เมื่อคุกเข่าลงบนพื้นกรวดเซี่ยวอี๋ก็อ้าปากอ้าตาค้างมีะุมากกว่าหนึ่งโหลแทรกอยู่ในชุดเกราะบนหน้าอกของเธอในมือซึ่งไขว้กันอยู่นั้นมีั้แ่ดาบ ไปจนกระทั่งลูกดอกใบหลิวแต่ละสรรพอาวุธราวกับจะมาแสดงนิทรรศการ
ร่างของเธอถูกบาดไปหลายสิบแผลที่แขน ที่ต้นขา บางที่บาดลึกจนเห็นกระดูกเซี่ยวอี๋เสียเืกระทั่งไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืนแต่เธอก็ยังกำมีดปอกผลไม้ไว้ในมือ ไม่ยอมปล่อยสิ่งเดียวที่ทำให้เธอยืนหยัดอยู่ได้ก็คือการที่ต้องคุ้มกันคานาโกะ
เฮียสายฟ้าซึ่งยืนห่างออกไป5เมตรนั้นยังไม่ถือว่าเป็ผู้ชนะ มีเืไหลที่ขาขวาของหญิงสาวขากางเกงของเธอขาดวิ่นไปทั้งตัว
เพื่อปกป้องคานาโกะเซี่ยวอี๋จึงไม่กล้าไล่ตามเขาไปไกลนัก และสิ่งนี้ทำให้เฮียสายฟ้าได้เปรียบแต่ใครจะคิดล่ะว่าหญิงสาวตัวเล็กๆ คนนี้จะออกแบบกับดักในการไล่ตามเธอจงใจใช้แขนปัดป้องลูกดอกใบหลิวอันร้ายกาจ เสี่ยงต่อการถูกตัดขาดเธอยกมีดขึ้นและกะซวกเฮียสายฟ้า
สิ่งนั้นทำให้ผู้ชมการแสดงทางด้านหลังสาดเสียงหัวเราะออกมาเฮียสายฟ้าสุดหล่อถูกน้องสาวอัดจน "ปัสสาวะ" ราดกางเกงแล้ว
“สาวจีน อยากตายมากใช่ไหม ฉันจะสงเคราะห์ให้”เขาไม่สามารถเปล่งรอยยิ้มที่ดูแคลนได้อีกต่อไป ด้วยสีหน้าบึ้งตึงเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลืนผู้หญิงตรงหน้าตัวเป็ๆ หนุ่มนินจากำลูกดอก “คุไน”ไว้ในมือ คมมีดรูปทรงกรวยนั้น ปักทะลุได้แม้กระทั่งชุดเกราะใช่ไหม?
“คุณเซี่ยวอี๋!” คานาโกะะโอย่างทุกข์ใจมาจากทางสวนหินด้านหลังเธอคิดจะก้าวขึ้นไปข้างหน้า
“อย่าเข้ามา! ถ้านายจ้างตายต่อหน้าผู้คุ้มกันฉันจะถูกหมอนั่นกล่าวหาว่าไม่เป็มืออาชีพ” เซี่ยวอี๋หันกลับไปพูด แต่คานาโกะก็ไม่เข้าใจภาษาจีนของบอดี้การ์ดสาวเหมือนกัน
“ตายซะ!” เฮียสายฟ้าไม่รอให้เซี่ยวอี๋หันกลับมาแขนขวาวาดวงกลมกว้างกว่าแขนซ้ายแล้วสะบัดไปด้านข้าง คุไนสีดำพวยพุ่งไปกลางอากาศแต่ขณะที่คุไนสีดำจะตอกเข้ากับลำคอของเซี่ยวอี๋มันก็ถูกคว้าไว้
“หน่าหนี?!” เฮียสายฟ้าใจนสติหลุดเสิ่นิพลิกข้อมือปาลูกดอกคุไนกลับไปด้วยความเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่าและมันก็ปักเข้าที่ไหล่ของเฮียสายฟ้า แรงปะทะเทียบเท่าะุสไนเปอร์ลำกล้องใหญ่ทำเอาเฮียสายฟ้าลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น
“มาเร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง?” เซี่ยวอี๋ค้อนเสิ่นิซึ่งกำลังวางอาโออิลงข้างๆเซี่ยวอี๋ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะคิดถึงผู้ชายคนนี้มากขนาดนี้
“หยุดพูด คุณเสียเืมากเกินไป”เสิ่นิพันาแที่ลึกที่สุดบนแขนของหญิงสาวด้วยผ้าพันแผลเพื่อห้ามเื
“โอ๊ย ตอนนี้แม้แต่ชุดว่ายน้ำฉันก็ใส่ไม่ได้แล้วใช่ไหม?” เซี่ยวอี๋ฝืนยิ้ม แต่เธอก็เจ็บจนกระทั่งน้ำตาเอ่อ
“ไม่เป็ไร คุณใส่ชุดอะไรก็ดูดี” เสิ่นิปลอบใจ อาโออิฉีกผ้าปิดตาออกเธอร้องไห้และทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของคานาโกะ ในที่สุดแม่ลูกก็ได้พบกันอีกครั้งเหมือนกับการได้รับพรจากเทพเ้า
“ถอยไปหน่อย ต่อจากนี้ ให้ผมจัดการเอง” เสิ่นิพูดพลางลุกขึ้นยืนเขาเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว กระทั่งถึงข้างกายของเฮียสายฟ้าชายคนนั้นพยายามฟื้นแรงกลับมา แต่พอจะลุกขึ้นเสิ่นิก็เหยียบไปที่คุไนบนหัวไหล่เขา ปักให้มิดลงไป เหมือนค้อนตอกตะปูเหล็กตะปูคุไนจมมิดลงไปในพื้นคอนกรีต กระทั่งทะลุไหล่ของเฮียสายฟ้า
“อ้า!!!” นินจาลูกดอกเ็ปมากจนกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บนพื้นน้ำมูกน้ำตาร่วงกราว
“บอดี้การ์ดนั้นทำไมถึงมาที่นี่ได้ เหยี่ยวไม่ได้บอกว่าจะช่วยจัดการให้เหรอ?”หน้ายิ้มไม่สามารถหัวเราะได้อีกต่อไป
“สมัยนี้ แม้แต่นักฆ่าชั้นสูงก็ยังเชื่อถือไม่ได้”ไนติงเกลมองไปยังทางเข้าโถงใหญ่ ที่ด้านข้างนั้น 7 นักฆ่าชั้นต้นถูกล้มคว่ำกันหมดเกลือกกลิ้งเหมือนกับใบไม้ที่ร่วงหล่นตามสายลม
“ใครจะเข้ามา?” เสิ่นิถามเป็ภาษาญี่ปุ่นหน้าตาเฉยในตอนนี้ อารมณ์ของเขาหดหู่ถึงขีดสุดแล้ว ถ้าไม่ได้ฉีกใครเป็ชิ้นๆเขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะฉีกทึ้งตัวเอง
“ฉันเอง!” ผู้ชายถือดาบญี่ปุ่นรีบวิ่งขึ้นมาจากด้านข้างแต่ใบมีดยังไม่ทันได้สับลง แขนของเสิ่นิก็หายวับไปในอากาศหมัดของเขาเสยเข้าที่คางชายผู้นั้น กรามน่าจะแตกทั้งหมดเห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเขานั้นบิดเบี้ยวไปสองสามส่วนร่างของมนุษย์ผู้นั้นหมุนวนเป็วงกลม 360 องศากลางอากาศก่อนจะตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรง ในหกเดือนข้างหน้า เขาไม่น่าจะทานอะไรได้นอกจากอาหารเหลว
“ใครเป็คนต่อไป?” เสิ่นิกวักมือเรียกเหมือนเป็เทพเ้าแห่งา
ไนติงเกลสั่งด้วยสายตานักฆ่าทั้งหกคนวิ่งออกจากทั้งหกทิศพร้อมด้วยมีดสั้นและค้อน
2 วินาที...แค่ 2 วินาทีเท่านั้น เสิ่นิขยับตัว 6จังหวะ บิดสองแขน หักสองขากรรไกร หักขาคนที่แย่ที่สุดคือกระดูกสันหลังหัก...ใน่ครึ่งหลังของชีวิตคงเป็ไม่ได้ที่จะลุกขึ้นจากรถเข็น
“เสิ่นิ…”เซี่ยวอี๋ไม่เคยเห็นเสิ่นิออกแรงแบบไม่ยั้งมือเช่นนี้มาก่อน เจตนาฆ่าของเขาโชยคลุ้งอยู่ในชั้นบรรยากาศ
เขาเหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่ในสนามรบของนิรวานบอดี้การ์ดหนุ่มกลืนกินเหล่านักฆ่าด้วยความโกรธ
“ใครอีก?” เสิ่นิถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่มันก็ทำให้นักฆ่าโดยรอบหวาดผวากันอย่างมาก
นักฆ่าสาวที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ขอบหน้าต่างชั้นสองลุกขึ้นยืนในมือของเธอมีคันธนูและลูกธนูเธอคือนักฆ่าสาวที่อยู่ในสถานีโทรทัศน์เมื่อครั้งก่อนคราวนี้เธอไม่ได้ใช้ลูกธนูกลวงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดในการไล่ล่าด้วยความเร็วสูงอีกต่อไปมันถูกแทนที่ด้วยลูกธนูเจาะเกราะที่สามารถตอกทะลุเกราะกันะุได้
แต่การลอบโจมตีของเธอนั้นทำได้แค่เพียงทำให้เสิ่นิเอียงศีรษะลูกธนูเฉียงปักไปที่พื้นด้านหลังเขา
เสิ่นิใช้เท้าเตะก้อนหินขึ้นมาตรงหน้าและคว้ามันไว้ก่อนจะเหวี่ยงออกไป
ก้อนหินเหินเป็เส้นตรงยาว25เมตร กระแทกเข้ากับเบ้าตาของนักฆ่าสาว
“อ้า!!!” มือสังหารสาวกรีดร้องลั่นพลางล้มตัวลงกับพื้น เืทำเอาตาพร่ามัวเธอพยายามเอื้อมมือแงะหินในเบ้าตาออก แต่หินมันฝังลึกเกินไปและยังชุ่มไปด้วยเืจนลื่นเกินกว่าที่จะดึงออกมาได้
“ใครจะเข้ามา?” เสิ่นิเหมือนปีศาจไม่ว่าจะเป็การต่อสู้ในระยะใกล้หรือการลอบโจมตีจากระยะไกลก็ทำอะไรเขาไม่ได้ทั้งนั้นความน่ากลัวของชาวนิรวาน เหล่านักฆ่าจะจดจำมันเหนียวแน่นดังเช่นฝันร้าย
“เข้าไป” ไนติงเกลส่งสัญญาณให้สาวลิ้นยาว
“ไปก็ไปสิ! กลัวที่ไหน?” สาวลิ้นยาวะโลั่นกับตัวเองเธอลากเลื่อยแล้วรีบวิ่งขึ้นไปด้านหน้า
กล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างโป่งขึ้นเลื่อยวงเดือนฉีกอากาศออกจากกัน เธอออกตัวจากด้านข้าง มุ่งไปตัดคอของเสิ่นิ
เสิ่นิไม่หลบเลี่ยงเขายกมือขวาขึ้น นิ้วทั้งห้าผนวกเข้าด้วยกัน หนีบใบเลื่อยเอาไว้เขาหยุดเลื่อยของสาวลิ้นยาวได้ในทันควัน
“เป็ไปได้ยังไง?” รูม่านตาของสาวลิ้นยาวขยายกว้างไม่ว่าเธอจะออกแรงมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถดันใบเลื่อยไปข้างหน้าได้แม้แต่นิดเดียวมันเหมือนกับการเลื่อยเสาคอนกรีต
เสิ่นิะเิหมัดอีกข้างหนึ่งออกสาวลิ้นยาวเคลื่อนตัวหลบกำปั้นอย่างว่องไว แต่หมัดที่พาดผ่านไหล่ของเธอไปจู่ๆก็แบออกกลายเป็ฝ่ามือคว้าเข้าที่ด้านหลังศีรษะของเธอไว้แล้วดึงไปข้างหน้าเสิ่นิจับเธอกระแทกเข้ากับหัวเข่า
ร่างของสาวลิ้นยาวลอยสูงขึ้นจากพื้นดินกว่า2เมตร ก่อนจะล้มลงกับพื้น เธอบ้วนเืออกมาพร้อมกับฟันกรามแม่สาวลิ้นยาวรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
“ใครอีก?” เสิ่นิหงายฝ่ามือ พลางกล่าวซ้ำๆด้วยประโยคเดิม
นักฆ่าต่างมองตากันเธอมองฉัน ฉันมองเธอ ทุกคนรู้ดี หากฟลุ๊คเอาชนะแชมป์ได้โอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งหลายขั้นก็สูงมาก แต่บรรดาผู้ที่วิ่งออกไปก่อนจะต้องกลายเป็ผู้เสียสละพลีชีพอย่างแน่นอน เหล่านักฆ่าอยู่ในวงการนี้มานานไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
เอาชีวิตตัวเองไปแลกเพื่อให้คนอื่นได้หน้าเหรอ? ถ้าทำอย่างนั้นก็โง่เต็มทน!
“หัวหน้า หัวหน้าอยากตัวต่อตัวกับเขามาตลอดไม่ใช่หรือ? โอกาสมาถึงแล้วไง” หน้ายิ้มชี้ช่อง ทุกคนหันไปมองไนติงเกลด้วยความคาดหวัง
“ไอ้พวกขี้ขลาด” ไนติงเกลผลักร่างหน้ายิ้มด้วยมือเดียวแล้วเหยียบร่างอันไร้ิญญาของสหายหลายคน ก่อนจะเดินเข้าไปหาเสิ่นิ
เขาเปลือยร่างท่อนบนราวกับรูปปั้นเหล็กสีดำทมิฬ กำปั้นเหล็กทั้งสองข้างส่งเสียงดังกรอบแกรบ
พวกเขาทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่เพียง10เิเ ไนติงเกลสูงกว่าเสิ่นิครึ่งศีรษะจนดูเหมือนผู้ใหญ่กำลังรังแกเด็ก
โดยไม่มีสัญญาณใดทั้งคู่เริ่มชกเกือบพร้อมกัน พวกเขาโบกหมัดใส่กันอย่างเมามันหลบหลีกกันอย่างคลุ้มคลั่ง
ทั้งคู่ชัดเจนมากร่างกายของพวกเขาไม่แกร่งพอที่จะทนต่อแรงปะทะของหมัดคู่ต่อสู้ได้ ใครโดนชกก่อนแพ้
หมัดเหมือนดาบปลายปืนออกหมัดรวดเร็ว คนรอบข้างมองเห็นไม่ชัด กำปั้นอันบ้าระห่ำ หากมันชกถูกแค่ผิวกายคงจะทำให้ิัฉีกได้อย่างไม่ต้องคิด ราวกับมีดคม
ผ่านไปสักพักเสิ่นิและไนติงเกลก็มีาแหลายสิบแห่งบนร่างกายหยดเืเคลื่อนไปตามพลังจู่โจมของพวกเขา มันถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศก่อนจะตกสู่พื้นหญ้าสีเขียวข้างกาย
ภายใน30วินาที ทั้งสองออกหมัดไปแล้วราว 200 ครั้งกระทั่งในขณะที่กล้ามเนื้อใกล้จะฉีกขาด
“เหนื่อยแล้ว” เสิ่นิหยุดชะงัก เขาหันไปรอบๆและถอยหลังไปสองก้าวพลางหอบหายใจ
“เวร” ไนติงเกลไม่เคยเห็นคนหน้าด้านได้ขนาดนี้ คิดจะพักก็พักเขาจึงออกหมัดไล่ตามไป
พักแค่2วินาทีก็เพียงพอแล้ว เสิ่นิยกฝ่ามือขวาขึ้นทักทายกับไนติงเกลแรงปะทะเช่นเดียวกับหัวของรถบรรทุกเพียงพอที่จะหักกระดูกมือของไนติงเกลให้แหลกเป็ชิ้นๆ ได้แต่ใน่เวลาของการัันั้น ไนติงเกลรู้สึกเหมือนชกลงไปในแอ่งน้ำใสๆไร้แรงเสียดทานใด
เขาเห็นเพียงกระเบื้องที่ปูอยู่ใต้ฝ่าเท้าบริเวณที่เสิ่นิยืนอยู่นั้นแตกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากแรงะเื
“สี่ตำลึงปาดพันชั่ง?” ไนติงเกลลึกซึ้งถึงศิลปะการต่อสู้ของชาวจีนแต่การปัดเป่าพลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้ เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน
“ผิดแล้ว ท่านี้เรียกว่ากายล่องหน” เมื่อเสิ่นิพูดเขาก็ต่อยไนติงเกลเข้าที่ท้องน้อย เมื่อดัชนีพิฆาตปล่อยพลังถึงขีดสุดกล้ามเนื้อหน้าท้องของไนติงเกลก็ยุบตัวลงครึ่งนิ้ว
นั่นทำให้ไนติงเกลกุมท้องและคุกเข่าลงตรงหน้าเสิ่นิเขากระอักโลหิตออกมาพร้อมกับอาหารเย็น ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน
“ใครอีก?” เสิ่นิถามต่อโดยไม่เว้นจังหวะแต่ไม่มีใครกล้าตอบคำถามของเขาอีกเลย
เงียบสนิทอยู่3นาทีเต็ม ไม่มีใครตอบ เสิ่นิจึงกล่าวว่า “น่าเบื่อฉันจะออกไปแล้ว”
เขาสงบนิ่งแม้จะอยู่ในดงเสือทั้งฝูงบอดี้การ์ดหนุ่มหันหลังเดินไปหาเซี่ยวอี๋ซึ่งอยู่ไม่ไกล
“ดูเหมือนว่าวันนี้คุณเสิ่นิจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะลูกน้องเลยต้องทำงานหนัก” ไม่ทันมีใครสังเกตเห็นที่ประตูทางเข้าด้านข้างของบ้านพักคนชรา โอบาตะทาเคชิในชุดสูทดันกรอบแว่นไวนิลที่ดั้งจมูกของเขาขึ้นในขณะที่เดินเข้ามา ผู้ที่ยืนอยู่ข้างเขากลับเป็น้องสาวของเสิ่นิเสิ่นหวั่น
“ช่างบังเอิญ ผมก็อารมณ์ไม่ค่อยดีไม่ใช่เพราะคุณทำข้อสอบเลื่อนขั้นของผมพังพินาศแต่คุณดันยึดเอาสิ่งที่ผมอยากได้ที่สุดในชีวิตไป” ในขณะที่โอบาตะทาเคชิกับเสิ่นิสนทนากันอยู่นั้น พ่อหนุ่มเนิร์ดก็เอาแต่จ้องไปที่เซี่ยวอี๋แววตาไม่เหลือคราบความอ่อนโยนอีกต่อไป