นั่นเป็ครั้งแรกที่ฮวารั่วซีตามหาซางจือิ
ในเวลานั้นซางจือิรู้สึกตื่นเต้นมาก คิดว่าที่นางตัดสินใจให้เขาอยู่เคียงข้างนางอย่างเปิดเผยก็เพื่อปกป้องนาง ทว่าไม่คาดคิดเลยว่านางจะทำเื่เช่นนี้
“เพราะเหตุใด? นั่นเป็ทารกที่ยังไม่เป็รูปร่างด้วยซ้ำ!” ซางจือิเกือบจะใช้น้ำเสียงเชิงคำถาม
ตอนนั้นฮวารั่วซีน้ำตาไหลริน “พี่ิคิดว่าข้าอยากฆ่าคนจริงๆ หรือ? รั่วซีไม่คิดจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ทว่าพี่ิ บิดาของสตรีผู้นั้นเป็แม่ทัพ เขาเคยฆ่าผู้บริสุทธิ์ของเป่ยอูไปตั้งเท่าไร? เหตุใดต้องปล่อยให้เืเนื้อเชื้อไขของเขาเพิ่มขึ้นมาบนโลกใบนี้ด้วย?”
ความแค้นของชาติบ้านเมืองถูกปลุกเร้าอีกครั้ง ซางจือิควบคุมไม่อยู่ เขาพยักหน้าโดยไม่ลังเล
หลายปีมานี้สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในตำหนักเ่าั้ยังไม่เคยออกมาลืมตาดูโลก พวกเขาไม่เกิดอุบัติเหตุก็หายไปพร้อมกับคนที่อุ้มท้อง
ในมือซางจือิเต็มไปเื ทว่ามือที่เปื้อนเืนี้ เปื้อนแล้วเปื้อนเล่าจนชินชาไปแล้ว
มีสิ่งใดที่จะไม่ชินอีกเล่า? ยังไม่ได้คลอดออกมาเสียหน่อย จะเรียกว่ามีชีวิตได้อย่างไร?
เขาไม่ได้รู้สึกเหมือนเหยียบอยู่บนน้ำแข็งแผ่นบาง เพียงแต่เขารู้สึกสบายใจเท่านั้น
เพื่อคนที่รักแล้ว ต่อให้เป็ขุมนรกเขาก็ไม่เคยหวาดหวั่น
ฮวารั่วซีชินกับความช่วยเหลือของซางจือิ เมื่อไรก็ตามที่้าเขา นางก็จะเอื้อนเอ่ย ทว่าไม่ได้ออกหน้าเองเหมือนเมื่อก่อน นางเพียงแค่ใช้วิธีเฉพาะทางของพวกเขาในการถ่ายทอดข้อมูล นอกจากนี้แต่ไหนแต่ไรมาล้วนเป็นางที่ตามหาเขา
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าจะพบหน้าแล้วพูดคำพูดที่ออกมาจากใจเช่นนี้
ซางจือิพูดเสียงเบา “กระหม่อมเข้าใจ ทว่ากระหม่อมไม่ได้กลัวว่าพระสนมจะพัวพันกับกระหม่อม ที่กลัวก็คือมันจะเกี่ยวโยงไปถึงพะรสนมหลังจากถูกเปิดเผยก็เท่านั้น”
ฮวารั่วซีปาดน้ำตา ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “จะพัวพันมาถึงข้าได้อย่างไร? ตอนนี้รั่วซีไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว เป็ความรักในใจซ่งอี้เฉิน และเขาก็เปลี่ยนไปรักคนอื่นแล้ว”
“ฝ่าาอาจแค่เลอะเลือนชั่วขณะ”
ฮวารั่วซีลูบท้องด้วยความเกลียดชังและพูดอย่างคับแค้นใจ “หากท้องข้าได้ดั่งใจอยู่บ้างก็คงตั้งครรภ์ทารกสักคนได้ และคงผ่านวันเวลาที่โดดเดี่ยวต่อจากนี้ไปได้ ทว่าหลายปีมานี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย”
ซางจือิแววตาสั่นไหว เขาพูดปลอบโยนนาง “ไม่ต้องกังวล ข้าดูแลเ้าอย่างดีมาโดยตลอด ร่างกายเ้าไม่มีปัญหา เมื่อถึงเวลาต้องตั้งครรภ์แน่นอน”
ฮวารั่วซีพูดพลางแย้มยิ้มขมขื่น “เมื่อก่อนยังพอมีหวัง แต่ตอนนี้ฝ่าามีรักใหม่แล้ว เหยียนฉายเหรินเป็รักแท้ของฝ่าา แม้แต่ไทเฮายังปกป้องนางถึงเพียงนี้ เกรงว่าคงยากแล้ว…...”
ประโยคนี้เป็คำพูดจริงใจเพียงหนึ่งเดียวของนางในค่ำคืนนี้
ก่อนหน้านี้ซ่งอี้เฉินโปรดปรานเหยียนอู๋อวี้มาก ฮวารั่วซีมักคิดว่าความรักของตนเองกับซ่งอี้เฉินจะยาวนานกว่านี้ เขาเพียงแค่รู้สึกแปลกใหม่กับเหยียนอู๋อวี้ก็เท่านั้น รออีกสักระยะก็คงจะเบื่อ ถึงตอนนั้นฮวารั่วซีก็ใช้วิธีการเดิมเหมือนเมื่อก่อน โยนเหยียนอู๋อวี้เข้าตำหนักเย็น หรือไม่ก็ทำให้เหยียนอู๋อวี้หายไปอย่างเงียบๆ
ไม่คาดคิดเลยว่าซ่งอี้เฉินจะลงโทษนางครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเหยียนอู๋อวี้
ต่อมาฮวารั่วซียิ่งใจคอโหดร้าย นางคิดว่าในเมื่อซ่งอี้เฉินไว้ใจไม่ได้ นางก็ยังมีไทเฮาและไทเฮายังรับปากว่าต่อไปนางจะไม่ใช่หยุดอยู่แค่ซูเฟย นางจึงรับใช้ไทเฮา เื่แต่งตั้งนางสนมซ้ายขวาไทเฮาก็ทรงเป็ผู้รับผิดชอบ
ผลลัพธ์ของการทุ่มเททั้งกายและใจคืออันใดเล่า?
องค์หญิงใหญ่้าทุบตีนาง ไทเฮากลับไม่พูดสักประโยค นางเสียเกียรติไปจนหมดสิ้น
แล้วเหยียนอู๋อวี้เล่า? นางเพียงแค่ถูกเยวี่ยเซินพูดด้วยสองประโยค ไทเฮาก็ทรงออกหน้าเพื่อนางแล้ว นางหักหน้าองค์หญิงใหญ่และสั่งเฆี่ยนตีเยวี่ยเซินจนตาย
ปัจจุบันนางไม่มีมีอำนาจในตำหนักหลัง ไม่ได้เป็ที่โปรดปรานของซ่งอี้เฉินและไม่ได้รับการคุ้มครองจากไทเฮาอีกแล้ว แม้แต่เต๋อเฟยก็ยังเทียบไม่ได้
ดังนั้นในงานเลี้ยงเล็กๆ คืนนี้ เหยียนอู๋อวี้พูดจาคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง หากเป็เมื่อก่อนผู้ใดจะอาจหาญเช่นนี้!
นางปรารถนาที่จะฆ่าเหยียนอู๋อวี้ให้ตายเสียตอนนี้!
“ข้าจะช่วยเ้ากำจัดนาง ยาพิษเพียงแค่ถ้วยเดียวก็เพียงพอแล้ว” ซางจือิพูดทันที
คำพูดของซางจือิตรงกับที่ฮวารั่วซีคิด ความดีอกดีใจวาบผ่านในใจนาง ซางจือิยินดีทำสิ่งนี้เพื่อนาง แสดงให้เห็นว่าเขายังคงจงรักภักดีเหมือนเมื่อก่อน นางไม่ได้ตอบรับ ทว่ากลับส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ไม่ได้ พี่ิแบบนี้อันตรายเกินไป จะถูกเปิดโปงเอาได้ง่ายๆ รั่วซีไม่้าสิ่งใดอีกแล้ว รั่วซีเข้าใจความรู้สึกของซ่งอี้เฉินในหลายปีมานี้ที่บอกว่ารักกันไปจนแก่เฒ่า ความจริงแล้วล้วนเป็คำลวง คำลวงของฮ่องเต้ มิอาจเชื่อได้ง่ายๆ มาั้แ่ไหนแต่ไร”
“รั่วซี…...” เมื่อเห็นนางแสร้งฝืนยิ้มทั้งที่น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย ซางจือิเ็ปใจอย่างยิ่ง ในที่สุดเขาก็ละทิ้งความสงสัยสุดท้ายในใจ และพูดด้วยท่าทีตระหนกใทำสิ่งใดไม่ถูก “รั่วซี เ้าอย่าร้องไห้...…”
ฮวารั่วซีกลับหันไปด้านข้างแล้วกระโจนสู่อ้อมแขนเขาเหมือนตอนเป็เด็ก ทำให้เขารู้สึกว่านางเชื่อใจเพียงแค่เขาเท่านั้น “พี่ิ รั่วซีไม่อยากร้องไห้ ทว่ารั่วซีกลั้นไว้ไม่อยู่ รั่วซีชีวิตทุกข์ทน หลายปีมานี้อยู่ในตำหนักเหมือนเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ อยากให้เป่ยอูฟื้นคืน แต่จะพึ่งพิงกำลังของรั่วซีคนเดียวก็ลำบากจริงๆ คิดว่าซ่งอี้เฉินจะเป็คนที่สงสารข้าจากใจจริง รั่วซีจะได้ยืมอำนาจเขา กลับไม่คิดเลยว่าเหยียนอู๋อวี้จะโผล่ออกมา เป็เพราะรั่วซีไร้ประโยชน์เกินไปใช่หรือไม่ รั่วซีถึงทำเื่อันใดไม่สำเร็จสักอย่าง”
ซางจือิยกมือแล้ววางลงไปอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็แข็งใจกอดนางไว้ในอ้อมแขนแน่น “ท่านอ๋องเคยตรัสกับข้าว่าให้ปกป้องเ้าเป็อย่างดี อย่าปล่อยให้เ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หลายปีมานี้เป็ข้าทำได้ไม่ดีพอ จึงทำให้เ้าถูกทำร้ายหลายครั้งเช่นนี้ เป็ความผิดข้า...…”
“พี่ิ ความจริงแล้วท่านกับรั่วซีผูกพันกันมาั้แ่เล็ก อีกอย่างท่านไม่ได้ติดค้างรั่วซี อย่าโทษตนเองที่ปกป้องรั่วซีไม่ดี หากทำให้พี่ิปกป้องได้สักครั้ง รั่วซีรู้สึกซาบซึ้งใจมาก!” ฮวารั่วซีตอบกลับอย่างสงบเยือกเย็น
คำพูดเหล่านี้ปลุกเร้าความคิดของซางจือิขึ้นมาอีกครั้ง เขาประคองไหล่นางพลางกล่าวว่า “รั่วซี เ้าไม่ต้องกังวล เหยียนอู๋อวี้อยู่ในวังได้ไม่นานนักหรอก ในไม่ช้าข้าจะทำให้นางหายไป”
ฮวารั่วซีนึกถึงวิธีการในยามปกติของซางจือิและนึกถึงก่อนหน้าที่ไทเฮาสงสัยตนเอง นางจึงรีบบอกเขาเป็นัยด้วยความเป็ห่วง “พี่ิ ท่านไม่ต้องเข้ามาพัวพันกับเื่นี้ ก่อนหน้านี้ข้าใช้พิษกู่กับอู๋เจาหรงเพียงเพราะความโกรธแค้น ไทเฮาสงสัยข้าแล้ว ข้าไม่อยากให้นางจะสงสัยในตัวท่าน!”
“เ้าวางใจ ลงมือครั้งนี้ข้าจะไม่ให้ไทเฮาค้นพบและจะไม่ให้พัวพันไปถึงเ้าเลย” ซางจือิรับปากนางทันที
ฮวารั่วซีรู้วิชาแพทย์ของซางจือิเป็อย่างดี ไม่เพียงแต่ใช้พิษกู่ ต่อให้เป็ยาสมุนไพรทั่วไปก็ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบ ในเมื่อเขารับประกันเช่นนี้แสดงว่าเขาต้องทำมันจนถึงที่สุดแน่นอน ฮวารั่วซีรู้สึกสบายใจขึ้นเป็เท่าตัว ทว่านางกลับพูดปฏิเสธ “พี่ิ อย่าเลย...… รั่วซีไม่อยากให้พี่ิเกิดเื่ มิฉะนั้นญาติคนสุดท้ายบนโลกนี้ของรั่วซีก็จะหายไปด้วย!”
ซางจือิมองสีหน้าแน่วแน่ของนางจึงไม่ดึงดัน ทว่าในใจกลับแอบตัดสินใจไปแล้ว เขาพูดปลอบประโลมนาง “ได้…...ได้...…ได้”
ฮวารั่วซีพูดเสียงแ่เบา “วันนี้รั่วซีตามพี่ิมาเพียงเพื่อระบายความกลัดกลุ้มในใจเท่านั้น ข้างกายรั่วซีไม่มีคนที่ไว้ใจได้นอกจากพี่ิเพียงคนเดียว”
ซางจือิมองนางอย่างเ็ปใจและโอบนางไว้ในอ้อมแขน
การที่สามารถโอบกอดฮวารั่วซีไว้ในอ้อมแขนได้เป็ความหวังที่เกินตัวในชาตินี้ของซางจือิ
ตอนนี้ไม่นึกเลยว่าจะสมหวังดังใจปรารถนา