้องง่วนอยู่กับการแปรรูปสมุนไพรและต้องร่ำเรียนหลักการแพทย์ เ้าย่อมไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดเรือนอย่างแน่นอน"
ท่านจ้าวยกถ้วยขึ้นดื่มน้ำชา
"เ้าไปหาคนค้าทาสดูว่ามีคนที่เหมาะสมหรือไม่ เลือกซื้อมาสักสองคน ให้พวกนางช่วยเ้าแบ่งเบางานในเรือนเ้าจะได้วางงานบ้านงานเรือนได้อย่างแท้จริง ตั้งใจร่ำเรียน เ้าหนูซ่ง ข้ารู้ว่าเ้าเป็คนมีความคิด คาดว่าเ้าน่าจะพิจารณาเื่ซื้อทาสแล้ว แค่ว่าไม่เคยมีประสบการณ์จึงไม่อาจวางใจในการทำใช่หรือไม่?"
โดยคร่าวๆ ท่านจ้าวล้วนพูดถูกทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้ซ่งอวี้จึงไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า
แต่ตอนนี้สำหรับเื่การซื้อทาส นางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจจริงๆ ดวงิญญาที่มาจากโลกยุคปัจจุบันได้รับการปลูกฝังว่ามนุษย์นั้นเท่าเทียมกัน จะเคยคิดได้อย่างไรว่าวันหนึ่งตนจะเดินทางข้ามเวลามายังยุคสมัยที่ไม่รู้จักและกลายเป็นายคน?
โปรดอภัยที่นางยังไม่อาจเตรียมใจ เื่นี้ทำให้นางกระอักกระอ่วนใจจริงๆ
ท่านจ้าวเข้าใจเพียงว่านางไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ ในเรือนก็ไม่มีผู้าุโคอยดูแล ดังนั้นจึงลังเลเช่นนี้ ท่านจ้าวอดไม่ได้ที่จะปวดใจ น้ำเสียงอ่อนโยนลงเล็กน้อย
"โบราณกล่าวไว้ นับถือเป็อาจารย์เพียงหนึ่งวันคือบิดาชั่วชีวิต ในเมื่อข้าดื่มน้ำชาของเ้าแล้ว เช่นนั้นข้าก็เป็เหมือนบิดาของเ้า เื่ซื้อทาสให้ข้าเป็คนจัดการให้เ้าเถอะ"
เมื่อนึกถึงร้านยาถงอัน ท่านจ้าวก็พูดเสริม "วางใจเถอะ เื่นี้เป็ความ้าส่วนตัวของข้าไม่เกี่ยวกับร้านยาถงอัน ข้าเองก็จะไม่ให้พวกเขายัดเยียดคนให้เ้า เ้ากับข้าไปหาคนค้าทาสด้วยกัน เ้าคอยดูว่าข้าเลือกสาวใช้อย่างไร"
ซ่งอวี้ขอบตาร้อนผ่าวอย่างไม่อาจหักห้าม ขณะที่นางกำลังกังวลไม่อาจเชื่อใจผู้ใด ท่านจ้าวก็พิจารณาถึงความกังวลทั้งหมดของนางแล้ว ทั้งยังวางแผนได้ดียิ่งนัก แล้วนางจะไม่ตื้นตันได้อย่างไร
ในเวลาเดียวกัน หลี่เฉิง ไม่สิ เวลานี้ควรจะเรียกชื่อจริงของเขาแล้ว เฟิงเฉิงและเยี่ยสุยเดินเข้าไปในสวนแห่งหนึ่ง
"คุณชายกลับมาแล้วหรือขอรับ? นายท่านรอคุณชายมานานแล้ว คุณชายโปรดตามข้าน้อยมา"
บ่าวรับใช้ในสวนดูสนิทสนมกับเฟิงเฉิงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นเฟิงเฉิงมาก็ไม่แสดงสีหน้าใแต่อย่างใด คอยเดินนำทางอย่างเป็ธรรมชาติ
เฟิงเฉิงขมวดคิ้วเป็ปม ทว่าไม่ได้พูดสิ่งใด บ่าวรับใช้เดินนำเขาไปยังศาลาหูซินที่อยู่ในสวน ในศาลามีชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งดื่มสุราอยู่ตามลำพัง เป็ภาพที่แลดูโดดเดี่ยวเล็กน้อย
ชายวัยกลางคนได้ยินเสียงฝีเท้าจึงหันหน้าไปมองแล้วคลี่ยิ้มบางๆ "เฉิงเอ๋อร์มาหรือ? มานั่งด้านในก่อน พวกเราสองคนลุงหลานไม่ได้นั่งดื่มด้วยกันนานแล้ว วันนี้เ้าบังเอิญมาได้จังหวะจริงๆ นี่คือสุราร้อยพันคราที่เพิ่งเปิดใหม่ เ้าลองลิ้มรสดูเล่าว่าเป็เช่นไร"
ชายวัยกลางคนที่ดื่มสุราตามลำพังคนนี้ เห็นชัดว่าคือท่านลุงของเฟิงเฉิง ไห่อู่เย่ว์
เขาเป็เสมือนผู้าุโทั่วไปในตระกูลสามัญชน กล่าวทักทายผู้น้อยด้วยความใจดี มีเพียงเฟิงเฉิงเท่านั้นที่จะได้รับสายตารักใคร่และเอ็นดูจากเขา และััได้ถึงดวงิญญาที่บิดเบี้ยวไปนานแล้วในแววตาคู่นี้
"เ้าออกไปรอข้าด้านนอก" เฟิงเฉิงออกคำสั่งให้เยี่ยสุยออกไปแล้วย่างกายเข้าไปในศาลาหูซิน
ทิวทัศน์ที่นี่งดงามยิ่งนัก ต้นหลิวเขียวขจีที่อยู่ริมทะเลสาบพริ้วไหวไปตามกระแสลม น้ำในทะเลสาบทอประกายงดงาม ศาลาหูซินตั้งอยู่กลางทะเลสาบ ราวกับอยู่ในภาพวาด ทำให้คนอาวรณ์ไม่อยากกลับไป
ไห่อู่เย่ว์หมุนจอกสุราแล้วหยัดกายลุกขึ้น มองทิวทัศน์ที่งดงามแล้วทอดถอนใจ
"ครั้งหนึ่งมารดาของเ้าเคยโปรดปรานทิวทัศน์ที่นี่อย่างมาก ยามหม่นหมองใจก็จะมาพักที่นี่หลายวัน เมื่อมาค้างอ้างแรมที่นี่แล้วก็ไม่ยอมกลับไป ทำตัวเหมือนเด็กอย่างไรอย่างนั้น จนข้าไม่รู้จะทำอย่างไรกับนาง"
พูดถึงเื่ราวในอดีต ใบหน้าของไห่อู่เย่ว์ฉายรอยยิ้มอ่อนโยน ทอดสายตามองออกไปไกล ราวกับมองเห็นหญิงสาวคนนั้นผ่านกาลเวลา ยืนอยู่ตรงนั้น หัวเราะเสียงดังราวกับเด็กน้อย
เฟิงเฉิงยืนฟังเงียบๆ ไม่ขัดจังหวะไห่อู่เย่ว์ที่กำลังหวนคิดถึงเื่ในวันวาน ดวงหน้าของซ่งอวี้ฉายในความคิดของเขาอย่างไม่รู้ตัว นางแตกต่างกับสตรีทั่วไป มองเขาอย่างเหม่อลอยและเขินอายยามเผชิญหน้ากับเขา ทั้งที่เป็หญิงกำพร้าไร้ที่พึ่งพิงทว่ากลับเข้มแข็งกว่าทุกคน
ในตัวนางคล้ายมีดวงิญญาแข็งแกร่งที่ไม่อาจยอมแพ้ต่อโชคชะตาสิงสถิตอยู่
"ท่านลุง ท่านจำต้องให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทำให้ทุกคนตายก่อนหรือ จึงจะพอใจ?" เฟิงเฉิงเก็บความคิดของตนเื่ซ่งอวี้ลงไป แล้วถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ไห่อู่เย่ว์ยิ้ม ทว่ารอยยิ้มที่มุมปากของเขาเืเย็นจนทำให้คนอดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น แต่เสียงของเขายังคงอ่อนโยนราวกับสามารถสกัดน้ำออกมาได้ "เหตุใดข้าต้องสนใจความเป็ความตายของชาวบ้านในใต้หล้าด้วย? ข้าไม่มีครอบครัวแล้ว คนในตระกูลของข้าตายหมดแล้ว แล้วข้าจะสนใจคนในใต้หล้าเพื่อการใด? หากพวกเขาไปถึงยมโลก เพียงเอ่ยชื่อของข้าให้ยมบาลฟังก็พอแล้ว"
น้ำเสียงของเขาไม่ขึ้นลงแม้แต่น้อย ราวกับพูดเื่ทั่วไป แต่เมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่าเขาบีบจอกสุราในมือจนกลายเป็ผุยผงแล้ว นิ้วมือที่อ้าเล็กน้อยมีฝุ่นผงปลิวไปตามแรงลม
เฟิงเฉิงรู้สึกหดหู่อย่างมาก บุรุษที่เลี้ยงดูตนั้แ่เล็กจนโต เกรงว่าจะวิปลาสไปแล้ว
"ท่านลุง ท่านบ้าไปแล้วหรือ? แม้ท่านจะจับคนทั่วหล้าเข้าคุก นางก็..." นางก็ตายไปแล้ว ตายไปหลายปีแล้ว
ริมฝีปากของเฟิงเฉิงสั่นเทาเล็กน้อย สุดท้ายก็กลืนคำพูดนั้นลงไป
ตอนที่ซ่งอวี้พยักหน้าซื้อทาสกลับเรือนสองคน ท่านจ้าวก็ให้คนไปติดต่อคนค้าทาสในอำเภอทันที หญิงชราคนนี้ถูกเรียกว่าหญิงค้าทาส ทาสที่อยู่ในการดูแลของนางล้วนไม่ใช่คนที่ถูกลักพาตัวมา แต่เป็คนที่ยากไร้จนไม่มีเงินกินข้าว มาที่นี่เพื่อเอาชีวิตรอด
พูดอีกทางหนึ่งก็คือทาสในการดูแลของนาง ล้วนเป็คนที่ยินดีขายตนเป็ทาส แบ่งเงินกับหญิงค้าทาสหนึ่งต่อเก้า หญิงค้าทาสหนึ่ง พวกนางเก้า ถือว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว
หลังจากซ่งอวี้รู้เช่นนี้ นางก็โล่งอกยิ่งนัก
การซื้อทาสกลายเป็เื่แน่นอนแล้ว แต่นางไม่อยากให้คนที่นางซื้อมาเป็คนที่กลายเป็ทาสเพราะถูกลักพาตัว ต้องให้สมัครใจทั้งสองฝ่ายจึงจะเป็การดี
ท่านจ้าวไม่รู้ว่าซ่งอวี้กระอักกระอ่วนใจเื่ใด เขาเพียงรู้สึกว่าทาสรับใช้ต้องสมัครใจจึงจะตั้งใจทำงาน จึงจะจงรักภักดี จึงมาซื้อทาสกับหญิงค้าทาสที่ทุกคนแนะนำ ถือเป็ความบังเอิญ
สองชั่วยามให้หลัง ซ่งอวี้และคนอื่นนั่งรถม้าตรงไปที่เรือนของหญิงค้าทาส ด้านในมีชายและหญิงสาวยืนเรียงราย อย่างน้อยๆ ก็มีประมาณหนึ่งร้อยคน
ซ่งอวี้มองสีหน้าของคนพวกนี้ เมื่อพวกเขารู้ว่านางคือนายที่มาเลือกทาสรับใช้ ต่างก็มองมาที่นางด้วยดวงตาทอประกายเปี่ยมไปด้วยความหวัง ราวกับว่านางเป็ความหวังสุดท้ายในชีวิตของพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น
ซ่งอวี้ถอนหายใจเล็กน้อย เห็นความโหดร้ายของโลกอีกครั้ง เดิมทีนางคิดว่าการหาเงินเป็เื่ง่าย แต่ความเป็จริงกลับไม่ใช่เช่นนั้น
บนโลกใบนี้มีคนหิวโหยมากมาย นางหาเงินได้เพราะนางมีความรู้มากกว่าคนทั่วไป เคยออกไปเปิดหูเปิดตามากกว่าคนทั่วไป มิเช่นนั้นหากตอนที่นางเพิ่งมาถึงนางว่างเปล่าไม่มีความรู้ใดๆ ไม่แน่ว่าสุดท้ายก็อาจจะมีจุดจบเช่นนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้